the first order สู่รุ่งอรุณเเห่งมวลมนุษย์ - ตอนที่ 256 ซุ่มโจมตีกองพันเทพยนต์
เมื่อตกลงเวลานัดพบพรุ่งนี้แล้ว พวกเขาก็แยกย้าย
หลังจากเห็นนายทหารเทพยนต์โดนเถาหนามฆ่าตาย ทหารกองกำลังส่วนตัวบางนายไม่กล้าออกมาจากเต็นท์สักก้าวด้วยซ้ำ แม้จะหิวท้องกิ่วก็ไม่พร้อมใจจะออกมาหาอาหาร
ตอนนี้บนพื้นมีชั้นหิมะหนา พวกเขาไม่รู้ว่าใต้นั่นจะมีเถาหนามอีกมากน้อยเพียงไร ถ้าเกิดเหยียบพลาดขึ้นมา พวกเขาคงได้จบชีวิต
แต่นี่เป็นเรื่องที่เริ่นเสี่ยวซู่ต้องการพอดี เขาจะได้ลงมือคนเดียวสะดวก
เริ่นเสี่ยวซู่ไปพบถังโจวในคืนต่อมา พอเจอหน้ากันแล้วถังโจวก็พูดอย่างมีความสุข “เถ้าแก่หลัวกับท่านชิ่งเจิ่นยึดอำนาจสั่งการทหารเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้พวกเขาเป็นผู้สั่งการกองทัพ!”
เริ่นเสี่ยวซู่ถาม “นายบอกว่าพวกเขาถูกคุมขังอยู่ในบ้านที่ป้อมปรากร 111 ไม่ใช่เหรอ”
“คือเรื่องมันเป็นอย่างนี้” ถังโจวอธิบาย “เถ้าแก่หลัวกับท่านชิ่งเจิ่นถูกส่งมาเป็นที่ปรึกษาทหาร พอพวกเขาถึงค่าย ก็ฆ่าชิ่งอวิ่นทิ้งและท่านชิ่งเจิ่นก็ยึดอำนาจสั่งการทหารแนวหน้าของสมาคมตระกูลชิ่ง”
เริ่นเสี่ยวซู่ผงะ “เป็นแบบนี้ก็ได้ด้วย? ไม่มีใครต่อต้านเขาเหรอไง”
“ถ้าพวกเขาส่งคนมาแทนชิ่งอวิ่นตอนนี้ล่ะก็ สมาคมตระกูลชิ่งก็ไม่อาจร่วมในสงครามได้ต่อแล้ว” ถังโจววิเคราะห์ “ถ้าสมาคมตระกูลหยางกับหลี่ฉวยโอกาสในสถานการณ์นี้ล่ะก็ ทั้งสมาคมตระกูลชิ่งต้องเสียหายหนักแน่นอน”
“เข้าใจแล้ว” เริ่นเสี่ยวซู่เชื่อว่าก่อนชิ่งเจิ่นจะลงมืออย่างกะทันหัน เขาคงเล็งโอกาสนี้ไว้อยู่แล้ว แต่กระนั้นชิ่งเจิ่นก็ช่าง…ดุร้ายจริงๆ
ถังโจวพูด “ท่านชิ่งเจิ่นตกลงจะร่วมมือกับนาย กองกำลังถูกส่งออกไปยังจุดซุ่มโจมตีแล้ว รอเพียงให้กองพันเทพยนต์มาถึง ท่านชิ่งเจิ่นยังบอกด้วยว่าจะไม่ล้างบางกองทัพเทพยนต์จนเหี้ยมตามที่ตกลงกันไว้ และหวังว่าความร่วมมือนี้จะราบรื่น”
เริ่นเสี่ยวซู่พยักหน้า ชิ่งเจิ่นนี่เชื่อถือได้ไม่เลวเลย อย่างน้อยก็ดีกว่าชิ่งอวิ่นที่ถังโจวพูดถึงก่อนหน้านี้ แต่เริ่นเสี่ยวซู่ก็พูด “อย่าบอกฉันนะว่ามีแค่นั้นน่ะ สมาคมตระกูลชิ่งไม่ให้สัญญาอะไรเป็นชิ้นเป็นอันหน่อยเหรอไง”
ถังโจวชะงักไปพักหนึ่ง “ฉันไม่ได้พูดถึง แต่ฉันแจ้งท่านชิ่งเจิ่นให้ทราบได้ เรื่องพวกนี้เขาไม่เคยตระหนี่หรอก”
“ต้องแบบนี้สิ” เริ่นเสี่ยวซู่ฉีกยิ้ม
แต่ถังโจวถามอย่างสงสัยว่า “ทำไมนายถึงไม่ให้พวกเราฆ่ากองพันเทพยนต์จนหมด อย่างไรนายกับพวกเขาก็ไม่น่ามีสายสัมพันธ์อะไรกันนี้เพราะนายเป็นทหารเกณฑ์”
เริ่นเสี่ยวซู่ค่อยๆ อธิบายว่า “ฉันจะช่วยสมาคมตระกูลหยางรวบรวมตัวอย่างนาโนแมชชีนจากสมาคมตระกูลหลี่”
