The Divine Nine Dragon Cauldron - ตอนที่ 963 - เรื่องบ้า ๆ
DND.
คนรักหรือ?ซือหยูตกใจจนไม่แน่ใจว่าได้ยินกงซุนหวูซื่อถูกหรือไม่ ในใจเต็มไปด้วยความสับสนตกตะลึง หากไม่นับว่าเขาแต่งงานกับฉินเซี่ยนเอ๋อไปแล้ว เขาตอนนี้ก็ถือว่าเป็นคู่หมั้นของปิงหวูชิง นี่มันถูกแล้วหรือที่นางจะมาชิงบุรุษของสหายที่นอนร่วมเรือนกัน?
“มันแปลกอะไรกัน?ก็จริงที่พี่หยูเซี่ยนกับพี่หวูชิงเป็นคู่หมั้นกัน แต่มันผิดอะไรเล่าที่เราจะรักกัน?”
กงซุนหวูซื่อตาเป็นประกาย
ซือหยูพูดไม่ออกเขาไม่รู้จะหาคำพูดอะไรมาโต้แย้งคำพูดบ้า ๆ ของนาง เขากระแอม
“ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาพูดเรื่องนี้เราต้องรีบไปช่วยปิงหวูชิง”
ซือหยูพยายามจะเปลี่ยนเรื่อง
แต่กงซุนหวูซื่อยังคงยิ้ม
“แล้วทำไมข้าจะต้องให้คนอื่นยืมสมบัติกึ่งภูติของข้าไปใช่เล่า?ถ้าหากไม่สัญญากับข้า ข้าก็จะไม่ให้พี่หยูเซี่ยนไปช่วยคู่หมั้น ถ้าหากเสียภรรยาแสนสวยไป พี่หยูเซี่ยนคงจะเศร้ามากน่าดู”
ซือหยูพูดไม่ออกอีกครั้งแต่ด้วยความเร่งด่วนของตอนนี้ เขามีทางเลือกไม่มากนัก
“ก็ได้ข้าสัญญา แต่หลังจากนี้ ข้ามีเรื่องที่จะต้องคุยกับเจ้าและปิงหวูชิง”
เมื่อเรื่องราวมาถึงขั้นนี้แล้วเขาจะต้องบอกความจริงกับนางทั้งสอง
“โอ้”
กงซุนหวูซื่อเหวี่ยงหมัดแสดงท่าทางของผู้ชนะนางแบกง้าวที่คล้ายปืนที่ด้านหลัง
“รีบไปกันเถอะไปช่วยคู่หมั้นของพี่กัน”
ที่ศิลาก้อนใหญ่รองเจ้าดินแดนเสี่ยวสภาพอิดโรยและเหนื่อยล้า รอยแผลน่าเกลียดเปิดหลายแห่ง ทั้งแขนขวาขาดสะบั้นไปจากไหล่ และที่แย่ที่สุดก็คือบาดแผลขนาดเท่าไข่ไก่ที่ท้อง แก้วกำเนิดของเขาเสียหาย พลังชีวิตกำลังพุ่งพล่านออกมา
แก้วกำเนิดคือแก้วที่เกิดจากพลังชีวิตของจ้าวเทวะและมันคือแหล่งเก็บสะสมพลังของจ้าวเทวะ หากมันเสียหาย อย่างน้อยก็จะส่งผลกระทบไปถึงฐานรากของพลัง หากเลวร้ายที่สุด ฐานพลังอาจจะลดลงได้
“เจ้าเป็นใครกันแน่?”
