The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 676
676 – ความยากลําบากของผู้เฒ่าจิว
“ที่ยังเล็กเกินไป แต่มันคนกว้างพอที่จะวางอะไรบ้างแล้วล่ะ”
กิเลนน้อยกระโดดออกมาเมื่อมีหมอกสีชมพูปรากฏเหนือไหล่ซือหยู
ซือหยูบอกให้มันอ้าปากเล็กๆปากที่ดูเล็กนั้นปล่อยพลังมิติที่น่าตกตะลึงออกมา ภูเขาลูกเล็กที่ดูเหมือนแผ่นหญ้า ไหลออกมาจากปากของมัน แผ่นหญ้าเหล่านี้ขยายขนาดจนเต็มโถง
พร้อมกันนั้นยังมีพลังวิญญาณกระจายออกมาเต็มไปหมด มันหนาจนเกือบจะเห็นเป็นเมฆที่ควบแน่นเป็นของเหลว เพียงครู่เดียวตําหนักนี้ก็เหมือนกับดินแดนในเทพนิยาย
“พลังวิญญาณหนาแน่นมาก!”
วู่เหิงตกใจเมื่อมองดูตําหนัก
พลังวิญญาณแผ่ขยายออกไปอย่างรวดเร็ว ไม่นานทุกคนรอบตําหนักก็สัมผัสได้ เพียงครู่เดียวพลังวิญญาณรอบๆได้เพิ่มขึ้นมาเป็นเท่าตัว
“โว้ว! นั่นมันอะไรกัน? มันคือสมุนไพรเทพทั้งนั้นเลยรึ?”
“ดูนั่น! สมุนไพรในแผ่นหญ้าพวกนั้นใช้บ่มเพาะพลังได้!แล้วก็ดูนั่น! โสมวิญญาณเก้าข้อกับหนอนดูดวิญญาณมันจะสร้างเป็นโอสถบริสุทธิ์ได้!ถึงพวกเขาจะเป็นกิ่งภูติมันก็ใช้เพิ่มพลังได้อีก!”
หลายคนตกตะลึง พวกเขามองผืนหญ้าราวกับอยู่ในฝัน พวกเขามิอาจเชื่อในสิ่งที่ได้เห็น
“ทําไมถึงมีทรัพยากรมากมายเท่านี้”
วู่เหิงถามด้วยความแปลกใจ
“ หรือว่านายน้อยไปที่กระโจมเทพสวรรค์อีกรอบรึ?”
ซือหยูหัวเราะโดยไม่ตอบคําถามของเขา
“ภารกิจของเจ้าคือเลือกทหารที่ดีที่สุดของพันธมิตรผู้คุมสวรรค์ จากนั้นก็มอบทรัพยากรไปให้มากเท่าที่พวกเขาต้องการ!”
ลั่วซวงกลืนน้ําลาย
“ทรัพยากรมากมายเช่นนี้ไม่ต่างจากที่เราเคยเสียไปแล้ว ถ้าเราใช้มันดีๆมันจะมากพอที่จะทําให้หน่วยกวาดล้างเป็นกิ่งภูติที่มีแก้วสามดวงทุกคน!”
เหล่าผู้เฒ่ารวมถึงผู้เฒ่าเฉินเริ่มกังวล
“รุ่นพวกข้าบ่มเพาะมาแล้วหลายปี พวกเราล้วนเข้าใกล้ที่จะทะลวงพลังขึ้นต่อไปเราควรจะได้ทรัพยากรมาก่อน…”
บางคนตะโกน
มีอยู่สองฝ่ายที่เป็นทหารชั้นดีที่ซื่อหยูพูดถึง นี่เป็นโอกาสทองที่พวกเขาจะได้แก้วดวงที่สาม ทั้งสองฝั่งตั้งใจจะต่อสู้แย่งชิงด้วยพลังทั้งหมดที่มี
“ของพวกนี้มีไว้ให้สมาชิกพันธมิตรคนอื่น ทําไมเจ้าถึงคิดว่าจะเสียมันไปเล่า?”
ซือหยูถอนหายใจเบาๆ
“ข้ายังมีมากกว่านี้อีกเป็นร้อยเท่า มันมากพอให้ทุกคนได้ใช้บ่มเพาะพลังรีบจัดการเตรียมให้กับคนที่ต่อสู้สงครามที่แล้วได้ดีก่อนได้แล้ว”
วู่เหิงตัวแข็งที่อเขาหายใจเข้าลึกเมื่อได้สติ
ทรัพยากรมหาศาลเท่านี้มันเหนือกว่าที่ใดในเฉินหลง! เขาต้องสงสัยว่าซือหยูปล้นอาณาจักรทมิศมาหรือไม่
ในตอนนั้นทั้งผู้เฒ่าเฉินและลั่วซวงดีใจมาก เพราะโอกาสที่พวกเขาจะได้มีแก้วสามดวงมาอยู่ตรงหน้าแล้ว!
