the first order สู่รุ่งอรุณเเห่งมวลมนุษย์ - ตอนที่ 361 พวกเรามีสาย
การสร ้างสิ่งก่อสร ้างใหม่หลังการสู้รบเป็ นงานน่าเหนื่อยหน่าย มาก เพราะต้องไปจัดการขนซากบ้านเรือนออกก่อนถึงจะสร ้างโครง อะไรใหม่ได้ ต้องประสบกับความเจ็บปวดก่อนถึงจะได้รับชีวิตใหม่
เริ่นเสี่ยวซู่เป็ นคนนาการฝังสหายผู้เสียชีวิต เดิมทีเขาตั้งใจจะทา ป้ ายจารึก แต่ให้หลังก็พบว่าโจรบางคนไม่มีชื่อด้วยซ้า
ถ้าเริ่นเสี่ยวซู่ไม่ตั้งนิคมนี้ขึ้นมา หลังตายไปแล้วคนพวกนี้ก็คง ถูกลืมเลือนไปเลย
เขาหยิบปากกาและสมุดจดออกมาจากช่องเก็บของยื่นให้หยาง เสียวจิ่น “บันทึกชื่อของคนที่ยังมีชีวิตอยู่ นี่จะเป็ นบัญชีรายชื่อทหาร ของพวกเราในอนาคต”
อย่างแรกที่ควรมีสาหรับทหารประจาการคือบัญชีรายชื่อทหาร มันหมายความว่าทุกคนควรได้รับการบันทึกชื่อ และคนควรจะถูก จดจ าได้
แต่พอหยางเสียวจิ่นเริ่มไปบันทึกรายชื่อนั้นก็ตกอยู่ในภาวะกลืน ไม่เข้าคายไม่ออก เจ้าโจรพวกนี้ไม่ได้บอกชื่อจริงเธอ แต่บอกชื่อเล่น แทนอย่าง เจ้าหนู เจ้ากา เจ้าบ่อโคลน เจ้าไข่เน่า…
ฟังแค่ชื่อก็รู ้แล้วว่าไม่ใช่ตัวดี!
หยางเสียวจิ่นพูดอย่างใจเย็น “บัญชีรายชื่อทหารนี้จะบันทึก เฉพาะชื่อจริง แล้วก็นะ ชื่อเล่นพวกนายมัน…”
จินเหลียนหัวเราะหึหึและว่า “พี่สะใภ้ พี่น่าจะปล่อยให้ทุกคนใช ้ ชื่อเล่นไปนะ ต่อให้พี่เรียกชื่อจริงทุกคนไป ก็ใช่ว่าพวกเขาจะตอบรับ พวกเราเป็ นโจรกันหมด ดังนั้นควรเรียกชื่อฉายากันสิ”
หยางเสียวจิ่นคิดอยู่พักหนึ่งและยิ้มว่า “อืม!”
แต่ตอนนี้เองสู่จินหยวนที่ทาหน้าที่นาการเก็บซากปรักหักพังก็ เดินเข้ามาหาเริ่นเสี่ยวซู่ “พี่ใหญ่ พวกเราเจออะไรบางอย่าง”
เริ่นเสี่ยวซู่มองของในมือสู่จินหยวน เป็ นโทรศัพท์ดาวเทียม! เขา เห็นโทรศัพท์ดาวเทียมพังไปแล้วก็ถามสู่จินหยวนด้วยความสงสัยว่า “ไปเจอที่ไหน”
“ซ่อนอยู่ใต้ที่เตียงของซากบ้านอิฐหลังหนึ่ง” สู่จินหยวนว่า “ใน บ้านหลังนั้นมีคนนอนยี่สิบคน ฉันจาได้ว่าที่นอนนี้เป็ นของเหล่า เตียว”
“เหล่าเตียวไปไหนแล้ว” เริ่นเสี่ยวซู่ “พาเขามา ฉันมีเรื่องจะถาม เขา”
“เขาตายแล้ว” สู่จินหยวนว่า “ฉันถึงมาลอบมาขอคาชี้แนะจากพี่ ใหญ่”
เริ่นเสี่ยวซู่ขมวดคิ้วมุ่น โทรศัพท์ดาวเทียมไม่ใช่ของที่โจรจะมีได้ แน่ๆ เจ้าของโทรศัพท์ดาวเทียมคงใช ้มันรายงานไปยังสมาคม
แต่เขายังสงสัยอยู่ว่าเป็ นโทรศัพท์ดาวเทียมของสมาคมไหน
สมาคมตระกูลชิ่ง? หรือว่าสมาคมตระกูลจงกัน?
