The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 944 - เจอกับเทียนฉวน
DND.
ซือหยูที่นางเห็นเป็นผู้ที่ไม่เคยสังหารคนบริสุทธิ์และยังเป็นคนที่ช่วยเหลือคนในสำนักเดียวกัน เขาช่วยชีวิตปิงหวูชิงและกงซุนหวูซื่ออย่างไม่เห็นแก่ตัว อีกทั้งยังช่วยตระกูลซือถูเอาไว้
เพื่อไม่ให้ตระกูลซือถูเป็นอันตรายเขาถึงกับเดินทางไกลไปไล่ล่าเจ้าตระกูลเฉา สุดท้าย ในตอนที่เขามีโอกาสสังหารกงซุนหวูซื่อ เขาเลือกที่จะปล่อยนางไป ดังนั้นนางจึงมิอาจคิดได้ว่าซือหยูนั้นจะเป็นคนที่ชั่วร้ายไร้หัวใจอย่างที่ราชาเขตกลางพูด นางหวั่นใจอย่างหนัก นางได้แต่สงสัยว่าราชาเขตกลางที่เป็นอาจารย์ของนางนั้นจะโกหกนางมาโดยตลอด
“จื่อเสวียนหากเจ้าต้องการต่อสู้ นี่ก็คือโอกาสของเจ้า…”
ซือหยูพูด
“ในอนาคตมันคงจะยากอย่างมากถ้าเจ้าจะแก้แค้น”
จื่อเสวียนมองซือหยูจากระยะไกลดวงตาเต็มไปด้วยความรู้สึกอันซับซ้อน ถ้าหากนางอยากจะฆ่าใครนางก็คงจะทำไปแล้ว อีกทั้งนางยังมีโอกาสมากมาย และซือหยูก็จะไม่มีเวลาได้ใช้กระทั่งใบของเทพไม้หรือเห็นร่องรอยของนาง
เหตุผลที่นางปรากฏตัวก็เพื่อที่จะยืนยันความจริงให้จิตใจได้ผ่อนคลายขึ้นและบอกลาเขานางเงียบไปนานก่อนจะพูด
“รอจนข้ากลับไปจัดการทุกสิ่งให้เรียบร้อยแล้วข้าจะมาเอาชีวิตเจ้า!”
เมื่อพูดจบนางหันหายไปเหลือเพียงเงา นางกำลังจะทะยานออก ซือหยูเงียบ เขาคิดว่าบางทีจื่อเสวียนอาจจะรู้ถึงบางอย่างที่ไม่ชอบมาพากลตั้งแต่ตอนที่นางไปหาเขาใกล้ ๆ เขาวิญญาณจรัส
ร่องรอยของซือหยูมักจะอยู่ในจุดที่่ซือหยูเซี่ยนอยู่เสมอแต่ทุกครั้งที่เขาอยู่กับนาง นางงมิอาจหาหลักฐานได้ ดังนั้นนางจึงปลอมตัวเป็นองครักษ์แสงกระจ่างเพื่อทดสอบซือหยู
แต่ในตอนนั้นเองมีเสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดดังออกมา! จื่อเสวียนที่ฉีกมิติเตรียมจะเดินทางถูกจู่โจม นางกระเด็นไปข้างหลังจากรอยแยก ฝ่ามือขาวราวหยกกระชากมิติ หยดสีขาววาววับหยดออกมา
จื่อเสวียนมองราวกับเจอศัตรูที่ยิ่งใหญ่นางตะโกน
“ใครลอบทำร้ายข้า?”
ฟึ่บ!
ลำแสงทมิฬพุ่งออกจากรอยแยกมิติเมื่อแสงดับลง สตรีงามได้ออกมาจากรอยแยกมิติอย่างสง่าผ่าเผย
นางมีมงกุฎสุริยันจันทราเหนือศีรษะพลังของนางแข็งแกร่งจนฟ้าดินสั่นสะเทือน วิหคอสูรและสัตว์อสูรมากมายหนีไปจนพ้นบริเวณด้วยความหวาดผวาราวกับว่ามีจักรพรรดินีลงมาจากสวรรค์
“ฮ่าๆๆๆๆศิษย์ของราชาเขตกลาง จากเผ่าแก้วแห่งกายาวิญญาณโบราณ!”
