The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 523
“สะสางเรื่องราวทั้งหมด? แค่เจ้าคนเดียวน่ะรอะ?”
หมิงเฟยไม่ตอบอะไร ฉีเจี้ยกลับก้าวมาข้างหน้าและมองดูซือหยู
“คนจากจิวโจวรึ?”
ฉีเจี้ยเชิดคางเล็กน้อย เขาดูหยาบคายมาก เขามองราวกับจะไตร่สวนซือหยู
ซือหยูเพียงแค่มองดูหมิงเฟยอย่างใกล้ชิด ด้วยเนตรวิญญาณ เขาพบว่าเงาจางตี๋เก้อนั้นติดอยู่กับร่างของหมิงเฟย ส่วนคำพูดของฉีเจี้ยนั้น ซือหยูทำเป็นไม่สนใจเลย
“ข้าถามเจ้าอยู่นะ เจ้าต้องให้ข้าพูดซ้ำรึ?”
ฉีเจี้ยยืนกอดอกอย่างมั่นใจ
“เจ้าคิดจริงๆรึว่าตำหนักศีลหวนคืนจากจิวโจวจะดูถูกคนอื่นได้?”
ซือหยูเหลือบมองเขา
“เจ้าไม่รู้จักข้าหรอกรึ? แล้วทำไมเจ้าจะต้องถามข้าอีกครั้งเล่า?”
ซือหยูแสดงพลังในป่าศิลา ฉีเจี้ยก็อยู่ที่นั่น เขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าซือหยูเป็นใคร? ความตั้งใจในการถามก็เป็นเพียงการชิงดีในการพูดเท่านั้น
ฉีเจี้ยที่ได้คำตอบเช่นนั้นแววตาดุร้ายขึ้น
“ดูเหมือนเจ้าจะทำเหมือนว่าตัวเองเป็นคนที่แข็งแกร่งมากสินะ!”
ซือหยูมองจางตี๋เก้ออีกครั้ง เขาไม่สนใจฉีเจี้ยเลยแม้แต่น้อย ส่วนจางตี๋เก้อก็แสร้งหัวเราะโดยไม่หยุดใคร
“ฮื่ม! ถ้าเจ้าอยากจะล้างแค้นนายของข้า ข้าก็จะวัดว่าเจ้ามีสิทธิ์หรือไม่!”
เส้นผมสีเขียวของฉีเจี้ยเปล่งแสงอ่อนๆ สายลมเยือกเย็นพัดร่างกาย จากนั้นเขาก็หายตัวไป
ตระกูลฉี หนึ่งในแปดตระกูลโบราณเชี่ยวชาญในวิชาเคลื่อนไหว พวกเขามีรูปแบบเฉพาะตัว
แต่เมื่อเขาบินเข้ามา เซี่ยจิงหยูก็ก้าวเบาๆออกไป
“ให้ข้าจัดการเจ้าอีกครั้งก็แล้วกัน”
ในการประลองลับสวรรค์มีการประลองระหว่างฉีเจี้ยกับเซี่ยจิงหยู เขาแพ้เซี่ยจิงหยูในสามกระบวนท่า
ฉีเจี้ยปรากฏตัวขึ้นบนท้องฟ้า ดวงตาเขามองด้วยความหยามเหยียด
“จ้าวยี่หยูรึ? ข้าจดจำความอัปยศจากการพ่ายแพ้วันนั้นได้ดี ข้าอยากจะประลองกับเจ้าเพื่อล้างความอับอายในครั้งนั้นอยู่แล้ว! ถ้าเจ้าคิดจะสู้ ข้าก็จะสู้กับเจ้า! แต่ผู้ชนะในครั้งนี้อาจจะสลับกัน! หลังจากที่นายท่านชี้แนะ ข้าไม่ใช่ฉีเจี้ยคนก่อนอีกแล้ว!”
ฉีเจี้ยมั่นใจอย่างมาก
สีหน้าของเซี่ยจิงหยูไร้อารมณ์ดังเดิม และนางเพียงรู้สึกกลัวอยู่บ้างในแววตา
การประลองกับฉีเจี้ยในวันนั้น นางเอาชนะฉีเจี้ยไดอย่างง่ายดายและไม่ยากเลยแม้แต่น้อย แต่หลังจากที่ไม่เจอเขามาสองเดือน เขาได้มั่นใจมากขึ้น บางสิ่งจะต้องเปลี่ยนไป!