รองเจ้าดินแดนเสี่ยวมองสตรีตรงหน้าราวกับเจอศัตรูที่เก่งกล้าที่สุดเขาไม่เคยได้สบายใจอย่างเคยอีกแล้ว
ต่อหน้าเขาคือสตรีที่มีเงากระบี่เก้าเล่มกวัดแกว่งไปมาที่ด้านหลังตัวตนของนางปะทุพลังกระบี่อันรุนแรงออกมา ที่กลางอกมีรอยแสงกระบี่จาง ๆ แสดงให้เห็นทะลุเครื่องแต่งกาย รอยกระบี่นี้มีพลังและบรรยากาศของกระบี่อยู่ด้วย นางดูเหมือนกับเทพกระบี่ที่ปรายตามองสิ่งต่ำต้อยเบื้องล่าง รังสีกระบี่ที่นางปล่อยออกมานั้นเกินกว่าที่เขาจะเข้าใจ มันเกินระดับของกระบี่ไร้รอยไปแล้ว
ทั้งทวีปจิวโจวมีไม่ถึงสิบคนที่ฝึกฝนในวิถีกระบี่จนปล่อยรังสีกระบี่ในระดับที่เกือบสมบูรณ์แบบเช่นนี้ออกมาได้ นางไม่เพียงแต่อายุยังน้อย แต่นางยังมีรังสีกระบี่ที่น่าสะพรึงกลัวนี้อยู่! หากฐานพลังนางเพิ่มขึ้น จะมีใครในระดับพลังเดียวกันที่จะสู้นางได้? และนางก็คือปิงหวูชิง
บรรยากาศรอบกายนางเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากนางมีความเย็นชาและความงดงามอยู่แล้ว ตอนนี้ยังมีพลังกระบี่อันเข้มข้นอยู่รอบกายอีก นางไม่ต่างจากเทพกระบี่สตรีแห่งยุคสมัย
เงากระบี่เก้าเล่มด้านหลังนางเคลื่อนไหวแบบโบราณกลิ่นอายของพลังชวนย้อนให้คิดถึงอดีตกาลที่ยาวนานออกไป คมกระบี่ยังมีกลิ่นคละคลุ้งของโลหิต ซึ่งกลิ่นก็มาจากกระบี่เล่มที่ฟันแขนรองเจ้าดินแดนเสี่ยวจนขาดออกจากเบ้าไหล่
กระบี่มีความเร็วสูงสุดเท่าที่เป็นไปได้ทุกหนแห่งที่แล่นไปจะเกิดรอยแยกมิติเป็นเส้นดำ
รองเจ้าดินแดนเสี่ยวได้แต่หลบเพื่อยื้อเวลาเขาชิดดัชนีทั้งสองและใช้คลื่นกระบี่หวนคืน พลังกระบี่ทั้งสองปะทะกันอย่างรุนแรงแต่ก็สลายไปอย่างไร้เสียง คลื่นกระบี่ม้วนถอยไปตามแสงกระบี่ทะลวงร่างรองเจ้าดินแดนเสี่ยว
ฉั่วะ!
รอยกรีดเลือดเกิดขึ้นในทั้งร่างของรองเจ้าดินแดนเสี่ยวราวกับว่าเขาถูกฟาดฟันนับร้อยนับพันครา
รอยเหล่านี้ถี่เหมือนแหจับปลาร่างกายของเขาแหลกสลายไปตามรอยแผลที่โดนฟัน มันกลายเป็นก้อนชิ้นเนื้อหลากหลายขนาด
รองเจ้าดินแดนเสี่ยวจ้าวเทวะระดับเก้าได้ตายไปด้วยคมกระบี่ของปิงหวูชิง ไม่สิ มีแค่ร่างกายของเขาที่แหลกสลาย แต่กลุ่มก้อนวิญญาณอันว่างเปล่าได้หนีออกจากร่างกายมาได้ด้วยความสะพรึงกลัว เขาพุ่งไปยังขอบนภา
ปิงหวูชิงยิ้มเย็นชานางชี้ดัชนีไปยังขอบนภา ลำแสงพุ่งตามไปราวกับสายฟ้า วิญญาณของรองเจ้าดินแดนเสี่ยวกำลังจะหายไป
พอดิบพอดีกับเวลาที่คนสวมชุดหยกบินมาถึงหน้ารองเจ้าดินแดนเสี่ยวและพาเขาหลบกระบวนท่านั้นรองเจ้าดินแดนเสี่ยวรีบถอยหนีอย่างบ้าคลั่งจนลับฟ้าไป
ปิงหวูชิงแววตาเย็นชานางเหลือบมองคนร่างสีมรกตหลายคนที่กำลังมา สุดท้ายก็จ้องมองคนสวมหน้ากากทองคำ
นางตกตะลึง
“สิบยอดฝีมือแห่งดินแดนมีดสวรรค์รึ?แล้วก็เจ้า ปี้หลิงเทียน!”
