The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 538
“จริงๆเลย!”
ชางก่วนชิงเอ๋อย่นจมูก
จากที่นางเคยเจอ ถ้าซือหยูไม่มีสายเลือดโบราณที่ต่อกรกับพลังที่ทำให้กลายเป็นหินได้ เขาก็ไม่มีทางจะผ่านป่ารูปปั้นได้เลย แล้วยิ่งเขายังพาคนอื่นไปด้วยอีก!
แต่นางมิอาจมองดูซือหยูตายได้ นางไม่มีทางเลือกนอกจากต้องพาทั้งคู่ไปส่งที่สุดทาง
ชางก่วนชิงเอ๋อบินสู่นภา นางบินไปข้างทั้งสองคนและพยายามจะพาทั้งสองไปด้วย
การเคลื่อนไหวของนางทำให้ทุกคนจับตามอง ชางก่วนชิงเอ๋อลงมือแล้ว! นั่นหมายความว่าจะเหลือตำแหน่งเพียงสองตำแหน่งสำหรับพวกเขาเท่านั้น!
เจิ่งซื่อชิงเป็นกังวล
“ศิษย์พี่ ข้าต้องไปที่นั่นก่อน”
โจวจิ้งอนุญาตเจิ่งซื่อชิง เขาหยิบเอาสร้อยคอออกมาทันที ดูเหมือนว่ามันจะสลักด้วยไม้แปลกๆ มันปล่อยพลังอันเยือกเย็นที่ทำให้คนรู้สึกผ่อนคลายออกมา
เจิ่งซื่อหลิงสวมสร้อยคอนั้นและสร้างผนึกพลัง กระบี่ยาวจากแผ่นหลังบินออกจากฝัก มันลอยอยู่ใต้เท้าของเขา
เขาออกแรงที่ปลายเท้ากระโดดขึ้นขี่กระบี่ กระบี่พาเขาหายลับไปยังขอบนภา
ความเร็วนั้นไม่ได้ช้าไปกว่าลี่เซียง มันอาจจะเร็วกว่าลี่เซียงด้วยซ้ำ!
“วิชาลับจากสำนักยูเฟิง กระบี่บิน!”
มีบางคนอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ
“สำนักยูเฟิงมีฝีมือในด้านการควบคุมอาวุธ โดยเฉพาะวิชากระบี่บิน พวกเขาใช้มันตัดหัวคนที่อยู่ห่างพันลี้ได้ง่ายๆ! แล้วพวกเขาก็เร็วมาก!”
ความเร็วของวิชากระบี่โจวจิ้งยังคงติดตรึงในใจซือหยู มันเร็วจนคนธรรมดามองไม่ออกว่าเขาทำอะไรลงไป ไม่แปลกใจที่สำนักนี้จะชื่อว่ายูเฟิง!
ชางก่วนชิงเอ๋อที่กำลังจะพาซือหยูไปที่ป่ารูปปั้นลดความเร็วลง นางรออย่างอดทน
“ให้เขาไปก่อน ผนึกในป่ารูปปั้นแม่นยำมาก ถ้ามีคนเข้าไปอีก หนอนหินก็จะยิ่งแข็งแกร่ง อย่าไปเสี่ยงกับเขาจะดีกว่า”
ไม่มีใครอื่นที่เข้าไปในป่ารูปปั้นหลังจากเจิ่งซื่อชิง เขาเคลื่อนไหวได้เร็วอย่างไม่น่าเชื่อ ดูเหมือนเขาจะเร็วกว่าลี่เซียงเล็กน้อยแม้จะถูกป่ารูปปั้นลดความเร็วลงไป
แค่พริบตาเขาก็เคลื่อนตัวไปได้หนึ่งในสามของพื้นที่ป่า! หนอนด้านหลังตามความเร็วของเขาไม่ทัน พลังที่ทำให้กลายเป็นหินไม่ได้สัมผัสโดนตัวเขา
เมื่อไปถึงกลางพื้นที่ เหล่าหนอนที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิมสองเท่าก็ปรากฏตัว พวกมันอ้าปากปล่อยพลังที่ทำให้กลายเป็นหินออกมา พลังนั้นราวกับภูเขาไฟระเบิด มันขวางทางของเขาเอาไว้
นี่มันเหมือนกับที่ลี่เซียงเจอมิใช่รึ? ความต่างเดียวก็คือเจิ่งซื่อชิงไม่ได้ถอยหนี เขากลับปล่อยพลังชีวิตออกมาปกคลุมกาย
เขาอัดพลังชีวิตลงในสร้อยคอที่สวม ในตอนนั้นก็มีคลื่นลมสีขาวค่อยๆแพร่กระจายรอบๆ
คลื่นลมสีขาวนั้นพิเศษ แม้ว่าจะอยู่ห่างจากลานนกกระนอกเทวะ สายลมที่พัดออกมาก็ทำให้วิญญาณของคนรอบๆรู้สึกสบาย
พวกเขารู้สึกมีพลัง ความเหน็ดเหนื่อยลดลงไป มันประหลาดมาก!
