The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 524
การทำลายมังกรวายุที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาเพียงดัชนีเดียวมันแทบจะเป็นไปไม่ได้! ความทรงอำนาจและท่าทางอันไร้เทียมทานทำให้ฉีเจี้ยใจเต้นแรงด้วยความกลัว
แต่สิ่งที่ทำให้เขาต้องตกใจโดยแท้จริงก็คือซือหยูนั้นหายตัวไปราวกับสายลม มันคือภาพติดตา! ร่างมนุษย์ปรากฏขึ้นมาที่ด้านหลังเขา!
จากนั้นฉีเจี้ยก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่ท้อง เขาก้มลงและพบว่ามีดัชนีเจาะทะลุอก ทิ้งไว้แต่ร่องรอยสายฟ้าที่ค่อยๆกระจัดกระจาย!
มนุษย์ข้างหลังเขาถือกระบี่สายฟ้าไว้ในมือ มันถูกสร้างขึ้นจากหมอกสายฟ้า เขาถือมันอย่างมั่นเหมาะในมือ
ฉีเจี้ยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำกว่าเขาบาดเจ็บ! ความเจ็บปวดที่ตามมาแล่นทั่วร่าง ภาพตรงหน้าของฉีเจี้ยมืดหมองลงก่อนที่เขาจะร่วงหล่นจากฟ้า
เมื่อเขาตกลงสู่พื้น ภาพท้องฟ้าที่ห่างไกลขึ้นไกลขึ้นเรื่อยๆ ภาพบุรุษผมสีเงินพิมพ์ชัดในดวงตา คนผู้นั้นลอยอยู่กลางอากาศโดยไม่แม้แต่ชายตามองเขา นี่คือบุคคลอันทรงพลังและมิใช่มนุษย์ ภาพนั้นแผดเผาอยู่ในดวงตา
กระบวนท่าเดียวก็ทำลายมังกรวายุของเขาได้และทำให้เขาบาดเจ็บสาหัส ซือหยูสังหารเขาได้อย่างง่ายดายด้วยซ้ำ! ซือหยูคนนี้น่ากลัวเกินไปแล้ว!
ซือหยูก้มลงมอง เขาส่ายหน้าด้วยความผิดหวัง
“เจ้าก็แค่อ่อนแอเกินไป”
ฉีเจี้ยที่ตะโกนพร่ำบอกว่าเซี่ยจิงหยูอ่อนแอเกินไปกลับถูกพูดแบบเดียวกันจากซือหยู ซือหยูบินลงไปข้างเซี่ยจิงหยู เขาจับมือนางและอัดพลังวิญญาณฟื้นฟูบาดแผลให้
เขาขึ้นเสียง
“เจ้ามีเข็มขนนกแห่งความมืดอยู่กับตัว แค่สามกระบวนท่าเขาก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว ทำไมเจ้าไม่ใช้เล่า?”
เมื่อได้ยินเสียงดุ เซี่ยจิงหยูรู้สึกมากกว่าความกดดัน ความเยือกเย็นของนางหายไป นางก้มหน้าที่แดงราวกับเด็กสาวที่ถูกตำหนิ
“จางตี๋เก้ออยู่ที่นี่ ข้าจะกล้าทำร้ายเขาได้ยังไง?”
สิ่งที่เกิดขึ้นกับนางมิใช่การต่อสู้กับฉีเจี้ย แต่เป็นการแสดงพลังของจางตี๋เก้อ ถ้านางทำร้ายฉีเจี้ย นั่นก็จะทำให้จางตี๋เก้อผู้อยู่ในขอบเขตภูติลงมือ นั่นจะทำให้เรื่องราวแก้ไขยากยิ่งกว่าเดิม
ซือหยูถอนหายใจเมื่อรู้ความคิดอ่านของนาง
“เอาเถอะ แต่อย่าให้มีอีกล่ะ ตราบเท่านี้มีข้า เจ้าจะไม่มีทางเสียเปรียบเช่นนั้น”
ด้วยคำพูดที่มิอาจโต้แย้งได้เช่นนี้ เซี่ยจิงหยูทำได้แค่พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง ซือหยูมองเซี่ยจิงหยูอยู่ครู่หนึ่ง นางมักจะสละตนอยู่ตลอด
ซือหยูกังวลอยู่เสมอในเรื่องนี้ คงจะมีสักวัน…วันที่นางทำสิ่งที่ซือหยูไม่มีทางตอบแทนได้…
พั่บ พั่บ พั่บ–
หมิงเฟยโบกมือสร้างคลื่นลมคว้าร่างฉีเจี้ย นางมองซือหยูด้วยความสนใจ
นางปรบมือและยิ้ม
“เจ้าใช้วิชาระดับอำมฤตได้อย่างสมบูรณ์แบบ สายฟ้านั่นมีเอกลักษณ์ทีเดียว ถ้าข้าเดาไม่ผิด วิชาของเจ้ายังมีพลังวิบัติอัสนีอยู่ด้วย!”
