the first order สู่รุ่งอรุณเเห่งมวลมนุษย์ - ตอนที่ 372 อย่าริอาจตาย
ตอนนี้เองก็มีอะไรบางอย่างระเบิดหน้ารถไฟ ทาเอาตัวรถจักรไอ น้าสั่นสะเทือน หยางเสียวจิ่นยืนขึ้นและว่า “กับระเบิด ที่นี่เต็มไปด้วย กับระเบิด!”
ดูเหมือนว่านอกจากจงเฉิงจะส่งกองก าลังขนาดใหญ่มาซุ่มโจมตี เขาด้วยปืนใหญ่แล้ว ก็ยังวางกับระเบิดตามเส้นทางที่คาดว่าเขาจะใช ้ หลบหนีด้วย
เมื่อกับระเบิดในแดนรกร ้างที่อัดแน่นไปด้วยทีเอ็นทีระเบิดใส่รถ จักรไอน้าที่ขับผ่านที่ละลูกๆ ใบหน้าเริ่นเสี่ยวซู่ก็ซีดเผือด กระทั่งตัว รถไฟก็ดูโปร่งใสขึ้น ราวกับพร ้อมจะสลายหายไปได้ทุกเมื่อ
ทุกครั้งที่จักรไอน้าเหยียบลงบนกับระเบิด เริ่นเสี่ยวซู่ก็รู ้สึก เหมือนกับเส้นเลือดตัวเองถูกฉีกขาด
ทุกคนเห็นว่าจู่ๆ เริ่นเสี่ยวซู่ก็ล้มลงไปนอนขดกับพื้นด้วยความ เจ็บปวด เป็ นความเจ็บปวดที่ทาให้เหงื่อเม็ดโตไหลลงมาตาม หน้าผาก และทันใดนั้นเอง ทุกคนก็เห็นว่าสีข้างของเริ่นเสี่ยวซู่มีรอย กระสุนสองแห่ง!
ก็คือตอนที่เริ่นเสี่ยวซู่หนีก่อนหน้านี้ นาโนแมชชีนก็ไม่สามารถ ปกป้ องเขาได้อย่างเต็มที่แล้ว แต่เริ่นเสี่ยวซู่ก็ยังรักษาอาการสงบนิ่ง ได้อยู่ไม่ยอมดูแลบาดแผลทันที เพราะต้องจัดการกับสายลับก่อน
ทุกคนมองเริ่นเสี่ยวซู่แทงนิ้วชี้กับนิ้วกลางลงแผลกระสุนตัวเอง จากนั้นเขาก็ดึงกระสุนนัดแรกออกมาอย่างเด็ดเดี่ยว จากนั้นก็ทา เหมือนเดิมกับแผลกระสุนนัดที่สอง!
จินเหลียนและคนอื่นๆ มองภาพนี้ด้วยความตะลึง พวกเขาไม่เคย เห็นใครกล้าหาญขนาดถอนกระสุนบนตัวเองมาก่อนเลย
เริ่นเสี่ยวซู่ปิดตาสนิท เส้นขนทุกเส้นบนร่างสั่นเทา
จากนั้นเหยียนลิ่วหยวนก็เคลื่อนไหวในที่สุด เขารีบหยิบยาดาที่ เริ่นเสี่ยวซู่ให้มาทาลงบนแผลของเขา
แต่แม้จะรักษาแผลแล้ว แต่ความเจ็บปวดจากผลสะท้อนกลับจาก การที่รถจักรไอน้าถูกโจมตีก็ยังไม่ลดทอนลงไป
เริ่นเสี่ยวซู่ตัวสั่นเทา หยางเสียวจิ่นเข้ากอดเขาแน่น พร ้อมพูดว่า “เก็บรถจักรไอน้าไปให้ทุกคนเดินเท้า”
แต่เริ่นเสี่ยวซู่คารามด้วยโทสะราวกับไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น จากนั้นรถจักรไอน้าที่ดูเลือนรางไปก็ ‘ควบแน่น’ ขึ้นมาอีกครั้ง!