ที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือพลังที่ทำให้กลายเป็นหินได้ถอยห่างออกไปไม่ว่าคลื่นสีขาวจะไปทางไหน! หลายคนตกใจมาก
พลังที่ทำให้กลายเป็นหินถอยหนีจากเจิ่งซื่อชิง หลายคนสงสัยว่าสร้อยนั้นคืออะไร!
เจิ่งซื่อชิงตื่นเต้น เขาผ่านกำแพงพลังงานนั้นและไปถึงกกลางป่าอย่างรวดเร็ว
สิ่งที่เขาเห็นนั้นดูน่ากลัว เขาได้บางสิ่งบางอย่างที่คล้ายเสียงอสรพิษ มันคือหนอนหินจำนวนมากที่ปรากฏตัวบนทางเข้าป่า
หมอกพัดหายไปเมื่อหนอนที่ใหญ่กว่าหนอนธรรมดาสามเท่านำฝูงหนอนตัวอื่น ทั้งหมดพ่นพลังออกมา โชคดีที่พลังนั้นถูกคลื่นลมสีขาวสลายไปอย่างง่ายๆ
แต่พลังที่ออกมาจากเหล่าหนอนก็ค่อนข้างหนาจนแทบจะควบแน่นเป็นของเหลว มันมีสีดำสนิท
คลื่นลมสีขาวทำได้แค่พัดพลังไปช้าๆ มันสวนกลับพลังปริมาณมากเช่นนี้ไม่ได้!
เจิ่งซื่อชิงสีหน้าเคร่งเครียด เขาไม่กล้าหยุด เขารีบผ่านไปยังกลางป่าได้แบบฉิวเฉียด!
ไม่นานเขาก็ผ่านพื้นที่สองในสามของป่าไป คนในลานนกกระจอกเทวะตกใจมาก
“รุ่นก่อนมีแค่ไม่กี่คนที่ไปถึงระยะนั้นได้ เจิ่งซื่อชิงแข็งแกร่งยิ่งกว่าที่พวกเราคิด!”
บางคนจ้องมองเจิ่งซื่อชิงในหมอกด้วยความตกใจ
เจิ่งซื่อชิงไปถึงพื้นที่ส่วนสุดท้าย เขาจะต้องผ่านให้ได้ในคราเดียว แต่ตอนนั้นก็มีรูปปั้นศิลาขยับอยู่ในหมอก!
เหล่าผู้คนสังเกตเห็นรูปปั้นนั้น พวกเขาเห็นมันตั้งแต่มาถึงลานนกกระจอกเทวะ มันเป็นรูปปั้นที่ใหญ่ว่ารูปปั้นอื่น
พวกเขาเพียงคิดว่ามันคือรูปปั้นของยอดฝีมือที่เก่งกาจและตายอย่างน่าเสียดาย! แต่มันกลับเป็นรูปปั้นที่ขยับได้!
