the first order สู่รุ่งอรุณเเห่งมวลมนุษย์ - ตอนที่ 382 สู้หรือไม่สู
จุดประสงค์เดียวของการมีอยู่ของป้ อมปราการ 178 คือเพื่อ สงคราม ดังนั้นจึงถูกลิขิตไว้ตั้งแต่ก่อกาเนิดว่าต้องต่างไปจากป้ อม ปราการอื่น
ตามถนนไม่มีร ้านขายของมากมายหลากหลาย คนเดินตาม ถนนไม่ได้สวมชุดดีๆ อะไรเป็ นพิเศษ เด็กสาวบางคนเปลี่ยนมาใส่ กระโปรงยาวส าหรับฤดูใบไม้ผลิ แต่ว่ากระโปรงยาวนั้นก็ยังทามาจาก ผ้าเนื้อหยาบ
เสื้อผ้าที่คนในป้ อมปราการใส่ดูเรียบมาก สีส่วนใหญ่ก็จะเป็ นน้า เงินเข้ม เขียวเข้ม หรือเหลือง
ตอนนี้วิทยาการย้อมผ้าของป้ อมปราการ 178 ยังติดแหงกอยู่ใน ขั้นพื้นฐานที่สุด หลังจากใส่เสื้อผ้าไปพักหนึ่งสีก็เริ่มลอกออก
ก็อย่างที่หวังเซิ่งอินว่าไว้ ภาคตะวันตกเฉียงเหนือเหมาะสุด สาหรับการปลูกฝ้ าย แต่ว่าที่นี่ขาดเทคโนโลยี ทั้งยังทุ่มความสนใจ ไปที่พัฒนาการทางด้านทหาร รวมถึงทาทุกอย่างเพื่อให้มั่นใจว่าทุก คนจะมีอะไรให้รับประทาน
ดังนั้นใครจะมีเวลาไปสนใจเรื่องเล็กเรื่องน้อยอื่นๆ ล่ะ
หลังจากสูเสี่ยนฉู่จากไปแล้ว เริ่นเสี่ยวซู่ หวังเซิ่งจือ และคนอื่นๆ ก็ออกจากอาคารมาสารวจดูป้ อมปราการในตานานนี้
คนเดินตามถนนเห็นพวกเขาแล้วก็หันขวับมอง เพราะนอกจาก เริ่นเสี่ยวซู่แล้ว ที่เหลือดูเด่นแปลกตาไปหน่อย
หวังเซิ่งอินก็เปลี่ยนมาใส่กระโปรงยาวแล้ว แต่กระโปรงสีฟ้ าดูจะ ไม่ได้ผลิตมาจากในป้ อมปราการนี้เลย หวังเซิ่งอินบอกว่าสีฟ้ านี้คือ ฟ้ าทิฟฟานี่ เป็ นสีที่ได้รับความนิยมอย่างมากในที่ราบตอนกลาง เพราะเมื่อก่อนมีนักร ้องหญิงชื่อดังเคยใส่
เริ่นเสี่ยวซู่คิดว่าในป้ อมปราการ 178 ไม่น่ามีนักร ้องชื่อดังอะไร ทั้งนั้น ผู้หญิงที่เขาเห็นในป้ อมปราการ 178 ต่างแบกคานหาบตะกร ้า เหมือนผู้ชาย
เริ่นเสี่ยวซู่โพล่งถามหวังเซิ่งจือ “คิดว่าคุณจางจะรับมือสมาคม ตระกูลจงยังไง”
หวังเซิ่งจือผงกหัวและยิ้ม “หวังว่าป้ อมปราการ 178 จะช่วยนาย ล้างแค้นงั้นเหรอ”
“ใช่แล้ว” เริ่นเสี่ยวซู่ยอมรับออกมาตรงๆ “แต่ถ้าป้ อมปราการ 178 ไม่อยากช่วย ฉันก็ไม่อยากลากคนอื่นลงมาเหมือนกัน ฉันยัง จัดการหลายๆ เรื่องได้เอง”
เริ่นเสี่ยวซู่คิดว่าถ้าป้ อมปราการ 178 ไม่อยากส่งก าลังทหารไป จัดการสมาคมตระกูลจงและจัดการก าจัดปัญหาขัดขวางสายการค้า ล่ะก็ เขาจะเป็ นคนแทรกซึมเข้าสมาคมตระกูลจงด้วยตัวเอง
อะไรที่หลี่เสินถานทาได้ เขาก็น่าจะทาได้เช่นกัน
หวังเซิ่งจือยิ้มกล่าว “ดูคนเดินตามถนนสิ”
“หืม?” เริ่นเสี่ยวซู่ผงะ
“ทุกคนหาบอาหารออกจากบ้าน แต่พวกเขาก าลังไปไหนกันล่ะ” หวังเซิ่งจือถาม
“เอาไปขาย?” เริ่นเสี่ยวซู่ถาม
“ชาวนาอาศัยอยู่นอกป้ อมปราการ ส่วนพวกเขาเป็ นแค่ผู้อยู่ อาศัยธรรมดา ทาไมยังต้องขายอีกล่ะ” หวังเซิ่งจือยิ้ม “พวกเขากาลัง รวบรวมอาหารที่เก็บเอาไว้ก่อนหน้านี้ไปบริจาคให้กองทัพป้ อม ปราการ 178”
“ทาไมล่ะ” เริ่นเสี่ยวซู่นิ่งไป เขาไม่ค่อยเข้าใจเรื่องกิจการทหาร เท่าไรนัก เขาเคยเจอผู้มีทักษะบัญชาการกองทัพระดับสูงมาแล้วก็ จริง แต่ตอนนั้นเขาไม่คัมภีร ์คัดลอกทักษะให้ใช ้