“เตรียมรับมือ!”
ฉีเจี้ยปล่อยพลังชีวิตอ่อนๆออกมาจากร่างกาย!
ซือหยูมองผ่านจุดกำเนิดพลังของเขาและตกใจอยู่บ้าง มันมีแก้วพลังชีวิต!
เมื่อครั้งประลองลับสวรรค์ ฉีเจี้ยเป็นแค่ราชามนุษย์ธรรมดาๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไปเพียงไม่นาน เขาไม่เป็นแค่กึ่งเทพ เขากลับสร้างแก้วพลังชีวิตขึ้นมาและกลายเป็นกึ่งภูติ พลังของเขาเพิ่มขึ้นมามหาศาล!
แต่ซือหยูก็เข้าใจ พลังของเขาเพิ่มขึ้นมามากราวกับเกิดใหม่ ฉีเจี้ยก็น่าจะเหมือนเขาเช่นกัน เขากำลังติดตามคนในขอบเขตภูติ
ดูจากพลัง เซี่ยจิงหยูรับรู้ได้ว่าสถานการณ์ไม่สู้ดีนัก
ดวงตางดงามของนางเปล่งประกายพร้อมกับนางที่โจมตีในพริบตา! ทั้งร่างของนางเต็มไปด้วยไอวารีที่เปลี่ยนแปลงเป็นมังกรสิบสองตัว
ในอดีต นี่คือกระบวนท่าที่ฉีเจี้ยมิอาจต้านทาน มันทำให้เขาตกอยู่ในสภาพเจ็บหนัก
และตอนนี้เขากำลังเจอกับกระบวนท่าเดิม เขาถากถาง
“ยังใช้วิชาเดิมอยู่อีกรึ? หึหึ! ข้าจะทำให้เจ้าเห็นถึงความต่าง!”
“ลมกรด!”
ฉีเจี้ยหมุนตัว วายุสีเขียวปรากฏขึ้นโดยมีเขาอยู่ตรงกลาง พายุนี้มีพลังมหาศาลและเกินกว่าพลังต้นกำเนิดวายุ!
มังกรวารีทั้งสิบสองคำรามก้อง ฉีเจี้ยยิ้มเยาะและยกดัชนีแตะบาๆ วายุพุ่งเข้าไปปะทะ
เหล่ามังกรวารีพยายามจะต้านวายุ แต่เมื่อเข้าใกล้ระยะพันศอก พวกมันก็ต้องเจอกับพลังมหาศาลและถูกดูดเข้าไปในวายุกระหน่ำ
หลังจากที่ฝืนทนพลัง มังกรวารีทั้งสิบสองถูกดูดเข้าไปราวกับใบไม้ร่วง จากนั้นมันก็แหลกเป็นเสี่ยงๆด้วยพลังวายุ!
ฉีเจี้ยเอาชนะเซี่ยจิงหยูได้อย่างหมดจดเมื่อไม่ได้เจอใครมาสองเดือน!
“อ่อนแอเกินไป”
ฉีเจี้ยส่ายหน้าอย่างเย็นชาและยิ้มเยาะ
“ถ้านั่นคือพลังของจ้าวแห่งความมืด…มันก็น่าผิดหวังเกินไปแล้ว”
เซี่ยจิงหยูใจเย็น นางขยับมือทั้งสองพร้อมกัน ในครั้งนี้มิใช่มังกรวารีสิบสองตัว แต่มันกลับเป็นวิชาวารีสามสิบวิชาในคราเดียว มีพลังหลากหลายรูปแบบ และทุกวิชาซัดเข้าใส่ฉีเจี้ยในคราเดียว
ด้วยวิชาวารีสามสิบวิชาผสานกัน มันจะแข็งแกร่งกว่าแค่มังกรวารีเพียงแค่สิบเท่ารึ?
“โอ้? ดูเหมือนเจ้าจะเติบโตมาเหมือนกันนี่ แต่ก็เถอะ…”
ฉีเจี้ยพูดไปอย่างเรียบเฉย
“มันก็ยังอ่อนแอเกินไป!”
“หายไปซะ!”
ฉีเจี้ยกดดัชนีทั้งห้าลงไป เกิดวายุเก้าสายรอบวายุแรกในทีเดียวพร้อมกับแรงสั่นสะเทือน!
