The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 700
700 – ลิ้มรสกระบี่ข้า
ซือหยูจะต้องไม่ยอมให้เขาผ่านมาถึงที่นี่!แววตาของเขามีความเคร่งเครียดเมื่อเรียกลำดับห้าธาตุออกมา ม่านแสงทั้งสี่ปรากฏออกมาขวางรอยแยกมิติทันที
แต่ทันทีที่ม่านแสงปรากฏรอยแยกก็เกิดขึ้นบนผิวของมัน มันแตกสลายทันที มุกทั้งสี่กระเด็นไปยังทุกทิศทาง
ปั้งปั้ง ปั้ง ปั้ง
เสียงลูกแก้วทั้งสี่กระแทกฝังลึก
ซือหยูมองสิ่งรอยข้างขณะที่แบกผู้เฒ่าจิวเอาไว้เขาเห็นว่าลูกแก้วทั้งสี่เสียหาย! แค่การมองครั้งเดียวของเขาก็เกือบจะทำลายสมบัติกึ่งวิญญาณไปสี่ชิ้น!
“นี่คือซือหยูที่เอาชนะร่างเงาของจ้าวเทวะได้งัง้นรึ?เจ้าคงจะโดดเด่นแม้ในจิวโจว แต่โชคร้ายที่พรสวรรค์ของเจ้าต้องมาจมอยู่ในโลกที่นี่ เจ้าถูกลิขิตให้ไม่มีวันได้เติบใหญ่”
เสียงดังมาจากรอยแยกมิติ
ซือหยูสัมผัสได้ถึงดวงตาคู่หนึ่งที่แทงทะลุออกมาซือหยูคิดว่าเขากำลังจะตาย! นี่ไม่ใช่คนที่เขาจะต่อสู้ด้วยได้เลย!
“เลิกขัดขืนได้แล้วเขามาถึงอุโมงค์มิติแล้ว นอกจากเจ้าจะมีกระบวนท่าที่เอาชนะอสูรเนรมิตรได้ ก็ไม่มีอะไรหยุดเขาได้แล้ว ในอีกไม่ถึงครึ่งชั่วยาม เขาจะมาถึงก้นบึ้งมังกร…”
ผู้เฒ่าจิวพูดต่ออีก
“มันสายไปแล้วข้าไม่คิดเลยว่าราชาเขตกลางจะส่งจักรพรรดิโลหิตมาที่นี่! มันยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ครองบัลลังก์! การส่งอสูรเนรมิตรมาจะต้องสละสมบัติภูติหนึ่งชิ้น เขาทำได้แค่ใช้พลังสมบัติภูติในการส่งจักรพรรดิโลหิตมาเท่านั้น”
เพื่อที่จะส่งจักรพรรดิโลหิตมาราชาเขตกลางได้ยอมเสียสมบัติภูติไป! สมบัติภูติคือของศักดิ์สิทธิ์ที่มีแต่อสูรเนรมิตรเท่านั้นที่ครอบครองได้ มันหายากแม้แต่ในจิวโจว
ตัวกระโจมเทพสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่เองก็เป็นสมบัติภูติ!ราชาเขตกลางเต็มใจที่จะสละถึงเพียงนี้เพื่อฆ่าจักรพรรดิจิวโจว!
“หนีไปให้ไกลที่สุดเท่าที่เจ้าไปได้ถ้าเขามาถึงเฉินหลง ทวีปจะแตกสลาย นานมาแล้ว ฝ่ามือเดียวของเขาทำลายทั้งทวีปไปได้ จักรพรรดิจิวโจวต้องใช้โลหิตของตัวเองเพื่อปกป้องทวีป ตอนนี้จักรพรรดิจิวโจวทำแบบนั้นไม่ได้อีกแล้ว…”
ผู้เฒ่าจิวหัวเราะอย่างขมขื่น
เมื่อซือหยูใจสั่นเมื่อได้ฟังทวีปเฉินหลงในตอนนี้มีรูปลักษณ์เป็นฝ่ามือขนาดยักษ์ และมันก็เป็นฝีมือของจักรพรรดิโลหิต!
