the first order สู่รุ่งอรุณเเห่งมวลมนุษย์ - ตอนที่ 257 ตามหาสายลับในสามวัน
ทหารสมาคมตระกูลชิ่งกำลังฮึกเหิมกับการเพิ่งชนะกองพันเทพยนต์ในตำนานได้ แต่การซุ่มโจมตีในครั้งนี้ทำให้ชิ่งเจิ่นบรรลุทันทีว่าทหารนาโนแมชชีนไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น ถ้าไม่ใช่ว่าพวกเขาได้ข่าวกรองมาทันเวลา สมาคมตระกูลหลี่ต้องสร้างปัญหาใหญ่ให้พวกตนได้แน่
ชิ่งเจิ่นไม่ดูหมิ่นทหารนาโนแมชชีนแห่งกองพันเทพยนต์ ทั้งให้น้ำหนักกับพวกเขาอย่างมาก
คนสนิทของชิ่งเจิ่นที่อยู่ด้านข้างถาม “ท่านหมายความว่าทหารนาโนแมชชีนไม่ควรถูกส่งมาในรูปแบบนี้เหรอครับ”
ชิ่งเจิ่นว่า “ถ้าฉันเป็นคนสั่งการทหารนาโนแมชชีนพวกนั้น ฉันคงสั่งให้แยกเป็นหน่วยย่อยแทรกซึมตามป่าเขาแล้ว ใช้แค่ข่าวกรองจากสายลับในสมาคมตระกูลหลี่ ก็ปฏิบัติการบั่นเศียร[1]แบบสบายๆ ได้แล้ว”
คนสนิทเขาพยักหน้า “แบบนี้นี่เอง ท่านฉลาดจริงๆ…”
ชิ่งเจิ่นมองเขาด้วยสายตาเรียบนิ่ง “ฉันไม่ได้พูดแบบนี้เพื่อให้นายฉอเลาะฉันซะหน่อย ต้องการให้วางคนคุ้มกันฉันเพิ่มต่างหาก”
“เอ๋?” คนสนิทเขาผงะ ไม่เข้าใจว่าชิ่งเจิ่นกำลังพูดอะไรอยู่
ชิ่งเจิ่นถอนหายใจ “ทหารนาโนแมชชีนของสมาคมตระกูลหยางคงใกล้มาถึงแล้ว พวกเขาฉลาดกว่าพวกสมาคมตระกูลหลี่มาก พวกเราต้องเพิ่มการป้องกันของเราทันที”
จากนั้นชิ่งเจิ่นก็มองไปยังพื้นหิมะที่เป็นหลุมบ่อเพราะกระสุนปืนใหญ่ พร้อมรำพึงรำพัน “ทำไมเขาอยู่ทุกที่เลยล่ะเนี่ย”
ทหารรอบตัวเขางงหนักกว่าเดิม เขาที่ว่าคือใคร?
…
บรรยากาศศูนย์บัญชาการของสมาคมตระกูลหลี่ตอนนี้กำลังเคร่งเครียดอย่างมาก นายพลวัยกลางคนที่นั่งอยู่ปลายโต๊ะยาวมีสีหน้าบูดบึ้งอึมครึม ถึงที่นั่งจะเต็มหมดแล้ว แต่ก็ไม่มีใครเอ่ยอะไร
“กองพันเทพยนต์เสียหายหนัก” นายพลวัยกลางคนว่า “ฉันอยากรู้แค่ว่าทำไมสมาคมตระกูลชิ่งถึงรู้ข้อมูลปฏิบัติการของกองพันเทพยนต์ได้”
กระนั้นก็ยังไม่ใครปริปาก
ที่จริงแทบทุกคนก็กำลังสงสัยเรื่องนี้ กองพันเทพยนต์ต้องรายงานเรื่องอย่างแผนการสู้รบและสถานที่อยู่ปัจจุบันต่อศูนย์บัญชาการทุกวัน ทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่น แต่พอเข้าใกล้เขตแดนของสมาคมตระกูลชิ่งก็ประสบหายนะอยู่ดี
จากที่นายทหารกองพันเทพยนต์รายงานมา สมาคมตระกูลชิ่งนั้นรู้ว่ากองพันเทพยนต์กำลังมุ่งหน้าไปทางไหนอย่างแน่นอน ถึงได้ตั้งจุดซุ่มโจมตีล่วงหน้าได้ ไม่อย่างนั้นพวกเขาคงไม่อาจจัดการกองพันเทพยนต์จนเสียหายหนักได้มากขนาดนี้
สมาคมตระกูลหลี่ทำตัวเป็นเสือซ่อนเล็บมานาน สงครามจู่ๆ ก็ปะทุขึ้นมา ทุกคนต่างตั้งหน้าตารอดูอำนาจแห่งกองพันเทพยนต์ ทว่าการสู้รบยังไม่เริ่มต้น กองพันเทพยนต์ก็เกือบละลายสิ้นแล้ว
ทำไมกัน มันผิดพลาดตรงไหนกัน!