ชายสวมหน้ากากทองคำคือปี้หลิงเทียนเขาคือผู้มีพรสวรรค์อัดหาได้ยากแห่งดินแดนมีดสวรรค์ เขาได้รับขนานนามว่าเป็น “ยอดฝีมือลำดับหนึ่งแห่งยุคสมัย”
คนอื่นๆ ที่มาก็โดดเด่นไม่แพ้กัน ทั้งหมดเป็นยอดฝีมือเลื่องชื่อแห่งดินแดนมีดสวรรค์ แต่ละมีพลังในระดับวีรบุรุษ ไม่ว่าจะเอาพวกเขาไปไว้ที่ใดในจิวโจว พวกเขาก็ย่อมยืนด้วยขาของตัวเองและปกครองส่วนของโลกนี้ได้
นางเหลือบมองด้านข้างและเห็นจินมู่ปิงหวูชิงถามอย่างดุดัน
“ซือหยูเซี่ยนอยู่ไหน?” novel-lucky
นางรู้สึกไม่ดีนัก
“ซือหยูเซี่ยนตายด้วยน้ำมือเจ้ารึ?”
ปิงหวูชิงกังวลเมื่อมองยอดฝีมือสิบเอ็ดคนตรงหน้า
“เจ้าห่วงตัวเองก่อนเถอะ!”
รองเจ้าดินแดนเสี่ยวมองนางด้วยความแค้นร่างกายเขาถูกทำลายจนเหลือแต่ดวงวิญญาณ แล้วมันจะทำอะไรได้เล่า? หลังจากเขากลับดินแดนมีดสวรรค์ ต่อให้หาร่างสิงได้ เขาก็จะไม่มีวันได้เป็นอสูรเนรมิตร พลังที่เขาสั่งสมมาตลอดชีวิตไร้ความหมายเสียแล้ว
จินมู่มองปิงหวูชิงและจ้องมองกระบี่เก้าเล่มที่ลอยอยู่ด้านหลังนางความตื่นเต้นเบ่งบานในดวงตา
“กายาวิญญาณโบราณ?แล้วยังเป็นสายโลหิตชาวกระบี่สวรรค์ในตำนานอีก!”
ปิงหวูชิงคือผู้ครอบครองกายาวิญญาณ
“ข่าวลือว่าไว้ว่าสายโลหิตชาวกระบี่สวรรค์ได้ครอบครองพลังแห่งกระบี่ที่แท้จริง…”
“หากได้สำเร็จวิถีกระบี่เมื่อใดหนึ่งในเงากระบี่เก้าเล่มที่แผ่นหลังจะถูกปลุกขึ้นมา แสดงถึงพรสวรรค์ของชาวกระบี่สวรรค์ ในอนาคต มันจะตัดสินความเก่งกล้าในวิถีกระบี่…”
จินมู่หยุดพูดไปเมื่อสังเกตเห็นด้านหลังนาง
“เจ้าใช้กระบี่ได้สามเล่มแล้วเรอะ?!”
ความตื่นเต้นของเขาเพิ่มขึ้น
“ถึงไอ้กายาวิญญาณบัดซบนั่นจะหนีไปได้ถ้าหากเอาแก่นโลหิตของกายากระบี่สวรรค์กลับไป ความผิดพลาดของพวกข้าก็ชดใช้ได้แล้ว!”
ปิงหวูชิงเลิกคิ้วเมื่อได้ยินว่าซือหยูหนีไปได้
“ถ้าอยากได้เลือดข้าเจ้าก็ไปรอที่ชาติหน้าแล้วกัน!”