“ก็คือการเตรียมท าสงครามของป้ อมปราการ 178 อาหาร ทั้งหมดจะถูกส่งให้ทหารรักษาการณ์ไว้จัดสรรในช่วงสงคราม” หวังเซิ่งจือยิ้มอธิบาย “ถ้าตัดสินใจได้แล้วว่าจะล้างแค้นสมาคม
ตระกูลจงล่ะก็ว่างใจได้เลย ถ้าคุณจางไม่คิดมาดีแล้ว เขาคงไม่ขอให้ ฉันมาที่ภาคตะวันตกเฉียงเหนือนี่หรอก เขาเองก็ตัดสินใจแล้ว”
ป้ อมปราการ 178 คิดว่าหาวิธีขายแร่จากแหล่งแร่จ านวน มหาศาลเพื่อให้การเป็ นอยู่ของผู้อาศัยในป้ อมปราการดีขึ้น ทั้งยังได้ จัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ดีขึ้นด้วย เพราอย่างนี้พวกเขาจึงต้องเปิด สายการค้าขึ้นมา
แต่สมาคมตระกูลจงไม่มีทางปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้น ทาไมพวก เขาต้องยอมให้คนนอกมานอนหลับข้างเตียงอย่างสบายอกสบายใจ ด้วย มันจะกระทบต่อผลประโยชน์และการเติบโตของสมาคมอย่าง แน่นอน
ในห้องประชุมเรียบง่ายของป้ อมปราการ 178 นายทหารกลุ่ม หนึ่งกาลังถกเถียงกันยกใหญ่ไม่หยุดอยู่รอบโต๊ะทรายขนาดใหญ่ โจ วอิงหลงตะโกน “ฉันไม่ชอบหน้าสมาคมตระกูลจงมานานแล้ว ฉัน มั่นใจว่าทุกคนรู ้อยู่แล้วพวกตาแก่ในสมาคมตระกูลจงกาลังเคลื่อน กาลังกับอาวุธเพื่อเผชิญหน้ากับป้ อมปราการ 178 เรื่องที่ว่าพวกเขา คิดจะทาอะไร ฉันคงไม่ต้องสาธยายหรอกมั้ง”
“ทุกคนก็รู ้กันหมดแหละ” มีคนว่า “ก่อนหน้านี้ฉันเข้าไปในหุบ เขาด้วยตัวเอง ฉันเจอว่าสมาคมตระกูลชิ่งกาลังกวนน้าขุ่นอยู่ที่นั่น แต่ว่าแผนการของชิ่งเจิ่นไม่ได้เล็งเป้ ามาป้ อมปราการ 178 เรา คน ของเขาทุกนายเข้าโจมตีสมาคมตระกูลหยางหมดแล้ว ตอนนี้ในหุบ เขาเลยเหลือแต่พวกสมาคมตระกูลจง”
“ถ้าพวกเราอยากเปิดสายการค้า ดีสุดคือสร ้างถนนที่ทะลุผ่าน เขาติ้งย่วน ที่นั่นเป็ นถนนทางหลวงในยุคก่อนภัยพิบัติไม่ใช่เหรอ แบบนั้นก็น่าจะเป็ นเส้นที่สั้นที่สุดแล้ว แต่เขาติ้งย่วนยังอยู่ในการ ควบคุมของพวกโจรภายใต้สมาคมตระกูลจง ส่วนเขากวนซานทาง เหนือก็ทาหน้าที่เป็ นฐานปฏิบัติการหน้าของสมาคมตระกูลจง” สูเสี่ยนฉู่วิเคราะห์ “ดังนั้นต่อให้พวกเราไม่โจมตีสมาคมตระกูลจง ตรงๆ ก็ยังต้องชิงการควบคุมแนวหน้าที่เขาติ้งย่วนและเขากวนซาน อยู่ดี”
“พวกเราจะชิงมายังไง” โจวอิงหลงตอบ “พวกเรามีก าลังคนไม่ พอ สู้น่ะสู้ได้ แต่จะครองพื้นที่ให้ได้มันตรึงมือไปหน่อย ต้องส่งคนไป คุ้มกันการโจมตีจากสมาคมตระกูลจงเยอะขนาดไหน และถ้าสมาคม ตระกูลจงตัดทางถอยที่เขาติ้งย่วน ทหารที่อยู่ที่นั่นจะถูกปล่อยให้พึ่ง แต่ตัวเองทันที แค่คิดก็ท าให้ฉันปวดใจแล้ว”
“ใช่ ที่เหล่าโจวว่าก็ไม่ผิด ไม่มีใครยึดตาแหน่งป้ องกันระยะยาว ได้หรอก” ชายร่างกายาผู้หนึ่งว่า “สมาคมตระกูลจงอยู่หน้าเราแล้ว หลายปีมานี้เจ้าพวกเวรนั่นไว้วางใจไม่ได้ มองป้ อมปราการ 178 เป็ น ศัตรูในจินตนาการ ในอดีตก็เป็ นพวกเราที่คอยป้ องกันพวกศัตรู ตะวันตกอยู่ที่ป้ อมปราการ 178 นี่ แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะลืมความ เมตตาที่พวกเราเคยให้ไปหมดแล้ว!”