นายพลวัยกลางคนเสมองหูชัวที่อยู่ซ้ายมือเขา “ต้องมีสายลับคาบข่าวออกไปแน่ ในฐานะผู้อำนวยการกองสืบสวนพิเศษ กลับไม่สามารถตามจับสายลับได้ทันการ นายต้องเป็นผู้รับผิดชอบหลัก แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาลงโทษ เพื่อชดเชยความผิด การทำงานของกองสืบสวนพิเศษต้องจัดระเบียบใหม่”
หูชัวมองโต๊ะตรงหน้าด้วยความสงบนิ่ง พูดตามตรง เขาเองก็งงงวยมากเช่นกัน…
ถึงเขาที่อยู่สมาคมตระกูลหลี่จะมีจุดประสงค์เป็นอื่น แต่กองสืบสวนพิเศษก็ทำงานอย่างปกติมาตลอด สงครามจารกรรมเป็นองค์ประกอบสำคัญที่สุดในช่วงสงคราม บางครั้งการมีข่าวสารที่ถูกต้องก็สามารถเปลี่ยนผลสงครามได้เลย
ถึงหูชัวจะทำตามหน้าที่ตามจับสาบลับมาได้ไม่น้อย แต่ก็ยังปล่อยไว้บางส่วนเตรียมการสำหรับแผนในอนาคต ทว่าการปล่อยทิ้งไว้ไม่ได้หมายถึงว่าไม่สนใจเลย สายลับที่ระบุตัวได้แล้วจะถูกกองสืบสวนพิเศษจับตามอง และถูกจัดสรรไว้ใช้งานสืบไป ทว่าไม่มีสายลับคนไหนเลยที่ได้รับข้อมูลลับของกองพันเทพยนต์
ทันใดนั้นก็มีคนพูด “กองกำลังส่วนตัวที่แลกเปลี่ยนเครื่องแบบและรถยนต์กับกองพันเทพยนต์ยังไม่ถึงจุดยุทธศาสตร์ที่วางไว้ คาดว่าเหตุการณ์นี้ต้องเกี่ยวพันกับพวกเขาแน่”
นายพลวัยกลางคนขมวดคิ้ว “ทำไมไม่มีใครรายงานเรื่องสำคัญแบบนี้ตั้งแต่แรก”
“เดิมที่นายทหารเทพยนต์ที่ได้รับมอบหมายให้เดินทางกับพวกเขาจะรายงานที่อยู่มาทุกวัน แต่จู่ๆ เมื่อวานก็ขาดการติดต่อไป” นายทหารคนหนึ่งว่า
“ระบุพิกัดที่อยู่ทหารกองกำลังส่วนตัวกลุ่มนี้ให้ได้ภายในสามวัน!” นายพลวัยกลางคนกล่าว
“ครับท่าน!” นายทหารผู้นั้นตอบ
นายพลวัยกลางคนพูด “เลิกประชุม ต้องวางยุทธศาสตร์ให้ไวที่สุด อีกไม่นานข่าวการพ่ายแพ้อย่างหนักของกองพันเทพยนต์ต้องไปถึงหูสมาคมตระกูลหยางแน่ พวกเราต้องเตรียมรับมือการโต้กลับจากสมาคมตระกูลชิ่งและหยาง นายพลหู อยู่รอก่อน”
หลังจากทุกคนแยกย้ายไป เหลือเพียงหูชัวที่ยังอยู่ นายพลวัยกลางคนเอ่ย “ข้อมูลปฏิบัติการกองพันเทพยนต์ที่หลุดออกไปสำคัญมาก สายลับผู้นี้น่าจะเป็นบุคคลระดับสูงในสมาคม ฉันให้เวลานายสามวันหาว่ามันเป็นใคร!”