ชางก่วนชิงเอ๋อสีหน้าเคร่งเครียด
“ดูเหมือนมันจะออกมาแล้ว ราชาหนอนหิน! จะผ่านป่ารูปปั้นได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับมัน!”
หรือว่าราชาหนอนหินจะเป็นหนอนตัวเมีย?
น้ำวิญญาณที่เกิดจากหนอนตัวเมียจะทำให้สภาพกลายเป็นหินสลายไปได้ นั่นคือสิ่งที่จะทำให้จางตี๋เก้อคืนร่างเดิมกลับมา
แต่หนอนตัวนี้ใหญ่จนน่ากลัว แม้ว่าหนอนหินธรรมดาๆจะใหญ่เท่าข้อมือ แต่หนอนตัวนี้กลับใหญ่ยิ่งกว่ามนุษย์! ยากที่จะคิดได้เลยว่ามันจะปล่อยพลังที่ทรงพลังแค่ไหนออกมา!
หนอนหินตัวใหญ่ตัวสั่นมันกรีดร้องเสียงแหลม จากนั้นทั้งป่ารูปปั้นก็เต็มไปด้วยพลังที่ทำให้กลายเป็นหิน!
เหล่ายอดฝีมือจากลานนกกระจอกเทวะเปลี่ยนไป ทุกคนรีบถอยหลังและมองสิ่งที่เกิดขึ้นในป่าจากระยะไกล
หนอนตัวนี้สามารถทำให้ทั้งป่าปกคลุมไปด้วยพลังได้! และของเหลวสีเทาก็ปะทุออกมาจากพื้นที่โดยรอบโดยมีมันเป็นจุดศูนย์กลาง!
พลังเช่นนี้ทำให้ทุกคนขนลุก ใครก็ตามที่อยู่ในป่ารูปปั้นจะต้องกลายเป็นหินไม่ว่าจะเข้าไปจากมุมใด
เจิ่งซื่อชิงสีหน้าเป็นกังวล เขามองดูหยดพลังที่พุ่งเข้าใส่ตัว นั่นคือหยดพลังที่จะทำให้เขากลายเป็นหิน!
พลังนั้นเหนือกว่าพลังธรมดาสิบเท่า แม้ว่าจะอยู่ใกล้แค่สามเมตรก็ทำให้คนหนึ่งคนกลายเป็นหินได้ในทันที!
และคนที่กลายเป็นหินจากราชาหนอนจะไม่มีวันกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ หมายความว่ามีเพียงความตายรอเขาอยู่เท่านั้นถ้าเขาเข้าใกล้!
ในจุดวิกฤติ เจิ่งซื่อชิงหัวใจเต้นแรง แต่มือเขาก็ไม่ได้ช้าลง เขาคว้าสร้อยคอและทำลายมัน
สร้อยเปลี่ยนนภาให้เต็มไปด้วยเศษเสี้ยวสีขาวปกคลุมเจิ่งซื่อชิง พลังที่ทำให้กลายเป็นหินสัมผัสเข้ากับผงขาวและลดพลังลงไปอย่างรวดเร็ว
เจิ่งซื่อชิงทิ้งสร้อยคอเพื่อสร้างโอกาสให้กับตัวเอง เขาหลบพลังต่อมาอย่างระมัดระวัง
เขาผ่านป่ารูปปั้นได้สำเร็จแม้ราชาหนอนจะร้องคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว จากนั้นเขาก็ไปถึงอีกฟากอย่างปลอดภัย
มีแท่นบูชายัญที่ไม่เหมือนกับลานนกกระจอกเทวะที่อีกฝั่ง นั่นทำให้เขาปลอดภัย เจิ่งซื่อชิงหน้าซีด เขาหายใจแรง เหงื่อผุกออกมาจากหน้าผาก
จากนั่นเขาก็เริ่มมือสั่น เขาใช้สมาธิอย่างเต็มความสามารถมานาน เมื่อเขาผ่อนคลายลง มือก็สั่นอย่างมิอาจควบคุมได้
เขาเกือบตายไปสองครั้ง ใบหน้าของเจิ่งซื่อชิงซีดเผือด แต่ความรู้สึกนี้ก็ทำให้เขาหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
“ฮ่าๆๆๆๆ…ข้าทำได้!”
