the first order สู่รุ่งอรุณเเห่งมวลมนุษย์ - ตอนที่ 379 ดาวหายนะสองดวง
หวังเซิ่งอินอธิบายเรื่องเอไอต่อ อย่างเช่นว่าภาคปฏิบัติของเอไอ นั้นไม่ได้กว้างมากนัก หลักๆ เอาไว้ใช ้กับกล้องสอดส่องดูแลในป้ อม ปราการ เป็ นฟังก ์ชันที่เรียกว่า ‘เนตรสวรรค์’
และก็เป็ นเพราะการมีเอไอเช่นนี้เอง ที่ราบตอนกลางจึงกลางเป็ น อารยธรรมที่คนไม่จาเป็ นต้องปิ ดประตูบ้านยามค่าคืน มันถึงกับ สามารถวิเคราะห์หาโจรผู้ร ้ายและรายงานแก่กองดูแลความสงบ เรียบร ้อยของป้ อมปราการให้มาจับโจรผู้ร ้ายได้เลย
ข่าวลือเรื่องที่ว่าคนของที่ราบตอนกลางไม่ปิ ดประตูบ้านตอน กลางคืนนั้นไม่ใช่เพราะว่าที่นั่นมีอารยะ แต่เป็ นเพราะว่าการตรวจจับ อาชกรรมไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย
เริ่นเสี่ยวซู่อดถามไม่ได้ “ที่ราบตอนกลางมีผู้อพยพไหม”
หวังเซิ่งอินมองเริ่นเสี่ยวซู่ “มี”
เริ่นเสี่ยวซู่ได้รู ้ว่าที่ราบตอนกลางก็ไม่ใช่สรวงสวรรค์อะไรเช่นกัน จากที่เขามอง ตราบใดที่การกดขี่ยังมี สรวงสวรรค์ก็ไม่มีทางเกิด
ตอนที่เริ่นเสี่ยวซู่ได้รู ้จักความหมายคาว่า ‘เอไอ’ นั้น เขาก็คิดว่า น่าตลกมาก สมัยยังอยู่เมืองน้อย อุปกรณ์ไฟฟ้ าสักเครื่องเขายังไม่มี เลย!
ตลอดทั้งเมืองน้อย มีแต่บ้านอิฐอย่างที่หวังฟู่ กุ้ยอยู่ถึงจะมีสายไฟ เข้า ส่วนผู้อพยพที่เหลือ ในบ้านแม้แต่หลอดไฟสักหลอดยังไม่มี แต่ นี่พวกเขาพูดเฉยเลยว่าเครื่องจักรในที่ราบตอนกลางนั้นแทบมี ปัญญาเป็ นของตัวเองแล้ว
เริ่นเสี่ยวซู่คิดว่านี่มันดูลวงโลกเกินไป
โจวอิงหลงว่า “หมายความว่าพลังรบของพวกคนในที่ราบ ตอนกลางก็พอๆ กับพวกเรา แต่ที่ต่างออกไปคือฝั่งนู้นประสบ ความสาเร็จกับเอไออะไรนั่น” สาหรับชายร่างกายาจากป้ อมปราการ 178 แล้ว สิ่งที่เขาเป็ นห่วงที่สุดก็คือพลังรบของคนในที่ราบตอนกลาง
หวังเซิ่งจือหัวเราะและว่า “สงครามที่เกิดในที่ราบตอนกลางยังไม่ ลามมาถึงป้ อมปราการ 178 ในเร็วๆ นี้หรอก ไม่ต้องเป็ นห่วงไป”
“ใครจะบอกได้” โจวอิงหลงพึมพ า “เอาล่ะ พักกันสักหน่อยเถอะ พวกเราจะถึงป้ อมปราการ 178 ในอีกสองวัน”
เริ่นเสี่ยวซู่กาลังนอนพิงเนินดินแห่งหนึ่ง ตอนนี้เขาอยู่ที่ทาง เหนือสุดของหุบเขา เป็ นพื้นที่ที่ใกล้อาณาเขตของสมาคมตระกูลจง ที่สุด เป็ นพื้นที่กว้างใหญ่ซึ่งปกคลุมไปด้วยทรายเหลือง
เพราะที่นี่ไม่มีการทาอุตสาหกรรม ดวงดาวบนฟ้ าจึงราวอยู่ใกล้ เพียงเอื้อม
แต่ว่าไม่มีใครคอยเฝ้ ายามให้เขาแล้ว
เริ่นเสี่ยวซู่มองไปยังความว่างเปล่าพลางคิดอะไรไปด้วย ไม่ว่า เขาพยายามจะหลับแค่ไหนก็ยังหลับไม่ลง