หูชัวเงยหน้าแล้วว่า “ได้”
นายพลวัยกลางคนไม่ได้พูดเรื่องนี้แต่แรกเพราะเขาคิดว่าคงมีสายลับอยู่ในที่ประชุม และเหตุผลที่เขาไม่ลงโทษหูชัวนั้นเป็นเพราะประการแรกเขาคือผู้อำนวยการกองสืบสวนพิเศษ ทำงานให้สมาคมตระกูลหลี่มาหลายสิบปีโดยมีข้อผิดพลาดนับนิ้วได้ มีผลงานมากมาย ทั้งยังทำงานเพื่อสมาคมอย่างหนัก ประการที่สอง สงครามนี้ต้องการตัวหูชัว ถ้าพวกเขาเปลี่ยนตัวผู้อำนวยการกองสืบสวนกะทันหันล่ะก็ เกรงว่าหลังจากนั้นจะเกิดเรื่องวุ่นวายครั้งใหญ่
แต่นายพลวัยกลางคนผู้นี้คงไม่รู้เลยว่า ปัญหานั้นก็มาจากตัวหูชัวเองนั่นแหละ
…
สองวันให้หลัง เริ่นเสี่ยวซู่ตัวการผู้ที่ทำให้กองพันเทพยนต์พ่ายแพ่กำลังซ่อนตัวรอซุ่มโจมตีอยู่ใต้พื้นหิมะแห่งหนึ่ง ข้างๆ เขาเป็นถนนดินที่สมาคมตระกูลหลี่ปูไว้ก่อนสงครามปะทุขึ้น
หลังจากชิ่งเจิ่นขับไล่กองพันเทพยนต์ไป นอกจากจะแจ้งข่าวชัยชนะให้ถังโจวแล้ว ยังบอกด้วยว่ากองพันเทพยนต์ถอยไปทางไหน
เริ่นเสี่ยวซู่ใช้ข้อมูลนั้นเป็นฐาน และอนุมานว่ากองพันเทพยนต์น่าจะใช้ถนนตรงหน้าเขาเส้นนี้
กองพันเทพยนต์เสียหายอย่างหนัก พวกเขาต้องถอยไปจัดทัพใหม่ในฐานปฏิบัติการหน้าข้างหลังพวกเขา และนั่นจะเป็นโอกาสของเริ่นเสี่ยวซู่
เขาไม่ได้รวมถังโจวไว้ในแผนด้วย ด้านหนึ่งฝั่งถังโจวมีคนมากเกินไป ง่ายต่อการเปิดเผยตัว อีกด้านหนึ่งคือเริ่นเสี่ยวซู่ไม่อยากให้ถังโจวรู้ว่าตนเองจะลงมืออย่างไรและให้ไว้ชีวิตกองพันเทพยนต์ส่วนหนึ่งทำไม
เริ่นเสี่ยวซู่ไล่แผนการในหัว ตอนนี้สภาพกองพันเทพยนต์น่าอดสู ไพ่ลับที่เขามีก็น่าจะพอรับมือกับทหารแตกพ่ายอยู่หรอกมั้ง
ทันใดนั้นเองเริ่นเสี่ยวซู่ก็ได้ยินเสียงเท้าย่ำหิมะมาทำเขาตื่นเต้นไปหมด พวกเขามาแล้ว!
เริ่นเสี่ยวซู่ที่ซ่อนตัวอยู่ในหิมะข้างถนนแทบหยุดลมหายใจ
ขอเจาะรูเล็กๆ ไว้สังเกตการณ์โลกภายนอก แต่พอเริ่นเสี่ยวซู่เห็นทหารกองพันเทพยนต์ปุ๊บ ก็ตะลึงตาแตกปั๊บ!
เขาเห็นทหารกองพันเทพยนต์สองนายเดินกะเผลกมายังจุดที่เขาซุ่มตัวอยู่ เริ่นเสี่ยวซู่เห็นภาพนี้แล้วก็รู้สึกไม่สู้ดี เขาขอให้ชิ่งเจิ่งเหลือกองพันเทพยนต์ไว้บ้าง แต่สุดท้ายกับเหลือไว้ให้เขาแค่สองนายเนี่ยนะ
เริ่นเสี่ยวซู่สับสนงุนงงอยู่บ้าง ไม่เหลือทหารนายเดียวไปเลยล่ะ ตั้งใจจะแกล้งเขาเล่นหรือไงกัน
เอ๋…
เริ่นเสี่ยวซู่นอนในหิมะมาสองวันแล้ว มีคนบนโลกไม่มากที่ใจเด็ดได้เท่านี้ แต่เริ่นเสี่ยวซู่ก็รู้ดีว่าสองวันนี้เขากำลังรออะไรอยู่
ไม่สิ แบบนี้ไม่ถูก เริ่นเสี่ยวซู่คิดว่าต้องมีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นแน่ ชิ่งเจิ่นไม่มีทางปล่อยให้ทหารเทพยนต์รอดแค่สองนายหรอก
[1] ปฏิบัติการบั่นเศียร หรือ Decapitation strike คือปฏิบัติการทางทหารแบบหนึ่งที่จะเน้นไปที่การจัดการผู้นำหรือกลุ่มผู้นำเพื่อปั่นป่วนและทำลายอำนาจสั่งการของฝ่ายศัตรู