มีคนไม่มากนักที่จะผ่านป่ารูปปั้นมาได้ในรุ่นก่อนๆ เจิ่งซื่อชิงมีสิทธิ์ที่จะภูมิใจในสิ่งที่เขาทำ!
ผู้ที่ได้เห็นปาฏิหาริย์จากลานนกกระจอกเทวะใบหน้าเปลี่ยนไป บ้างคนตกใจ บางคนเริ่มระวังตัว บางคนรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรม
“ไม่เลว! ยี่สิบวินาที”
ในที่สุดไป่หยีเจี้ยนก็ยิ้มออกมา
ชางก่วนชิงเอ๋อถอนหายใจ
“น่าเสียดายที่เขาต้องสละสร้อยไป นั่นเป็นสร้อยที่ใช้ป้องกันดวงวิญญาณ มันคือสมบัติที่หายากที่สุดเท่าที่คนคนหนึ่งจะหาได้ คุณค่าของสร้อยนั่นอาจจะเทียบเท่ากับสมบัติกึ่งวิญญาณด้วยซ้ำ”
ซือหยูพยักหน้าเห็นด้วย
“ถ้าศิษย์น้องข้าผ่านไปแล้ว ครั้งนี้ก็เป็นคราวของข้า”
โจวจิ้งหัวเราะ เขาชักกระบี่ทมิฬออกมาเป็นครั้งแรก เขาถือมันไว้ในมือ
เขาพุ่งไปข้างหน้าเพียงแค่ก้าวเดียว ด้วยความเร็วนั้น เขาผ่านหนึ่งในสามของป่ารูปปั้นได้ราวกับของเด็กดเล่น ไม่นานเหล่าหนอนก็ปรากฏตัวออกมา
แต่พวกมันยังไม่ทันได้ปล่อยพลังหินก็ถูกคมกระบี่ทมิฬในมือโจวจิ้งฟาดฟัน เขาเร่งความเร็วขึ้นในชั่วพริบตาและผ่านไปยังกลางป่า
หนอนที่นั่นใหญ่กว่าเดิมสามเท่า ไม่ผ่านง่ายดังเดิม พวกมันพ่นพลังหินออกมา ในครั้งนี้ไม่มีที่ว่างเหลือสำหรับโจวจิ้ง
แต่โจวจิ้งก็ไม่เกรงกลัว เขาฟันกระบี่อย่างรวดเร็ว พลังนั้นผ่าทะลวงเมฆาผ่านพลังหินออกไป
ซือหยูขมวดคิ้ว
“วิชากระบี่ของเขาแข็งแกร่งมาก มันมีการโจมตีวิญญาณอยู่ด้วย”
ชางก่วนชิงเอ๋อลูบคาง
“มันคือวิชากระบี่ฟันวิญญาณจากสำนักยูเฟิง เขาใช้มันได้อย่างเชี่ยวชาญ กระบี่ของเขามีการโจมตีวิญญาณอยู่ด้วย คนที่ฐานพลังเท่ากับรับมือเขาได้ลำบากแน่”
แน่นอนว่ายากที่จะรับมือกับคนที่มีวิชากระบี่ที่เร็วปานสายฟ้า และอีกด้านหนึ่งก็คือแการโจมตีทางวิญยาณที่มิอาจป้องกัน นั่นทำให้เขาผ่านได้ทุกการป้องกัน วิชานี้สามารถคร่าชีวิตคนได้มากมาย!
โจวจิ้งไปถึงพื้นที่สุดท้ายของป่าแล้ว ราชาหนอนที่โกรธเกรี้ยวร้องคำราม มันปล่อยพลังหินปริมาณมากออกมา พลังนั้นพุ่งเข้าหาโจวจิ้งจากทุกทิศทาง