the first order สู่รุ่งอรุณเเห่งมวลมนุษย์ - ตอนที่ 327 เหยียนลิ่วหยวนผู้พิเศษ
เมื่อก่อน ตอนที่เริ่นเสี่ยวซู่จะคัดลอกทักษะ มันจะมีระดับดังนี้ เริ่มต้น กลาง สูง ปรมาจารย์ และไร้ที่ติ
คัมภีร์คัดลอกทักษะขั้นพื้นฐานสามารถเรียนทักษะได้ถึงระดับสูง ดังนั้นต่อให้หยางเสียวจิ่นมีทักษะการใช้ปืนอยู่ที่ระดับไร้ที่ติ เขาก็เรียนรู้มาได้ถึงระดับสูงเท่านั้น ทั้งนี้คัมภีร์ยังไม่สามารถคัดลอกพลังพิเศษได้ด้วย
ถ้าเขาอยากเพิ่มระดับทักษะ ก็ต้องใช้คัมภีร์คัดลอกทักษะขั้นไร้ที่ติหลังทักษะการใช้ปืนเขาอยู่ระดับสูงแล้ว
ขณะเดียวกันคัมภีร์คัดลอกทักษะขั้นไร้ที่ติสามารถทำให้ผู้ใช้งานสุ่มคัดลอกทักษะระดับปรมาจารย์หรือพลังพิเศษมาจากเป้าหมาย ถ้าไม่ใช่ว่าเขาเคยคัดลอกทักษะการใช้ปืนระดับสูงมาจากหยางเสียวจิ่นก่อนหน้านี้ คัมภีร์คัดลอกทักษะขั้นไร้ที่ตินี่คงเสียเปล่า
แต่ก็ใช่ว่าคัมภีร์คัดลอกทักษะขั้นไร้ที่ติจะไม่มีความเสี่ยงเลย ทว่าพระราชวังได้ให้ตัวเลือกที่ง่ายกว่าเดิมมา ถ้าใช้มันคู่กับคัมภีร์ขั้นพื้นฐาน คัมภีร์คัดลอกทักษะขั้นไร้ที่ติก็สามารถทำให้เขาเรียนรู้ทักษะหนึ่งได้ในรวดเดียว
ตอนนี้เริ่นเสี่ยวซู่ทำภารกิจจนได้คัมภีร์คัดลอกทักษะขั้นไร้ที่ติมา เขาย่อมต้องเอาไปใช้เรียนพลังพิเศษอยู่แล้ว ดังนั้นเอาไปใช้กับคนที่มีพลังพิเศษจะเป็นการดีกว่า
แต่หลังคิดอยู่นาน ก็ไม่เห็นเลยว่าจะมีคนรอบกายคนไหนให้คัดลอกพลัง
ไม่สิ เขาคัดลอกพลังจากเหยียนลิ่วหยวนเอาก็ได้!
คนเห็นแก่ตัวอย่างเขาไม่ใยดีกับพลังขอพรหรอก แต่ถ้าได้ทักษะบงการคำสาปมาแทน เขาสามารถเอาใช้เล่นได้แน่นอน อีกอย่างดูเหมือนเหยียนลิ่วหยวนยังมีทักษะระดับปรมาจารย์อะไรด้วย แบบนี้พระราชวังน่าจะคัดลอกพลังพิเศษมาให้เขาแบบตรงๆ เลย!
คิดแล้วเริ่นเสี่ยวซู่ก็วิ่งกลับบ้านอย่างตื่นเต้น ไม่แวบไปบ้านของลู่หย่วนด้วยซ้ำ
ปล่อยให้อันอวี้เฉียนและโจวอิ๋งเสวียยืนงงอยู่อย่างนั้น
เริ่นเสี่ยวซู่กลับบ้านมาแล้วก็เรียกเหยียนลิ่วหยวน เขากล่าวกับพระราชทันที “ใช้คัมภีร์คัดลอกทักษะขั้นไร้ที่ติ”
แต่ว่าเรื่องราวไม่เป็นไปอย่างที่เริ่นเสี่ยวซู่คาดการณ์ พระราชวังตอบมา [ไม่สามารถใช้คัมภีร์คัดลอกทักษะขั้นไร้ที่ติกับเป้าหมาย]
ทำเอาเริ่นเสี่ยวซู่นิ่งอึ้ง ไม่คิดเลยว่าจะเป็นแบบนี้
ตั้งแต่ใช้คัมภีร์คัดลอกทักษะมาไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน อีกอย่างดูจากคำตอบของพระราชวัง แม้กระทั่งคัมภีร์คัดลอกทักษะขั้นพื้นฐานก็คงใช้กับเหยียนลิ่วหยวนไม่ได้เหมือนกัน
