The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 881
DND.881 – ราชสีห์เปิดปาก
งานประมูลของตำหนักโลหิตจบลงไม่ทันถึงชั่วยามครึ่งแม่นางหลิงก็พบตัวตนของผู้ที่อยู่ในห้องรับรองที่สองแล้ว นางช่างมีวิธีการหาข่าวที่น่าประทับใจเหลือเกิน!
“ท่านมาที่นี่ทำไม?”
หนึ่งในจ้าวเทวะถามแม่นางหลิงด้วยเสียงเบาๆขณะที่คิด…ไม่นะตอนนั้นแม่นางหลิงคิดจะจู่โจมห้องรับรองที่สองในงานประมูล! ถ้าหากนางคิดทำร้ายซือหยูเซี่ยนตอนนี้ก็ไม่มีใครหยุดนางได้แล้ว!
แม่นางหลิงจ้องมองร้านตงหลินโดยไม่มองจ้าวเทวะทั้งสองแม้สักครั้งนางเดินไปที่หน้าร้านและพูดด้วยเสียงอันไพเราะ
“ข้าคือหลิงแห่งโรงประมูลเทียนหยาเจ้าของร้านซือจะเปิดประตูมาต้อนรับข้าได้หรือไม่?”
ซือหยูที่เตรียมตัวบ่มเพาะพลังสัมผัสได้แล้วว่ามีพลังมหาศาลกำลังมาเขาขมวดคิ้วเล็กน้อย…แม่นางหลิงรึ? นั่นจะต้องเป็นนางที่เป็นเจ้าของโรงประมูลเทียนหยา! แต่ว่านางมาที่นี่ทำไมกัน?
ซือหยูระแวงเรื่องโรงประมูลเทียนหยาอยู่เสมอเพราะมันคือกลุ่มอำนาจที่อยู่ในเมืองเทียนหยา และเขายังไม่รู้ว่าโรงประมูลเทียนหยาฝักฝ่ายข้างใด
“โปรดเข้ามาก่อน…”
ซือหยูตอบอย่างใจเย็น
ซือหยูรู้ว่าไม่มีทางที่เขาจะหยุดนางได้คงจะดีกว่าถ้าได้เจอกับนางตรงๆ แม่นางหลิงยิ้มและเดินเข้าไปอย่างสง่างาม
“แม่นางหลิงต้องการสิ่งใดจากข้ารึ?”
ซือหยูเพียงแค่เหลือบมองนางและถามอย่างใจเย็น
แม่นางหลิงมองประเมินซือหยูนางแปลกใจกับความเยือกเย็นของเขา คนธรรมดาที่พบนางมักจะเจอกับความกังวลที่ถาโถมเข้าใส่ แต่ซือหยูกลับใจเย็นเป็นอย่างมาก
ราวกับว่าตัวตนของนางไม่มีผลต่อเขาเลย!ความสุขุมของเขานั้นน่าตกตะลึง!
“เจ้าของร้านซือคิดว่าอย่างไรเล่า?”
แม่นนางหลิงยิ้มหวานขณะที่ยังไม่เผยเจตนา
ซือหยูตอบอย่างไม่ใส่ใจ
“หากท่านมาเพื่อวารีผงกลั่นดวงใจก็ควรจะกลับไปร้านข้าจะขายมันในอีกสามวัน”
“ข้าไม่ได้สนใจวารีผงกลั่นดวงใจนักข้าสนใจในตัวเจ้ามากกว่าโอสถ”
แม่นางหลิงจ้องมองซือหยูนางพยายามมองสิ่งที่นางต้องการผ่านดวงตาของเขา
แต่ซือหยูยังคงเย็นชาซือหยูถึงกับหัวเราะ
“เจ้าของโรงประมูลเทียนหยาชื่อดังกลับมาสนใจคนแก่อย่างข้าเรอะ?น่าแปลกใจนัก!”
“ข้าหวังว่าเจ้าจะช่วยข้าได้”
แม่นางหลิงยังคงยิ้มแต่ดวงตาของนางนั้นคมกริบ
ซือหยูมองนางอย่างไม่แยแส
“ว่ามา…”
“ข้าต้องการหญ้าใจสลายแบบสมบูรณ์ ที่ยังมีชีวิตอยู่!”