ปิงหวูชิงแววตาเยือกเย็นลำแสงพุ่งไปยังขอบนภาอีกครั้ง มันเข้าฟาดฟันพวกเขา
จินมู่นั้นสุขุมเยือกเย็นเขาหัวเราะ
“ต่อให้เป็นชาวกระบี่สวรรค์ก็ย่อมต้องมีจุดอ่อนในการฝึกขั้นแรก ฐานพลังจะถูกรังสีเงากระบี่ทั้งเก้ากดเอาไว้ ฐานพลังจึงแข็งแกร่งไม่พอ หากกระบี่พลาดเป้า นั่นก็คือช่องโหว่ของเจ้า…”
เขาอธิบาย
เมื่อพูดจบร่างที่เหลือทั้งสิบพุ่งไปต้านทานลำแสงกระบี่พร้อมกัน
ฉั่วะ!
แต่คมกระบี่นี้รุนแรงอย่างไม่น่าเชื่อร่างปลอมทั้งสิบรับมือไม่ไหว พวกเขาถูกฟันเป็นชิ้น ๆ ไปทีละคน
ดวงตาของปิงหวูชิงเปล่งแสง
“มันจบแล้ว!”
แสงกระบี่ระเบิดความเร็วพุ่งตรงไปยังจินมู่
ถึงอย่างนั้นภาพที่ปิงหวูชิงคิดว่าจะได้เห็นก็กลับตาลปัตร ร่างปลอมที่ถูกฟันเป็นชิ้น ๆ จากพลังกระบี่ได้กลับมารวมตัวเป็นร่างเดิมอีกครั้ง!
มีสองคนบินมาที่นางทั้งสองอยู่ห่างจากปิงหวูชิงเพียงร้อยศอกก่อนที่แสงกระบี่จะกลับมา นางใจหายและเริ่มร้องเบา ๆ
“เพลงกระบี่หิมะขาว!”
เงากระบี่แรกที่ด้านหลังนางกลายเป็นเงาขาวกระจ่างแล่นผ่านไปความขุ่นมั่วของหิมะกระจายเต็มฟ้า ความเย็นนั้นน่าตกใจ มันแทบจะแช่แข็งทั้งฟ้าดิน
ชิ้นเกล็ดหิมะปล่อยพลังกระบี่มหาศาลออกมาเมื่อแล่นไปโดนผิวสิ่งมีชีวิตใด พลังกระบี่จะสะบั้นชีวิตของพวกมันจากภายใน ร่างปลอมทั้งหมดเจอกับชะตาอันโหดร้ายแบบเดียวกัน พลังภายในถูกทำลายพร้อมกับกลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็ง
พวกเขาเหมือนกับแข็งตายไปแล้วแต่แท้จริงถูกทำลายด้วยพลังกระบี่ แต่มันมิได้หยุดเพียงเท่านี้
ร่างปลอมที่เหลือตามเข้ามา
“ไปลงนรกซะ!”
ปิงหวูชิงตะโกนอย่างเยือกเย็นนางยกมือเรียกลำแสงที่ไล่ตามจินมู่กลับเพื่อช่วยเสริมกำลังนาง
เปรี๊ยะ!
ศัตรูถูกหั่นเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยความเย็นแพร่กระจายแปรเปลี่ยนมนุษย์เป็นรูปปั้นน้ำแข็ง ร่างปลอมของอีกเก้าคนถูกทำลายในพริบตา แต่ก่อนที่ปิงหวูชิงจะได้โล่งอก นางก็รู้สึกถึงอันตราย
นางเงยหน้ามองและพบปี้หลิงเทียนที่พุ่งตรงมือไพล่หลังมาดวงตามรกตที่มีนัยน์ตาเป็นบุพผาเบิกโพลง เขาดูสุขุมเยือกเย็น มีพลังมหาศาลอยู่ในตัว
ปิงหวูชิงชักสีหน้านางกัดฟันใช้กระบี่อีกสองเล่ม
“เพลงกระบี่หิมะขาว!”
