The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 566
กิเลนน้อยอ้าปากอย่างเดือดดาลและพ่นหมอกสีชมพูออกมาเป็นจำนวนมาก
แกร๊ง!
เสียงแหลมของโลหะกระทบกันดังขึ้น เสียงเหมือนกับมีบางอย่างตกลงสู่พื้น ซือหยูก้มลงมองและเบิกตากว้าง
สายใยมังกร กล่องทมิฬ ขลุ่ยไผ่แปดทิศ และมุกบาดาลล้วนอยู่ในหมอกสีชมพู! กิเลนน้อยกระโดดออกมาจากหน้าอกของหวูอู๋ยี่มาที่พื้นและผลักเหล่าสมบัตินั้นมาชนเท้าของซือหยูด้วยจมูก ดูเหมือนว่ามันตั้งใจจะให้สมบัติทุกอย่างกับซือหยู
ในตอนนั้น ซือหยูไม่รู้ตัวเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น เขาสงสัย….แก่นแท้วิญญาณนี่ยอมรับเขาให้เป็นนายงั้นรึ?
เพราะอย่างไรนี่ก็เป็นการพบกันครั้งที่สองของพวกเขาเท่านั้น เขาสงสัยว่าเหตุใดเขาถึงได้เป็นเจ้านายของกิเลนน้อย!
“นายท่าน นี่ไม่ใช่สัตว์วิญญาณของนายท่านหรอกรึ?”
หวูอู๋ยี่งุนงงเมื่อมองดูท่าทางของซือหยู
ซือหยูได้สติกลับมา เขาถามด้วยความสับสน
“มันมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“เมื่อไม่นานนี้เองนายท่าน”
หวูอู๋ยี่ไม่รู้จะแสดงอารมณ์ตอนนี้ออกมาอย่างไรเพราะกิเลนน้อยตัวนี้ไม่ใช่สัตว์อสูรธรรมดาๆ! มันอาจจะมีสายเลือดของแก่นแท้วิญญาณอยู่ด้วย!
นางพูดเสริม
“ตอนที่มันมาที่นี่ มันบอกว่ามันเป็นสัตว์เลี้ยงของท่านและรอท่านอยู่ในต้นทับทิมวิญญาณขนนก แต่ข้าไม่คิดเลยว่าท่านคิดจะฆ่ามัน!”
หวูอู๋ยี่เอามือป้องปากขณะที่พูด
หลังจากที่กิเลนน้อยผลักเหล่าสมบัติไปที่เท้าของซือหยู มันกลิ้งลงกับพื้นและชูคอมองซือหยูด้วยใบหน้าน่าสงสาร ดูเหมือนว่ามันจะปล่อยให้เขาดูแลมันไม่ว่าเขาจะต้องการหรือไม่ก็ตาม
ซือหยูยังคงสับสนและเป็นกังวลเล็กน้อย เขาถาม
“ทำไมเจ้าถึงยอมรับข้าเป็นเจ้านายกัน?”
กิเลนน้อยยืนขึ้นทันทีที่ได้ยินคำถาม มันยืนด้วยขาคู่หลังเหมือนกับมนุษย์และเริ่มทำท่าทางด้วยขาหน้า มันพูดด้วยภาษาที่ไม่เข้าใจ แม้จะผ่านไปนานมันก็ไม่ได้แสดงท่าทางอะไรที่ซือหยูจะเข้าใจได้เลย
ท้ายสุด มันก็เริ่มตกใจและตื่นตระหนก มันหดคอลงและเล็มขาหน้าข้างขวาจนเลือดไหลออกมาใส่ร่างกายของซือหยู โลหิตนี้ร้อนระอุราวกับเพลิง ซือหยูรู้สึกเจ็บปวดราวกับถูกมีดแทง
แต่เขาก็ไม่ได้โกรธ ดูเหมือนว่ากิเลนน้อยพยายามจะสื่อสารอะไรบางอย่างกับเขา จากนั้นเขาก็ตกตะลึงเมื่อพบว่าโลหิตของกิเลนน้อยได้ไหลผ่านเข้ารูขุมขนของเขาและผสมกับโลหิต!
ไม่นานหมอกสีชมพูก็ไหลออกมาจากร่างกายของซือหยู มันเผยให้เห็นว่าเขามีส่วนหนึ่งของกิเลนน้อยอยู่ภายใน! ร่างกายของซือหยูเปลี่ยนจากกายเนื้อไปสู่ร่างจิตวิญญาณ ซือหยูตกใจมากที่พบว่าเขาครอบครองพลังของกิเลนน้อยมาได้จากโลหิตของมัน!