แม่นางหลิงพูดด้วยความตื่นเต้น
“ขออภัยเจ้ามาหาผิดคนแล้ว ข้าไม่มีของที่สูญพันธุ์ไปแล้วอย่างหญ้าใจสลายอยู่กับตัวหรอก”
ซือหยูเพิ่งจะตระหนักได้ว่าเขาพูดบางอย่างเกินไปแต่ก็สายไปแล้วที่เขาจะเงียบปาก!
ดวงตาน่ารักของแม่นางหลิงเปล่งประกายนางยิ้มและพูด
“ข้าไม่ได้ขอหญ้าใจสลายกับเจ้า!เจ้าร้อนรนเช่นนี้ เจ้าต้องมีหญ้าอยู่กับตัวตอนนี้สินะ! หรือข้าอาจจะพูดได้ว่า…เจ้าคือคนที่ปรุงวารีผงกลั่นดวงใจขึ้นมา!”
ซือหยูยังคงเงียบเขาแอบเสียใจที่ประมาทอยู่ในใจ เขาปากเร็วเกินไปจนเสียท่าให้กับสตรีผู้หลักแหลม!
“ขอข้าเดาวารีผงกลั่นดวงใจที่สูญหายไปนานโข วันหนึ่ง เจ้าของร้านคนหนึ่งมาถึงเมืองเทียนหยาและประกาศว่าจะฟื้นคืนวารีผงกลั่นดวงใจ! แล้วเจ้าของร้านคนนั้นยังบอกว่าจะขายได้ในสามวัน! แต่สุดท้าย เจ้าของร้านนั่นก็อ้างว่าได้โอสถมาจากผู้อาวุโสท่านหนึ่งใช่หรือไม่? ข้าพูดถูกสินะ?”
นางรวบรัด
“มีเรื่องบังเอิญเช่นนี้อยู่บนโลกนี้ด้วยหรือ?เมืองเทียนหยากว้างใหญ่ ใยคนปรุงโอสถไม่มองหาร้านโอสถชั้นสูงแต่กลับมาเลือกร้านโอสถที่ติดหนี้พร้อมปิดกิจการกับกับไม่มีเจ้าของร้านมาหนึ่งปีเต็ม?”
นางมองออกทุกอย่าง!ซือหยูแอบคิดในใจ
แต่เขาแสดงท่าทางสบายใจทางสีหน้า
“ใครจะรู้เล่า?บางทีคนผู้นั้นอาจจะเห็นว่าข้ามีพรสวรรค์หรือไม่ก็ไม่อยากจะเห็นร้านโอสถเล็กๆต้องปิดตัวลง เขาก็เลยให้ของขวัญนั้นกับข้…”
“ฮ่าๆๆๆเจ้าคิดอย่างนั้นจริงๆรึ?”
แม่นางหลิงยิ้มดวงตาของนางแสดงความหลักแหลม นางมองทุกอย่างได้ทะลุปรุโปร่ง!
“ข้าคิดว่ามันจริงนะ…”
ซือหยูตอบห้วนๆอย่างมั่นใจ
แม่นางหลิงยกดัชนีเรียวราวหยกขึ้นมาและพูด
“ข้ารู้ความลับเจ้าแล้วถ้าเจ้าไม่อยากถูกเปิดโปงก็ให้หญ้าใจสลายข้ามาร้อยต้น! มิเช่นนั้น หากคนอื่นรู้กันหมดก็ไม่มีใครรับประกันความปลอดภัยของเจ้าได้อีกแล้ว”
นางยิ้มแกมโกงและพูดต่อ
“ข้ามั่นใจว่าถ้าเรื่องนี้มีคนรู้เข้าจ้าวเทวะที่แข็งแกร่งกว่าข้าจะมาสู่เจ้า และพวกเขาก็จะไม่คุยกับเจ้าแบบที่ข้าทำแน่!”