หยางเสียวจิ่นกระซิบ “นายทามากพอแล้ว เริ่นเสี่ยวซู่ ต่อให้วันนี้ พวกเราต้องตายด้วยกัน ฉันก็ไม่มีอะไรเสียใจแล้ว”
เริ่นเสี่ยวซู่เองก็อยากยอมแพ้ แต่เขาต้องทนต่อไป ถ้าตอนนี้รถ จักรไอน้าสลายตัวไปล่ะก็ ทุกคนจะตกลงไปในทุ่งกับระเบิด ถ้าเป็ น เช่นนั้นพวกเขาทุกคนต้องตายแน่!
จินเหลียนน่าจะเข้าใจว่าเริ่นเสี่ยวซู่ทาอะไรอยู่ เขาพูดด้วยเหม่อ ลอย “พี่ใหญ่ ยอมแพ้เถอะ ให้พวกเราตายด้วยกันนี่แหละ”
เริ่นเสี่ยวซู่ยังหลับตาแน่นไม่ตอบรับ แต่รถจักรไอน้า ‘ควบแน่น’ อีกครั้ง
รถไฟขับไปไกลอีกสามกิโลเมตรถึงจะพ้นแดนรกร ้างที่เต็มไป ด้วยกับระเบิด
เริ่นเสี่ยวซู่ทนต่อไม่ไหวแล้ว รถจักรไอน้าชะลอตัวอย่างรวดเร็ว และพลันหายไปก่อนจะได้หยุดตัวลงดี ปล่อยให้ทุกคนล้มลงกลิ้งกับ พื้น
จินเหลียนได้ยินเสียงเครื่องยนต์ของรถจักรยานยนต์มาแต่ไกล ดูเหมือนว่าโจรกลุ่มใหญ่ก าลังพุ่งมาหาพวกเขา!
“พวกเราเอายังไงดี” จางอี้เหิงขมวดคิ้วถาม เขาเห็นโจรนับพัน นายเบื้องหน้าแล้ว
ไม่มีทางที่เริ่นเสี่ยวซู่จะร่วมรับศึกดุเดือดได้ ตอนนี้ใบหน้าเริ่น เสี่ยวซู่ซีดขาวมาก เขายังมีกาลังสู้อีกครั้งไหมยากบอกกล่าวแล้ว
ความเจ็บปวดนี้ราวกับมีมดหลายล้านตัวกัดลงบนเส้นประสาท ของเริ่นเสี่ยวซู่ เป็ นความเจ็บปวดที่ทาให้ไม่อาจขยับตัวได้อีก เริ่น เสี่ยวซู่กัดฟัดกรอด ตาปิดสนิทแน่นโดยไม่เอ่ยวาจาอะไร
พวกเขามาถึงทางตันแล้ว
ทุกคนได้แต่มองไปด้วยความเงียบงัน ไม่มีใครสามารถช่วยเริ่น เสี่ยวซู่แบ่งเบาภาระได้
บางคนในกลุ่มก็หนีไปทางตะวันตกเฉียงเหนือโดยไม่พูดอะไร ทันที พวกเขาไม่สนใจใยดีอะไรแล้วเพราะหวงแหนชีวิตตนมากกว่า!
ไม่ได้ไปป้ อมปราการ 178 ทุกคนไม่เป็ นอะไรหรอก พร ้อมที่จะ เก็บกระสุนอย่างมีความสุขที่นิคมแห่งใหม่ แต่ถ้าพวกเขาตายที่นี่ล่ะ มันก็จะไม่มีอะไรเหลืออีกแล้ว!
