The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 557
ช่วงนี้ที่ตอนสั้น เป็นเพราะต้นฉบับสั้นนะครับ แต่ไม่อีกไม่กี่ตอนจะยาวเท่าๆเดิม
ผู้แปลไม่ได้ตัดตอนให้สั้นลงเลยครับ
ชางก่วนชิงเอ๋อหัวเราะอย่างเยือกเย็น นางหันไปหาซือหยู
“จบการต่อสู้นี้ซะ ฆ่าไอ้เด็กโจรนั่นให้ตาย!”
ซือหยูพยักหน้าเบาๆ อากาศทั้งหมดในพื้นที่ได้มารวมตัวที่ฝ่ามือของเขาแล้ว และพื้นที่โดยรอบยังกลายเป็นสุญญากาศที่ไม่มีแม้แต่เสียงจะทะลวงผ่านได้
อากาศที่บีบอัดแน่นในฝ่ามือนั้นมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ยิ่งบีบอัดกันมากเท่าใด มันก็กลายเป็นก้อนเมฆที่มืดลงเท่านั้น มันกลายเป็นพลังความมืดสีเทา สุดท้ายมันลดขนาดจนเหลือเท่าหัวแม่มือและกลายเป็นสีดำสนิท!
ในอากาศที่บีบอัดแน่นมีแม้กระทั่งสายฟ้าที่ร้องคำราม มันเกิดจากส่วนของอากาศที่เข้ารวมตัวกันและเสียดสีกันอย่างบ้าคลั่ง พลังทำลายล้างในก้อนบีบอัดนี้ไม่เคยมีใครได้เห็นมาก่อน!
สีหน้าไป่ฉีเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม เขารู้สึกถึงความเย็นยะเยือกไปทั้งกาย เขาไม่ละสายตาไปจากพลังทมิฬในมือซือหยูเลย
ไป่หยีเจี้ยนพยายามตะโกนอยู่นาน แต่อย่างไรพื้นที่ก็ได้กลายเป็นสุญญากาศไปแล้ว เสียงของเขามิอาจแล่นออกไปได้ เขาได้แค่มองดูลูกชายตัวเองอย่างสิ้นหวัง ขณะที่ลูกชายเขาต้องเผชิญหน้ากับพลังทำลายล้างและสุญญากาศที่ทำลายได้แม่กระทั่งตัวเขาเอง!
ฝ่ามือของซือหยูสั่นเบาๆขณะที่สายโลหิตเล็กๆค่อยๆไหลออกมาจากนิ้วมือ การกดทับอันหนักแน่นของอากาศในฝ่ามือของเขานั้นรุนแรงอย่างมาก โลหิตในร่างกายของเขาถูกบีบอัดอย่างรุนแรงจนซึมออกผ่านรูขุมขน
แต่ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น เพราะอย่างไรนี่ก็เป็นอรหันต์แปดอักษรในอักษรขั้นกลาง! พลังของมันน่ากลัวกว่าที่เขาคิดเอาไว้! ดังนั้นแล้ว แม้แต่ภูติเองก็ต้องหวั่นเกรง!
“เจ้าพร้อมแล้วสินะ?”
ซือหยูเงยหน้าเหลือบมองไป่ฉี ซือหยูยิ้มและขว้างก้อนอากาศเข้าใส่ไป่ฉี
ฟึ่บ!
พลังทมิฬกลิ้งไปข้างหน้าฉีกมิติจนขาดสะบั้นในทุกที่ที่กลิ้งผ่าน! ไม่ว่าจะผ่านไปที่ใด มิติก็จะแตกเป็นเสี่ยงๆ!
ไป่ฉีหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด เขากลัวจนเกินกว่าจะอธิบายได้ เขารีบถอยหนีทันที!
แต่เขาก็รู้สึกหมดหวังเพราะดูเหมือนว่าพลังทมิฬจากซือหยูจะทรงพลังอย่างมาก มันพุ่งเป้าที่ตัวเขาและไล่ตามอย่างไม่ลดละ! พลังตามเขาทันในเวลาหนึ่งลมหายใจ!
บอลพลังปล่อยสายฟ้าออกมาในพริบตา ขณะเดียวกันพลังทำลายล้างจากบอลทมิฬก็ปะทุออกมาด้วย!
พลังทำลายล้างทำให้พื้นที่ขนาดใหญ่แหลกละเอียดไปพร้อมกันไป่ฉีที่อยู่ภายใน!
ไป่หยีเจี้ยนเบิกตากว้าง เขารู้สึกว่างเปล่าในจิตใจ เขาเพิ่งจะรับรู้ว่าลูกชายเขาไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว!
ชางก่วนชิงเอ๋อยินดีเป็นอย่างมาก นางรู้สึกได้ว่าหัวสัตว์อสูรลดพลังลง นางถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก
ดูเหมือนว่าทุกสิ่งจะพลิกผันกลับมาในช่วงเวลาวิกฤติ นั่นก็เพราะหัวของสัตว์อสูรเกือบจะได้พลังของจ้าวเทวะมาพอดี เสี้ยววิญญาณของมันเกือบตื่นขึ้นมาแล้ว!
ถ้าหากเรื่องนั้นเกิดขึ้น พวกเขาทุกคนคงจะต้องตายที่นี่ เรียกได้ว่าพวกเขารอดหวุดหวิด!
แต่ซือหยูก็ไม่ได้แสดงความยินดีออกมา สีหน้าเขากลับหม่นหมองยิ่งกว่าเดิม
“ทำไมเจ้าถึงทำแบบนี้?”
เขาถามด้วยความโกรธเกรี้ยว
คำถามที่ไม่คาดคิดทำให้ชางก่วนชิงเอ๋อตัวแข็งทื่อไปครู่หนึ่ง นางหันไปมองพื้นที่ที่แหลกสลายสิ้นซากเมื่อครู่ เมื่อมองดูนางก็ต้องเบิกตากว้าง
นางเห็นเพียงแต่ร่างยักษ์ที่ยืนอยู่ในพื้นที่นั้น ร่างนั้นปกคลุมด้วยความมืดสนิท ใบหน้าสีเขียวพร้อมกับเขี้ยวแหลม ดวงตาแดงก่ำดั่งโลหิตแทบจะเหมือนแสงตะเกียง ที่ข้างหลังมีปีกดำอยู่หนึ่งคู่ มันเป็นภาพที่น่าตกใจมาก!