The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 717 - โอสถฟื้นชะตา
DND.717 – โอสถฟื้นชะตา
“หยุดนะ!”
ฟู่กุยตะโกนดังราวกับสายฟ้า
เซี่ยนเอ๋อเห็นเชือกแห่งความหวังนางจึงไม่คิดจะยอมแพ้ตราบเท่าที่ยังมีโอกาสได้ช่วยซือหยู
“พี่จิงหยู!รีบพาพี่ซือหยูไปเร…”
เซี่ยนเอ๋อประทับใจและเช็ดน้ำตาแต่นางก็ต้องหยุดคำพูดไป เพราะเซี่ยจิงหยูมิได้พยายามจะหนี นางหันไปมองเซี่ยนเอ๋อและยิ้มอย่างมีเลศนัย
“หึหึใครบอกว่าข้าอยากจะช่วยเขาล่ะ?”
เซี่ยนเอ๋อตกใจมาก
“พี่จิงหยูอย่างทำแบบนี้เลยศัตรูมันแข็งแกร่งมาก เขาอยู่ที่นี่ไม่ได้”
ปั้ง!
เซี่ยจิงหยูบิดมือบิดไหล่ของเซี่ยนเอ๋อเซี่ยนเอ๋อหมอบลงด้วยความเจ็บปวด
“พี่จิงหยูจะทำอะไร?”
เซี่ยนเอ๋อถาม
เซี่ยจิงหยูมองท้องฟ้าและหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
“ข้าจะทำอะไรน่ะรึ?หึหึหึ ข้าก็จะแยกเจ้าออกจากเบาน่ะรึ เขาจะต้องเสียใจที่ทำแบบนั้นกับข้า”
เซี่ยนเอ๋อเงยหน้ามองดวงตาเซี่ยจิงหยูที่เคยอบอุ่นในอดีตตอนนี้กลับกลายเป็นความบ้าคลั่งที่นางไม่เคยได้พบเจอ
“เซี่ยนเอ๋อสหายเก่าเอ๋ย ทำไมเจ้าไม่ขอให้สามีที่ดีของเจ้าไปอยู่กับคนที่เขารักจริงๆเล่า?”
เซี่ยจิงหยูยิ้มอย่างซุกซนเมื่อพูดกับนาง
ดูเหมือนว่านางอยากจะได้เห็นว่าเซี่ยนเอ๋อเศร้าเพียงใดเมื่อได้รู้ว่าคนที่ซือหยูรักไม่ใช่นางนี่เป็นวิธีเดียวที่นางจะทำให้เซี่ยนเอ๋อโศกเศร้า
แต่เซี่ยนเอ๋อกลับตกใจกับคำพูดของนางและยิ้มเยาะให้กับตัวเองด้วยใบหน้าซีดเซียว
“ข้ารู้อยู่แล้วว่าพี่จิงหยูรักพี่ซือหยู”
คำตอบของนางทำให้รอยยิ้มของเซี่ยจิงหยูหุบลง
“เจ้ารู้อยู่แล้วรึ?”
ความบ้าคลั่งในใบหน้าเซี่ยจิงหยูได้แทนที่ด้วยความสับสน
“เจ้ารู้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
เซี่ยนเอ๋อหัวเราะอย่างขื่นขม
“ข้ารู้ตั้งแต่ที่ได้รู้ว่าจ้าวยี่หยูคือ…พี่จิงหยู”
เซี่ยนเอ๋อรู้ความรู้สึกของเซี่ยจิงหยูต่อซือหยูมานานแล้วนางได้เติบโตขึ้นแล้ว นางทั้งอ่อนไหวและไวต่อความรู้สึก และแม้ว่านางจะรับรู้ถึงมัน นางก็ทำเป็นไม่รู้อะไรและอดทนต่อความจริงที่เจ็บปวดโดยไม่พูดกล่าว
“แล้วพี่ซือหยูก็รักพี่จิงหยูด้วย”
เซี่ยนเอ๋อพูดและมองดูซือหยู
“ข้ารู้เพราะพี่ซือหยูมองข้าด้วยสายตาห่างไกลเสมอข้าไม่เคยอยู่ในสายตาของพี่ซือหยูเลย นั่นก็เพราะมีคนอื่นที่อยู่ในใจของเขา และนั่นก็คือพี่…พี่จิงหยู”
เซี่ยจิงหยูตัวแข็งทื่อนางไม่คิดว่าเซี่ยนเอ๋อจะรู้ทุกสิ่ง นางหวั่นไหวแต่ก็แค่ครู่เดียว นางกลับมามีสีหน้าไร้เยื่อใยตามเดิม