ซือหยูดูใจเย็นแม้ว่าจะพบกับคำขู่
“ตำหนักโลหิตจะดูแลความปลอดภัยข้าข้าว่าอีกไม่ถึงครึ่งวันจะมีจ้าวเทวะอีกมากมาซุ่มปกป้องข้า ถ้าเจ้าเปิดเผยความลับข้า มันก็เป็นเพียงปัญหาเล็กน้อย แต่จะเป็นปัญหาใหญ่กับตัวเจ้าเอง เจ้าไม่คิดเช่นนี้หรือ?”
ซือหยูพยายามจะสวนกลับคำขู่ด้วยการขู่กลับเพราะเขารู้ว่านางต้องการสิ่งใด จะอย่างไรนางก็เป็นจ้าวเทวะที่เป็นเจ้าของโรงประมูลเทียนหยา
นางมีฐานะที่ร่ำรวยเป็นอย่างมากแต่นางก็กลับมาหาเขาเพื่อถามหาหญ้าใจสลาย ซือหยูจึงรู้ว่านางต้องมีแผนสำคัญซ่อนอยู่ ต่อให้ทักษะการปรุงยาของเขาเป็นที่รู้จัก เขาก็ตั้งมั่นว่านางจะไม่มีทางได้หญ้าใจสลายไปจากเขา!
“เจ้าขู่ข้าเรอะ?”
รอยยิ้มของแม่นางหลิงหายไปหลังจากได้คำตอบจากซือหยูจิตสังหารปรากฏออกมาเล็กน้อยหากสังเกตให้ดี
ซือหยูยังคงเยือกเย็นอยู่ได้อย่างน่าตกใจ
“ก็ไม่ได้มากไปกว่าที่เจ้าทำกับข้า…”
“เจ้าไม่กลัวข้าฆ่าเจ้าเรอะ?!”
แม่นางหลิงจ้องซือหยูอย่างไม่เชื่อสายตา
“เจ้าไม่กล้าฆ่าข้าหรอก!เพราะถ้าข้าตาย เจ้าก็ไม่มีทางหาหญ้าใจสลายได้อีกแล้ว!”
ซือหยูพูดเขารู้ว่าถ้านางอยากฆ่าเขาจริง นางคงจะทำไปตั้งนานแล้ว นางคงจะไม่รอจนถึงตอนนี้
แม่นางหลิงเงียบไปนานและถามอย่างเยือกเย็น
“เจ้าจะเอามันมาให้ข้าได้ยังไง?”
“เราจะแลกเปลี่ยนกัน!”
ซือหยูตาเป็นประกาย
ความดุร้ายในแววตาแม่นางหลิงอ่อนลงเมื่อได้ฟังคำตอบปัญหาทุกอย่างที่แก้ได้โดยการแลกเปลี่ยนนั้นไม่นับว่าเป็นปัญหา
“ว่ามา…”
นางกล่าว
“ข้าต้องการสองสิ่งอย่างแรกคือพลังชีวิตจากจ้าวเทวะระดับห้าหนึ่งร้อยคน อย่างที่สอง ข้าต้องการสมบัติธาตุน้ำที่มีมูลค่าเท่าหยกแก่นเพลิง!”
ซือหยูลั่นวาจา
ราคาของคำขอแรกนั้นมิสามารถประเมินได้ขณะที่อย่างหลังมีค่าถึงแก้วล้านดวง! ซือหยูเป็นดั่งราชสีห์ที่อ้าปากกว้างพร้อมร้องคำราม!
และก็เป็นอย่างที่เขาคิดแม่นางหลิงโกรธมาก นางตะคอกกลับ
“พลังชีวิตของจ้าวเทวะระดับห้าร้อยคนเรอะ?แล้วยังสมบัติธาตุน้ำที่เทียบเท่าหยกแก่นเพลิงอีก? เจ้าไม่คิดว่าเจ้าขอมากไปเรอะ? เจ้าช่างโลภนัก!”
ซือหยูตอบกลับอย่างไม่แยแส
“เทียบกับที่ท่านใต้เท้าปรารถนาจะได้หญ้าใจสลายร้อยคนจากการขู่ข้าคำขอของข้านับว่าเอื้อเฟื้อแล้ว!”
