the first order สู่รุ่งอรุณเเห่งมวลมนุษย์ - ตอนที่ 377 ตายยาก
สมาคมตระกูลจงไม่อยากให้สายการค้ามาเปิดที่นี่ เพราะอย่างไร พื้นที่รอบสมาคมตระกูลจงข้นแค้นมาก นี่เป็ นปัจจัยสาคัญที่ทาให้ พวกเขาพัฒนาไม่ได้มาก และด้วยเหตุนี้สมาคมตระกูลจงจึงอยาก ขยับขยายอาณาเขต
ถ้ามีการเปิดสายการค้าล่ะก็ ขบวนพ่อค้ามากมายก็จะเดินทางที่ ตะวันตกเฉียงเหนือ และป้ อมปราการ 178 ก็จะมีแต่แข็งแกร่งและ แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ก็อย่างมีคาที่ว่าเขาลูกเดียวไม่อาจมีพยัคฆ์สองตัว ต่อให้ป้ อมปราการ 178 ไม่มีความคิดจะขยับขยาย แต่สมาคมตระกูล จงอยู่ข้างป้ อมปราการ 178 จะไม่มีหวาดผวาได้หรือ
แน่นอนว่าสมาคมตระกูลจงยังสามารถสนับสนุนพวกโจรไว้คอย ควบคุมหุบเขาอย่างที่เป็ นมาได้ แต่เมื่อก่อนป้ อมปราการ 178 ไม่มี จางจิ่งหลิน และรักษาการณ์ผู้บัญชาการก็ไม่อยากยุ่งกับกิจการนอก ป้ อมปราการ
ทว่าเรื่องราวไม่เหมือนเดิมแล้ว จางจิ่งหลินกลับมาแล้ว!
เบื้องบนของสมาคมตระกูลจงยังจาได้ว่าเมื่อสิบปี ก่อนป้ อม ปราการ 178 นั้นแข็งแกร่งขนาดนั้น พวกเขาสะสมพลังอานาจมา หลายต่อหลายปี แต่ถ้าป้ อมปราการ 178 กลับคืนสู่เกียรติยศเก่า ก่อนได้ล่ะก็ เป็ นไปได้ว่าสมาคมตระกูลจงคงจบสิ้นแล้ว
/
นี่เป็ นเหตุผลที่ว่าทาไมสมาคมตระกูลจงไม่ฉวยโอกาสขณะ สมาคมตระกูลชิ่งและสมาคมตระกูลหยางกาลังสู้รบกันอย่างดุเดือด ด้านหนึ่งคือชิ่งเจิ่นตัดทางลัดลงใต้ของสมาคมตระกูลจง ส่วนอีกด้าน คือสมาคมตระกูลจงยังระแวงป้ อมปราการ 178 จนไม่กล้าเคลื่อนไหว โดยพลการ
ตกเย็น โจวอิงหลงพาทุกคนตั้งค่ายพักอยู่ที่ใต้ลมแห่งหนึ่ง ดูแล้ว โจวอิงหลงจะออกมาแดนรกร ้างอยู่บ่อยๆ เขาทาอะไรดูลื่นไหลคุ้นเคย ไปหมด
หลังจากทายาดาแล้ว เริ่นเสี่ยวซู่ก็ไม่รู ้สึกเจ็บแผลอีก แต่ว่าเขา ยังแสดงละครเป็ นว่าเคลื่อนไหวลาบากอยู่
เขาปีนออกจากรถอย่างเนิบช ้าเพื่อยืดเส้นสาย หวังเซิ่งอินเข้ามา ช่วยเขาเป็ นการพิเศษ แต่เริ่นเสี่ยวซู่ปฏิเสธ บอกว่าถ้าเคลื่อนไหว ช ้าๆ ก็ไหวอยู่
หวังเซิ่งอินดูจะไม่ยี่หระกับเลือดตามเนื้อตัวเขา