วายุทั้งสิบรวมตัวกันเป็นวายุเดียวที่สูงหมื่นศอก ป่ารกสั่นสะเทือนไปทั้งผืน มังกรวายุคำรามและขยับไปข้างหน้า
การหลอมรวมของหลากหลายวิชาทำไม่ได้แม้แต่จะทะลวงมังกรวายุเข้าไป มันกระจัดกระจายหายไปพร้อมกับพลังมหาศาลของมังกรวายุ!
ฉีเจี้ยที่พลังทะยานขึ้นมาได้น่ากลัวถึงขนาดนี้แล้ว
“อ่อนไป!”
ฉีเจี้ยไม่ปิดบังความบ้าคลั่งที่ใบหน้า เขาขจัดความอัปยศทั้งหมดได้แล้ว เขาหัวเราะ
“เจ้ากล้าจะใช้พลังที่แข็งแกร่งกว่านี้หรือไม่?”
เซี่ยจิงหยูค่อยถอยๆและใช้วิชาบ่มเพาะอย่างต่อเนื่อง
ฉีเจี้ยที่ลอยอยู่สูงนั้นดูสง่างามและทรงพลัง ด้วยคำบัญชา เขาสามารถสั่งมังกรวายุให้บดขยี้ทุกสิ่ง
“อ่อนแอ! อ่อนแอนัก! เจ้าทำได้แค่นี้เรอะ?”
หลังจากผ่านการปะทะไปสิบรอบ ฉีเจี้ยหัวเราะอย่างบ้าคลั่งเมื่อเขาชนะ ไม่มีอะไรน่าตื่นตาไปกว่าการก้าวข้ามคนศัตรูที่เคยแข็งแกร่งกว่าในอดีต
เซี่ยจิงหยูหน้าถอดสี นางยังคงถอย นางถอยไปถึงข้างซือหยูแล้ว
“มันจบแล้ว ช่างน่าผิดหวังนัก สุดท้าย อาณาจักรทมิฬก็มาได้แค่นี้ เจ้ายังทำให้ข้าใช้พลังสูงสุดไม่ได้เลย”
มือทั้งสองของเขาประกบกัน มังกรวายุลงจากฟ้าเข้าบดขยี้สิ่งที่เคลื่อนผ่าน มันกำลังจะกลืนกินเซี่ยจิงหยูเข้าไป
ด้วยพลังที่มังกรวายุมี ทางเดียวของเซี่ยจิงหยูก็คือการแหลกสลายเป็นเสี่ยงๆ
มังกรวายุพุ่งลงมาพร้อมกับแรงสั่นสะเทือน ก่อนที่มันจะกลืนกินเซี่ยจิงหยู ในที่สุดซือหยูที่ยืนมือไพล่หลังมองดูอย่างเงียบเชียบก็เคลื่อนไหว
เขายื่นหนึ่งดัชนีแตะไปที่ท้องนภา
มังกรวายุที่พุ่งลงมาอย่างบ้าคลั่งคำรามด้วยความโกรธแค้น มันหยุดอยู่กลางนภาด้วยดัชนีนั้น แม้ว่าร่างยักษ์ของมันจะหมุนวนอย่างรุนแรงบนท้องฟ้า หัวของมันก็มิอาจทะลวงผ่านดัชนีมาได้แม้แต่น้อย
“สายฟ้าลวง!”
ภาพประหลาดอันน่าตกใจเกิดขึ้น
หมอกสายฟ้ารอยกายซือหยูเปลี่ยนเป็นมังกรสายฟ้ายาวหมื่นศอก มันถูกปล่อยออกมาจากดัชนีนั้น เมื่อมังกรสายฟ้าพุ่งทะยานออกไปมันก็กลืนกินมังกรวายุยาวหมื่นศอก
มังกรวายุร่างยักษ์พยายามที่จะขัดขืนมังกรสายฟ้า แต่มังกรสายฟ้าก็ร้องคำรามพร้อมกับสายฟ้าหลายพันสายที่พุ่งออกมาจากร่างกาย
มังกรวายุที่ขัดขืนแตกสลายไป
มังกรสายฟ้าก็กลายเป็นหมอกสายฟ้ากลับมาสู่ร่างซือหยู ทั้งหมดเกิดขึ้นในลมหายใจเดียว มังกรวายุถูกกำจัดหายไป!
ซือหยูทำลายมังกรวายุด้วยดัชนีเดียว!
ฉีเจี้ยที่ลอยสูงบนนภาตกตะลึง เขาเบิกตากว้าง!