The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 532
สายฟ้าบนสมุนไพรดูน่าอัศจรรย์
หวูอู๋ยี่ตัวแข็งทื่อ
“นี่มันอะไรกัน?”
นางค่อยๆอ้าปากค้างเมื่อจ้องมองมันไปชั่วครู่
“หรือว่านี่จะเป็นสมุนไพรสายฟ้า? ต้องใช้เวลาเป็นสิบปีกว่าสมุนไพนสายฟ้าจะเติบโตหนึ่งนิ้ว ต่อจากนั้นก็ต้องใช้เวลาที่นานกว่าเดิมกว่าจะถึงขนาดสามนิ้ว พวกที่อยู่มาเกินสามสิบปีก็ไม่มีอีกแล้วในโลกภายนอก แล้วก็มีสัตว์วิญญาณหลายชนิดที่กินสมุนไพรสายฟ้าตอนที่มันโตเต็มที่ สมุนไพรสายฟ้าในตลาดซื้อขายจะมีแค่ที่เติบโตสองนิ้วเท่านั้น และจะมีได้สักครั้งในจันทร์ทรงกลด ราคาจะสูงมาก”
“สมุนไพรสายฟ้าพวกนี้ขนาดใหญ่กว่าในบันทึกสามเท่า!”
หวูอู๋ยี่ยิ้ม ใบหน้าของนางมีคำว่าตกตะลึงสลักเอาไว้
“สมกับเป็นดินเพราะบ่มชั้นสูง ไม่มีใครเพาะเมล็ดสมุนไพรสายฟ้าได้เลย แต่ดินนี้ทำให้มันเติบโตได้ในช่วงเวลาสั้นๆ! ถ้าท่านปล่อยข่าวสมุนไพรสายฟ้าที่มีขนาดเช่นนี้ออกไปสักต้นจะต้องไม่มีใครเชื่อแน่!”
ชุดเกราะที่สร้างจากสมุนไพรสายฟ้าจะทำให้ต่อต้านวิบัติอัสนีได้ นี่เป็นของที่ซือหยูต้องการในอีกไม่นาน
สมุนไพรสายฟ้าทั้งสามถูกเก็บเกี่ยวออกมา
ซือหยูนำมาเทียบกับและพบว่าสายฟ้าที่มีในสมุนไพรยาวหนึ่งนิ้วนั้นอ่อนแอกว่าสมุนไพรที่โตกว่าเป็นสิบเท่า! และยิ่งสมุนไพรสายฟ้าที่โตกว่าก็ยิ่งยืดหยุ่นกว่าราวกับหยกใส เทียบกับแล้ว สมุนไพรสายฟ้าต้นเล็กนั้นหม่นหมองและไร้สีสันไปเลย
“นายท่าน สมุนไพรสายฟ้าของท่านมีอายุอย่างน้อยร้อยปี ผลของมันแข็งแกร่งกว่าต้นอายุสิบปีเก้าเท่า! แค่หนึ่งต้นก็เทียบเท่ากับต้นธรรมดาเก้าต้นแล้ว!”
หวูอู๋ยี่อุทาน
ซือหยูพอใจมาก ดินเพาะบ่มชั้นสูงให้ผลอันน่าตกใจจริงๆ
“ดูแลมันให้ดี ข้าให้เจ้าได้หนึ่งต้นถ้าเจ้าจะใช้ทะลวงพลังเป็นขอบเขตภูติในอนาคต…”
หวูอู๋ยี่ดีใจมากเมื่อได้ยิน
“จริงรึ?”
นางพูดเช่นนี้มาสองครั้ง นางหน้าแดงระเรื่อและเอามือปิดปาก
“ไร้ค่านัก ข้าเสียอาการโดยสิ่งของพวกนี้หรือ!”
แม้นางจะคิดเช่นนั้น นางก็มิอาจปิดบังความสุขที่สัมผัสได้
วิบัติสวรรค์นั้นเป็นคมดาบที่ทุกคนหวาดกลัวเมื่อจะกลายเป็นภูติ มีหลายคนที่ขาดพลังป้องกันและล้มเหลวในการเข้าสู่ขอบเขตภูติเพราะวิบัติสวรรค์ แม้แต่คนที่ตายจากวิบัติสวรรค์ก็มีให้เห็น
ศิษย์สำนักโดยเฉพาะศิษย์นอกเช่นนางนั้นขาดการสนับสนุนจากสำนัก เป็นไปไม่ได้เลยที่จะได้รับการยืนยันว่าจะเข้าสู่ขอบเขตภูติได้!