เขากาลังสงสัยว่าตอนนี้เหยียนลิ่วหยวนอยู่ที่ไหน บางที่เขา อาจจะอยู่ระหว่างไปที่ราบตอนกลาง? หวังฟู่ กุ้ยและคนอื่นๆ รอดชีวิต กันไหม ก่อนเริ่นเสี่ยวซู่ถูกน้าพัดไป เขาทันเห็นพลังรูปแบบใหม่ของ เจียงอู๋อยู่ มีเจียงอู๋อยู่ด้วย ทุกคนก็น่าจะมีชีวิตรอด
จากที่หวังเซิ่งจือว่า ที่ราบตอนกลางคือปลายสายของแม่น้านี้ มันจะไหลผ่านป้ อมปราการ 46 37 28 7 9 และไปสิ้นสุดที่ป้ อม ปราการ 1 ถ้าเริ่นเสี่ยวซู่อยากตามหาคนในครอบครัว เขาก็ต้องไป ตามเส้นทางสายนี้
เริ่นเสี่ยวซู่จาไว้ในใจเรียบร ้อยแล้ว หลังจากสมาคมตระกูลจงพัง พินาศเขาจะออกไปตามหาเหยียนลิ่วหยวนแน่นอน แต่สมาคม ตระกูลจงต้องล่มสลายไปเสียก่อน เขาไม่อยากให้เหยียนลิ่วหยวน หวังฟู่กุ้ย และคนอื่นๆ ถูกลากเข้ามาอยู่ในความยุ่งเหยิงนี้
ตอนนี้เองหวังเซิ่งจือก็เข็นวีลแชร ์ตัวเองมายังเริ่นเสี่ยวซู่และถาม “ยังคิดเรื่องเพื่อนๆ กับครอบครัวอยู่เหรอ”
เริ่นเสี่ยวซู่จ้องเขา “ที่จริงฉันไม่เหลือครอบครัวเหลือแล้ว มีแค่ เพื่อนที่เป็ นดั่งครอบครัว”
“หลังจากฉันกลับไปที่ราบตอนกลางแล้วจะช่วยหาพวกเขาให้ บอกชื่อพวกเขามาสิ” หวังเซิ่งจือยิ้มกล่าว “ถ้าพวกเขาไปถึงที่ราบ ตอนกลางได้จริง ฉันจะช่วยนายตามหาพวกเขาแน่นอน”
แต่ว่าเริ่นเสี่ยวซู่ยังคงเงียบ เขาไม่อยากบอกชื่อหวังฟู่ กุ้ยกับเห ยียนลิ่วหยวนไปเพราะยังไม่รู ้ว่าหวังเซิ่งจือเป็ นคนดีหรือคนเลวกันแน่ เขาจะไปฝากฝังพวกหวังฟู่ กุ้ยกับใครก็ไม่รู ้ได้อย่างไร และตัวเขาเอง ก็เชื่อว่าแม้ไม่มีหวังเซิ่งจือคอยช่วยเหลือ พวกหวังฟู่ กุ้ยก็สามารถเอา ตัวรอดได้อย่างดี
เริ่นเสี่ยวซู่โพล่งถามขึ้นมา “ขอบคุณนะ แต่ว่าฉันมีเพื่อนคน เดียวที่ยังมีชีวิตอยู่ เขาชื่อหลี่เสินถาน”
เริ่นเสี่ยวซู่ไม่ยอมพูดความจริง
หวังเซิ่งจือยิ้มว่า “ได้ จะจาไว้”
……
หลังจากขบวนเดินทางเริ่มล้อหมุนอีกครั้ง สมาคมตระกูลจงก็ ไม่ได้โผล่หน้ามาอีก หลังจากขับมาได้ระยะหนึ่งจนพักกัน พระ อาทิตย์ถึงเพิ่งตก
คืนก่อนที่จะถึงป้ อมปราการ 178 กว่าพระอาทิตย์จะลับฟ้ าไปก็ หลังสองทุ่มแล้ว
ความกว้างใหญ่ในภาคตะวันตกเฉียงเหนือนี้เป็ นอะไรที่เริ่นเสี่ยว ซู่ไม่เคยเห็นมาก่อน ในภาคตะวันตกเฉียงใต้ หวังเซิ่งจือที่อยู่บนวีล แชร ์มองไปยังที่ราบกว้างใหญ่และภูเขาหิมะที่อยู่ไกลๆ และกล่าวคา เปี่ ยมอารมณ์ว่า “วันนี้ฉันได้ยินยลแล้วว่าโลกนี้แท้จริงแล้วใหญ่ ไพศาลเพียงไร”
โจวอิงหลงหัวเราะและว่า “คนจริงต้องอาศัยอยู่ที่นี่แหละ คนจาก ที่ราบตอนกลางอย่างพวกนายยังกร ้านโลกไม่พอหรอกนะ”
หวังเซิ่งจือไม่ปฏิเสธและถาม “ท าไมผู้บัญชาการถึงออกจาก ป้ อมปราการ 178 ล่ะ”
โจวอิงหลงถามกลับ “แล้วพวกนายไปรู ้จักผู้บัญชาการเราได้ ยังไง”
