The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 519
กึ่งเทพที่แข็งแกร่งเหมือนกับหลงหวูชิงและคนที่เหนือกว่ากึ่งเทพถูกสังหารง่ายดายอย่างไม่น่าเชื่อ!
“แค่ไหน? เขาแข็งแกร่งแค่ไหนกัน?”
คำถามผุดขึ้นในใจของเหล่าจ้าวแห่งความมืด
ใบหน้าไป่ลั่วซีดเผือดและหม่นหมองอย่างมาก พลังของซือหยูนั้นแข็งแกร่งเหนือกว่าขอบเขตที่เขาคิดไว้ ไม่นานความคิดอันป่าเถื่อนก็แล่นเข้ามา เขาพุ่งไปที่หลังจ้าวยี่หยูราวกับสายลมและถือมีดกระหายเลือดเอาไว้ในมือ
จ้าวยี่หยูรับรู้ว่าสถานการณ์กำลังเปลี่ยนไป นางพุ่งไปด้านหน้าโดยหวังจะหลบหนีจากไป่ลั่ว
แต่ไป่ลั่วก็เตรียมการไว้แล้ว เขาโบกมือสร้างวายุมิตินับไม่ถ้วยปกคลุมโดยรอบของจ้าวยี่หยู
จากนั้นเขาก็ยื่นมีดกระหายเลือดไปข้างหน้า มันไปถึงแผ่นหลังของนาง เขาตะโกน
“อย่าขยับ!”
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจนทุกคนตกใจ
เหล่าจ้าวแห่งความมืดจะรู้ล่วงหน้าได้อย่างไรว่าไป่ลั่วผู้เป็นหัวหน้าจะลงมือกับคนของตัวเอง?
“ไป่ลั่ว ทำอะไรของเจ้า? เจ้าบ้าไปแล้วเรอะ?”
ฉิงจูถามด้วยความตกใจ
ไป่ลั่วตะคอกกลับ
“พวกเจ้าหุบปากไปให้หมด!”
พลังของเขายังคงอยู่ เหล่าจ้าวแห่งความมืดที่เหลือทำได้เพียงโกรธแค้น พวกเขาไม่พูดอะไรออกมา
ซือหยูแปลกใจอยู่บ้าง หลังจากที่มองจ้าวยี่หยูที่กำลังถูกใช้ข่มขู่ เขาก็ต้องสงสัยขึ้นมาบ้าง ตามปกติ ตัวตนของเขาที่เป็นราชาปีศาจหิมะทมิฬนั้นมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับจ้าวยี่หยูอยู่เล็กน้อย ดังนั้นการใช้จ้าวยี่หยูเป็นตัวประกันจากราชาปีศาจหิมะทมิฬจึงมีเหตุผล
แต่ในตอนนี้ ตัวตนของเขาคือหยินหยู เขาไม่เกี่ยวข้องกับจ้าวยี่หยูแม้แต่นิดเดียว แล้วนี่จะมีเหตุผลอันใดกันเล่า?
“หยินหยู เจ้าไม่อยากจะให้นางตายใช่หรือไม่? ไว้ชีวิตข้า มิเช่นนั้นข้าจะฆ่านางเดี๋ยวนี้!”
ไป่ลั่วพูดอย่างเยือกเย็น
“ข้ารู้แล้วว่าเจ้าเกี่ยวข้องกันรยังไง ชื่อที่แท้จริงของเจ้าคือซือหยู แล้วเจ้าก็มีความสัมพันธ์แน่นเฟ้นกับจ้าวยี่หยูสินะ?”
โอ้? พวกเขารู้ตัวตนที่แท้จริงของหยินหยูแล้วรึ? ซือหยูไม่แปลกใจ ด้วยพลังของอาณาจักรทมิฬ การค้นหาความจริงถึงรากเหง้าของเขานั้นไม่นับว่าเป็นเรื่องยากถ้าหากให้เวลาสักระยะ
ฉิงจูชักสีหน้า เขาได้ยินนามซือหยูหลายครั้ง จ้าวยี่หยูอธิบายรายละเอียดของซือหยูอย่างถี่ถ้วน นางพูดถึงและพูดชื่อของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ซือหยู สหายคนสนิทที่นางชอบพอตั้งแต่ที่เกาะเฉินยี่ ซือหยู ผู้ที่ทำให้ยี่หยูมองทุกสิ่งที่งดงามในโลกนี้แทนเขา หยินหยู คนคนเดียวที่ทำให้ยี่หยูผู้ที่มีกำแพงสูงตระหง่านป้องกันตัวตนตลอดเวลาต้องเผยความปรารถนาและความหลงใหล ทั้งยังความรู้สึกอันอัดอั้น หยินหยู นามที่ฉิงจูชิงชังที่สุดในหัวใจ
ซือหยู หยินหยู!