เริ่นเสี่ยวซู่ไปนั่งบนเนินดินแห่งหนึ่ง ทันใดนั้นก็มีคนพูด “ฉันได้ ยินว่าป้ อมปราการหลายแห่งทางตะวันตกเฉียงใต้ถูกท าลายไปแล้ว สงสัยจังว่าที่นั่นเกิดอะไรขึ้น พวกป้ อมปราการในที่ราบตอนกลางยัง อยู่ดีอยู่เลย”
โจวอิงหลงหัวเราะหึหึ “ขอเล่าอะไรให้พวกนายฟัง ฉันมีพี่น้องที่ดี คนหนึ่งชื่อสูเสี่ยนฉู่ ป้ อมปราการทุกป้ อมที่เขาไป ยกเว้นป้ อม
/
ปราการ 178 เราล้วนล้มสลายหมดสิ้น! ตอนแรกทุกคนนึกว่าเขาถูก สาป แต่ว่าป้ อมปราการ 178 ยังอยู่ดี พวกเราเลยไม่ได้คิดมากอะไร แต่ล่าสุดเขาไปป้ อมปราการ 88 ที่นั่นก็ถูกทาลายไปอีก…”
หวังเซิ่งจื่อหัวเราะและว่า “เขาไม่เป็ นอะไรเลยเหรอ”
“เขาจะเป็ นอะไรได้เล่า เขาหนีก่อนที่ป้ อมปราการจะพังก่อน ตลอดนั่นแหละ ว่าก็ว่าคือปลอดภัยดี” โจวอิงหลงหัวเราะก่อนจะว่า “พี่น้องสูเสี่ยนฉู่ดวงแข็งจริง ป้ อมปราการพังทลายแต่เขายังอยู่ดี”
“ต้องเป็ นผู้ถูกเลือกแหง” หวังเซิ่งจือว่า “พอพวกเราถึงป้ อม ปราการแล้ว แนะน าตัวเขาให้รู้จักหน่อยได้ไหม”
“ฮ่าๆ ได้แน่!” โจวอิงหลงพูด “แต่เหลาสู่ไม่ยอมรับนะ เขาบอกว่า ยังมีคนดวงแข็งกว่าเขาอีก คนคนนั้นออกจากป้ อมปราการก่อนที่จะ พังได้ตลอด รวมถึงพี่น้องคนสนิทของเขาที่คาดว่าจะหนีไม่ทัน ก็ยัง อยู่รอดปลอดภัย…”
เริ่นเสี่ยวซู่ได้ยินแบบนี้ก็รู ้ได้ทันทีว่าโจวอิงหลงหมายถึงใคร เขา จาได้ว่าป้ อมปราการที่เคยไปว่าล้วนพังทลายหมด ขนาดป้ อม ปราการ 88 ของสมาคมตระกูลหยางยังไม่รอด
แต่ที่ป้ อมปราการพวกนั้นพังทลายไม่เกี่ยวอะไรกับเขาเสียหน่อย นี่?
/
ป้ อมปราการแรกๆ ไม่ล้มสลายเพราะแผ่นดินไหวก็เพราะหลี่เสิน ถานแก้แค้นกับการรุกรานของตัวทดลอง ป้ อมปราการ 88 ก็…ถูก ทาลายเพราะชิ่งเจิ่นอยากช่วยเหลือหลัวหลาน
ไม่เกี่ยวอะไรกับเขาจริงๆ!
หวังเซิ่งจือได้ยินโจวอิงหลงพูดก็หูผึ่งกว่าเดิม “ถ้าได้เจอ ‘ผู้ถูก เลือก’ ที่นายว่าคงน่าสนใจมาก”
โจวอิงหลงหยิบเหล้ากล่องหนึ่งออกมาจากรถและถาม “ดื่มกัน ไหม นี่คือเหล้าเชียงที่หมักจากข้าวบาร ์เลย์ชั้นดีและน้าจากธารภูเขา น้าแข็ง หวานชื่น!”
