the first order สู่รุ่งอรุณเเห่งมวลมนุษย์ - ตอนที่ 364 ฉันจะรอนายที่นี่
ตอนนี้เริ่นเสี่ยวซู่รู ้สึกว่าชิ่งเจิ่นเป็ นเหมือนดาราจรัสของตะวันตก เฉียงเหนือและเฉียงใต้ เขาบดบังสมาคมตระกูลอื่นๆ ไปอย่างสิ้นเชิง ท าให้พวกเขาดูหม่นหมองโง่งมไปกันหมด
ซึ่งไม่ใช่ว่าสมาคมอื่นๆ ไม่ฉลาด แต่แผนการของชิ่งเจิ่นนั้นยาว ไกลเกินไป
แผนการสืบต่อเนื่องแล้วต่อเนื่องเล่าของชิ่งเจิ่นนั้นประกอบไป ด้วยทั้งโชคทั้งการคิดคานวณ
ตั้งแต่ต้น ชิ่งเจิ่นกับหลัวหลานก็มีงานวิจัยสาเร็จผลในด้านนาโน เทคโนโลยีของสมาคมตระกูลหลี่ไว้ในเงื้อมมือ กระนั้นก็ยังส่งไปให้ สมาคมตระกูลหยางผ่านหยางเสียวจิ่นเสียอย่างนั้นไป
ตอนนั้นชิ่งเจิ่นถามหยางเสียวจิ่นว่า “สมาคมตระกูลหยางจะเอา ความรู ้ที่เดิมทีเอาไว้ใช ้การรักษาทางแพทย์ไปใช ้ในการทหารหรือ เปล่า”
แน่นอนว่าชิ่งเจิ่นรู ้คาตอบอยู่แล้ว มีเหรอสมาคมตระกูลหยางจะ ไม่เอานาโนแมชชีนไปใช ้ในการทหาร เจ้าพวกสมาคมที่ท้องกินไม่ เคยอิ่มน่ะนะ
การล้มสลายของป้ อมปราการ 109 ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวง ต่อสมาคมตระกูลหลี่ หลังจากนั้นฝ่ ายอานาจภายในที่สนแต่ ผลประโยชน์ของตัวเองก็ต่อสู้กันเกี่ยงความรับผิดชอบการพ่ายแพ้นี้
ตอนนั้นเบื้องบนของสมาคมตระกูลหลี่ต้องการหาเป้ าหมายมา ระบายโทสะและเพื่อพิสูจน์ว่าตนเองไม่ใช่พวกผู้อ่อนแอ ถ้าพวกเขา ปล่อยเรื่องนี้ไป หายนะใหญ่กว่าเดิมอาจจะตกมาใส่ทั้งสมาคมเอาได้ ดังนั้นพวกเขาต้องโต้กลับ
ที่สมาคมตระกูลหลี่ตั้งใจเริ่มสงครามกับสมาคมตระกูลหยางนั้น ไม่ใช่เพราะความแค้นแน่นอน มันเป็ นการตัดสินใจหลังคิดถึง ผลประโยชน์ทางการเมืองแล้ว
สมาคมตระกูลหลี่อยากฆ่าหลี่เสินถาน แต่เขาก็หายตัวไป เรียบร ้อย
สมาคมตระกูลหลี่อยากกาจัดพวกตัวทดลอง แต่ตอนนั้นสมาคม ตระกูลหยางก็สะสมกองกาลังตามที่ชายแดน พวกเขาเลยไม่อาจไป สนใจพวกตัวทดลองได้
เพราะอย่างนั้นสมาคมตระกูลหลี่จึงโถมเพลิงโทสะทั้งหมดไปที่ สมาคมตระกูลหยาง
ที่จริงสมาคมตระกูลชิ่งมาร่วมในสงครามหลังจากนั้นนานมาก เดิมทีแล้วสงครามระหว่างสมาคมตระกูลหยางและสมาคมตระกูลหลี่นี้ ไม่เกี่ยวอะไรกับสมาคมตระกูลชิ่งเลย
ชิ่งเจิ่นคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้วว่าสภาบริหารจะส่งเขาไปแนว หน้า ดังนั้นเขาจึงรออย่างใจเย็นอยู่ในบ้านตัวเอง
หลังจากเขาผงาดขึ้นมาใหม่ก็ฆ่าชิ่งอวิ่นทันทีและร่วมมือกับ สมาคมตระกูลหยาง
ดูแล้วเหมือนเขาจับมือเป็ นพันธมิตรกับสมาคมตระกูลหยาง แต่ ที่จริงเขากาลังลากกาลังหลักสมาคมตระกูลหยางไปแนวหน้าของ สนามรบทางใต้
นี่น่าจะเป็ นหนึ่งในส่วนที่สาคัญที่สุดในแผนการของชิ่งเจิ่น
ให้หลัง ชิ่งเจิ่นตั้งใจตลบหลังสมาคมตระกูลหยางด้วยการถอย ทัพอย่างกะทันหัน นี่ทาให้หลัวหลานถูกจับคุมขังอยู่ในบ้าน และทา ให้สมาคมตระกูหยางต้องส่งทหารเพิ่มไปอุดช่องว่างที่แนวหน้า
และตอนนี้กองกาลังลึกลับที่เตรียมจะช่วยเหลือหลัวหลานกับ พวกโจรที่กาลังรวมเป็ นหนึ่งในทางเหนือ ซึ่งสามารถสร ้างปัญหา ให้กับสมาคมตระกูลหยางที่ไร ้การป้ องกันจนถึงขนาดทาให้พวกเขา นอนไม่หลับตอนกลางคืนได้เลยทีเดียว
ดูแล้วชิ่งเจิ่นคงไม่คิดจะกลืนสมาคมตระกูลหยางทันที เขาใจเย็น มากกว่านั้น ตอนนี้เขาแค่อยากจะปั่นป่ วนสายการผลิตอันราบรื่น ของสมาคมตระกูลหยาง ห่วงโซ่อุปทานในแนวหลังที่พังทลายอาจจะ แค่ท าให้เศรษฐกิจเสียหาย แต่ว่าในช่วงสงครามนั้น มันอาจหมายถึง ว่าทหารแนวหน้าได้รับกระสุนไม่พอจะสู้รบ!