เริ่นเสี่ยวซู่ฝังเมล็ดพันธุ์แห่งความหวังให้พวกเขาเรียบร ้อยแล้ว ถ้าให้เวลากับมัน สักวันหนึ่งเมล็ดพันธุ์อาจจะเติบโตเป็ นต้นไม้สูง ตระหง่านก็ได้
แต่ว่ามันไม่มีเวลาแล้ว
และก็เป็ นอย่างที่เริ่นเสี่ยวซู่รู ้อยู่แล้ว แม้ในจุดสิ้นสุดของโลก มัน ก็ยังไม่มีความหวังใด
เหยียนลิ่วหยวนมองคนหลายร ้อยทิ้งมิตรสหายไว้ข้างหลัง เขา กล่าวกับเริ่นเสี่ยวซู่ “พี่ ผมจะอยู่กับพี่”
อาการสั่นเทาของเริ่นเสี่ยวซู่ค่อยๆ ลดลงไป ดูเหมือนว่าหายไป ของรถจักรไอน้า จะทาให้ความเจ็บปวดจากผลสะท้อนกลับหายไป อย่างรวดเร็วด้วย
จินเหลียนค่อยๆ ยืนขึ้นมา ปัดฝุ่ นตามตัว เขาปลดปื นไรเฟิ ล อัตโนมัติที่หลัง ปลดเซฟตี้ปืน ขึ้นนกปืน
จากนั้นก็ยิ้มให้จางอี้เหิงและว่า “แย่สุดฉันก็ลงไปเจอสู่จินหยวน ที่ปรภพ พวกคนหน่วยที่หนึ่งที่ยังเหลืออยู่ตามฉันมา อย่าทาให้พี่ ใหญ่เราเสียหน้า”
เสียงปื นขึ้นนกดังรัว อะดรีนาลีนสูบฉีดตามเส้นเลือด กระดูก กล้ามเนื้อ และขนทุกเส้นของพวกจินเหลียน
จินเหลียนหัวเราะและว่า “พี่ใหญ่พักไป พวกเราจะลงไปรอที่นั่น ก่อนนะ ถุ้ยๆๆ ฟังดูลางไม่ดีชอบกล…ตอนนี้ฉันรู ้สึกมีความสุขมาก จริงๆ ในโลกอันสับสนวุ่นวาย ได้มีความสุขสักครั้งก็ดีถมเถแล้ว”
“หน่วยที่สอง พาคนอื่นๆ ออกไปจากที่นี่!” จากนั้นจินเหลียนก็ พุ่งทะยานไปยังกลุ่มโจรที่กาลังมา
ภายใต้แสงอาทิตย์นี้ แผ่นหลังของจินเหลียนราวส่องประกาย ออกมา
“เลิกทาตัวเป็ นวีรบุรุษน่า” จางอี้เหิงเช็ดน้าตาและตวาด “ปกป้ อง พี่ใหญ่ มุ่งไปทางตะวันตก!”
หยางเสียวจิ่นเหลือบมองเหยียนลิ่วหยวน “แบกเขาขึ้นหลังเธอ”
เหยียนลิ่วหยวนผงะ “พี่สะใภ้ พี่จะไปไหนน่ะ”
แต่ก่อนเขาจะได้พูดกับเธอเสร็จ หยางเสียวจิ่นก็กลับตัวเดินเข้า ไปในแดนรกร ้างแล้ว เธออยากจะสร ้างสร ้างแนวตั้งรับด่านสุดท้ายให้ เริ่นเสี่ยวซู่ “อย่าริอาจตาย”
ตอนนี้กลุ่มของจินเหลียนที่รอรับอยู่ข้างหลังพวกเขาเจอ ตาแหน่งซุ่มโจมตีหลังเนินเขาแห่งหนึ่งแล้ว พวกเขาคุกเข่าลงข้าง หนึ่งเป็ นตัวสร ้างความมั่นคงให้กับปืนตามวิธีที่หยางเสียวจิ่นสอนมา
จินเหลียนหัวเราะลั่นและคาราม “เชื่อก็เชื่อเถอะ อดีตชาติฉัน ต้องเป็ นมือสไนเปอร ์แหง”
มีหัวเราะลั่นและว่า “นายไม่ใช่สักหน่อย ฉันต่างหากที่เป็ น!”