หลังจากผ่านไปหลายร้อยปีฐานพลังของจักรพรรดิโลหิตคงจะเหนือกว่าครั้งที่แล้วไปมาก การทำลายทวีปเฉินหลงคงจะง่ายดายไม่ต่างจากการดีดนิ้ว ซือหยูไม่แปลกใจเลยถ้าเขาจะมีพลังระดับนั้น
แต่หนีรึ?เขายิ้มอย่างขื่นขม
ถ้าเขาหนีไปได้ครู่หนึ่งเขาก็คงไม่พ้นเงื้อมมือจักรพรรดิโลหิตอยู่ดี! ต่อให้เขารอดชีวิตไปจากที่นี่ แล้วเซี่ยเอ๋อ เซี่ยจิงหยู ดยุคเซี่ยนหยู ฉีตงไล่ ฉีหยุนเซี่ยง หลินหยุนฮี กังต้าเหล่ย ผู้เฒ่าจิว…พวกเขาจะไปอยู่ที่ไหน?
ซือหยูจะต้องทนมองดูคนที่เขาใส่ใจกลายเป็นฝุ่นผงและเหลือเพียงเสี้ยววิญญาณรึ?ถ้าเช่นนั้น แล้วเขาต่อสู้มาทั้งหมดเพื่อสิ่งใด? เพื่อชื่อเสียงรึ? เพื่อผลประโยชน์รึ?
สิ่งเหล่านั้นไม่ใช่สิ่งที่เขาต่อสู้เพื่อให้ได้มาเขาเพียงอยากจะตอบแทนบุญคุณที่เคยได้รับ เขาอยากจะทำดีกับเหล่าคนที่หวังดีต่อเขา เขาแค่อยากจะปกป้องคนที่สำคัญของเขาและใช้ชีวิตที่ธรรมดาแต่สง่าผ่าเผย
และทุกสิ่งที่เขาหวังจะต้องกลายเป็นเถ้าถ่ายเพราะศัตรูที่ไร้เทียมทานกำลังจะมาถึงรึ?เขาก่นด่าตัวเอง เขาไม่เต็มใจ ทุกสิ่งหลั่งไหลออกมาดั่งคลื่นโหมกระหน่ำ
ซ่า
แสงจากรอยแยกมิติส่องสว่างกว่าเดิมซือหยูเริ่มรู้สึกว่าสิ่งที่ทรงพลังกำลังจะมาถึงเฉินหลง ในความมืดมิด สายลมพัดปลิว เส้นผมสีเงินของเขาร่ายรำไม่หยุด
แววตาของเขาเยือกเย็นมีอาจหยั่งความคิดของเขาได้
“ทั้งชีวิตของข้าข้าทั้งตกต่ำและถูกเย้ยหยัน แต่ข้าก็ไม่เคยยอมแพ้ มีกบฏอยู่ในโลหิตข้า! ใครก็ตามที่อยากจะฆ่าข้าจะต้องลิ้มรสกระบี่ข้าก่อน!”
ซือหยูตะโกนต่อสายลมรุนแรงที่พัดโหม
พรึ่บ
ซือหยูวางผู้เฒ่าจิวลงกับพื้นเขาพุ่งไปยังรอยแยกมิติราวกับดาวตก ผู้เฒ่าจิวตกใจมาก
“หยุดนะ!เจ้าแบกรับพลังจากดวงตามันไม่ไหวแน่! อย่าสละชีพอย่างสูญเปล่า…”
ในดวงตาแก่เฒ่าของผู้เฒ่าจิวซือหยูนั้นไม่ต่างจากแมงเม่าที่กำลังประคองร่างตัวเองเข้าหากองเพลิง แต่ซือหยูก็ดูเหมือนกับดาวตกที่ลุกไหม้ด้วยตัวเองเพื่อส่องประกายแสงที่สว่างที่สุดแก่จักรวาล!