มันอาจจะสัมผัสไม่ได้ในทันทีเพราะสมาคมตระกูลหยางมีของ สารองในคลังที่ดาเนินอยู่ได้พักหนึ่ง แต่เมื่อเวลาผ่านไป สมาคม ตระกูลชิ่งก็จะกดสมาคมตระหยางลงกับพื้นทุบตีได้!
ถ้าตอนนี้สมาคมตระกูลจงอยากเคลื่อนตัวลงใต้ ก็ต้องถูกน้า หลากรั้งไว้
ถึงสมาคมตระกูลจงจะสร ้างสะพานแพชั่วคราวได้ แต่น้าหลาก อย่างแรงในหุบเขานั้นไม่ใช่ของที่แก้ปัญหาได้ด้วยการสร ้างสะพาน แพหลายสิบแห่งแน่นอน มันมีแม่น้านับพันสาย และริมแม่น้าก็เหมือน กระเบื้องแตกหักรอบ
ชิ่งเจิ่นคานวณเวลาได้อย่างแม่นยา อีกสิบวัน!
แต่เริ่นเสี่ยวซู่ยังไม่เข้าใจว่าใครกันถึงสามารถบุกเข้าป้ อม ปราการไปช่วยหลัวหลานได้ กองกาลังหลักของสมาคมตระกูลชิ่งยัง อยู่ในแนวหน้าทางใต้อยู่เลย!
เริ่นเสี่ยวซู่โพล่งถามขึ้นมา “แต่โจรทางเหนือน่าจะมีคนของ สมาคมตระกูลจงอยู่นี่ ถ้าพวกเขาพยายามหยุดนายล่ะ”
สู่หมานยิ้มและว่า “พวกเขาคิดแต่สมาคมตระกูลชิ่งเราพยายาม แย่งชิงพื้นที่อาณาเขตในหุบเขา คิดแบบนั้นสายตาสั้นแคบจริงๆ พวกเราไม่เคยเห็นพวกเขาเป็ นภัยมาก่อน บางทีพวกเรา ‘อยู่’ ทางใต้ หลายวันเชียวล่ะกว่าพวกเขาจะรู ้ว่าพวกเราหายตัวไป”
สมาคมตระกูลจงคิดตลอดว่าสมาคมตระกูลชิ่งพยายามแย่งชิง หุบเขาไปของตนเอง แต่ที่จริงนั่นไม่ใช่เป้ าหมายของสมาคมตระกูล ชิ่งเลย
เริ่นเสี่ยวซู่สูดลมหายใจลึก “ฉันจะเตรียมลงใต้และร่วมมือกับคน ของนายช่วยหลัวหลาน”
“คนที่จะช่วยหลัวหลานไม่ใช่คนของเรา” สู่หมานว่า “ไม่ จ าเป็ นต้องมองว่าพวกเขาอยู่ฝ่ ายเดียวกัน”
แต่สู่หมานไม่เผยข้อมูลกับเริ่นเสี่ยวซู่มากนัก นั่นเป็ นทุกอย่างที่ เขาเปิดเผยได้แล้ว
พอพูดคุยกันเสร็จ สู่หมานก็เตรียมตัวจากไป จินเหลียนที่อยู่ ด้านข้างโพล่งถามขึ้นมา “ไหนๆ ก็มาแล้ว ทาไมไม่ให้ของเราหน่อย ก่อนค่อยไปล่ะ”
“อ้อ” สู่หมานชะงักไป เขาลืมเรื่องส่งมอบปืนกับเสบียงไปเลย “ต้องการอะไรบ้าง”
เริ่นเสี่ยวซู่คร ้านจะค่อยๆ เลือก เขาเลยพูด “ทิ้งไว้หมดนั่นแหละ”
พวกจินเหลียนตะลึง พี่ใหญ่เขาหน้าตายเกินไปแล้ว พูดแบบนี้ พวกเขาจะอยากให้ของเหรอ
สู่หมานปากกระตุก “ไม่บอกว่าให้พวกเราทิ้งรถส่งของไปด้วย เลยล่ะ”
เริ่นเสี่ยวซู่คิดพักหนึ่ง “อืม แบบนั้นก็ได้นะ พอขนของลงแล้ว นายจะมีรถว่างสี่คัน ไหนๆ พวกนายก็มีกันไม่มาก ก็ทิ้งรถสี่คันไว้ให้ พวกเราสิ”