อะไรก็เป็ นไปได้หมด
ทั้งสองสมาคมจับตาหุบเขามานานแล้ว ดังนั้นอาจจะมีสายลับ แฝงตัวอยู่จานวนหนึ่ง
“อย่าเพิ่งพูดเรื่องนี้ออกไป ถ้านี่ไม่ใช่ของพี่น้องเหล่าเตียวขึ้น มาแล้วเรื่องไปเข้าหูคนอื่น ตายไปแล้วไม่พอ ชื่อเสียงเขาก็จะพังย่อย ยับไปด้วย” เริ่นเสี่ยวซู่ว่า “โทรศัพท์ดาวเทียมนี้อาจจะเป็ นของคนอื่น ก็ได้”
เริ่นเสี่ยวซู่ถึงกับระแวงด้วยซ้าว่านี้เป็ นโทรศัพท์ของสู่จินหยวน เอง ตอนอยู่ป้ อมปราการ 88 เขาอ่านนิยายสืบสวนที่บอกว่าสี่สิบ เปอร ์เซ็นต์ของพยานและผู้ค้นพบการฆาตกรรมนั้นกลายเป็ นฆาตกร ตัวจริง
แต่เริ่นเสี่ยวซู่ไม่พูดถึงเรื่องนี้และปล่อยให้สู่จินหยวนทางานต่อ
หยางเสียวจิ่นเดินมาหาและถาม “มีอะไร”
“เกรงว่าพวกเราจะอยู่ต่อไม่ได้แล้ว” เริ่นเสี่ยวซู่พูด “หลังจาก พวกเราไปพาพวกเหยียนลิ่วหยวนมาก็จะขึ้นตะวันตกเฉียงเหนือหา
จุดๆ ลับๆ ตั้งรกรากกันอีกครั้ง การดาเนินการของที่นี่น่าจะหลุด ออกไปแล้ว ถ้าเป็ นสมาคมตระกูลชิ่งก็ไม่แย่นักหรอก แต่ถ้าเป็ น สมาคมตระกูลจงที่ฝังสายลับไว้ที่นี่ล่ะก็ หากกองทัพโจมตีมาพวกเรา รับมือไม่ไหวแน่”
“อืม” หยางเสียวจิ่นเห็นด้วย เธอคิดว่าที่เริ่นเสี่ยวซู่ระวังเช่นนี้ก็ ไม่ผิด
เหตุผลที่ว่าทาไมสมาคมตระกูลจงสู้กับพวกโจรลาบากก็เพราะ พวกโจรนั้นเคลื่อนตัวไปมาอยู่ตลอด ถ้าพวกเขาตั้งรกรากที่นี่ต่อ สมาคมตระกูลจงก็จะมาจัดการพวกเขาได้ง่าน ดังนั้นเริ่นเสี่ยวซู่จึง อยากไปตั้งนิคมใหม่ในภูเขาลึก
ตอนเย็นจินเหลียนไปหาเริ่นเสี่ยวซู่ แต่พอมาถึงก็ได้ยินเริ่นเสี่ยว ซู่กระซิบกระซาบกับหยางเสียวจิ่น “โจรทางเหนือฆ่าพี่น้องเราไปมาก ขนาดนี้ ฉันติดต่อเหลาสู่ให้เขาพากองทัพมาที่นี่สัปดาห์หน้า ตอน นั้นพวกเราจะสะสางกับโจรทางเหนือซะ!”
จินเหลียนเป็ นพวกปากสว่าง ได้ยินแบบนี้ทุกคนในนิคมก็จะได้ ยินไปด้วย
เริ่นเสี่ยวซู่หันไปหาจินเหลียน “มาหาฉันมีอะไรหรือเปล่า”
“อ้อ” จินเหลียนที่กาลังนิ่งงันได้สติ “พี่น้องเรามีเรื่องจะถาม…เออ ฉันลืมไปแล้วนะพี่ใหญ่ว่าพวกเขาจะถามอะไร!”
“งั้นก็ไปจาคาถามให้ได้ก่อนค่อยมา” เริ่นเสี่ยวซู่ดุเขา
หลังจากจินเหลียนไปหาคนอื่น ข่าวที่ว่าสูเสี่ยนฉู่จะนาทัพมา สัปดาห์หน้าก็เริ่มแพร่ไป
พวกโจรได้ยินเช่นนี้ก็นิ่งอึ้งกันไปหมด ทุกคนคุยกันยกใหญ่ว่า เดี๋ยวนายท่านสู่ต้องพาทุกคนไปป้ อมปราการ 178 กับเขาแน่ ดังนั้น ตั้งแต่นี้ไปทุกคนก็ทาตัวให้ดี จะได้ไม่ทาให้พี่ใหญ่พวกเขาอย่างเริ่น เสี่ยวซู่เสียหน้า!
