The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 540
ผู้คนเห็นเพียงแต่หมอก ตอนนั้นท้องนภาที่เต็มไปด้วยหมอกพลังหินหายไปอย่างไร้ร่องรอย!
หนอนหินหลายร้อยตัวที่พุ่งเข้าใส่ซือหยูราวกับคลื่นวารีเงียบสงบลง พวกมันตายกันหมด! เขาสังหารหนอนหินตายหมดในคราเดียว!
“เขาทำได้ยังไง?”
เสียงดังมาจากคนบนลานนกกระจอกเทวะ
เขาราวกับเทพสังหาร! หลายคนถึงกับขนลุกเมื่อเห็นซือหยูไล่สังหารหนอนหิน
ยังคงมีหนอนหินอยู่บ้างที่พุ่งเข้าใส่ซือหยู แต่พวกมันก็พบกับชะตากรรมเดียวกัน พวกมันกลายเป็นเถ้าถ่านเมื่อซือหยูสะบัดดัชนี! เขาสังหารหนอนไปมากกว่าพันตัวแล้วในตอนที่มาถึงกลางป่า
ยอดฝีมือบนลานนกกระจอกเงียบกริบ พวกเขามองซือหยูด้วยความตกใจ ทุกคนที่ผ่านมาล้วนต้องใช้การป้องกันในการเลี่ยงหนอนหิน แต่ละคนต้องผ่านป่ารูปปั้นไปด้วยความเร็ว
เพราะใครกันเล่าที่ไม่กลัวป่ารูปปั้น?
แต่ซือหยูกลับสังหารทุกสิ่งที่มาขวางทาง เขาสร้างเส้นทางที่มีแต่ซากหนอน! ทุกคนเงียบกริบเพราะตกใจ ซือหยูคือคนที่แข็งแกร่งที่สุดที่เคยผ่านป่ารูปปั้น! คนที่ผ่านป่ารูปปั้นมาก่อนสี่คนตัวแข็งทื่อ
เจิ่งซื่อชิงตกใจมาก
“เป็นไปได้ยังไง? นั่นมันก็แค่ไอ้เด็กที่เอาแต่หลบอยู่หลังสตรี เขามีพลังเช่นนั้นได้ยังไง? เขามีสมบัติอะไรกัน?”
โจวจิ้งแววตาดุร้าย ชางก่วนชิงเอ๋อเบิกตากว้าง นางมองซือหยูและตกใจในวิธีที่เขาใช้ข้ามป่า
นางยังคงไม่เข้าใจว่าซือหยูใช้พลังแบบใด นางเพียงแต่สัมผัสได้ถึงเพลิงไร้ลักษณ์เหมือนกับไป่หยีเจี้ยง นอกเหนือจากนั้นก็ไม่มีสิ่งใดพิเศษจากเขาเลย
นางจึงเข้าใจแล้วว่าเหตุใดซือหยูจึงกล้าพาคนไปกับเขาด้วย! เขาไปถึงกลางป่าและสังหารเหล่าหนอนโดยไม่ได้ลงแรงมากนัก ซือหยูมองรอบๆด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยเพลิงไร้ลักษณ์
นี่คือเพลิงวิญญาณที่ได้มาจากกบแก้วเพลิงเนตรขาว เพลิงเหล่านี้ใช้เผาวิญญาณได้!
แม้ว่าเพลิงส่วนมากจะถูกหม้อเก้ามังกรสูบเอาไป เพลิงส่วนน้อยก็ยังมากพอที่จะใช้สังหารเหล่าหนอนได้ แต่ซือหยูก็ต้องทำท่ามือปัดไปมาเพื่อหลอกผู้คน
ซือหยูเดินไปบนพื้นที่เต็มไปด้วยซากศพหนอน
“ถ้าไม่อยากตายก็หลีกไป! ข้าจะฆ่าทุกตัวที่เข้ามา!”
เหล่าหนอนหินหยุดโจมตี พวกมันสัมผัสได้ถึงพลังที่พวกมันแพ้จากร่างกายซือหยู พวกมันรับรู้ได้ว่ามันจะตายหากจู่โจมเขา!