“ผู้บัญชาการออกจากป้ อมปราการ 178 เมื่อหลายปีก่อน เขา ออกเดินทางไปยังที่ราบตอนกลางนะ ก็เลยรู ้จักกันตอนนั้น” หวังเซิ่อจือยิ้ม “ตอนนั้นขาฉันยังดีอยู่ แต่กาลเวลาผันผ่านเช่นบท เพลง ต่างคนต่างชรา”
โจวอิงหลงเบ้ปาก “ผู้บัญชาการยังหนุ่มยังแน่นหรอก”
ทันใดนั้นก็มีรถขบวนหนึ่งโผล่มาตรงเส้นขอบฟ้ า โจวอิงหลง โบกมืออย่างตื่นเต้นและว่า “ฉันใช ้โทรศัพท์ดาวเทียมแจ้งผู้ บัญชาการตั้งแต่เมื่อวานว่าอีกเดี๋ยวพวกเราจะถึงแล้ว ใครจะไปนึกว่า นายจะสาคัญขนาดที่ผู้บัญชาการออกมาต้อนรับด้วยตัวเอง”
หวังเซิ่งจือยิ้มโดยไม่กล่าวอะไร หวังเซิ่งอินที่อยู่ข้างๆ กันมองเริ่น เสี่ยวซู่และว่า “พอพวกเราไปถึงป้ อมปราการ 178 แล้ว ด้วยอิทธิพล ของพี่ชายฉัน จะจัดให้นายเข้าป้ อมปราการ 178 ไม่ใช่เรื่องยาก”
เริ่นเสี่ยวซู่นิ่งอึ้งไปอยู่บ้าง เขาเจอจางจิ่งหลินครั้งล่าสุดตอนไหน นะ?
เขาเคยนั่งยองอยู่นอกโรงเรียน คอยฟังการสอนในห้องเรียนอยู่ สามปี ให้หลังในที่สุดจางจิ่งหลินก็อนุญาตให้เขาเข้าเรียนด้วยได้ ลองนับวันดูแล้ว เขากับจางจิ่งหลินก็รู ้จักกันนานไม่น้อย แต่ว่า อาจารย์ผู้นั้นจู่ๆ ก็กลายเป็ นผู้บัญชาการแห่งป้ อมปราการ 178 เสีย ได้
รถยนต์ที่ขอบฟ้ าขับตัดแสงสายันต์พอมาถึงตรงหน้าทุกคน คน แรกที่กระโดดลงมาก็มีคนที่เริ่นเสี่ยวซู่รู ้จัก สูเสี่ยนฉู่
พอสูเสี่ยนฉู่เห็นพวกโจวอิงหลงก็นิ่งไป โจวอิงหลงยิ้มกล่าว “พี่ น้อง นี่มารับพวกเราถึงที่เลยเหรอ!”
จากนั้นสูเสี่ยนฉู่ก็ตกอยู่ในภวังค์และเดินผ่านเขามายังเริ่นเสี่ยว ซู่ พอเขาเห็นใบหน้าซีดเซียวและรอยเลือดบนร่างของเริ่นเสี่ยวซู่ก็ ถามด้วยความวิตกว่า “เกิดอะไรขึ้น บาดเจ็บเหรอ”
เริ่นเสี่ยวซู่ยิ้มพูด “บาดเจ็บเล็กน้อย เดี๋ยวก็หาย”
“นี่เรียกว่าเล็กน้อย?” สูเสี่ยนฉู่ตะลึงไปเลย เขาเลิกเสื้อเริ่นเสี่ยว ซู่ขึ้นและเห็นรอยแผลที่ท้องซีกขวาของเริ่นเสี่ยวซู่ “บาดแผลทะลุ? ฝีมือใคร ไม่ใช่ว่านายอยู่ที่ป้ อมปราการ 88 หรอกเหรอ”
เริ่นเสี่ยวซู่ว่า “เรื่องมันยาว แล้วก็เป็ นฝีมือของสมาคมตระกูลจง”
“ลิ่วหยวนอยู่ไหน” สูเสี่ยนฉู่หันไปมองทุกคน “แล้วหวังฟู่กุ้ยล่ะ”
ใบหน้าเริ่นเสี่ยวซู่อึมครึมไปวูบหนึ่ง “พรัดพรากจากกัน”
โจวอิงหลง หวังเซิ่งอิน และหวังเซิ่งจือตาค้างกันไปหมด “นี่มัน เกิดอะไรขึ้นเนี่ย ไหนว่าเขาเป็ นผู้อพยพธรรมดาไม่ใช่เหรอ”
ขณะเดียวกันโจวอิงหลงก็แปลกใจยิ่งกว่า ไม่เห็นเคยได้ยินเลย ว่าสูเสี่ยนฉู่มีเพื่อนนอกป้ อม…เดี๋ยวนะ! ดูเหมือนว่าสูเสี่ยนฉู่จะมีเพื่อน นอกป้ อมปราการคนหนึ่งนี่…ฉิบหายแล้ว!
นี่ป้ อมปราการ 178 จะมีดาวหายนะสองดวงเลยเหรอ