ทุกคนส่ายหัว ยกเว้นแต่หวังเซิ่งจือที่ว่า “ฉันดื่มกับนายได้ แต่ ป้ อมปราการ 178 ให้คนในกองทัพดื่มด้วยเหรอ”
โจวอิงหลงแจง “ที่ของเราให้ดื่มได้ในช่วงหน้าหนาว ถ้าไม่มี เหล้าอุ่นร่างกาย ร่ายกายคงขยับไม่ไหว”
“แต่นี่มันจะหน้าร ้อนแล้วนะ” หวังเซิ่งจือว่า
โจวอิงหลงคิดอยู่พักหนึ่ง “ถ้านายไม่บอกผู้บัญชาการก็ไม่เป็ น อะไรหรอก ของพวกนี้ฉันเก็บไว้ตั้งแต่หน้าหนาวแน่ะ”
“แต่ว่าแถวป้ อมปราการ 178 ไม่น่ามีธัญพืชมากไม่ใช่เหรอ นาย ไปเอาข้าวบาร์เลย์มาจากไหน”
โจวอิงหลงปิดปากเงียบ ดูแล้วคงเป็ นความลับส าคัญมาก
/
เริ่นเสี่ยวซู่ก็สังเกตเห็นว่าในป้ อมปราการ 178 มีความลับซุก ซ่อนอยู่เช่นกัน รอบอาณาบริเวณของป้ อมปราการ 178 ไม่มีไร่ข้าว บาร ์เลย์ ถ้าเป็ นไปอย่างที่โลกภายนอกว่าไว้จริงๆ สถานการณ์ปกติ แล้วคนของป้ อมปราการ 178 มักจะไม่ออกนอกป้ อม ถ้าเป็ นแบบนั้น ท าไมโจวอิงหลงถึงรู ้จักนิคมผู้อพยพในหุบมากขนาดนั้น แล้วข้าว บาร ์เลย์นั่นขนเข้าป้ อมปราการ 178 ด้วยวิธีไหน
โจวอิงหลงเปลี่ยนเรื่อง “พวกนายมาจากที่ราบตอนกลางเพราะ คิดอยากทาการค้ากับผู้บัญชาการใช่ไหม เหล้าในที่ราบตอนกลาง อร่อยมากเลยเหรอ”
“แน่นอน ธัญพืชในที่ราบตอนกลางอุดมสมบูรณ์ พวกเราผลิต ใบชากับสิ่งทอด้วย” หวังเซิ่งจือที่นั่งอยู่บนวีลแชร ์ยิ้มเอ่ย “แต่ที่ผู้ บัญชาการต้องการที่สุดไม่ใช่ของพวกนี้ แต่เป็ นยาต่างหาก”
พอได้ยินค าว่า ‘ยา’ โจวอิงหลงก็ตาทอประกาย คนของกองทัพรู้ ดีว่าป้ อมปราการ 178 ขาดแคลนอะไรมากที่สุด
คนภายนอกไม่รู้ว่าแม้ป้ อมปราการ 178 จะขาดธัญพืช แต่ว่า พวกเขาไม่ขาดพวกเนื้อสัตว์ ดังนั้นไม่มีทางหิวตายแน่นอน
ส่วนยานั้นถือเป็ นของล้าค่า หลังสู้รบแล้ว ยาจะเป็ นตัวตัดสินว่า ผู้บาดเจ็บจะรอดหรือไม่รอด
/
ทันใดนั้นเริ่นเสี่ยวซู่ก็รู ้แจ้ง ถึงว่าทาไมจางจิ่งหลินจึงอยากเปิด สายการค้านัก ส่วนสมาคมตระกูลจงก็น่ าจะพอเดาได้ว่าการ เคลื่อนไหวครั้งนี้สาคัญมาก
ตอนที่เขาฟังชั้นเรียนของจางจิ่งหลิน คุณจางพูดว่าทางสายไหม ในสมัยโบราณนั้นสาคัญมาก แน่นอนว่ากาลเวลาเปลี่ยนผันไปแล้ว สินค้าที่ค้าขายบนทางสายไหมย่อมต่างกันออกไป ตอนนั้นเริ่นเสี่ยว ซู่ไม่เข้าใจว่าจางจิ่งหลินจะพูดเรื่องนี้ขึ้นมาทาไม แต่ดูทรง จางจิ่ง หลินคงคิดเรื่องนี้มานานมากแล้ว
หวังเซิ่งจือจิบเหล้าไปสองคาก็หยุด จากนั้นหวังเซิ่งอินเอาผ้าห่ม มาคลุมตักเขา
“คออ่อนฉิบ” โจวอิงหลงพึมพา ทันใดนั้นเขาก็หันไปมองเริ่น เสี่ยวซู่และถาม “ดื่มเหล้าไหม”
เริ่นเสี่ยวซู่ส่ายหัว “ไม่ดื่ม อาการบาดเจ็บยังไม่หายดี”
โจวอิงหลงคิดพักหนึ่ง “บาดแผลต้องลดอักเสบ เหล้าลดอักเสบ ได้ ดื่มนิดดื่มหน่อยแผลไม่อักเสบหรอก คิดว่าพอเข้าเค้ามะ?”
หวังเซิ่งอินที่อยู่ข้างๆ เหวี่ยง “ทฤษฎีบ้าบออะไรเนี่ย หลังจาก บาดเจ็บ ระบบภูมิคุ้มกันในร่างจัดการส่วนที่สึกหรอกับสู้รบกับการ ติดเชื้อ ถ้าดื่มเหล้าก็จะทาให้ระบบภูมิคุ้มกันล้มเหลว ถ้าเป็ นแบบนั้น ก็รอความตายได้เลย!”