เหล่าผู้คนอ้าปากค้างเมื่อเห็นฝูงหนอนหินหลีกทางให้ซือหยูราวกับคลื่นที่ถูกแหวก
ไม่ว่าซือหยูจะไปที่ใดก็ไม่มีหนอนหินเข้าใกล้เขาอีก ราวกับว่าซือหยูเป็นราชาตัวจริงของป่ารูปปั้น
ซือหยูพาเซี่ยจิงหยูไปจนถึงส่วนสุดท้ายของป่า นี่คือสถานที่ของราชาหนอน
ราชาหนอนหินจ้องมองซือหยูอย่างเยือกเย็น มันสูงกว่าซือหยูเสียอีก
ซือหยูจ้องมันตรงๆ เพลิงวิญญาณในดวงตาลุกโชตช่วง
“หลีกไป!”
ราชาหนอนหินกรีดร้องด้วยความต้องการจะต่อสู้ แต่หลังจากที่จ้องหน้ากันไปมา มันค่อยๆลดตัวลงและคลานหลีกทางให้ซือหยู!
ผู้คนเงียบงัน แม้แต่ราชาหนอนหินก็เลือกที่จะมุดลงดินเมื่อเผชิญหน้ากับซือหยู!
แต่พวกเขาต้องตกใจยิ่งกว่าเมื่อซือหยูมองราชาหนอนอย่างเย็นชา
“เดี๋ยว! ข้าบอกให้เจ้าไปตั้งแต่เมื่อไหร่?”
ราชาหนอนหินมองกลับด้วยความละอาย มันกรีดร้องออกมา มันในฐานะราชาก็เสียหน้ามากพอแล้วกับการเลือกถอยหนี
แล้วมันจะละอายใจเพียงใดอีกถ้าซือหยูตะคอกใส่เช่นนี้?
“ส่งน้ำวิญญาณของหนอนตัวเมียมาให้ข้า”
ซือหยูยื่นแขนไป
“เจ้ามีเวลาสามลมหายใจ!”
ราชาหนอนหินโกรธเกรี้ยว น้ำวิญญาณของหนอนตัวเมียนั้นใช้เพื่อเลี้ยงดูหนอนหินรุ่นต่อไป หนอนขนาดปกติต้องใช้น้ำวิญญาณเลี้ยงมานานกว่าจะเติบโตสามเท่า มันจะส่งให้ซือหยูง่ายๆรึ?
“หนึ่ง…”
ซือหยูไร้ปรานี เขาเริ่มนับถอยหลังอย่างเย็นชา
ราชาหนอนหินเริ่มพ่นพลังหินที่ควบแน่นออกมา มันค่อยๆยืดตัวขึ้นเตรียมจะต่อสู้
“สอง…”
เพลิงวิญญาณร่ายรำในดวงตาซือหยู มันปล่อยมาพร้อมกับจิตสังหาร
ราชาหนอนหินไม่คิดจะแสดงความอ่อนแอ รังสีพลังอันป่าเถื่อนแผ่กระจายไปยังสิ่งรอบข้าง
“สาม!”
ซือหยูแสดงจิตสังหารออกมา!
แต่ในตอนนั้นเอง ราชาหนอนหินที่ยืดตัวสูงได้รีบมุดลงดิน มันปล่อยก้อนหยดสีสันสดใสออกมาก่อนจะคลานหนี ซือหยูคว้ามันไว้และแบ่งเศษเสี้ยวเล็กน้อยมาลูบรูปปั้นศิลาข้างๆ
ในตอนนั้น จุดที่ถูกลูบได้แสดงความเป็นเนื้อหนังของมนุษย์ออกมา แต่เพราะเขาไม่ได้ลูบต่อ พลังหินรอบๆเลยทำให้มันกลายเป็นหินอีกครั้ง
นี่คือสิ่งที่ซือหยูตามหาอยู่แน่นอน เขาเก็บมันเอาไว้
จากนั้นเขาก็ไปถึงแท่นบูชากับเซี่ยจิงหยู สายตาเหล่าผู้คนมองซือหยูราวกับว่าเขาเป็นสัตว์ประหลาด!
เขามิได้เพียงสังหารหนอนหิน แต่เขายังเหนือกว่าราชาหนอน! และสุดท้ายเขายังเอาน้ำวิญญาณจากราชาหนอนมาอีก! นั่นทำให้เหล่าผู้คนตัวสั่นยิ่งกว่าราชาหนอน!
ไป่หยีเจี้ยงข่มใจให้เย็น เขาปรากฏตัวหน้าซือหยูและประสานมือหัวเราะ
“สหายข้า เจ้าเชี่ยวชาญพลังที่แข็งแกร่งแม้อายุยังน้อย ข้าไม่คิดมาก่อนเลย! โปรดอภัยให้ข้าด้วย!”