ไม่นานทุกคนในพันธมิตรก็ถูกเรียกตัวเข้ามาไม่นาน ทรัพยากรมหาศาลก็ถูกส่งให้กับยอดฝีมือสิ่งที่เกิดขึ้น ทําให้คนหลายพันคนสนใจพวกเขาส่งเสียงดังด้วยความตื่นเต้น ทรัพยากรมากมายเช่นนี้เป็นสิ่งที่พวกเขาได้แต่ฝันหา
โดยเฉพาะพวกที่ยังไม่ได้เป็นกิ่งภูติพวกเขาติดอยู่ในขอบเขตพลังมาเนิ่นนาน นี่เป็นโอกาสครั้งสําคัญ!
“เจ้าพันธมิตรชื่อจงเจริญ!”
บางคนตะโกนเสียงดังขึ้นมา
ทุกคนเริ่มที่จะตะโกนคําเดียวกับเขาเสียงของพวกเขามีความขอบคุณความนับถือ และความมั่นใจที่ไม่เคยสัมผัสการแจกจ่ายทรัพยากรดําเนินต่อไปเกือบครึ่งวัน
ในตําหนักคนอย่างผู้เฒ่าเฉินล้วนเหนื่อยหอบแต่ทุกคนก็มีสีหน้ายินดี
“ถ้าคนพวกนี้ใช้ทรัพยากรได้ดี ถึงเราจะเอาชนะมันไม่ได้มันก็ต้องเอาจริงถ้าคิดจะกําจัดเรา!”
ลั่วซวงร้องด้วยความตื่นเต้น
ผู้เฒ่าเฉินครุ่นคิด
“ตามที่ข้าคิด ทรัพยากรมากมายเท่านี้มากพอจะสร้างกิ่งภูติที่มีแก้วสองดวงร้อยคน เราจะต่อสู้กับพวกมันได้อย่างสมน้ําสมเนื้อและถ้าของพวกนี้ดีอย่างที่ท่านเจ้าพันธมิตรบอกเราอาจจะได้ที่ภูติที่มีแก้วสองดวงมาสามร้อยคนมันจะทําให้เรามีโอกาสชนะมากกว่าเดิม!”
ซื่อหยูพยักหน้า
“ข้ายังเหลืออีกเยอะ บางคนที่มีแก้วสองดวงจะได้มีแก้วสามดวงก็ได้พันธมิตรผู้คุมสวรรค์มีแต่คนมากพรสวรรค์อย่าประเมินพรสวรรค์ของพวกเขาต่ําไป”
คําพูดของซือหยูทําให้พวกเขายิ้มออก
ซือหยูพูดต่อ
“จริงๆแล้ว ข้าหวังกับพวกคนที่มีแก้วสองดวงอยู่แล้วมากกว่า”
ซือหยูหยิบเอาทรัพยากรอีกชุดออกมา เขาดูจริงจังอย่างมาก
“ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะฝึกหนักขึ้นในอีกครึ่งเดือน ข้าจะเตรียมทรัพยากรให้พวกเจ้าอย่างไม่จํากัดเพื่อที่พวกเจ้าจะได้มีแก้วสามดวงพอถึงตอนนี้ข้าจะมีอีกหนึ่งเรื่องที่พวกเจ้าจะต้องตกใจ!”
เรื่องตกใจรี? รูเหิงสงสัยว่าซือหยูกําลังพูดถึงสิ่งใด หรือว่าเขาจะมอบสมบัติให้กับคนที่มีแก้วสามดวง?
ซือหยูไม่ทิ้งช่วงให้คนที่ได้ฟังตั้งคําถามอีก เขาพูดต่อ
“นอกจากเรื่องนั้น ตอนนี้ข้าอยากให้พวกเจาเลือกร้อยคนจากพันธมิตรที่ยิงธนูได้ดี ฝึกพวกเขาให้เป็นยอดนักธนูในอีกหนึ่งเดือน”
ยิงธนูรี? ผู้เฒ่าเฉินดูสับสน
“ท่านเจ้าพันธมิตร ถึงการใช้ธนูในสงครามใหญ่จะมีประโยชน์ แต่ทักษะเช่นนั้นคงไม่เหมาะถ้าขาดธนูและลูกดอกที่เหมาะสม ทวีปเฉินหลงของเรามีแค่พลังวิญญาณที่หนาแน่น แต่เรื่องสมบัติเราแข่งกับข้าศึกไม่ได้หรอกธนูของพวกเราล้วนมีคุณภาพต่ํา ข้าเกรงว่าคงจะต่อกรกับพวกมันไม่ได้”
ซือหยูเพียงยิ้มอย่างมีเลศนัย
“เจ้าแค่ฝึกร้อยคนนี้ให้ดีก็พอ ข้ามีเหตุผลที่ต้องใช้พลธนูอยู่แล้ว!”