ซือหยูตบบ่าเซี่ยจิงหยู เขาดันนางไปด้านหลัง
“เจ้าจะพูดอะไรอีกหรือไม่?”
ซือหยูพูดอย่างใจเย็น
หมิงเฟยเลียริมฝีปากและยิ้ม
“ข้าจะให้โอกาสเจ้า ติดตามข้าในตำหนักลับสวรรค์ คนธรรมดาๆอย่างฉีเจี้ยยังพัฒนามาได้ถึงขั้นนี้เพราะข้า ไม่ต้องพูดถึงคนที่ยอดเยี่ยมอย่างเจ้าเลย! จงติดตามข้า เจ้าจะได้รับสิ่งที่เจ้าไม่มีทางฝันถึง”
ซือหยูส่ายหน้าทันที
“นั่นจำเป็นด้วยรึ ข้าไม่คิดว่าเจ้าอยากได้ข้าอยู่ข้างๆหรอก”
หมิงเฟยยิ้มเบาๆ
“อย่างนั้นรึ? ข้าคิดว่าเจ้าจะเต็มใจเสียอีก!”
ทันใดนั้นแสงทมิฬก็ฉาบดวงตาหมิงเฟย นางยิงคลื่นพลังแปลกๆที่เล็งเป้าใส่วิญญาณและมิอาจป้องกัน มันพุ่งตรงไปยังวิญญาณของซือหยู
หมิงเฟยยิ้มแย้ม
“ไม่มีใครที่ข้าสนใจจะพ้นมือข้า!”
ซือหยูที่ถูกก่อกวนในวิญญาณยังคงไร้อารมณ์ เขายิ้มออกมา
“หึหึ ไม่ได้เจอเจ้ามานาน เจ้าก็ยังใช้วิชาภูติสวรรค์บงการอยู่อีกรึ?”
หมิงเฟยตกตะลึง
“มันไม่ได้ผลกับเจ้าเรอะ? เป็นไปไม่ได้! เจ้าทำได้ยังไง? แล้วเจ้ารู้เรื่องวิชาภูติสวรรค์บงการได้ยังไง? หมายความว่ายังไงที่ไม่ได้เจอข้ามานาน?”
ซือหยูยิ้ม หมอกโลหิตปกคลุมผิวกาย แม้แต่ผมสีเงินก็ย้อมไปด้วยโลหิต นอกจากหน้ากาก เขาได้กลายเป็นราชาปีศาจหิมะทมิฬ!
“หึหึ จางตี๋เก้อ เจ้าเลิกเรียกข้าว่าพี่หิมะทมิฬแล้วรึ?”
ซือหยูพูดตลก ในครั้งแรก นางได้ปลอมตัวเป็นเด็กสาวห้าขวบ นางเรียกพวกเขาว่าพี่ชายและพี่สาวอย่างมีความสุข
ผมสีโลหิต…ผมสีโลหิต!
คนคนหนึ่งซ้อนทับกับคนตรงหน้า!! ที่ป่าทมิฬ นางรู้สึกสัมผัสได้ถึงความคุ้นเคยอยู่แล้วเมื่อเห็นหยินหยูผู้มีผมสีเงิน แต่นางก็หาส่วนที่เกี่ยวข้องระหว่างเด็กผมสีเงินที่หล่อเหลากับราชาปีศาจหิมะทมิฬผู้ดุร้ายได้เลย!
และตอนนี้นางก็เข้าใจแล้วว่าเหตุใดหยินหยูถึงดูคุ้นเคยนัก นั่นก็เพราะว่าเขาคือคนเดียวกัน!