พลังของป่ารูปปั้นไม่มีผลกับไป่หยีเจี้ยงและคนอื่นในตระกูล เขาผ่านมาได้ตรงๆ
ซือหยูยิ้มเบาๆ
“ข้าก็แค่โชคดีเท่านั้น ครั้งหน้าข้าอาจจะทำไม่ได้อีกแล้ว”
คำพูดของเขาทำให้หลายคนปากบิดเบี้ยว พวกเขาไม่อยากจะคิดถึงครั้งหน้าเลย เพราะในครั้งนี้หนอนหินส่วนมากก็ถูกเขากำจัดไปแล้ว!
ไป่หยีเจี้ยนยิ้มอย่างเป็นมิตร เขาพอใจกับพลังของซือหยู แต่หลังจากที่มองดูรอบๆเขาก็พบว่ามีถึงหกคนที่นี่! นั่นคือซือหยูและเซี่ยจิงหยู เจิ่งซื่อชิง โจวจิ้ง และชางก่วนชิงเอ๋อ กับราชาปีศาจ
“สระวิญญาณลับสวรรค์รับคนได้แค่ห้าคนเท่านั้น เรามีคนมากเกินไป”
ไป่หยีเจี้ยงพูดอย่างไร้อารมณ์
“แม่นางชิงเอ๋อ สระวิญญาณไม่ได้มีผลมากนักกับคนในขอบเขตภูติ ไม่ให้โอกาสคนรุ่นหลังสักหน่อยรึ?”
ชางก่วนชิงเอ๋อยิ้ม
“มันไร้ประโยชน์กับข้า แต่ข้าก็ไม่จำเป็นต้องให้ที่ว่างของข้ากับใคร”
ไป่หยีเจี้ยงมองรอบๆ เขาไม่สนใจอีกแล้ว
“ถ้าเช่นนั้นพวกเจ้าก็ตกลงกันเองแล้วกัน”
หรือพูดอีกอย่าง…จะต้องมีหนึ่งคนถูกกำจัดออกจากกลุ่ม…
“หึ! แน่ล่ะ นังคนนั้นต้องออกไป! นางเป็นคนที่เกินมา!”
เจิ่งซื่อชิงชี้ไปที่เซี่ยจิงหยู
“เรามาที่นี่ด้วยพลังของตัวเอง เสี่ยงอย่างใหญ่หลวง มีแค่นางที่มากับคนอื่น นางมีสิทธิ์อะไรมาชิงตำแหน่งกันเลบ่า?”
แม้ว่าเขาจะอยากชื่นชมความงามของเซี่ยจิงหยู แต่เขาจะปล่อยให้นางชิงโอกาสทองเช่นนี้ไปต่อหน้าต่อตาได้อย่างไร?
ซือหยูพยักหน้าอย่างเยือกเย็น
“มีคนมากเกินไปจริงๆด้วย!”
เขาพูดพร้อมกับหายตัวไป
เจิ่งซื่อชิงชักสีหน้า
“เจ้ายังไม่คู่ควรที่จะมาสู้กับข้าหรอก!”
ในสายตาของเขา ซือหยูผ่านป่ารูปปั้นมาได้ก็เพราะว่าเขาอาจจะมีสมบัติกึ่งวิญญาณอยู่กับตัว ในด้านฐานพลัง เขานั้นห่างไกลกว่าซือหยูอย่างมาก เขาเป็นฝ่ายได้เปรียบแน่นอน
“เจ้าก็แค่กล้าเพราะมีสตรีอยู่ข้างหน้าเจ้า แต่ก็ยังจะมีหน้ามาสู้กับข้า ข้าจะสั่งสอนเจ้าเอง!”
เจิ่งซื่อชิงหยิบท่อนไม้ยาวที่ปล่อยเพลิงอันร้อนแรงออกมา มันคือสมบัติเทพระดับสูงที่มีพลังในระดับดี
เขาตามการเคลื่อนไหวของซือหยูด้วยตาได้ง่ายๆ เขาเห็นเส้นทางของซือหยูและซัดไม้วิญญาณออกไป มันปล่อยเพลิงอันน่ากลัวล้อมตัวซือหยูเอาไว้
แต่เขาก็ไม่ทันได้ยินดี มีกระบี่ทองเฉือนผ่านเพลิงพุ่งตรงเข้าใส่เขา!
เจิ่งซื่อชิงป้องกันกระบี่ทองโดยใช้ไม้วิญญาณ แต่ไม้วิญญาณก็ขาดเป็นสองท่อนเมื่อปะทะกับกระบี่! สมบัติเทพระดับสูงถูกทำลายไปทั้งอย่างนั้น!