“ฮ่าๆ ปัดโธ่ ชาติที่แล้วเราเป็ นมือสไนเปอร ์กันหมดแน่นอน!”
จากนั้นจินเหลียนก็เห็นโจรฝ่ ายศัตรูเข้ามาในแนวยิง เขาตะโกน ลั่นจนเส้นเลือดตรงลาคอบูดนูน “ยิงได้!”
เสียงปืนดังออก โจรกลุ่มใหญ่ที่ขับรถจักรยานยนต์นาอยู่หน้า ขบวนพลันล้มลงกับพื้น
แต่ว่าคราวนี้มีโจรมากเกินไป ก่อนหน้านี้คนของชิ่งเจิ่นยันตัว พวกเขาไว้ที่ทางเหนือ แต่ว่าคนของเขาถูกส่งลงใต้ไปแล้ว จึงไม่มี ใครในหุบเขาคอยคุมโจรทางเหนือพวกนี้อีก
กลุ่มของจินเหลียนไม่เคยผ่านการฝึ กทหารอย่างเป็ นทางการ พวกเขาแค่ลอกเลียนวิธียิงปืนตามที่หยางเสียวจิ่นสอน และทาได้แต่ ยุทธวิธีพื้นฐานอย่างการยิงเป็ นชุด
แต่ยิงหมดกระสุนหมดไปหลายต่อหลายซอง พวกเขาก็ไม่อาจ ยันพวกโจรไม่ให้คืบหน้าลงใต้ได้
พอเห็นว่าแถวรถจักรยานยนต์แทบประชิดหน้าแล้ว กลุ่มของจิน เหลียนก็ตระหนกจนไม่อาจบรรจุกระสุนใหม่ได้ ทันใดนั้นเขาก็โยน ปืนทิ้งด้วยความสิ้นหวังและเอาร่างตัวเองไปบังทางรถ “แม่*เอ้ย พวก แกห้ามผ่านฉันโว้ย!”
ในพริบตานี่เอง ร่างจินเหลียนกลายเป็ นโล่กาบังอันหนึ่ง โจรฝ่าย ศัตรูเห็นว่าตรงพวกตนมีคนทะยานออกมาจากหลังเนินเขาก็เบี่ยงรถ กระทันหัน แต่จินเหลียนไม่ยินยอมให้ศัตรูเร่งเครื่องผ่านตนเองไป จึง กระโจนเข้าใส่ตัวรถจักรยานยนต์
ด้วยการกระโจนไปเช่นนี้เขาก็สามารถดึงตัวโจรลงมาจาก รถจักรยานยนต์ได้จริงๆ แต่ขณะเดียวกันตัวรถที่ล้มลงก็บังทางโจร คนอื่นๆ ที่อยู่ข้างหลัง พวกโจรที่ตามหลังมาตามมาถึงก็กระหน่ายิง ฆ่าจินเหลียนและโจรที่ล้มลงไปตอนแรกด้วยกัน
จินเหลียนยิ้มพร ้อมหลับตาลง “แม่*เอ้ย”
ในโลกอันสับสนวุ่นวายที่ผู้มีชีวิตไร ้หนทางและผู้ล้มตายถูกลืม เลือน
ตั้งแต่วันที่พวกเขาเกิดมา ไม่เคยมีอะไรให้พวกเขามีความสุข ทุกอย่างที่เผชิญคือความทุกข์ตรม
แต่วันหนึ่ง ก็มีคนพลันปรากฎต่อหน้าพวกเขา ทาให้พวกเขาได้ เห็นแสงสว่าง ท าให้เขาได้รู ้จักความหวัง พวกเขาจึงรู ้ว่าต้องท าให้คน ผู้นั้นมีชีวิตอยู่ต่อไปให้ได้
เพราะบางทีคนผู้นั้นเองที่คือแสงสว่าง