“ถ้าเจ้าขโมยทุกอย่างจากข้าไปเจ้าก็ควรจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเจ้านะ”
เซี่ยนเอ๋อยิ้มอย่างเบาใจดวงตาสดใสของนางมิได้มีความชิงชังอยู่แม้แต่น้อย นางเพียงแค่มองกลับไปด้วยความสำนึกผิด
นางพยักหน้าเบาๆ
“ข้ารู้ข้าเตรียมใจไว้ก่อนแล้วว่าจะคืนพี่ซือหยูให้พี่ ข้าได้แต่งงานกับพี่ซือหยูแล้ว ไม่มีสิ่งใดที่ข้าต้องเสียใจอีก และข้าก็จะได้ฝากพี่ซือหยูให้พี่จิงหยูก่อนที่ข้าจะตาย”
“พี่จิงหยูข้าขอโทษ ข้ารู้อยู่แล้วว่าพวกพี่รักกัน แต่ข้าก็เข้าไปแทรกระหว่างพวกพี่ ข้าเป็นคนเห็นแก่ตัวจริงๆ แต่ข้าทำไปก็เพราะข้ารักพี่ซือหยู”
น้ำตาเอ่อล้นเต็มดวงตาของนางขณะที่พูด
“ข้ารักวิธีที่พี่ซือหยูเขากอดข้าตอนที่ลูบหัวข้า และตอนที่เอาใจข้า ข้าหลงรักรอยยิ้มและคำพูดของเขา ข้ารักทุกสิ่งที่เป็นพี่ซือหยู โปรดอภัยที่ข้าเห็นแก่ได้ ตอนนี้พี่เอาพี่ซือหยูคืนไปได้เลย เขาเป็นของพี่”
ดวงตาของนางเต็มไปด้วยน้ำตาหมอกทมิฬปรากฏรอบตัวและก่อตัวเป็นวิหคเพลิง วิหคเพลิงสะบัดปีกออกจากร่างเซี่ยนเอ๋อทะยานขึ้นฟ้า
ฟู่กุยบินเข้ามาด้วยความตกใจ
“นี่มันอะไรกัน?”
ผู้เฒ่าจิวที่อยู่ในก้นบึ้งมังกรแปลกใจเช่นกัน
“วิหคเพลิงแห่งความตายจะกลับยมโลกรึ?เคยได้ยินว่าถ้าผู้ที่ไม่ได้มีสายเลือดบริสุทธิ์ปลุกพลังสายโลหิตขึ้นมา คนผู้นั้นก็จะเหี่ยวเฉาและตาย”
เขาพูดต่อ
“ก่อนเซี่ยนเอ๋อจะเป็นภูติพอถึงตอนนั้นสายโลหิตของนางจะไม่ตื่นขึ้นมา เมื่อเป็นภูติเท่านั้นถึงนางจะปลุกสายโลหิตขึ้นมาได้”
คำพูดของเขาเป็นดั่งค้อนที่ทุบหูทุกคนพวกเขารู้ว่าเซี่ยนเอ๋อไม่ก้าวข้ามมาเป็นภูติตลอดครึ่งปีแม้ว่านางจะกินม้าเมฆาเข้าไป พวกเขาคิดว่ามันยากที่นางจะเลื่อนระดับพลังเพราะร่างกายพิเศษของนาง แต่ดูเหมือนว่าทั้งหมดคือเซี่ยนเอ๋อรู้ว่านางจะตายอย่างแน่นอนเมื่อได้เป็นภูติ
เพราะเรื่องนี้นางจึงแสร้งทำเป็นว่ามิอาจเป็นภูติได้ แต่นางไม่อยากจะเป็นภูติก็เพราะนางอยากจะอยู่ข้างกายซือหยูนานขึ้นอีกสักหน่อย แม้จะแค่เพียงวันเดียวก็ตาม
แต่ช่วงเวลานั้นช่างสั้นนักเซี่ยนเอ๋อใช้ก้าวสุดท้ายใช้พลังของสายโลหิตเมื่อซือหยูอยู่ในอันตราย แม้นางจะรู้ว่านางจะต้องตายในวันเดียวกัน
คำพูดของนางทำให้เซี่ยจิงหยูตกตะลึงอย่างมากแม้แต่สีหน้าของนางก็เปลี่ยนไป
เซี่ยนเอ๋อเตรียมใจที่จะตายมาแล้วและแม้ว่าเรื่องวันนี้จะไม่เกิดขึ้น นางก็รู้ว่านางจะต้องปล่อยให้ซือหยูกลับไปหาจิงหยู เรื่องวันนี้เป็นเพียงการทำให้สิ่งที่นางคิดเกิดขึ้นเร็วขึ้น