ลั่วซวงยังมีคําถามอยู่อีก แต่ตอนนั้น จู่ๆขอบนภาก็มืดครื้มคลื่นพลังเริ่มส่งเสียงปะทุมาจากสวรรค์
หากมองให้ดีจะพบว่าพลังเหล่านั้นคือสายฟ้าสายฟ้าสีม่วงและขาวเปล่งประกายจากท้องนภาที่โลกอีกฝั่ง เสียงของสายฟ้าดังตามมาพวกเขารู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนจากมัน
“เกิดอะไรขึ้น? พวกเจ้าเคยเห็นสายฟ้าแบบนี้หรือไม่?”
ผู้คนเริ่มแตกตื่น
หลายคนไม่เคยเห็นสายฟ้าประหลาดที่ดุร้ายแบบนี้
วู่เหิงหรี่ตามองด้วยความแปลกใจ
“มันคือวิบัติอัสนี้! มีคนกําลังจะทะลวงพลัง!นายน้อยนั่นเป็นมิตรหรือศัตรู ?”
เหิงเป็นกังวลอย่างมาก แต่เมื่อเขาหันไปถามซื่อหยูก็หายตัวไปเสียแล้ว!
ที่หลายพันลี้ ไกลออกไปในป่าทึบ
สายลมรุนแรงพัดปลิวพร้อมสายฟ้า ต้นไม้หลายต้นปลิวขึ้นมาตามแรงวายุหมุนวนอยู่กลางอากาศ
ชายแก่นั่งสมาธิอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ร่างของเขาผอมบางราวกับเพิ่งจะฟื้นตัวจากบาดแผล
จากนั้น มือของเขาโบกสะบัดไปมาอยู่ใต้ต้นไม้เขาดูราวกับรูปปั้นเมื่อเผชิญหน้ากับสายฟ้า
สายฟ้าสีขาวพุ่งลงมา เสียงนั้นดังก้องแสงจากสายฟ้าปกคลุมทั่วทั้งโลกและน่ากลัวเกินกว่าจะมองดู
ชายแก่นั่งอย่างเยือกเย็น เขาหยิบเอาชุดเกราะหลากสีออกมาจากอกและเริ่มสวมมัน
ในตอนนั้น สายฟ้าชัดใส่ชายแก่อย่างแม่นยํา ในเวลาเดียวกันสายฟ้าทําลายล้างดูเหมือนจะชัดใส่หลุมไร้ก้นบึ้ง มันหายไปเสียดื้อๆ
ชุดเกราะหลากสีของชายแก่ดูมีดหมองลงไป นอกจากนั้นก็ไม่มีผลอะไรเลยชายแก่ยิ้มเล็กน้อย
แต่สายฟ้าที่เหลือดูจะโกรธเกรี้ยว สายฟ้าสีม่วงเริ่มที่จะส่งเสียงคํารามตามมา
สายฟ้าครั้งใหม่แข็งแกร่งกว่าสายฟ้าสีขาวหลายเท่า! กลิ่นเหม็นไหม้คละคลุ้งในอากาศก่อนที่มันจะมาถึงพื้นเสียอีก ชายแก่ปล่อยชั้นพลังชีวิตออกมาปกป้องตัว
จากนั้น สายฟ้าได้ชัดใส่เขา เกิดประกายสายฟ้าระเบิดออกไปรอบๆ
ครั้งนี้ชายแก่รู้สึกราวกับถูกภูเขาทุ่มใส่ ทั้งร่างของเขากระเด็นไปอีกฝั่งในทันที
เมื่อจ้องมองชุดเกราะหลากสีของตัวเอง ก็พบว่ามันไหม้อย่างรุนแรง! แต่น่าแปลกที่สายฟ้าที่น่ากลัวดูเหมือนจะหายไปหมด
ชายแก่เริ่มปล่อยนพลังชีวิตออกมาอีกครั้ง และกลืนโลหิตในลําคอ เขาดูมั่นใจมาก
“ยังเหลืออีกรอบ!”