“ราชา! ปีศาจ! หิมะ! ทมิฬ!”
หมิงเฟยกัดฟันแน่น ใบหน้านางไม่ค่อยชัดเจน จางตี๋เก้อที่อยู่ภายในพยายามจะออกจากร่างหลังจากที่โกรธแค้น!
เซี่ยจิงหยูมิอาจเชื่อสายตา ลูกตาของนางเกือบจะหลุดออกจากเบ้า
ราชาปีศาจหิมะทมิฬที่ต่อสู้ร่วมกับนางและใช้เวลาร่วมกับนางในก้นบึ้งมังกรเก้านรกคือซือหยู! มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ราชาปีศาจหิมะทมิฬให้ความรู้สึกเหมือนตอนที่นางใช้เวลาร่วมกับซือหยู…
นั่นก็เป็นเวลาเดียวกันกับที่นางโทษตัวเองที่เกิดความรู้สึกกับคนอื่นนอกจากซือหยู แต่กลับกลายเป็นว่านางเกิดความรู้สึกก็เพราะว่าอีกฝ่ายคือซือหยูตัวจริง!
ความรู้สึกโศกเศร้าและการโทษตัวเองในอดีตหายไปในพริบตา! เรื่องราวกลายเป็นว่าคนที่นางใฝ่หาก็คือคนที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า ทั้งหมดเป็นเพราะอุ้งมือแห่งโชคชะตาที่ไม่มีใครมองเห็น!
ซือหยูเห็นสีหน้านางที่เปลี่ยนไป เขาหันไปยิ้มให้ เขารู้สึกอยู่แล้วว่าจ้าวยี่หยูคล้ายกับเซี่ยจิงหยูผู้เป็นสหายที่ดีที่สุดของเขาในตอนที่รู้จักกันในก้นบึ้งมังกรเก้านรก
แต่กลับกลายว่านั่นคือนางจริงๆ! ความมหัศจรรย์ใจร่วมกันทำให้ทั้งสองที่มองหน้ากันหัวเราะออกมา
“พอซักที! ไอ้พวกบัดซบ!”
หมิงเฟยกัดฟันแน่น!
ยี่หยูกับหิมะทมิฬคือสองคนที่ทำลายชื่อเสียงของนาง! โดยเฉพาะซือหยูที่แสร้งว่าโดนนางควบคุมจากภูติสวรรค์บงการ เขาต้มนางจนเปื่อย
แต่กระนั้น นางก็ยังช่วยให้ซือหยูพัฒนาร่างกายและชิงกระบี่สายฟ้าไป ที่สำคัญกว่านั้น นางยังเตรียมแก้วพลังชีวิตสองดวงที่นางตั้งใจจะให้เขาปลดปล่อยนาง
แต่ในเวลาสำคัญที่สุด ไอ้เด็กคนนี้กลับใช้ร่างกายที่นางพัฒนา ใช้กระบี่สายฟ้าที่นางแย่งชิง และแก้วพลังชีวิตที่นางเตรียมไว้เพื่อจู่โจมนาง! เพราะเขา นางถึงบาดเจ็บมาจนถึงตอนนี้!
นางจะลืมความอัปยศเช่นนี้ได้อย่างไร?
“อ๊าาาา!!! พวกเจ้าสองคน ข้าจะไม่มีวันอภัยให้เจ้า!”
จางตี๋เก้อโกรธแค้นจนถึงขีดสุด
ซือหยูยิ้มอย่างซุกซน
“เหรอ? ข้าก็ไม่คิดจะอภัยให้เจ้าเหมือนกัน”
จางตี๋เก้อกัดฟันแน่น
“เจ้าช่วยชีวิตตัวเองไม่ได้ด้วยซ้ำ ยังกล้าคิดจะขู่ข้าอีกเรอะ?”
ซือหยูพยักหน้า เขาชี้นิ้วไปหาจางตี๋เก้อ
“ใช่แล้ว! นับจากวันนี้ไป เจ้าจะเป็นทาสข้า! ไม่ว่าเจ้าจะเคยเป็นอะไรมา นับแต่นี้ไป เจ้ามีอยู่ฐานะเดียวเท่านั้น นั่นคือทาสของข้า!”
“วันนี้แหละ ข้าจะจัดการเจ้า!”