จิตสังหารปะทุในแววตาแม่นางหลิงนางกรีดร้อง
“ข้าขอปฏิเสธ!เจ้าขอมากไปแล้ว!”
“ถ้าเช่นนั้นก็ไปหาคนอื่นที่จะมีหญ้าใจสลายให้เจ้าเถอะ!ขอให้โชคดี!”
ซือหยูใจเย็นเขาไม่ยอมจะให้นางได้ขบกัดง่ายๆ
แม่นางหลิงจึงพูด
“สมบัติธาตุน้ำที่เทียบเท่าแก่นหยกเพลิงมีค่าเท่าแก้วล้านดวงอย่างน้อยข้าก็ให้มันกับเจ้าได้ แต่พลังชีวิตของจ้าวเทวะระดับห้าหนึ่งร้อยคนมันมากเกินไป ข้าต้องใช้ถึงสิบล้านกว่าจะให้จ้าวเทวะร้อยคนรวบรวมพลังชีวิตให้!”
ยากอยู่แล้วที่จะหาจ้าวเทวะระดับห้าและยากยิ่งกว่าที่จะขอให้พวกเขาทุกคนส่งพลังชีวิตให้ พวกเขาจะเปลี่ยนใจก็ต่อเมื่อได้รับผลตอบแทนที่พอใจเท่านั้น
ตลอดทั้งดินแดนพรสวรรค์มีแค่ตำหนักโลหิตและตำหนักเมฆาม่วงที่จะทำสิ่งนั้นได้ กลุ่มอำนาจอื่นแทบไม่มีโอกาสเลย
“เจ้าก็ตรองดูเถอะ…โอกาสที่จะหาหญ้าใจสลายเจอจากคนอื่นมันมีเท่าใดกัน…”
ซือหยูเยือกเย็นถึงขีดสุดเขารู้สึกว่าตัวเองควบคุมสถานการณ์นี้ได้
แม่นางหลิงหมดคำพูดนางยังคงจ้องมองซือหยูไม่วางตา จิตสังหารของนางค่อยๆหายไปช้าๆก่อนจะหมดสิ้นไป
จากนั้นนางจึงพยักหน้า
“ย่อมได้ข้าจะทำตามที่เจ้าบอก! สมบัติธาตุน้ำจะส่งถึงเจ้าในสามวัน แต่พลังชีวิตของจ้าวเทวะร้อยคน เจ้าต้องรอถึงครึ่งปี!”
“ย่อมได้!”..novel-lucky
ซือหยูยิ้มให้นางและหยิบเอาแผ่นปฏิญาณสัตย์ดวงใจออกมาแม่นางหลิงสาบานด้วยหยดโลหิต พร้อมกันกับซือหยู
“ฮ่าๆๆแม่นางหลิง เท่านี้ก็จบแล้ว! ถ้าเจ้าทำตามข้อตกลงเมื่อใด ข้าจะส่งหญ้าใจสลายร้อยต้นให้เจ้า!”
แม่นางหลิงยืนขึ้นสะบัดแขนและพูดด้วยสายตาเย็นชา
“เจ้าทำตามสัญญาให้ได้ก็แล้วกัน!”
เมื่อพูดจบนางก็กระทืบเท้าเดินออกจากประตูด้วยใบหน้ามืดหมอง จ้าวเทวะสองคนที่ประตูกลั้นหายใจเมื่อเห็นนางเดินกระทืบเท้าออกไปด้วยความโกรธแค้น สตรีจ้าวเทวะคิดว่าซือหยูจะต้องทำให้นางโมโหไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง!
หลังจากนางออกไปซือหยูก็ไม่มีกระจิตกระใจที่จะบ่มเพาะอีก เขาหยิบเอาทรายสองสีทองสองร้อยเม็ดออกมาและศึกษาภาษาไม้ที่ยากเย็นต่อไป
ครึ่งวันต่อมาจ้าวเทวะหลายคนถูกส่งมาจากตำหนักโลหิตเพื่อปกป้องเขาในระยะ พอถึงตอนนี้ก็ยากมากแล้วที่แม่นางหลิงจะบุกเข้ามาอีกครั้ง!