แต่ที่น่าตกใจยิ่งกว่าก็คือโลหิตนั้นฝังอยู่ในส่วนลึกสุดของจิตใจ มันแพร่กระจายไปและทำให้เขามีกลิ่นอายพลังแบบเดียวกับกิเลนน้อย!
ราวกับร่างกายของเขาได้ครอบครองกิเลนน้อยมาเป็นเวลานาน ซือหยูรู้สึกใจสั่นราวกับมีสายฟ้าซัดเข้ามา เขารีบหยิบเอาเกล็ดสีชมพูออกมาจากแหวนมิติ เขาเทียบดูกับเกล็ดของกิเลนน้อยและพบว่ามันคือเกล็ดแบบเดียวกัน!
“เช่นนั้นเจ้าก็เป็นสิ่งที่อยู่ในโครงกระดูกนั่น เจ้าดูดซับพลังวิญญาณของข้าไปรึ?”
ซือหยูอุทานออกมา เขาตกใจมาก
เขาย้อนคิดถึงตอนที่ถูกยักย้ายมายังห้องลับในทุ่งหญ้าซากศพกับกังต้าเหล่ย ฉินจิวหยาง และยู่จาง ที่นั่นมีโครงกระดูกอยู่ด้วย จากนั้นเมื่อเขาหยิบเอาซี่โครงออกมาก็พบว่าพลังจิตวิญญาณของเขาถูกดูดซับเข้าไปจนเขาหมดสติ!
เมื่อตื่นขึ้น เขาก็พบว่าวิญญาณของตัวเองได้เพิ่มพลังขึ้นมาก ฐานพลังของเขาเองก็เพิ่มระดับขั้น สิ่งเดียวที่เหลือจากตอนนั้นคือเกล็ดสีชมพูที่เขาไม่รู้จัก เขาไม่คิดเลยว่ามันจะเป็นเกล็ดของกิเลนที่ฝังลึกอยู่ในรอยแตกของซี่โครง
ก่อนหน้านี้เขาสับสนกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ตอนนี้เขาเข้าใจทุกอย่างแล้ว! กิเลนน้อยหลับใหลอยู่ในซี่โครงนั้นและถูกซือหยูทำให้ตื่นขึ้น วิญญาณของทั้งสองได้เชื่อมต่อกันเหมือนกับสายสัมพันธ์ของเจ้านายและข้ารับใช้
เมื่อเขาลองคิดดู…กิเลนน้อยจะต้องเป็นคนที่ขุดรูใหญ่ในหุ่นเชิดสีเงินให้เขาออกมา! ความนึกคิดหลากอารมณ์หมุนวนในหัวใจของซือหยูเมื่อเขาตระหนักได้ว่ากิเลนในตอนนี้คือสัตว์วิญญาณของเขา
กิเลนน้อยรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงความคิดต่อมันจากซือหยู แต่มันก็ค่อนข้างไม่พอใจ ดวงตากลมโตของมันเต็มไปด้วยน้ำตา มันหันหน้าไปอีกด้านราวกับอยากจะทิ้งซือหยูไป ซือหยูทำได้แค่เอามือปิดปาก เขาไม่รู้เลยว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันเกิดขึ้นเช่นนี้
เขาย่อตัวลงและลูบหัวมันอย่างแผ่วเบา เขาพูดอย่างอ่อนโยน
“ข้าขอโทษ ข้าไม่รู้ตัวเลย ข้าทำให้เจ้ากลัวสินะ?”
เมื่อมันได้ยิน กิเลนน้อยยิ่งเสียใจมากกว่าเดิม น้ำตาไหลออกมาไม่หยุด มันทำท่าทางด้วยขาหน้า ซือหยูที่ได้รับโลหิตของมันไปแล้วรับรู้ได้อย่างดีว่ากิเลนน้อยกำลังบอกอะไร
“เจ้ากำลังจะบอกว่าเจ้าทิ้งข้าไว้เพื่อหาสมบัติให้ข้างั้นรึ?”
ซือหยูถาม
กิเลนน้อยผู้โศกเศร้าพยักหน้า มันไม่ต้องอธิบายว่าเกิดอะไรขึ้นต่อในหลังจากนั้น เพราะซือหยูเองก็เห็นกับตาว่ามันถูกไล่ล่าและถูกบังคับให้หนี!