เซี่ยจิงหยูคลายมือและถอยหลังกลับในหัวของนางมีแต่ความว่างเปล่า ซือหยูที่ปางตายก็ได้ยินเรื่องนี้ มันทำให้เขาตกใจเช่นกัน จิตและสติที่เกือบจะแตกสลายได้กลับมารวมตัวกันใหม่อีกครั้ง
ในตอนนั้นเขาได้เห็นหญิงสาวที่งดงามอย่างเลือนราง สิ่งที่ได้เห็นทำให้วิญญาณของเขาสั่นคลอนอย่างหนัก เขาทำให้นางโศกเศร้าอย่างแท้จริง กลายเป็นว่าเรื่องที่นางไม่อยากจะกลายเป็นภูติก็เพราะนางอยากจะอยู่ข้างกายเขานานขึ้น แต่เขาก็ทำเรื่องน่าขันอย่างการให้โอสถภูติกับนาง!
ใครกันจะโง่เขลาได้เท่าข้าข้าไม่รู้ความรู้สึกของนางเลยได้ยังไง? เขาคิดด้วยความโศกเศร้า
เซี่ยนเอ๋อเดียวดายอยู่เสมอแม้ว่านางจะรู้ว่าซือหยูรักคนอื่น นางก็แสร้งทำเป็นไม่รู้อะไร นางเดียวดายมาโดยตลอดและต้องพึ่งตัวเองตั้งแต่ที่ตำหนักเซี่ยนหยูถูกทำลาย
นางยังรักซือหยูแม้ต้องทนรับความเจ็บปวดนางแสร้งทำเป็นไร้เดียงสา จนถึงตอนนี้นางก็เสแสร้งต่อไป
ซือหยูที่อยู่กับนางคิดว่าเขาได้มอบความอบอุ่นให้แต่เขาไม่รู้ตัวเลยว่านางรู้สึกอ้างว้างเดียวดายตลอดมา
นางทำเป็นไร้เดียงสาเพื่อให้ซือหยูสบายใจและชี้นำให้เขาคิดว่านางมีความสุขอยู่ตลอดแต่แท้จริง ผู้ที่
ถูกปกป้องความรู้สึกมิใช่นางแต่เป็นซือหยู!
จิตใจของซือหยูเจ็บปวดอย่างหนักเมื่อได้รู้เรื่องนี้และเป็นครั้งแรกที่ภาพของเซี่ยนเอ๋อได้ปรากฏในหัวใจของเขาอย่างชัดเจน นางคือองค์หญิงน้อยแห่งเซี่ยนหยู เด็กสาวที่เก็บสะสมเหล่าโอสถให้เขาขณะที่อยู่ในหุบเขาเฟิงหวง นางยังเป็นคนที่เก็บแม้แต่ผลก้นบึ้งมังกรแสนล้ำค่าให้กับเขา นางยังเป็นภรรยาของเขาได้ไม่นาน แต่นางก็กำลังจะสละชีวิตเพื่อเขา
ความทรงจำทั้งหมดที่ได้หายไปในกลีบเมฆได้หวนคืนกลับมาอีกครั้งความทรงจำเหล่านั้นเป็นดั่งดวงดาวที่ส่องแสงให้กับโลกของเขา แต่กลับกัน มันยังเป็นแพอ่อนแอที่ล่องตามวารีอย่างเดียวดาย
เขารู้สึกผิดและเจ็บปวดอย่างหนักหนาสาหัสความรู้สึกนับไม่อ้วนเอ่อล้นออกมาจากใจ เขาไม่คิดเลยว่าจะมีสตรีเช่นนี้ในชีวิต แต่หลังจากวิหคเพลิงแห่งความตายออกจากร่างของนางไป ชีวิตนางก็จะดับมอดดั่งคบเพลิงกลางสายพิรุณ
“พี่ซือหยูข้าจะรักพี่ตลอดไป”
ดวงตาของนางเต็มไปด้วยน้ำตาแววตาของนางของนางหม่นแสงลงไปเรื่อยๆขณะที่วิหคเพลิงกำลังออกจากร่าง แต่แม้จะเป็นเวลาที่เศร้าโศก นางก็ยิ้มออกมาอย่างยินดี นั่นก็เพราะคนที่นางได้มองดูก่อนตายก็คือซือหยูผู้เป็นที่รัก
“เซี่ยนเอ๋อ!”