ถังโจวเหมือนกันนึกอะไรบางอย่างได้ จึงยิ้มอย่างลึกลับ “อ้อแบบนี้นี่เอง ตอนฉันออกจากป้อม 109 ก็ว่าอยู่ นายกับหยางเสียวจิ่นมีอะไรพิเศษๆ กันแหง ตอนนั้นเธอถึงกับแบกนายขึ้นหลังด้วยนี่นะ จะว่าไป ทำไมนายไม่ไปสมาคมตระกูลหยางแทนล่ะ ถึงนายจะโดนเกณฑ์เข้ากองทัพ แต่ก็มีโอกาสให้หนีอยู่แล้ว ข่าวกรองเราบอกว่าแต่เดิมสมาคมตระกูลหลี่ไม่ได้มีความเข้มงวดกวดขันอะไรนัก”
เริ่นเสี่ยวซู่ไม่พูดต่อ ปล่อยให้ถังโจวอนุมานนู่นนี่ไปตามใจ…
ถังโจวไม่มีทางนึกออกหรอกว่าที่เขาไม่ไปป้อมปราการ 88 เพราะเขาไม่รู้ทาง…
…
วันต่อมา ช่วงเวลาที่กองพันเทพยนต์คาดว่าจะลอบโจมตีสมาคมตระกูลชิ่งได้เข้ามาใกล้แล้ว ถึงถนนจะโดนหิมะหนาปิด กองพันเทพยนต์ก็ยังบุกฝ่าเดินทาง
จุดประสงค์ของกองทัพเทพยนต์ คือพวกเขามาลอบโจมตีศัตรู
คนภายนอกไม่รู้ว่ากองพันเทพยนต์เคลื่อนไหวอย่างไร ทั้งไม่รู้ด้วยว่าสมรรถภาพร่างกายของพวกเขาเก่งกาจขนาดไหนด้วยนาโนแมชชีน ดังนั้นจึงก็ไม่มีใครคิดว่าพวกเขาจะเดินพายุหิมะหนักได้ นี่เป็นโอกาสดีที่จะบุกจู่โจม
พันตรีแห่งกองพันเทพยนต์ก้มมองจีพีเอสขณะนำสร้างทางฝ่าหิมะ เขาว่า “พวกเราจะถึงค่ายส่งกำลังบำรุงทหารในอีกครึ่งวัน ฉันอยากให้ทุกคนระวังตัวให้มากที่สุด หลังจากทำลายขบวนส่งเสบียงของสมาคมตระกูลชิ่งได้แล้วเราจะหนีทันที จากนั้นจะรอนาโนแมชชีนชาร์จพลังงานให้เต็ม และไปลอบจู่โจมกองกำลังอื่น!”
ทว่าพูดจบ ก็มีเสียงดังสนั่นระเบิดมาแต่ไกล หลังจากชะงักไปครู่ พันตรีแห่งกองพันเทพยนต์ก็ตะโกนก้อง “ถอย! หลบกระสุนปืนใหญ่!”
พันตรีผู้นี้มีประสบการณ์สู้รบมากมาย พริบตาเดียวก็รู้ว่าพวกตนถูกสมาคมตระกูลชิ่งซุ่มโจมตีแล้ว ทั้งยังรู้ด้วยเสียงระเบิดดังสนั่นนั่นมาจากการยิงปืนใหญ่ของสมาคมตระกูลชิ่ง!
อย่างแรกคือเขาตะโกนสั่งคือถอยทัพไม่ใช่ให้หมอบ กองพันเทพยนต์เป็นกองกำลังที่เคลื่อนไหวได้คล่องแคล่วมาก ถ้าพวกเขาถอยทัพทันที ยังมีโอกาสพ้นจากระยะยิงปืนใหญ่ แต่ถ้าหมอบอยู่ที่นี่ล่ะก็ มีแต่ความตายคอยอยู่
ในเมื่อสมาคมตระกูลชิ่งเตรียมตัวมาอย่างดี แค่หมอบหลบจะหนีการโจมตีนี้ได้อย่างไร
แต่กระนั้นคำพูดของเขาก็ช้าเกินไป
พวกเขาได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังถี่ราวประทัด ตามมาด้วยการระเบิดตูมตามทั่วทั้งป่าเขา!
พื้นหิมะหนารอบทหารเทพยนต์โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงใส่จนแตกระจุยกระจาย ชิ่งเจิ่นไม่คิดจะปล่อยให้พวกเขามีโอกาสได้เข้าใกล้
ทหารเทพยนต์เคลื่อนไหวในป่าเขาด้วยความเร็วสูง ทหารบางนายถึงกับหลบกระสุนปืนใหญ่ได้ ทั้งยังพ้นจากระยะสังหารของปืนใหญ่วิถีโค้ง[1]ไปแล้ว!