เริ่นเสี่ยวซู่สำรวจมองเหยียนลิ่วหยวน ทำไมเหยียนลิ่วหยวนถึงเป็นข้อยกเว้นของพระราชวังกันล่ะ อย่างไรเสียพระราชวังก็มีพลังที่สามารถรีเซ็ตนาโนแมชชีนได้เลยนะ
เหยียนลิ่วหยวนไม่ได้เป็นผู้อพยพ หรือก็คือเริ่นเสี่ยวซู่เองก็ไม่มั่นใจว่าเหยียนลิ่วหยวนเคยเป็นผู้อพยพมาก่อนหรือเปล่า เป็นเพราะว่าเขา…เป็นคนเก็บเหยียนลิ่วหยวนมาจากในแดนรกร้าง
ในฤดูหนาวปีนั้น เขาเจอเหยียนลิ่วหยวนนอนไม่ได้สติอยู่ในแดนรกร้าง เดิมที่เริ่นเสี่ยวซู่กะจะปล่อยเหยียนลิ่วหยวนไว้โดยไม่ใยดี ทว่าพอผ่านไประยะหนึ่งก็เกิดไม่สบายใจขึ้นมาเลยเข้าไปพาเหยียนลิ่วหยวนกลับเมืองน้อย ตอนนั้นเขาเอาเหยียนลิ่วหยวนแบกหลังและเดินถามคนมากมายว่าเด็กผู้นี้เป็นลูกใครหรือเปล่า แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่มีใครตอบอะไรได้
เหยียนลิ่วหยวนที่ได้สติกลับมาจำอะไรก่อนหน้านี้ไม่ได้เลย และเริ่มเรียกเริ่นเสี่ยนซู่ว่าพี่ชาย เป็นตอนนั้นเองที่เริ่นเสี่ยวซู่เกิดสะเทือนอารมณ์ขึ้นมา เป็นเพราะเขาไม่เคยมีครอบครัวมาก่อน
แต่เริ่นเสี่ยวซู่เป็นคนอำมหิต ตอนนั้นแม้กระทั่งตัวเองยังเอาตัวไม่รอด จะไปมีหน้าช่วยผู้อื่นได้อย่างไร เขาคิดจะว่าหลังเหยียนลิ่วหยวนได้สติมาแล้วก็จะไล่ตะเพิดออกไป
ทว่าเหยียนลิ่วหยวนร้องไห้อยู่นอกกระท่อมเขาทั้งวัน ตอนนั้นเริ่นเสี่ยวซู่ทำใจแข็งอีกครั้งและถาม “ไปร้องไห้หน้าบ้านคนอื่นไม่ได้เหรอไง ฉันช่วยนายไม่ได้หรอกนะ!”
เหยียนลิ่วหยวนตอบมาด้วยความงงงวย “แต่พี่เป็นพี่ผม”
เป็นครั้งแรกที่หัวใจของเริ่นเสี่ยวซู่อ่อนยวบ “ถ้าอยากเอาตัวรอดในแดนรกร้าง อย่างน้อยต้องมีทักษะสักอย่าง บอกมาว่าจะช่วยอะไรฉันได้บ้าง”
ที่จริงเริ่นเสี่ยวซู่ตั้งใจจะหาข้ออ้างให้ตัวเองเฉยๆ ถ้าเจ้าเด็กตรงหน้าสามารถช่วยเขาได้นิดหน่อย แค่งานเล็กๆ น้อยๆ เขาก็จะกัดฟันรับเหยียนลิ่วหยวนไว้
แต่เหยียนลิ่วหยวนร้องให้อยู่นานโดยบอกไม่ได้ว่าตัวเองมีทักษะอะไร พูดเพียงแค่ว่าตัวเองขอพรได้
ตอนแรกเริ่นเสี่ยวซู่ก็ไม่เชื่อ มีทักษะพิเศษแบบนี้เหมือนไม่มีอะไรนั้นแหละ จะขอพรเขาก็ขอได้ แค่มันไม่ประสิทธิ์ผลเฉยๆ!
แต่หลังจากทดสอบกับเหยียนลิ่วหยวนสองรอบ เริ่นเสี่ยวซู่ก็ตระหนักว่าสิ่งที่เหยียนลิ่วหยวนพูดเป็นความจริง!
ตลอดหลายปีมานี้เริ่นเสี่ยวซู่ไม่สนใจจะตรวจสอบอะไรเหยียนลิ่วหยวนเลย แต่แน่ล่ะวันเวลาแบบนั้นจะเอาเวลาไหนไปสนใจกันล่ะ
แต่ตอนนี้แม้กระทั่งพระราชวังก็คัดลอกทักษะของเหยียนลิ่วหยวนไม่ได้ นี่ทำให้เริ่นเสี่ยวซู่ตกอยู่ในภวังค์ไป ทำไมเหยียนลิ่วหยวนถึงออกมาอยู่ในแดนรกร้างคนเดียวล่ะ เพราะถูกพ่อแม่ทอดทิ้ง?