นางพูด
“มันเต็มใจปล่อยเจ้ามาจริงๆ ด้วย! มันไม่กลัวว่าหม้อที่เคี่ยวมาหลายปีจะถูกชายอื่นรับมือแรกไปหรือ?”
นางยิ้มอย่างเย็นชา
จื่อเสวียนไม่เข้าใจความหมายที่อีกฝ่ายพูดนางถามอีกฝ่ายด้วยเสียงอันอ่อนโยน
“เจ้าเป็นใครมาทำร้ายข้าด้วยเหตุอันใด?”
“ราชาเขตกลางไม่ได้บอกเจ้าให้รู้ว่าเจ้าของดินแดนนี้คือใครหรอกรึ?”
นางมองจื่อเสวียนด้วยความเวทนา
จื่อเสวียนตกใจนางถาม
“เจ้าคือม่อเทียนฉวนหรือ?”
ม่อเทียนฉวน?ซือหยูตกใจ…เขามาเจอกับเจ้าตำหนักโลหิตม่อเทียนฉวนได้ยังไง? ซือหยูได้ยินตำนานของนางมาหลายเรื่อง นางเป็นรองเพียงแค่เจี๋ยนอู๋เชิงเท่านั้น!
“เจ้ารู้จักข้าก็ดีแล้วถ้าราชาเขตกลางกล้าให้เจ้ามาดินแดนพรสวรรค์ก็จงอย่าไปไหน อยู่กับข้าซะ ข้าสนใจกายาวิญญาณโบราณของเจ้ามากทีเดียว”
ม่อเทียนฉวนหัวเราะอย่างเย็นชาและขว้างกลุ่มก้อนควันดำจากฝ่ามือ
เมื่อเงาดำปรากฏพลังอสูรอันน่าตกใจได้ปะทุออกมา พลังนั้นมหาศาลจนน่าฉงน
ภูเขาและแม่น้ำเสียความงดงามท้องนภาปกคลุมไปด้วยพลังอสูร ราวกับว่าวันสิ้นโลกได้มาถึง
ซือหยูแอบตกใจ…นั่นมันอาวุธอะไรกัน?มันน่ากลัวมาก!
สิ่งเดียวที่เทียบกับมันได้ก็คือจักรบินที่เขาขโมยมาจากสตรีอสูรเนรมิตร!มันทำให้ซือหยูมองดูม่อเทียนฉวน และยิ่งมองนางเท่าใดก็ยิ่งรู้สึกว่าม่อเทียนฉวนนั้นคล้ายกับผู้หญิงที่ปลอมตัวเป็นชายในวันนั้น
เขามองกลุ่มก้อนเงาดำอีกครั้งมันแสดงรูปลักษณ์จริงในเวลาต่อมา ในตอนนั้นเขาได้เห็นกงจักร! มันคือจักรบิน!
ตู้ม!
ซือหยูหัวแทบจะระเบิดผู้หญิงอสูรเนรมิตรในวันนั้นคือม่อเทียนฉวน!
การที่ศิษย์ตำหนักโลหิตทำให้เจ้าตำหนักสลบไปและขโมยสมบัติมามันคือความผิดใหญ่หลวง! ซือหยูเหงื่อตก
เขาคิด…โชคชะตาข้ามันอะไรกัน…ข้ารอดทั้งๆ ที่อยู่ใต้จมูกนางมาโดยตลอดจนถึงตอนนี้ได้ยังไง?
จักรบินสังหารคนได้อย่างไร้ร่องรอยจื่อเสวียนบาดเจ็บเมื่อถูกมันซัดใส่ เมื่อนางได้เห็นสมบัติภูติวิถีอสูรซัดเข้ามาอีกครั้ง ทั้งร่างของนางได้เรืองแสงจากด้านใน มันกลายเป็นแก้วโปร่งใส แค่พริบตาเดียว นางได้เปลี่ยนจากมนุษย์เป็นรูปปั้นแก้ว!.novel-lucky.