ถ้าไม่ใช่เพราะพลังวิเศษที่ทำให้มันเปลี่ยนกายหยาบเป็นกายละเอียดได้มันก็ต้องพบกับชะตาที่โหดร้ายไปแล้ว! มันพยายามอย่างหนักเพื่อผู้เป็นนายของตัวเอง แต่มันก็เกือบจะถูกผู้เป็นนายฆ่าตาย!
“เช่นนั้น ถ้าเจ้ารู้อยู่แล้วว่าข้าเป็นนายเจ้า เจ้าจะขโมยสายใยมังกรจากข้าไปทำมกัน?”
ซือหยูถามด้วยความสงงสัย
กิเลนน้อยออกท่าทางอีกครั้ง ซือหยูเข้าใจความหมายของมันในทันที สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป
“เจ้าจะบอกว่าเจ้ารู้ว่าสมบัตินั้นสำคัญเพียงใด เจ้าเลยเป็นห่วงว่าคนพวกนั้นจะจู่โจมข้าเพื่อแย่งไปรึ? เจ้าก็เลยต้องขโมยมันไปต่อหน้าทุกคนงั้นรึ?”
ซือหยูตกตะลึง
กิเลนน้อยได้ขโมยสมบัติไปเพื่อล่อลวงความสนใจจากคนที่นั่นจากซือหยู! กิเลนน้อยทำเพื่อปกป้องเขา!
เขานึกถึงสิ่งที่เซี่ยจิงหยูเคยพูดทันที เรื่องกลับกลายเป็นว่านางเข้าใจผิดว่ากิเลนน้อยบุกเข้ามาในลำดับเวทเขาสี่ส่วนเพื่อฆ่าซือหยู!
แต่ความจริงแล้ว กิเลนน้อยได้สัมผัสพลังซือหยูและมาเพื่อพบเขา แต่มันถูกเซี่ยจิงหยูเจอตัวเสียก่อนจึงต้องหนีไป
เมื่อกิเลนน้อยรู้ว่าการเจอซือหยูคือการสร้างปัญหา มันก็เลี่ยงที่จะเผยตัวเองกับเขา แต่เมื่อเรื่องราวทั้งหมดจบลง มันจึงเข้ามาในมุกวิญญาณเก้าหยกเพื่อพบกับซือหยู
ซือหยูช้อนตัวมันขึ้นมากอด
“เจ้าทุกข์ทรมานเพื่อข้ามาขนาดนี้เชียวรึ! ถึงจะมีพันธะวิญญาณ เจ้ากับข้าก็ไม่ได้รู้จักกันดีนัก เจ้าจะทำเพื่อข้ามากมายเช่นนี้ทำไมกัน?”
ความโศกเศร้าของกิเลนน้อยเริ่มหายไป นั่นก็เพราะซือหยูเข้าใจแล้วว่ามันต้องผ่านอะไรมาบ้าง มันเริ่มทำท่าทางด้วยขาคู่หน้าอีกครั้ง
“เจ้าจะบอกว่าเจ้ารู้สึกขอบคุณที่ข้าพอเจ้าออกจากผนึก เจ้าเลยคิดจะตอบแทนเรื่องนั้นรึ?”
ซือหยูถามต่อ
กิเลนพยักหน้า ซือหยูยิ่งรักกิเลนน้อยมากขึ้น นั่นเป็นเพราะความบริสุทธิ์ ความเฉลียวฉลาด และความซุกซนของมันทำให้เขาคิดถึงความรู้สึกที่เขาได้เจอกับเซี่ยนเอ๋อในครั้งแรก
เขาลูบหัวมันและพูดอย่างจริงใจ
“นับแต่นี้ไป มุกวิญญาณเก้าหยกจะเป็นบ้านของเจ้า แต่ถ้าหากเจ้ามีบ้านเกิด ข้าจะพาเจ้าไปส่งยังที่นั่น”
กิเลนน้อยส่ายหน้าและทำท่าทางว่าเจ้านายคนก่อนของมันได้ตายไป ตอนนี้มันอยู่เพียงลำพัง
เช่นนั้น โครงกระดูกที่เขาเจอก็เป็นของเจ้านายเก่าของกิเลนน้อยสินะ?
ดูเหมือนว่าซือหยูจะทำได้ว่าชื่อของเขาคือจ้าวเทวะตู่ม่อ! เขาจะต้องได้ลูกของแก่นแท้วิญญาณมาเป็นสัตว์เลี้ยง!
เขาก็ตายในกระโจมเทพสวรรค์หรอกรึ?