เวลาสามวันผ่านไปช้าๆแต่ร้านตงหลินยังคงนิ่งเงียบ ถึงอย่างนั้น ข่าวเรื่องวารีผงกลั่นดวงใจกลับแพร่กระจายอย่างรวดเร็วปานสายฟ้า ซึ่งความจริงแล้ว ทุกคนในเมืองเทียนหยา ตำหนักเมฆาม่วง และตำหนักโลหิต แม้แต่หลายพื้นที่ในเขตกลางก็ได้ยินเรื่องวารีผงกลั่นดวงใจ!
สำหรับผู้กุมอำนาจการได้วารีผงกลั่นดวงใจก็หมายถึงการได้มนุษย์แข็งแกร่งที่เป็นจ้าวเทวะมาครอง หากพวกเขาได้วารีผงกลั่นดวงใจ กองกำลังของตัวเองก็ย่อมแข็งแกร่งขึ้น ฐานอำนาจย่อมแผ่ขยาย
ด้วยเหตุนี้หลายฝักฝ่ายจึงออกเดินทางค้นหาโอสถ ผู้แข็งแกร่งมากมายมารวมตัวกันที่เมืองเทียนหยา ผู้ทรงอำนาจหลายคนยังมาที่เมืองเทียนหยาอีกด้วย
เวลานี้คนที่แข็งวแกร่งในเมืองเริ่มเคลื่อนไหว นั่นก็เพราะในสามวันที่ผ่านมา จ้าวเทวะในร้านตงหลินได้ป้องกันการบุกรุกของยอดฝีมือสิบคน ไม่ต้องพูดก็บอกได้ว่าบรรยากาศอันตึงเครียดที่หน้าร้านตงหลินเป็นเช่นใด
ทุกคนรอที่จะได้เห็นว่ามันจริงหรือไม่ที่วารีผงกลั่นดวงใจจะถูกวางขายในอีกสามวันหากข่าวลือเป็นจริง มันจะทำให้ทุกคนตกอยู่ในความโกลาหล ความปรารถนาอยากได้จะพุ่งขึ้นสูงในจิตใจพวกเขา!
ในวันนี้ซือหยูที่ปิดประตูฝึกจนมาตลอดสามวันได้ออกจากร้าน การปรากฏตัวของเขาทำให้ทุกคนตกใจ
ตั้งแต่คนคุ้มกันไปจนถึงคนที่แอบรอการมาของผู้มีอำนาจทุกคนรู้ข่าวเรื่องซือหยูเซี่ยนผ่านสายลับ เสี่ยวเหยาเป็นคนแรกที่รู้เรื่อง
เมือ่ได้ฟังข่าวเขาขึ้นเสียงพูด
“ทำไมเขาถึงออกมาในเวลาสำคัญแบบนี้กัน?หรือว่าคนปรุงยาที่เขาพูดถึงกำลังเตรียมการแลกเปลี่ยนโอสถกับเขา?”
เขากังขาเรื่องผู้ปรุงโอสถที่ซือหยูพูดถึงอย่างรุนแรงนั่นเป็นเหตุให้เขาสั่งการให้คนมากมายจับตามองซือหยูขณะที่ปกป้องไปพร้อมๆกัน ถ้าซือหยูออกจากด้านตงหลินไปเพื่อรนับโอสถ เขาก็จะกระจ่างชุดในทุกข้อสงสัย
“ข้าจะไปที่นั่นเอง!”
เขาพูดและพริบตาเดียว เสี่ยวเหยาก็ได้กลายเป็นสายลมที่สลายหายไป
แม่นางหลิงได้ยินข่าวนี้เช่นกัน
“เสแสร้งเก้งนัก!”
นางรู้ดีว่าไม่มีคนปรุงยาเช่นนั้นอยู่เพราะเป็นซือหยูที่แต่งเรื่องทุกอย่างขึ้นมา!เมื่อคิดว่านางถูกบังคับให้สาบานอย่างไม่ธรรมก็กัดฟันด้วยความแค้น
“ท่านป้าโกรธผู้ใดกัน?”