“แล้วยังไงกัน? ข้าจำไม่ได้เลยสักครั้งว่าตัวข้าไปเกี่ยวข้องกับจ้าวยี่หยู”
ซือหยูพูดอย่างเยือกเย็น เขาไม่ยอมมองจ้าวยี่หยูถูกฆ่าตายอย่างสิ้นหวังอยู่แล้ว แต่เขาก็จะไม่ยอมอ่อนข้อเพราะสตรีที่เขาเคยพบเพียงครั้งเดียว
ใบหน้าฉิงจูเต็มด้วยความโกรธแค้น เขาแทบจะลืมไปว่าซือหยูสังหารเขาได้เพียงแค่ยกมือขึ้นมา
“หุบปาก! ทุกคนในโลกพูดได้ว่าไม่เกี่ยวข้องกับนาง แต่เจ้าก็คือคนเดียวในโลกที่มิอาจพูดเช่นนั้น!”
เขามองซือหยูด้วยความเหยียดหยามและไม่พอใจอย่างมาก
ซือหยูขมวดคิ้ว เขาจำไม่ได้เลยว่าเขามีเรื่องอันใดกับจ้าวยี่หยูจนคนอย่างจ้าวฉิงจูต้องไม่พอใจ
ไป่ลั่วหัวเราะอย่างชั่วร้าย เสียงหัวเราะของเขาป่าเถื่อนอย่างไม่เคยมีมาก่อน
“ฮ่าๆๆ! ดูเหมือนเจ้าจะไม่เคยเห็นใบหน้าของยี่หยูสินะ”
ในบรรดาจ้าวแห่งความมืด คนคนเดียวที่เคยเห็นใบหน้าของจ้าวยี่หยูมาก่อนคือจ้าวฉิงจู นอกเหนือจากนั้น ใบหน้านางถูกปกคลุมด้วยม่านวารีมาโดยตลอด ไม่มีใครรู้ว่ารูปลักษณ์ของนางเป็นเช่นใด
ใบหน้าของนางรึ? ซือหยูนึกถึงตอนที่เขาต่อสู้เคียงข้างนางในก้นบึ้งมังกรเก้านรก ตอนนี้เขานึกถึงคนที่คล้ายกับจ้าวยี่หยูได้หนึ่งคน คนเดียวเท่านั้น
ซือหยูใจเต้นแรงอย่างมากโดยไม่รู้ตัว!
“ฮ่าๆๆ…นางก็คือ…”
ไปลั่วพูดติดตลก
แต่เขาก็ต้องหยุดพูดไป! สีหน้าของเขาเคร่งเครียด ผิวหนังของเขาแดงสด โลหิตจำนวนมากไหลออกมาจากรูขุมขน
ร่างกายของเขาแห้งเหือดอย่างช้าๆ ราวกับน้ำในร่างกายของเขาถูกดูดออกมา
เข็มหยกสีดำสนิทปรากฎในมือจ้าวยี่หยู เมื่อนางพลิกมือ เข็มนั้นก็ทะลวงร่างของไป่ลั่ว
“เข็มขนนกแห่งความมืด สมบัติวิเศษที่ราชาแห่งความมืดพกติดตัวตลอดเวลา!”
ไป่ลั่วตกตะลึง วิญญาณของเขาแทบจะหลุดออกจากร่าง
ฉิงจูตกใจไม่ต่างกัน
“เป็นไปได้ยังไง? เข็มขนนกแห่งความมืดเป็นสมบัติกึ่งวิญญาณรูปแบบสมบัติวิเศษที่ส่งต่อจากราชาแห่งความมืดรุ่นสู่รุ่น ยี่หยูมีมันได้ยังไง? หรือว่าราชาแห่งความมืดจะมอบตำแหน่งราชาให้นาง?”