แต่ปืนใหญ่วิถีโค้งมีมากเกินไป ยิงไปเพียงหนึ่งรอบ ทหารเทพยนต์ไม่บาดเจ็บก็ล้มตายไปเกินครึ่ง! ต่อให้พวกเขามีนาโนแมชชีน ก็ใช่ว่าต้านรับกระสุนปืนใหญ่ได้
ตอนที่ลูกกระสุนปืนใหญ่ขนาด 120 มิลลิเมตรที่บรรจุทีเอ็นที[2]น้ำหนัก 3.5 กิโลกรัมแล่นออกจากปากกระบอกปืนใหญ่วิถีโค้ง ชั่วพริบตาที่มันตกลง ก็ทำลายล้างทุกสรรพชีวิตในรัศมีสี่เมตร!
ยิ่งไปกว่านั้นทหารเทพยนต์ในรัศมียี่สิบห้าเมตรรอบจุดตกจะโดนคลื่นระเบิดขนาดใหญ่และเศษกระสุนปืนอัดใส่ ทำให้รอบบริเวณกลายเป็นทุ่งสังหาร!
เทพเจ้าหาได้เคยประทานอาวุธแก่มวลมนุษย์ แต่มนุษย์ก็ยังหลอมดาบสังหารเทพออกมาได้
โชคดีที่พันตรีกองพันเทพยนต์ยังไม่ตายจากการระดมยิง แต่เขาก็รู้สึกสิ้นหวังแล้ว ไม่ว่าพวกเขาจะฝึกมาดีแค่ไหน ก็ไม่อาจเทียบกับการเตรียมตัวของสมาคมตระกูลชิ่งในสนามรบนี้ได้ แต่พันตรีกองพันเทพยนต์ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมสมาคมตระกูลชิ่งมารอซุ่มโจมตีอยู่ที่นี่ได้
พวกเขาระวังตัวทุกฝีก้าว พอสงครามเริ่มก็ออกเดินทางไปแนวหน้าที่สมาคมตระกูลหยาง ก่อนจะลอบเดินทางกลับมาที่นี่ พวกเขาถึงกับสลับเครื่องแบบและรถยนต์กับกองกำลังส่วนตัวด้วยซ้ำ
หลังจากแลกเปลี่ยนตัวตนแล้ว พวกเขาก็ไม่ไปหากองกำลังพันธมิตรที่ไหนเลย แต่สุดท้ายหายนะก็ยังตกใส่อยู่ดี
พอเห็นว่ารอบๆ มีทหารน้อยลงเรื่อยๆ พันตรีเทพยนต์ก็รู้ทันทีว่าพวกตนจบสิ้นแล้ว แม้จะมีสถานะคนตระกูลหลี่ แต่ถ้าแพ้สงครามก็ไม่อาจทำให้เขาพ้นโทษได้อยู่ดี
ตอนนี้ชิ่งเจิ่นที่ยืนอยู่หน้าแนวป้องกันของสมาคมตระกูลชิ่งกำลังมองไปยังทิศของกองพันเทพยนต์ด้วยสายตาสงบนิ่ง เขายกมือ “เอาล่ะ หยุดยิงได้”
ทหารรอบกายเขาไม่ถามว่าทำไม ในช่วงเวลาแบบนี้ ชนะแล้วพวกเขาควรไล่ล่าสังหารศัตรูมากกว่า
แถมชิ่งเจิ่นยังสั่งให้เปลี่ยนจากกระสุน 152 มิลลิเมตร เป็น 120 มิลลิเมตรเป็นพิเศษ ไม่ว่าพวกเขาจะมองอย่างไร ก็เหมือนว่าชิ่งเจิ่นกำลังแสดงความเมตตาต่อศัตรูอยู่ ทว่าทหารภายใต้การบังคับบัญชาไม่คิดสงสัยต่อการตัดสินใจของเขา
ไม่มีใครรู้ว่าชิงเจิ่งทราบได้อย่างไรว่ากองพันเทพยนต์จะมาที่นี่ หรือว่าสายลับที่ชิ่งเจิ่นวางไว้ไต่ไปถึงระดับสูงของสมาคมตระกูลหลี่แล้ว? เขาถึงกับรู้ว่าที่อยู่ของกองพันเทพยนต์อันแสนลึกลับได้ด้วย? นี่มันน่าพรั่นพรึงเกินไปแล้ว!
ทันใดนั้นชิ่งเจิ่นก็หัวเราะ “ฉันคิดว่าสมาคมตระกูลหลี่ไม่ได้สู้รบมานานเกินไปแล้วแล้ว ไม่รู้จักใช้งานอาวุธชั้นเยี่ยมในมือด้วยซ้ำ ต่อให้จั่วได้ไพ่ดีแค่ไหน อยู่ในมือพวกเขาก็ไร้ประโยชน์อยู่ดี”
[1] ปืนใหญ่วิถีโค้ง (Howitzer) คือปืนใหญ่ซึ่งออกแบบมาให้ยิงกระสุนด้วยมุมตกกระทบที่สูง (มุมยิง 45 องศาขึ้นไป))
[2] ทีเอ็นที (TNT; Trinitrotoluene) หรือ ไตรไนโตรโทลูอีน เป็นวัตถุระเบิดประเภทหนึ่ง