ปั้ง!
สมบัติภูติของม่อเทียนฉวนสามารถเฉือนอสูรเนรมิตรได้อย่างง่ายดายแต่เมื่อมันกระทบแขนจื่อเสวียน มันได้เกิดสะเก็ดไฟและรอยแตกก่อนจะกระเด็นออกมา!
“สมกับที่เป็นกายาแก้ว!ข้าชักจะสนใจเจ้ายิ่งกว่าเดิมแล้ว!”
ม่อเทียนฉวนยิ้มและเรียกจักรบินกลับมาใส่พลังเพิ่ม
จักรบินปล่อยพลังอันป่าเถื่อนมีแสงสีแดงเล็กน้อยที่คมจักร มันดูเหมือนกับกงจักรที่เปื้อนเลือด มันดูน่ากลัวอย่าผิดหูผิดตา
จื่อเสวียนชักสีหน้าร่างเรืองแสงของนางเปล่งประากยอีกครั้ง ร่างแก้วยิ่งบริสุทธิ์และโปร่งใสมากกว่าเดิม แต่ความเร็วของการเพิ่มความแข็งแกร่งของนางนั้นช้ากว่าความเร็วของจักรบิน
“อ๊าาาา!”
นางกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดแขนนางถูกจักรบินเฉือนเข้าอย่างจัง กายแก้วเกิดแผลในตอนนี้ แขนของนางเกือบจะขาด!
จื่อเสวียนซัดฝ่ามือลงไปเบื้องล่างพร้อมกับหลบจักรบินเพื่อรักษาชีวิตเมื่อเผชิญหน้ากับม่อเทียนฉวน จื่อเสวียนไม่คิดเลยว่านางจะปกป้องชีวิตตัวเองได้!
“พอแค่นี้แหละ!ข้าจะไม่ทำร้ายเจ้า ข้าแค่อยากจะศึกษาร่างกายเจ้า ถ้าเจ้าปฏิเสธ ด้วยฐานะของอาจารย์เจ้า ข้าก็ไม่มีเหตุผลให้เจ้ามีชีวิตอยู่ต่ออีกแล้ว…”
ม่อเทียนฉวนพูด
จื่อเสวียนกันฟันนางหนีไปโดยกระชากมิติออก ม่อเทียนฉวนไม่ไล่ตามนาง นางเพียงแค่กำหมัด จากนั้นรอยแยกมิติข้างหน้าจื่อเสวียนจึงปิดลง
“อาจารย์เจ้าไม่บอกเจ้าสินะว่าในโลกนี้ นอกจากราชาเก้าเขต ไม่มีใครที่เทียบพลังมิติกับข้าได้…”
ม่อเทียนฉวนดวงตาเย็นชา
ถ้าหากจื่อเสวียนปฏิเสธอีกครั้งม่อเทียนฉวนจะไม่เมตตาอีก แต่ทันทีหลังจากนั้น พลังมิติได้ปรากฏข้างจื่อเสวียนและเคลื่อนย้ายนางมาหาซือหยูในทันที
จื่อเสวียนทำได้แค่มองเห็นร่างของซือหยูที่อยู่ใกล้ซือหยูจับเอวของนางและกระโดดเข้าวายุมิติ วายุมิตินี้แข็งแกร่งมาก แม้แต่จื่อเสวียนที่เป็นอสูรเนรมิตรยังรู้สึกว่ามันมิอาจถูกหยั่งถึงได้ นางไม่รู้ว่ามันจะพาไปไหน
ในตอนนี้ซือหยูคิดอ่านทุกอย่างแล้ว หากเขายังอยู่ ม่อเทียนฉวนจะจำเขาได้แน่นอน เขาจะถูกนางฆ่าตาย คงจะดีกว่าถ้าเขาใช้วายุมิติพาจื่อเสวียนหนีไปด้วย ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าว่าจะถูกพาไปที่ใด มันก็ยังดีกว่าอยู่ที่นี่!