วันเวลาของการฟื้นฟูบ้านเรือนหลังภัยพิบัตินั้นทึมทื่อมาก ใช่ว่า ทุกคนจะหมกหมุ่นอยู่กับความเจ็บปวดเศร ้าโศก ทุกคนยังต้อง ด าเนินชีวิตกันต่อไป
จินเหลียนและคนอื่นๆ พอนึกถึงรถจักรยานยนต์แล้วก็ทางาน หนักกว่าเดิม
สามวันให้หลัง ระหว่างที่ทุกคนหลับกันอยู่ ก็มีร่างคนผู้หนึ่งออก จากนิคมไปกลางดึก
นิคมไม่ได้เงียบสนิท พวกโจรกรนกันเสียงดังสนั่น
ขณะที่คนผู้นั้นกาลังจากไป เขาก็หันมามองนิคมรอบหนึ่ง ใน ดวงตาเผยความลังเลใจ แต่หลังจากใจตีกันอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ตัดสินใจ จะหนีไปทางเหนือ เขาจะไปจากที่นี่และขึ้นไปทางเหนือ!
แต่เขายังไม่ทันได้ขยับเท้าเก้าที่สอง เงาร่างนั้นก็เห็นเริ่นเสี่ยวซู่ รออยู่ในเงามืด มองเขามาพร ้อมรอยยิ้ม
เริ่นเสี่ยวซู่หัวเราะ “เป็ นนายนี่เอง ชื่ออะไรนะ เหลาสู่ (หนู)?”
โจรนามเหลาสู่คุกเข่าลงทันที “ผม…ผมไม่มีทางเลือก”
“นายมาจากไหน” เริ่นเสี่ยวซู่ถาม
เหลาสู่พูดเสียงค่อย “เดิมทีผมมาจากรังโจงที่เขาติ้งย่วนจากทาง เหนือ หัวหน้าโจรเขาติ้งย่วนส่งผมมาที่เขาต๋าป่ าน ให้หลังผมมาที่ พร้อมกับโจรเขาต๋าป่ าน แต่พวกเขายังมีคนคอยสนับสนุนจากในเงา มืด”
“บอกหมดแบบนี้จริงใจไม่น้อยนะ” เริ่นเสี่ยวซู่ถอนหายใจ
เหลาสู่กังวลขึ้นมาอยู่บ้าง “ผมเองก็ไม่อยากไปจากที่นี่ แต่ต่อให้ ผมอยู่ต่อ ถ้าคนของเขาติ้งย่วนแพร่ข่าวว่าผมเป็ นสายลับ ผมก็คงไม่ รอดอยู่ดี”
นี่เป็ นสถานการณ์กระอักกระอ่วนที่สายลับต้องเผชิญ ถ้าพลาด ตั้งแต่ตอนแรก ก็จะนาไปสู่จุดจบที่ผิดพลาด หลายวันนี้มานี้เหลาสู่ใจ อยากจะอยู่มีชีวิตดีๆ ที่นี่ต่อ แต่เขาจะอยู่ต่อได้อย่างไร เพราะเมื่อ เวลานั้นมาถึง ทั้งสองฝ่ายคงไม่ปล่อยเขาไว้
“เจ้าของนั่นเป็ นของนายหรือเปล่า” เริ่นเสี่ยวซู่ถาม แต่ไม่ได้ชี้ เฉพาะว่าพูดถึงอะไร “นายเอาไว้ใช้ท าอะไร”
เหลาสู่พูด “เมื่อนานมาแล้วอดีตหัวหน้าให้โทรศัพท์ดาวเทียมผม มา เอาไว้ใช้ส่งข่าว”
เริ่นเสี่ยวซู่พยักหน้ารับรู ้รายละเอียดตรงกับที่เขาถาม
แต่เขาควรจะท าอะไรกับเหลาสู่ดี ปล่อยไป? แต่เริ่นเสี่ยวซู่ไม่ใจดี ขนาดนั้น
ทว่าพอนึกถึงวันเวลาที่ใช ้ด้วยกัน เริ่นเสี่ยวซู่ก็เศร ้าใจเล็กน้อย
เริ่นเสี่ยวซู่กระซิบ “ถ้านายไม่พยายามหนีหรือพยายามทรยศฉัน พอความจริงเผยมาฉันก็ไม่ท าอะไรนานหรอก ตอนแรกสู่จินหยวนก็ เป็ นสายลับเหมือนกัน แต่เขาเลือกทางที่ถูกต้อง เหลาสู่ ชาติหน้า พวกเรามาเป็ นโจรกันอีกนะ แต่สาหรับชาตินี้ ลาก่อน”