แต่ซือหยูกลับสัญญาว่าจะมอบสมุนไพรสายฟ้าให้นางเพื่อขจัดความกังวลไป! นางจะไม่ดีใจได้อย่างไร?!
ซือหยูยิ้ม เขาไม่รู้ว่าเกราะที่สร้างจากสมุนไพรสายฟ้าจะใช้ได้เพียงครั้งเดียวหรือไม่ ดังนั้นจะมีปัญหาอะไรถ้าให้นางเป็นคนลองใช้เกราะล่ะ?
“เจ้ารู้วิธีสร้างเกราะจากสมุนไพรสายฟ้าหรือไม่?”
ซือหยูถาม
หวูอู๋ยี่ตื่นเต้น นางหายใจเข้าลึก นางข่มความตื่นเต้นเอาไว้และตอบอย่างใจเย็น
“ข้าเตรียมการไว้ตั้งแต่อยู่ที่เรือจันทร์กระจ่าง! ข้าศึกษาข้อมูลวัตถุดิบที่เกี่ยวข้องกับสมุนไพรสายฟ้า มันไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”
“เช่นนั้นเจ้าก็ทำหน้าที่สร้างเกราะ”
ซือหยูคิดอยู่ชั่วครู่
“ย่อมได้ นายท่าน! ข้าจะทำมันให้เร็วที่สุด!”
หวูอู๋ยี่ไม่ปิดบังความตื่นเต้น นางใช้มือตวัดกระบี่หยกเพื่อเก็บสมุนไพรสายฟ้าสิบต้น นางยื่นอีกหนึ่งต้นให้ซือหยู
“ข้าต้องการแค่เก้าต้นเท่านั้น”
ซือหยูพยักหน้า เขาเก็บต้นสุดท้ายไว้ในชุด จากนั้นสะบัดมือแบ่งแปลงสมุนไพรเป็นร้อยส่วน
ทับทิมวิญญาณขนนกหนึ่งส่วน สมุนไพรสายฟ้าใช้ส่วนที่เหลือ แต่ก็ยังมีที่ว่างอีกหลายส่วน
ในตอนนั้นเอง ซือหยูเลิกคิ้ว
“เกือบลืมอยู่แล้วเชียว!”
เมล็ดทองคำปรากฏในมือ นั่นคือเมล็ดไผ่เงินกล้วยไม้สวรรค์! เขาได้มันมาจากลู่จือยี่ และมันล้ำค่าอย่างมาก
แต่การจะเพาะเลี้ยงเมล็ดไผ่เงินกล้วยไม้สวรรค์จะต้องใช้พวกคนที่แข็งแกร่งขั้นสัตว์ประหลาดในระดับผู้สร้างสรรพสิ่ง และใช้เวลาร้อยปีพร้อมกับแก่นโลหิตเลี้ยงดู มิเช่นนั้นต้นไม้ก็จะไม่มีทางรอดได้
แต่ซือหยูนั้นครอบครองดินเพาะบ่มชั้นสูง เขาอาจจะไม่ต้องทำถึงขั้นนั้น…
“เมล็ดไผ่เงินกล้วยไม้สวรรค์รึ? ข้าดูผิดรึเปล่านายท่าน?”
หวูอู๋ยี่อ้าปากค้างว กระบี่หยกในมือนางร่วงลงกับพื้น
ซือหยูแปลกใจ
“โอ้? เจ้าก็รู้เยอะเหมือนกันไม่ใช่รึ?”