ม่อเทียนฉวนมองจื่อเสวียนอยู่ตลอดนางไม่ได้สนใจอีกคน ดังนั้นนางจึงตกใจ
แต่นางก็ตอบสนองอย่างรวดเร็ว
“เจ้ามีคนช่วยด้วยรึ?ฮื่ม!”
ม่อเทียนฉวนคว้ามือและใช้พลังดึงตัวซือหยูออกมาจากวายุมิตินางลากเขาออกมา! ซือหยูตัวแข็งทื่อและเมื่อเขาถูกลากกลับ จื่อเสวียนเองก็ออกมากับเขาด้วย
เมื่อเห็นว่าพวกเขากำลังจะถูกดึงออกไปซือหยูกัดฟันจ้องมองจื่อเสวียนอย่างลึกล้ำ
“ถ้าหากข้าทำให้เจ้าเจ็บปวดยกโทษให้ข้าเถอะ ดูแลตัวเองนะ…”
จื่อเสวียนรู้ว่าซือหยูคิดจะทำอะไรนางใจอ่อนและตะโกน
“หยุดนะ!”
แต่ซือหยูได้ผลักจื่อเสวียนไปยังส่วนลึกสุดของวายุมิติจนจื่อเสวียนถูกพาตัวไป
“ไม่!”
จื่อเสวียนกรีดร้อง
ความรู้สึกอันลึกซึ้งของนางถูกดึงออกมาโดยการกระทำที่ไม่เห็นแก่ได้นางไม่คิดเลยว่าซือหยูที่นางอยากจะเอาชีวิตจะเป็นคนที่ช่วยชีวิตนาง! ความอบอุ่นได้ก่อเกิดในดวงใจ
ซือหยูถูกลากกลับมาและถูกม่อเทียนฉวนจับตัวม่อเทียนฉวนอ้าปากค้างวเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในวายุมิติ นางเกือบจะจัดตัวกายาแก้วโบราณที่ราชาเขตกลางตั้งความหวังไว้สูงมาได้ แต่มันก็ถูกคนแก่นี่ปล่อยตัวไป!
“เจ้าอยากตายสินะ!”
ม่อเทียนฉวนโกรธแค้นนางฉุดซือเข้ามาใกล้ด้วยความแค้นเต็มใบหน้า
แต่ถึงกระนั้นตอนที่ได้เห็นหน้าซือหยู นางก็ตัวแข็งทื่อราวกับถูกสายฟ้าฟาด! นางกรีดร้องอย่างน่าหวาดผวา
“นี่เจ้า!ไอ้โจรแก่ลามก!”
นางไม่มีวันลืมใบหน้านี้!ไม่เพียงแต่เขาจะลวนลามนาง แต่เขายังทำให้นางสลบและขโมยจักรบินของนางไป! ที่น่าขยะแขยงยิ่งกว่าก็คือ…เขาเอามันไปขาย!
นางไม่กล้าจะให้ใครรู้เรื่องนี้ดังนั้นนางจึงไม่ส่งใครไปตามหาจักรบิน มันน่าละอายเกินไป!
ด้วยฐานะของเจ้าตำหนักโลหิตที่มีพลังเทียบเคียงได้กับราชาเก้าเขตการถูกขโมยสมบัติหัวแก้วหัวแหวนไปโดยชายแก่ที่ผ่านทางมาและทำให้นางสลบไปด้วยนั้นน่าอับอายยิ่ง! นางจะไม่มีวันพูดถึงเรื่องนี้เด็ดขาด!
เคราะห์ดีที่จักรบินถูกซื้อโดยคนที่นางใกล้ชิดซึ่งก็คือจ้าวผาบั่นภูติ เขาทำให้นางรอดพ้นจากการกลายเป็นตัวตลก ดังนั้นนางจึงไม่มีวันลืมใบหน้าชายแก่คนนี้! นางไม่คิดเลยว่าจะได้เจอเขาที่นี่!
ซือหยูใจหาย
“อะแฮ่ม..แม่นางท่านจำผิดคนแล้ว”
“ข้า!จำ! ไม่! ผิด!”
ม่อเทียนฉวนกัดฟันนางโกรธจนซือหยูหนาวสั่น