คิดดูดีๆ แล้ว พลังประทานพรบงการคำสาปของเหยียนลิ่วหยวนราวกับเป็นพลังที่มีแต่เหล่าทวยเทพครอบครอง
มนุษย์อยากเป็นเทพเพราะมีแต่เทพที่สามารถได้ของตามปรารถนา
เหยียนลิ่วหยวนมองเริ่นเสี่ยวซู่ตาปริบๆ อยู่พักใหญ่ “พี่ เป็นอะไรหรือเปล่า”
เริ่นเสี่ยวซู่หยิกแก้มเหยียนลิ่วหยวนยกใหญ่และหัวเราะ “เจ้าเด็กนี่เป็นใครมาจากไหนกันนะ”
เหยียนลิ่วหยวนโดยหยิกแก้มจนพูดไม่เป็นเสียง “ถ้าทำกับผมแบบนี้ผมไม่ปล่อยพี่ไว้แน่”
เริ่นเสี่ยวซู่หัวเราะฮาๆ “โตแล้วสินะ”
ทันใดนันก็มีเสียงดังตู้มมาจากลานข้างบ้าน ตามมาด้วยเสียงคนร้องโอดโอย เริ่นเสี่ยวซู่ขมวดคิ้ว “อะไรกันล่ะนั่น!”
จากนั้นก็มีเสียงคุ้นหูดังมา “มือลอบสังหารหกคน! ถูกยิงล้มไปสอง!” เป็นหนึ่งในเสียงคนของหลัวหลาน
เขาสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นเลยกระโดดขึ้นไปบนกำแพงบ้าน เขาเห็นมือลอบสังหารหกนายในชุดดำเข้าถือปืนที่มีกระบอกเก็บเสียงเข้าลานบ้านหลัวหลาน
มือลอบสังหารสองนายโดนคนของหลัวหลายยิงจนเสียชีวิตไปแล้ว คนของหลัวหลานคนอื่นซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ในสวนโดยไม่อาจออกมาได้เพราะโดนศัตรูยิงกดไว้
ขณะเดียวกันหลัวหลานกับคนของเขาอีกนายนั้นติดอยู่ในบ้าน พวกเขาพยายามรุดตัวออกมาแต่โดนมือลอบสังหารยิงใส่ปรามไว้
เริ่นเสี่ยวซู่เห็นแล้วก็อนุมานได้ทันทีว่าคนพวกนี้มาลอบสังหารหลัวหลาน แต่คงไม่คิดว่าหลัวหลานจะไม่ลดความระมัดระวังและส่งคนลาดตระเวนในสวนแม้จะถูกคุมขังในบ้านอยู่ พวกเขาถูกลูกน้องของหลัวหลานซึ่งมีปืนเก็บเสียงเหมือนกันยิงตายจากในเงามืด
เริ่นเสี่ยวซู่ถอนหายใจ เจ้าอ้วนจองหองที่มีชีวิตอยู่ถึงทุกวันนี้ได้ไม่ใช่เพราะโชคช่วย
เขากระโดดเข้าไป คนที่มาลอบสังหารหลัวหลานไม่คิดว่าคนจากบ้านข้างๆ จะกระโดดมา พวกเขาหันปืนไปหาเริ่นเสี่ยวซู่ทันที แต่ทว่าก็สายไปแล้ว
พวกมือสังหารเห็นเพียงแต่ร่างเงาเลือนรางของเริ่นเสี่ยวซู่กระโจนเข้าหา
เริ่นเสี่ยวซู่ยึดปืนมาจากมือสังหารคนหนึ่ง จากนั้นก็คว้าหลังคอมือสังหารใช้ต่างโล่ เพียงยิงปืนอีกสามนัดก็ปลิดชีพมือสังหารสามคนที่เหลือในลานบ้านไป ขณะเดียวกันมือสังหารที่เขาคว้าไว้ใช้ต่างโล่มนุษย์นั้นหวาดผวาดั่งลูกไก่ หมดความคิดจะดิ้นรนขัดขืน เริ่นเสี่ยวซู่ตั้งใจปล่อยรอดไว้หนึ่งคนให้หลัวหลานสอบสวน แต่ก่อนที่เขาจะได้ทันเรียกหลัวหลานออกมา คนผู้นี้ก็กลืนยาพิษฆ่าตัวตายไปแล้ว
เริ่นเสี่ยวซู่ขมวดคิ้ว โยนร่างเขาลงกับพื้น ได้แต่มองดูฟองน้ำลายพ่นออกมาจากปากของฝ่ายตรงข้าม เป็นครั้งแรกเลยที่เขาได้เห็น ‘ทหารเดนตาย’ กับตา
“ออกมาได้แล้วเจ้าอ้วน พวกเขาตายหมดแล้ว” เริ่นเสี่ยวซู่ตะโกนเข้าไปในบ้าน