เสียงหวานดังมาจากหน้าประตูขณะที่มีศีรษะอันน่ารักโผล่เข้ามา
ถ้าหากซือหยูอยู่ที่นี่ก็คงรู้ว่านางคือกงซุนหวูซื่อ!นางมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับโรงประมูลเทียนหยา
“จะใครอีกเล่า?มันก็ต้องเป็นศิษย์พี่ซือของเจ้านั่นแหละ! ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าเอาแต่เตือนข้าว่าไม่ให้ใช้ความรุนแรงกับเขา ข้าจะไม่มีวันไปต่อรองกับมันเลย!”
แม่นางหลิงโกรธและชิงชังซือหยูอยน่างมาก
ด้วยฐานพลังของนางการจับตัวซือหยูไปนับเป็นเรื่องง่ายดายดั่งปอกกล้วย เหตุที่นางไม่ทำก็เพราะนางเกรงใจกงซุนหวูซื่อ
กงซุนหวูซื่อทำหน้ามุ่ยเมื่อได้ฟังเสียงบ่นนางถาม
“ไอ้เวรนั่นมารังแกท่านป้าของข้าได้ยังไง?ข้าจะไปสั่งสอนมันเอง!”
“พอที!ไม่ใช่ว่าทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะเจ้าเรอะ? มันคงจะเป็นเรื่องง่ายถ้าเจ้าไม่ก่อเรื่อง สมบัติธาตุน้ำน่ะไม่เป็นไร แต่ถ้าต้องขอความช่วยเหลือจากศูนย์ใหญ่เพื่อให้ได้พลังชีวิตของจ้าวเทวะร้อยคน…”
กงซุนหวูซื่อกระพริบตา
“แล้วทำไมเขาถึงอยากได้สมบัติธาตุน้ำเล่า?”
“ข้าไม่รู้แล้วก็ไม่อยากจะรู้ด้วย!เอาเถอะ ไปดูกับข้าว่าไอ้แก่นั่นยังซ่อนอะไรเอาไว้อยู่อีก”
แม่นางหลิงกำลังรีบนางเกรงว่าจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้นกับซือหยูก่อนที่นางจะมีโอกาสได้หญ้าใจสลายจากเขา!
กงซุนหวูซื่อกลอกตา
“มันจะมีอะไรให้ดูเล่า?น่าเบื่อจะตาย! ข้าไม่ไปหรอก”
แต่คำปฏิเสธของนางก็ล้มเหลวในการให้แม่นางหลิงพอใจนางถูกลากออกไปด้วยกัน
ที่หอวิญญาณฟ้าหูหวังกุยได้ข่าว เขาคิดอ่านออกมาทันที
“ก็เอาซี่…พวกเราต้องไปแล้วไปหาคนปรุงยาผู้นั้นกันเถอะ!”
เขาตั้งใจจะสังหารซือหยูมานานแล้วและเขาก็ถูกบังคับให้รอคอยมาสามวันเต็มเพื่อโอกาสนี้! เขาตั้งใจจะคุยกับคนปรุงยาตัวต่อตัว เพราะถ้าหากได้วารีผงกลั่นดวงใจมาสู่หอวิญญาณฟ้า ตำหนักโลหิตจะถูกทำลายอย่างราบคาบ! และถ้าหากเขาทำข้อตกลงกับนักปรุงยาผู้นั้นได้ เขาจะสังหารซือหยูได้ตลอดเวลา เขาจะได้ระบายความชิงชังอันคับอกออกไปเสีย!
…
ขณะนี้ทุกการเคลื่อนไหวของซือหยูนั้นเป็นสิ่งสำคัญ เพราะข่าวเรื่องการเคลื่อนไหวของเขากระจายออกไป เหล่ายอดฝีมือที่ซุ่มอยู่ในเมืองก็เริ่มเคลื่อนไหว
ทุกคนดูรีบร้อนและหลั่งรินไปยังเมืองส่วนนอกซือหยูเป็นที่น่าอิจฉาต่อคนทั้งเมืองไปแล้ว เพราะแม้แต่ผู้จัดการใหญ่ของตำหนักโลหิตหรือตำหนักเมฆาม่วงก็ไม่เคยได้รับความสนใจมากขนาดนี้มาก่อน!