เขาตะโกน
สายฟ้าสุดท้ายเป็นสีแดง มันคือสีของโลหิตที่ทําให้เขาไม่สบายใจ สายฟ้านี้แข็งแกร่งยิ่งกว่าสายฟ้าขาวและม่วงรวมกัน! แต่มันก็คือสายฟ้าสุดท้ายแล้ว!
“สมุนไพรสายฟ้า ฝากเจ้าด้วย!”
ชายแก่ตะโกนเบาๆ นี่เป็นสายฟ้าสุดท้ายที่เขาต้องเผชิญ
สายฟ้าที่สามทุ่งลงมาจนพื้นสั่นไม่หยุด ทะเลเพลิงปรากฏบนท้องฟ้าไม่ว่าสายฟ้าจะผ่านไปยังทิศทางใดทุกอย่างไหม้เกรียม
เมื่อเข้าใกล้ขึ้น มันดูเหมือนกับสายฟ้าได้หลอมรวมมาด้วยเพลิง มันมาจากฟากฟ้าเพื่อที่จะทําลายทุกสิ่งบนโลก!
ทะเลเพลิงไร้ขอบเขตส่งเสียงคําราม
ตอนนั้น ร่างกายผอมบางที่อ่อนแอของชายแก่ดูเหมือนกับแมงเม่าที่กําลังจมลงในกองเพลิง ชุดเกราะหลากสีของเขาระเบิดเป็นเสี่ยงๆ!
เขากระอักเลือดออกมาเต็มปาก ใบหน้านั้นซีดเผือด อกของเขาไหม้เกรียม เขาเกือบจะตายอยู่แล้ว!
ชายแก่กระอักเลือดออกมาอีก แต่ใบหน้าของเขาดูยินดี
“ฮ่าๆๆๆ ข้าผ่านวิบัติอัสนี้ได้แล้ว!”
ครั้งแรกที่เขาพยายามจะก้าวข้ามมัน เขาบาดเจ็บหนักจากห้าศักดิ์สิทธิ์มาก่อนและมิอาจทําได้สําเร็จ และตอนนี้เขาฟื้นตัวแล้ว สุดท้ายเขาก็ผ่านมันมาได้!
เมฆาครึมสลายไปมากพร้อมกับลําแสงที่เต็มไปด้วยพลังชีวิตที่สลายไป บ่งบอกว่าเขาก้าวข้ามวิบัติอัสนีมาได้สําเร็จ และทะลวงพลังไปอีกขั้น
เมื่อเขาได้รับพลังชีวิตจากแสงนี้ พลังของเขาจะเพิ่มขึ้นมาอีกอย่างมาก มันทําให้เขายิ่งใหญ่กว่าเดิม! แต่จากนั้นเมฆาคมที่สลายตัวก็หยุดเคลื่อนไหวขณะที่มือหนึ่งบดบังแสงตะวันเบื้องบน
เมฆาทมิฬที่เคยสลายไปกลับมาก่อตัวอีกครั้ง! พลังอันน่ากลัวถูกส่งออกมาจากเมฆเหล่านั้นสายฟ้าสีทองพุ่งตรงมาที่เขา!
ชายแก่ชักสีหน้า เขามองนภาและตะโกนเสียงดัง
“ฝีมือใครกัน?”
เขาตกใจที่มีคนควบคุมท้องฟ้าและสร้างสายฟ้าอีกครั้ง เขาผ่านวิบัติอัสนีมาแล้ว แต่ก็มีคนจงใจทําให้มันรุนแรงไปมากกว่าเดิม!
มือใหญ่ที่มองดูยากนั้นอยู่คือตัวการที่ทําเรื่องนี้!แม้เขาจะตะโกนสุดเสียงก็ไม่มีใครให้คําตอบ คําตอบเดียวคือสายฟ้าประหลาดสีทองที่พุ่งลงมา!
สายฟ้าสีทองทําให้ชายแก่ใจเต้นระรัว เขารู้สึกว่าพร้อมจะถูกสังหารทุกเมื่อ
สายฟ้าแสนอันตรายนี้แข็งแกร่งยิ่งกว่าสายฟ้าใดที่ผ่านมา! ถ้าเขาโดนสายฟ้านี้เขาจะต้องกลายเป็นเถ้าถ่านอย่างไม่ต้องสงสัย!
“เจ้าเป็นใคร?”
ชายแก่ถามอย่างโกรธแค้น เขารู้สึกสิ้นหวังเมื่อมองสายฟ้าทองคํามีเพียงแต่ความโกรธเกรี้ยวเมื่อมองนภา
ฝีมือใครกันที่ทําข้า?
ท้องนภาเงียบลง สิ่งเดียวที่ตอบคําถามของสายฟ้าคือเสียงสายฟ้าฟาด!