“กระบี่สวรรค์อหังการ!”
เงากระบี่สองเล่มทะลวงสวรรค์มุ่งตรงไปยังปี้หลิงเทียนราวกับว่ากำลังไล่ตามเมฆาไปถึงจันทรา
ปี้หลิงเทียนยังคงกุมมือไพล่หลังอย่างไม่เกรงกลัวกลีบบุพผาในดวงตาของเขาเบ่งบานอย่างไร้เสียง เนตรบุพผาของเขาดูชั่วร้ายน่ากลัว
จากนั้นภาพอันน่าสยดสยองจึงเกิดขึ้นเงากระบี่เก้าเล่มได้ปรากฏที่ด้านหลังปี้หลิงเทียนเช่นกัน พวกมันคล้ายกับเงากระบี่ของปิงหวูชิง
กระบี่สองเล่มยังพุ่งออกมาพร้อมกันพลังความเยือกเย็นกระจายทั่วฟ้า มันเข้าปะทะกับกระบี่ของปิงหวูชิง
มันคือวิชากระบี่เดียวกันแต่ฐานพลังของปี้หลิงเทียนนั้นสูงกว่าปิงหวูชิงมาก กระบี่ทั้งสองเล่มของปิงหวูชิงจึงกระเด็นกลับ นางใจหายและรีบเรียกกระบี่กลับมาใช้กระบวนท่าอย่างต่อเนื่อง
แต่ถึงอย่างนั้นกระบี่ของนางก็กระเด็นกลับมาอย่างรวดเร็วมันไม่ได้ชะลอความเร็วกระบี่ของปี้หลิงเทียนเลย
อั่ก!
ปิงหวูชิงกระอักเลือดออกมาจนเป็นหมอกเลือด
“เนตรมรกตนัยน์บุพผา!!”
ปี้หลิงเทียนก็เป็นกายาวิญญาณเช่นกันเขามีเนตรประหลาดที่จะลอกเลียนวิชาของศัตรูได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ประกอบกับฐานพลังมหาศาล เขามักจะได้ใช้พลังที่แข็งแกร่งกว่าพลังของตัวเอง เขาไม่เคยแพ้เลยตลอดหลายปีที่ผ่านมา ไม่มีใครสามารถก้าวข้ามเนตรมรกตนัยน์บุพผาได้ มันคือพลังที่ไร้เทียมทาน
เขาพุ่งเข้ามาดั่งลมกรดปี้หลิงเทียนหยุดตรงที่หน้าปิงหวูชิงและซัดมือไปที่กะโหลกของนาง
ปิงหวูชิงชักสีหน้าแต่นางก็ไม่ลังเลและใช้ฝ่ามือโต้กลับไป แต่ด้วยพลังที่แตกต่างกันอย่างมากที่ทำให้นางต้านทานไม่ไหว เสียงกระดูกแขนปิงหวูชิงหักดังลั่น
ก่อนที่กะโหลกของนางจะแตกเป็นเสี่ยงๆ คลื่นเพลิงหนึ่งได้ถูกยิงเข้ามาใกล้จากความว่างเปล่า
ปี้หลิงเทียนได้แค่หันไปมองก่อนจะถูกซัดด้วยความเร็วราวกับการย้ายมิติ
ตู้ม!
มหาเพลิงยักษ์ระเบิดราวกับภูเขาไฟมันปกคลุมทุกมุมฟ้ากลืนกินปี้หลิงเทียน
ปิงหวูชิงใช้เพลงกระบี่หิมะขาวเพื่อใช้ความเย็นต้านทานความร้อนในทันที
เมื่อเพลิงแหลกสลายก็เหลือแต่เพียงของเหลวสีมรกตตรงที่ปี้หลิงเทียนเคยอยู่มันมีหยดโลหิตคล้ำอยู่ด้วย ตัวตนของเจ้าของโลหิตได้หายไปแล้ว