ซือหยูดูมุ่งมั่นเพื่อเซี่ยนเอ๋อ จิงหยู พ่อตา และทุกคนที่เขาเคยรู้จักรักใคร่…การต่อสู้นี้คุ้มค่า!
ซือหยูพุ่งไปยังรอยแยกมิติและถึงรอยแยกในไม่นาน
“ลำดับห้าธาตุเกราะราชาศิลานิรันดร์ ไม้หกทิศ กายามังกร!”
ซือหยูตะโกนแสงมากมายส่องประกายรอบตัว
ม่านแสงหลากสีฉายแสงออกมาแต่แม้ว่าเขาจะเตรียมการไว้ เขาก็รู้สึกว่าการป้องกันของเขาอ่อนแอราวกับเศษกระดาษต่อพลังที่ใกล้เข้ามา
ในเวลาสั้นๆซือหยูขว้าสมบัติวิเศษนับไม่ถ้วยไปยังรอยแยกมิติ มันรวมถึงยันต์ต่างๆ สมบัติเทพหลายชิ้นและแม้แต่สมบัติกึ่งวิญญาณ ร่มวิเศษบัวแดง
เขาโยนทุกสิ่งที่มีพลังลงไปในรอยแยกมิติ
สิ่งของเหล่านั้นระเบิดอย่างต่อเนื่องในรอยแยกพวกมันปลอ่ยพลังออกมามหาศาล และแม้ว่ามันจะไม่มากพอที่จะทำลายรอยแยก แต่มันก็ขัดขวางไม่ได้รอยแยกขยายตัวได้ชั่วขณะหนึ่ง อย่างน้อยมันก็ทำให้จักรพรรดิโลหิตมาถึงช้าลง แม้ซือหยูจะรู้ว่าเขาจะทำไม่สำเร็จ เขาก็ต้องพยายามด้วยทุกสิ่งที่มี
“เจ้าควรได้รับคำชมในความกล้าหาญ”
เสียงของจักรพรรดิโลหิตดังมาจากที่ห่างไกลไม่รู้ว่าเขากำลังกล่าวชมซือหยูหรือว่ากำลังเย้ยหยันกับการกระทำอันบ้าบิ่นของเขา
เมื่อเขาพูดสายตาไร้ลักษณ์ได้ผ่านรอยแยกของมิติออกมายังอีกฟาก ของวิเศษทุกอย่างและยันต์ที่เพิ่งโยนเข้าไปกลายเป็นความว่างเปล่าเพราะพลังดวงตานั้น พลังที่เกิดจากแรงระเบิดของสมบัติเทพเองก็หายไป
เพลิงพิโรธบัวแดงจากร่วมวิเศษบัวแดงก็ดับมอดลงไปเช่นกันราวกับว่ามันได้ผ่านคลื่นวารีอันแรงกล้า
ซือหยูรู้สึกราวกับถูกฟาดด้วยสายฟ้าเขากระเด็นลอยออกไปไม่ต่างกับตอนที่ผู้เฒ่าจิวเคยโดน!
ม่านเกราะของลำดับห้าธาตุและเกราะราชาศิลานิรันดร์แตกสลายจากนั้นพลังจากสายตาของเขาก็ได้ทะลวงเกราะตรงมายังซือหยู
แกร๊ง!
ในเวลาอันตรายไม้หกทิศได้ลอยเข้ามา
กรอด!
เส้นโลหิตทองของกายามังกรของเขาพยายามจะตอบโต้แต่ก็ล้มเหลวท้องของซือหยูถูกทะลวงผ่าน โลหิตพรั่งพรูออกมาเป็นสาย
“ซือหยู!”
ผู้เฒ่าจิวตะโกนด้วยความตื่นตกใจเขากัดฟันทนความเจ็บปวดและบินไปรับตัวซือหยู