ทั้งห้องประชุมพูดคุยโหวกเหวกแสดงความคิดเห็นอยู่ตลอดทั้ง คืน ดุเดือดเป็ นอย่างยิ่ง
ขณะเดียวกันจางจิ่งหลินกาลังก้มมองแผนที่ภูมิประเทศเงียบๆ อยู่ข้างโต๊ะทราย โต๊ะทรายนี้ครอบคลุมทั้งภาคตะวันตกเฉียงเหนือกับ ตะวันตกเฉียงใต้ และครอบคลุมไปถึงพื้นที่เล็กๆ ส่วนหนึ่งของที่ราบ ตอนกลาง
ทันใดนั้นก็มีคนว่า “ถ้าศัตรูตะวันตกเข้ามาโจมตีเราตอนที่เรา โจมตีสมาคมตระกูลจงล่ะ”
ทุกคนมองหน้ากันเอง โจวอิงหลงอึกอักพูด “พวกเขาไม่มาที่นี่ สิบหกปีแล้ว คงไม่บังเอิญเหมาะเจาะขนาดนั้นหรอกมั้ง”
คนที่เอ่ยมาตอนแรกกล่าวเสียงนิ่ง “เพราะสีผิว เส้นผม และชาติ พันธุ์ไม่เหมือนกัน คนของเราเลยไม่เคยแทรกซึมไปในค่ายของพวก เขาได้ แต่ในทางกลับกัน พวกเขาเองก็แทรกซึมมาในค่ายเราไม่ได้ เพราะอย่างนั้นต่างฝ่ ายต่างไม่รู ้ว่าอีกด้านเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่นายจะ มั่นใจได้ยังไงว่าพวกเขาจะไม่มาน่ะ แล้วถ้าเรื่องมันบังเอิญขนาดนั้น จริงๆ ล่ะ อย่างนั้นเราคงต้องรับมือกับศัตรูทั้งหน้าหลัง”
ป้ อมปราการ 178 ไม่ได้สนใจสมาคมตระกูลจงมาหลายปีดีดัก ไม่ใช่ว่าพวกเขายอมปล่อยให้ไฮยีน่ามาอวดดีอยู่หน้าประตู แต่เป็ น เพราะว่าพวกเขามีภารกิจส าคัญกว่าให้ท าจนไม่สามารถกระจาย ก าลังออกไปได้
โจวอิงหลงและคนอื่นๆ รู ้สึกหดหู่ใจเล็กน้อย พวกเขาต้องยอมรับ ว่าภารกิจของตนมาก่อน
สมาคมตระกูลจง สมาคมตระกูลชิ่ง สมาคมตระกูลหยาง หรือต่อ ให้ที่ราบตอนกลางเองไม่ได้มาขอบคุณพวกเขา แต่ภารกิจก็คือ ภารกิจ
ทันใดนั้นจางจิ่งหลินก็กล่าว “สู้”
ทั้งห้องประชุมตกอยู่ในความเงียบงัน ทุกคนได้ยินเสียงลมหายใจ คนอื่น ในดวงตาของพวกโจวอิงหลงฉายประกาย แก้มเปล่งสีแดง เลือดลมสูบฉีดที่มาก่อนเกิดสงครามครั้งใหญ่
ไม่ว่าพวกเขาจะจะมองภาพเป็ นอย่างไรในห้องประชุมนี้ หรือไม่ ว่าจะมีความเห็นต่างกันเช่นไร ทว่าคาพูดของจางจิ่งหลินคือการตอก ค้อนตัดสิน
ในเมื่อจางจิ่งหลินตัดสินใจแล้ว สงครามก็เป็ นสิ่งที่ไม่อาจ หลีกเลี่ยงได้