สู่จินหยวนที่อยู่ด้านข้างกระซิบ “พี่ใหญ่เราต่างออกไปจริงๆ ปกติต้องรอให้คนของสมาคมเอาของมาส่งแล้วพวกเขาจะให้อะไรมา ก็ต้องรับไป จากนั้นก็ใช ้ของพวกนั้นไปปล้นคนอื่น แต่พี่ใหญ่เล่น ปล้นพวกเขาแทนเสียฉิบ…”
สู่หมานขมวดคิ้ว คิดอยู่สองสามวินาทีก็พูดแกมถอนหายใจ “ก็ ได้ นายนี่ไม่เกรงอกเกรงใจกันเลย…”
พวกจินเหลียนอ้าปากค้าง พี่ใหญ่พวกเขาเป็ นใครวะเนี่ย ที่คน ของสมาคมตระกูลชิ่งสุภาพก่อนหน้านี้นี่ช่างเถอะ แต่นี่เล่นเขาร ้อง ขออะไรไปก็ให้หมด ขนาดรถส่งของยังให้เลย…
เริ่นเสี่ยวซู่จ้องจินเหลียน “ยืนหาอะไร ไปเอาของสิ” จากนั้นก็หัน ไปหาสู่หมาน “ฉันไม่ชวนพวกนายกินข้าวหรอก ฉันต้องรีบไปเตรียม ตัว”
จากนั้นเริ่นเสี่ยวซู่ก็หันหลังจากไปเลย ปล่อยให้สู่หมานยืนตา กระตุกอยู่อย่างนั้น หลังจากส่งมอบของให้หมดแล้ว ก็ไล่ตะเพิดพวก เขาโดยไม่ชวนกินข้าวเลยเนี่ยนะ
พวกเราไม่ได้พูดด้วยซ้าว่าจะอยู่ต่อกินข้าวน่ะ จะระแวงอะไร ขนาดนั้น!
เริ่นเสี่ยวซู่เจอหยางเสียวจิ่นแล้วก็บอกเธอ “ดูเหมือนว่าอีกไม่ นานสมาคมตระกูลชิ่งจะโจมตีป้ อมปราการ 88 เธอคิดว่าไง”
ที่จริงเรื่องที่เริ่นเสี่ยวซู่กังวลสุดคือเรื่องหยางเสียวจิ่นเป็ นสมาชิก ของสมาคมตระกูลหยาง ถ้าป้ อมปราการของสมาคมตระกูลหยางถูก โจมตีขึ้นมา เธอจะยังอยู่เฉยได้หรือเปล่า
หยางเสียวจิ่นเงียบไปพักหนึ่ง “ฉันจะอยู่ที่นี่”
ดูเหมือนว่าความเหินห่างระหว่างหยางเสียวจิ่นและสมาคม ตระกูลหยางจะไม่เรียบง่ายอย่างเช่นความห่างเหินของญาติมิตร เธอ ไม่เคยพูดเรื่องพ่อแม่ตัวเองมาก่อน ดูจากอายุเธอแล้ว พ่อแม่ของเธอ ควรอยู่ช่วงจุดสูงสุดของชีวิต แต่ท าไมพวกเขาถึงจากไปแล้วล่ะ
ถ้าหยางเสียวจิ่นไม่อยากพูดเรื่องนี้ เริ่นเสี่ยวซู่ก็จะไม่ถามเช่นกัน แต่เขาเข้าใจดีว่ามันต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรมากกว่านี้
แต่ต่อให้หยางเสียวจิ่นจะไม่สนใจสมาคมตระกูลหยาง แต่เธอก็ คงไม่อยากทาร ้ายพวกเขาเช่นกัน ดังนั้นจึงตัดสินใจอยู่ที่นิคมแห่งนี้ ไม่ยอมไม่ยุ่งเกี่ยว
ถ้าตอนนี้เริ่นเสี่ยวซู่กลับไปตอนนี้และคิดจะร่วมมือกับหลัวหลาน พาตัวพวกเหยียนลิ่วหยวนออกมา อย่างไรก็ต้องปะทะกับสมาคม ตระกูลหยางอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
เริ่นเสี่ยวซู่คิดพักหนึ่งและว่า “เดี๋ยวฉันจะรีบกลับมา”
“ฉันจะรอนายที่นี่”