ซือหยูเบิกตากว้างขึ้นมาเล็กน้อย เข็มขนนกแห่งความมืดรึ? มันเป็นสมบัติกึ่งวิญญาณที่แข็งแกร่งมาก! ดูเหมือนจะใช้เพื่อเพิ่มพลังของผู้ถือครองได้หลายระดับ
จ้าวยี่หยูเชี่ยวชาญวิชาวารี วิชาวารีของนางทรงพลังขึ้นมามากกว่าสิบเท่า นางสามารถทำให้ไป่ลั่วที่เป็นกึ่งเทพบาดเจ็บสาหัสได้ง่ายดาย!
“เป็นไปไม่ได้! อาณาจักรทมิฬเป็นของข้า เป็นของข้าไป่ลั่วผู้นี้!”
ไป่ลั่วคำรามอย่างโกรธแค้น ด้วยสมบัติวิเศษในมือยี่หยู นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะบอกว่าราชาแห่งความมืดยังมีชีวิตอยู่ และเขายังมอบตำแหน่งราชาให้กับนาง!
ราชาแห่งความมืดคนต่อไปมิใช่ไป่ลั่ว แต่กลับเป็นยี่หยู!
ไป่ลั่วมิอาจยอมรับความจริงอันโหดร้าย มีดกระหายเลือดในมือขยับไปเฉือนคอของจ้าวยี่หยู
ซือหยูตื่นตระหนก จ้าวฉิงจูร้องคำรามเสียงดัง มันสายไปแล้ว
ศีรษะของยี่หยูลอยขึ้นไปกลางอากาศ ร่างของนางกลายเป็นไอวารี
นั่นเป็นร่างวารี!
ไป่ลั่วชักสีหน้า เขาอยากจะหนีไปแต่แสงจากวารีข้างหลังเขาก็เปลี่ยนเป็นยี่หยู ไอวารีบนใบหน้าสลายเผยให้เห็นใบหน้าจริง…ความงาม ความสง่าบนใบหน้านั้นราวกับตัวตนอันงดงามที่มิใช่มนุษย์!
ผิวของนางเรียบเนียนราวกับวารี สีผิวอมชมพูระเรื่อไม่ต่างกับหยกที่ไร้ข้อบกพร่อง ความเรียบเนียนอันสมบูรณ์แบบ ขนตายาวติดอยู่กับดวงตาสดใสดั่งแก้วที่สุขสงบ ทั้งหมดบริสุทธิ์ไร้มลทินจากโลกภายนอก
มองดูอย่างถี่ถ้วน นางดูเหมือนกับบัวที่เพิ่งโผล่พ้นน้ำให้ยลโฉม นางงดงามจนทำให้ผู้คนหายใจไม่ออกมาเมื่อปรากฏลงบนโลก
ไม่นาน บุพผานับร้อยก็ต้องหม่นสีลงถ้าเทียบกับนาง ไม่มีความงดงามใดในโลกที่เทียบได้กับใบหน้าสตรีตรงหน้าพวกเขา เบื้องหน้านาง สิ่งงดงามทั้งหมดบนโลกทำได้แค่รู้สึกต้อยต่ำ
เหล่าจ้าวแห่งความมืดตกอยู่ในภวังค์ความงามนั้น พวกเขาสงสัยมานานถึงใบหน้าที่อยู่ใต้ม่านวารี แต่พวกเขาก็ไม่เคยคิดว่ามันจะสวยสดงดงามมากเพียงนี้
นี่คือใบหน้าของเซี่ยจิงหยู เป็นเซี่ยจิงหยูที่แยกจากเขามาสามปี
ครั้งนั้น แม้จะอายุสิบสี่ปี เซี่ยจิงหยูก็สง่างามแม้จะยังไม่เติบโตเต็มที่ แต่เซี่ยจิงหยูในตอนนี้ผู้ที่มีอายุสิบเจ็ดปีกลับราวได้เกิดใหม่ นางยิ่งงดงามยิ่งกว่า…งดงามจนตระการตา งดงามจนทำให้ผู้คนตกอยู่ในภวังค์ และงดงามจนดูราวกับมาจากฝัน ถ้าครั้งที่แล้วนางเป็นตัวตนอันงดงาม เซี่ยจิงหยูตอนนี้ก็คือนางไม้ที่จริงแท้
ความตระการตานี้มากมายเสียจนทำให้ซือหยูรู้สึกต้อยต่ำ เขาไม่กล้าจะกลับไปหานางอีกครั้ง