นี่คือเมล็ดของไผ่เงินกล้วยไม้สวรรค์ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว แต่นางก็ยังรู้จักมัน นั่นแสดงให้เห็นถึงความรู้อันน่าตกใจที่นางมี แม้ว่านางจะอยู่กับลู่จือยี่มาบ้าง ลู่จือยี่ก็ไม่น่าจะแสดงสิ่งนี้ให้นาง
“ข้าเคยดูแลห้องตำราของสำนัก ข้ามีโอกาสได้อ่านตำรามาบ้าง ข้าเลยรู้ถึงอะไรบางอย่างในจิวโจว”
หวูอู๋ยี่พูดอย่างภูมิใจ
นางเหนือกว่าอาจารย์ผู้แข็งแกร่งของนางในบางเรื่องนะนี่ ฮ่าๆๆ! ซือหยูสะบัดมือฝังเมล็ดลงในดินเพาะบ่ม
แต่เมล็ดเหล่านั้นก็ไม่เปลี่ยนแปลงแม้เวลาจะผ่านไป ก่อนหน้านี้สมุนไพรสายฟ้าใช้เวลาเพียงเล็กน้อยเมื่อสัมผัสกับดิน
เขารอไปครึ่งชั่วยามแต่ก็ไร้ซึ่งการเปลี่ยนแปลง ซือหยูเริ่มสงสัย
หรือเมล็ดพวกนี้จะเสียไปแล้ว?
“นายท่าน ขอข้าจัดการมันเอง ข้าจะบอกท่านเมื่อมันเริ่มโต”
หวูอู๋ยี่คาดหวังกับมันมาก ไผ่เงินกล้วยไม้สวรนรค์คือไผ่เทวะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในจิวโจว ถ้าซือหยูมอบใบหรือบางอย่างจากมันให้นาง นั่นจะเป็นสิทธิ์พิเศษเหนือใครอื่นที่นางวจะได้
ซือหยูได้แต่ทำตามที่นางพูด เขาจะอยู่ในนี้นานเกินไปไม่ได้
แต่ก่อนจะจากไปเขาก็คิดอะไรขึ้นมาได้ เขาเข้าไปในอีกครึ่งส่วนของหุบเขา นั่นคือยอดเขาส่วนใน หวูอู๋ยี่ไม่มีสิทธิ์จะเข้าไปที่นั่น
เมื่อเข้าไปถึง เขาเห็นหญิงสาวสองคนนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ทั้งสองคือหลงหวูชิงและฉินเซี่ยนเอ๋อ
ซือหยูตกใจเมื่อพบว่าทั้งสองอยู่ในจุดสำคัญในการบ่มเพาะพลัง พวกนางกำลังสร้างแก้วพลังชีวิต! นั่นทำให้ซือหยูตกตะลึงอย่างมาก!
ไม่แปลกที่หลงหวูชิงจะสร้างแก้วพลังชีวิตได้ เพราะอย่างไรนางก็เป็นกึ่งเทพที่มากฝีมือมาก่อนหน้านี้ คงไม่นานที่นางจะได้แก้วพลังชีวิตมาสักดวง
แต่เซี่ยนเอ๋อเป็นเพียงผู้คุมสวรรค์ก่อนเข้ามาในตำหนักลับสวรรค์ นางตามทันหลงหวูชิงในเวลานี้และกำลังสร้างแก้วพลังชีวิตไปพร้อมกับหลงหวูชิง
นางโชคดีเพียงใดกัน? การเติบโตของฐานพลังนางนั้นวิเศษมาก!
แต่คุณสมบัติวิหคเพลิงแห่งความตายของนางก็เป็นสิ่งที่แม้แต่หยุนย่าสียังอยากได้เป็นศิษย์ ไม่ยากที่จะยอมรับความแปลกในฐานพลังนาง
ซือหยูจ้องมองเซี่ยนเอ๋อผู้น่ารักด้วยความพอใจ วิญญาณของเขากลับเข้าสู่ร่าง
เขาลืมตาและพบกับแววตาอันน่าหลงใหล เซี่ยจิงหยูลืมตาขึ้นมานานแล้ว นางมองดูใบหน้าซือหยูทุกส่วนและเห็นว่าซือหยูยังอยู่ในการทำสมาธิ
นางยิ้มอย่างไร้เดียงสา ทันใดนั้นเองลูกตาซือหยูก็ขยับ นั่นเป็นสัญญาณบอกว่าเขากำลังจะตื่น เซี่ยจิงหยูตกใจจนใจเต้นแรง นางรีบหันหน้าหลบ
นางหน้าแดงราวกับถูกคลุมด้วยผ้าคลุมหน้าเจ้าสาว