ความรู้สึกมากมายกลั่นออกมาเป็นน้ำตาที่ไหลอาบแก้มของเขา
ความโศกเศร้าที่มิอาจอธิบายทำให้เขามือสั่นเครือเขาลูบมุกวิญญาณเก้าหยก ในตอนนั้นเอง กระโจมหยกเล็กๆได้ปรากฏในมือของเขา มันมีเม็ดโอสถหลากสีอยู่ภายใน
เมื่อกระโจมหยกปรากฏออกมาก็ดูเหมือนว่าพลังชีวิตจากทั้งโลกจะหนาแน่นขึ้นความหนาแน่นของพลังชีวิตรอบตัวซือหยูนั้นสูงซะจนถ้ามีคนมาดูดซับเข้าไป ร่างของคนผู้นั้นก็จะระเบิด มันคือพิษร้ายแรงที่สุดของโลกใบนี้
เมื่อพลังชีวิตล้อมรอบเขามันเริ่มฟื้นฟูพลังชีวิตของเขาที่หายไป ร่างกายที่เขาที่แหลกสลายเริ่มฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว ทุกคนที่ได้เห็นร่างกายของซือหยูต่างตกตะลึง เขาฟื้นจากสภาพเกือบตายอย่างง่ายดายเพียงได้กลิ่นจากโอสถนี้ บาดแผลของเขายังถูกรักษาอีกด้วย!
“นั่นมันโอสถอะไร?”
ฟู่กุยเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
คนในก้นบึ้งมังกรรู้สึกไม่ต่างจากเขาพวกเขาคิดว่าโอสถยอดเยี่ยมที่รักษาคนกำลังจะตายที่มีอยู่บนโลกใบนี้นั้นจะยอดเยี่ยมเพียงใด
ซือหยูถือกระโจมหยกในมือและค่อยๆยืนขึ้นเขาหันไปพูดกับเซี่ยจิงหยู
“จิงหยูขออภัยด้วย ข้าอยากจะตายเพื่อชดใช้ให้แก่เจ้า แต่ข้าเปลี่ยนใจแล้ว ข้าจะต้องไม่ตาย ข้าจะต้องอยู่ต่อเพื่อเซี่ยนเอ๋อ”
ซือหยูเข้าไปอุ้มร่างไร้วิญญาณของนางที่ค่อยๆเย็นตัวลงและไร้ซึ่งพลังชีวิตซือหยูรู้ว่าโอสถฟื้นชะตานี้สามารถชุบชีวิตคนตายได้
ซือหยูอุ้มร่างนางด้วยความรักเขานึกถึงครั้งที่ยังอยู่ในเซี่ยนหยู ในที่ที่เขาได้อุ้มองค์หญิงน้อยคนนี้
“เซี่ยนเอ๋อขอโทษที่ทำให้เจ้าต้องห่างจากข้า ข้าจะพาเจ้ากลับมา!”
เขาหยิบโอสถออกจากกระโจมหยกที่มีพลังมหาศาลพลังชีวิตที่มีนั้นเทียบเท่ากับพลังของทั้งโลกรวมกัน!
ในตอนนั้นเองกลิ่นหอมหวานได้พัดเข้ามาเมื่อมีสตรีน่ารักเข้ามาดึงเซี่ยนเอ๋อไปจากเขา นั่นทำให้เขาไม่ได้ป้อนโอสถให้นางได้สำเร็จ
“จิงหยูทำอะไรของเจ้า?”
ซือหยูตกใจที่เซี่ยจิงหยูชิงตัวเซี่ยนเอ๋อไปจากเขา
เซี่ยจิงหยูแววตาเยือกเย็นเป็นอย่างมาก
“ถ้าหากนางตายไปแล้วเจ้าจะชุบชีวิตนางขึ้นมาทำไมอีก? ทำไมไม่ให้โอสถฟื้นชะตากับข้าแทนที่จะเสียมันไปเพราะนางเล่า? เท่านี้ก็เพียงพอที่จะชดใช้สิ่งที่เจ้าทำกับข้าแล้ว”