จากนั้นกระบี่ทองก็ทะลวงผ่านไหลของเจิ่งซื่อชิงที่ไร้สิ่งกีดขวาง เขาตกลงจากแท่นบูชาและตัวสั่นอยู่ในป่ารูปปั้น
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก โจวจิ้งแทบจะไม่มีเวลาได้ตั้งตัว เขายื่นมือไปหาเจิ่งซื่อชิง
จากนั้นก็มีเงาหนอนมากมายพุ่งเข้ามา หนอนเหล่านั้นเปลี่ยนเจิ่งซื่อชิงให้กลายเป็นรูปปั้นหิน และนั่นก็คือการเป็นหินจากราชาหนอน แม้แต่น้ำวิญญาณจากหนอนตัวเมียก็แก้ไขอะไรไม่ได้!
เจิ่งซื่อชิงถูกสังหาร! เขาพยายามอย่างมากในการผ่านป่ารูปปั้น แต่ท้ายสุดเขาก็จบลงใต้แท่นบูชาเพราะซือหยู เขากลายเป็นหนึ่งในรูปปั้นหินของที่นี่
ฟึ่บ–
ซือหยูคว้ากระบี่ทองคำของตนคืน
“ตอนนี้จำนวนก็ไม่เกินแล้วล่ะนะ”
สมบัติกึ่งวิญญาณรึ? ทุกคนที่มีความรู้ขมวดคิ้ว
“เจ้าหนู! สำนักยูเฟิงไปทำอะไรให้เจ้าถึงต้องป่าเถื่อนอย่างนี้?!”
ข้างหลังซือหยูคือโจวจิ้ง
ซือหยูหันกลับไป
“เขาก็คิดว่าที่นี่มีคนเยอะเกินไป ข้าก็แค่ลดคนให้น้อยลงอย่างที่เขาพูดเท่านั้น ถ้าเจ้าคิดว่ายังมีคนเยอะเกินไปอีก ข้าก็จะทำให้เจ้าเหมือนกัน”
โจวจิ้งโกรธเกรี้ยว
“เจ้าคิดจริงๆรึว่าเจ้าจะเมินข้าได้ถ้ามีชางก่วนชิงเอ๋ออยู่ตรงนี้น่ะ?”
ซือหยูตั้งท่าเตรียมสู้
“เจ้าคิดเยอะเกินไปแล้ว! คนตาขาวอย่างเจ้าไม่คู่ควรให้ข้าสนใจด้วยซ้ำ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับชางก่วนชิงเอ๋อ”
“เจ้าหนู สองครั้งสองคราที่เจ้าดูหมิ่นข้า! ถ้าเช่นนั้นก็อย่าโทษที่ข้าไม่ออมมือ!”
โจวจิ้งโกรธแค้น รังสีพลังของเขาเอ่อล้นออกมา
แต่ในตอนนั้นไป่หยีเจี้ยนก็เอ่ยปาก
“ทำไมกัน เจ้าไม่เห็นข้าในสายตาเลยรึ? ลงมือโดยไม่มีคำอนุญาตจากข้าในดินแดนของข้า เจ้าช่างกล้านัก!”
โจวจิ้งใบหน้าบิดเบี้ยว เขาค่อยๆลดฝ่ามือลง เขาข่มความโกรธเอาไว้
“ข้าใจร้อนเกินไป โปรดอภัยให้ข้าด้วย”
จากนั้นเขาจึงหันไปมองซือหยูอย่างเย็นชา แววตาของเขาเต็มไปด้วยจิตสังหาร ซือหยูยักไหล่เก็บกระบี่
ไป่หยีเจี้ยนพยักหน้าอย่างเย็นชา เขาไม่ได้เสียใจกับความตายของเจิ่งซื่อชิง
“ถ้าหากคนครบแล้ว เราจะไปที่สระวิญญาณเดี๋ยวนี้ เจ้ามีเวลาครึ่งวันเท่านั้น ผลของสระวิญญาณจะหายไปในครึ่งวัน เจ้าจะพัฒนาขึ้นมากเท่าใดก็อยู่ที่ตัวพวกเจ้า”
ไป่หยีเจี้ยนโบกมือ ในตอนนั้นทางเข้าก็ปรากฏบนแท่นบูชา มันเผยขั้นบันไดที่นำไปยังสถานที่บางแห่งในเบื้องล่าง