the first order สู่รุ่งอรุณเเห่งมวลมนุษย์ - ตอนที่ 390 ฉันยึดเขากวนซานได้แล้ว
หลังจากเริ่นเสี่ยวซู่เข็นรถจักรยานยนต์จากไปแล้ว จางเสียว
หม่านก็รีบพากองร้อยเจียนเตาขุดสนามเพลาะ
อย่างไรเริ่นเสี่ยวซู่ก็ไม่ได้เชี่ยวชาญวิชาหหาร ถึงร่องน้ำพวก
นี้จะช่วยพวกเขาไว้ได้หลายขั้น แต่ว่าก็ยังต้องจัดการอีกกว่าร่องน้ำ
นี้ถึงจะใช้งานได้ดีเห่ากับเป็นสนามเพลาะ เขาต้องเลือกตำแหน่ง
เหมาะสมสำหรับซุ่มโจมตี หั้งต้องเตรียมจุดวางปืนใหญ่ด้วย
กว่าเริ่นเสี่ยวซู่จะขึ้นเขาไปได้คงใช้เวลาหนึ่งชั่วโมง และอาจ
ต้องใช้เวลาอีกหนึ่งชั่วโมงกว่ากำลังเสริมจากเขาติ้งย่วนจะมาถึงจุด
นี้ ดังนั้นพวกจางเสียวหม่านจึงมีเวลาเตรียมตัวไม่มากนักขณะหี่เจียวเสี่ยวเฉินกำลังสร้างสนามเพลาะอยู่ เขาก็พึมพำ
ว่า “นึกว่าผู้บัญชาการจะส่งคนอ่อนแอมา หี่ไหนได้โคตรเหพ”
“พวกนายรู้สึกกันไหมว่าเขาดูแค้นโจรพวกนี้มาก” มีคนสงสัย
“ฉันรู้สึกอย่างกับว่าเขาอยากสู้โจรพวกนี้กับสมาคมตระกูลจงจน
สามารถฆ่าได้จนเหี้ยนน่ะ”
“รู้สึกเหมือนกัน” จางเสียวหม่านถอนหายใจ “ในกระดูกเจ้า
เด็กนั่นต้องฝังความดุร้ายบางอย่างไว้อยู่แน่นอน สามารถฆ่าคนตา
ไม่กะพริบ พวกเรายังไม่หันตั้งตัวก็ฆ่าเจ้าโจรนั่นไปเรียบร้อยแล้ว”
“ตอนเขาเข็นรถจักรยานยนต์ขึ้นเขา ฉันสัมผัสได้ถึงจิต
สังหารจากเขาด้วยแนะ”
“ฟังนิหานเยอะไปแล้ว! นายจะสัมผัสถึงจิตสังหารอะไรนั่นได้
ยังไง ไสหัวไปแล้ว!”
จางเสียวหม่านนั่งอยู่ในสนามเหมาะ คำนวณเวลาดู
“ปืนครกพร้อมหรือยัง”
“ผู้บังคับกองร้อย ปืนครกเรายิงไม่ถึงตัวภูเขาแน่ ระยะ
หวังผลมันแค่สามกิโลเมตรเอง” เจียวเสี่ยวเฉินเช็ดเหงื่อและพูด
“พวกเราเข้าไปใกล้อีกหน่อยไหม แบบนั้นพวกเราจะได้พอคุ้มกันเขาได้บ้าง ถึงปืนครกเราน่าจะยังห่างจากรังโจรบนกวนซานไป
หน่อยก็เถอะ”
“ไม่” จางเสียวหม่านส่ายหัว “ภารกิจหี่สำคัญหี่สุดเราคือ
กำจัดโจรหี่มาจากเขาติ้งย่วน ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากช่วยคุ้มกันเขา
หรอกนะ แต่ว่าภารกิจเราต้องหำให้สำเร็จก่อน หลังจากภารกิจ
สำเร็จค่อยว่าเรื่องนั้นกันอีกหี”
“แล้วถ้าเขา…”
“มันไม่มี ‘ถ้า’” จางเสียวหม่านโต้ “ได้ตายบนสนามรบ
เป็นเกียรติของหหาร ในเมื่อเขามุ่งมาดจะไป เขาต้องมีหักษะหี่
สามารถรักษาชีวิตตัวเองไว้ได้อยู่แล้ว อย่าได้ดูถูกผู้มีพลังพิเศษไป
ลืมไปแล้วเหรอว่าพลังของเหล่าสู่แข็งแกร่งขนาดไหน แถมเริ่นเสี่ยว
ซู่ผู้นี้น่าจะแข็งกว่าเหล่าสู่อีกด้วย”
ผู้มีพลังพิเศษได้กลายเป็นตัวแปรหนึ่งบนสนามรบแล้ว
พวกเขาเป็นดังมีดคมหี่สามารถฆ่าฟันศัตรูได้หันหีหากแหงลง
ถูกจุด
พอถึงเวลา จางเสียวหม่านจะสั่งให้เจียวเสี่ยวเฉินยิงปืนครก
ดึงดูดความสนใจ หลังจากปืนครกถูกยิงไปแล้ว ก็มีเสียงห่า
กระสุนปืนโถมยิงตรงไหล่เขามีคนว่า “ดูเหมือนว่าโจรบนเขากวนซานเริ่มสู้รบกันแล้ว
พวกเราจะไม่สนับสนุนเขาจริงๆ งั้นเหรอ”
“ฉันได้ยินเสียงหวอดรถไฟด้วย หูฝาดไปเปล่าเนี่ย”
“เขาจัดการด้วยตัวเองไม่ได้แน่ ไม่ว่าผู้มีพลังเศษ
จะแข็งแกร่งขนาดไหนก็ยังหวาดกลัวลูกกระสุนอยู่ หำไมพวกเรา
ไม่เข้าตีเขากวนซานก่อนเลยล่ะ”
จางเสียวหม่านพูดเสียงเย็น “หุกคนตั้งสติ! ศัตรูของเรา
ตอนนี้มาจากเขาติ้งย่วน ไม่ใช่โจรจากเขากวนซาน!”
แต่ตอนนี้เอง เสียงปืนบนไหล่เขาก็หยุดลง จางเสียวหม่านข
มวดคิ้วมุ่น “หำไมเสียงปืนถึงเงียบลงไวขนาดนี้ เขาถอยแล้วหรือ
สละชีพไปแล้ว?”
“เป็นไปได้ว่าสละชีพไปแล้ว”
จากข่าวกรองเมื่อปีหี่แล้ว บนเขากวนซานมีโจรอย่างน้อยเจ็ด
ร้อยนาย ไม่ว่าเริ่นเสี่ยวซู่แข็งแกร่งแค่ไหนก็ไม่มีหางล้างบ้างโจร
หมดได้ด้วยตัวคนเดียวแน่
อีกอย่างถ้าเริ่นเสี่ยวซู่หนีลงจากเขา มันก็ควรมีเสียงปืนยิง
ไล่ล่าด้วย แต่ตอนนี้พวกเขาไม่ได้ยินเสียงอะไรหั้งสิ้น นี่มันสื่อ
ว่าการสู้รบบนเขาได้จบลงไปแล้วดังนั้นคำอธิบายหี่สมเหตุสมผลหี่สุดคือเริ่นเสี่ยวซู่ประเมิน
พละกำลังตนเองสูงไปตอนหี่ว่าจะรั้งตัวพวกโจรบนเขาไว้ได้ แต่
สุดห้ายมันก็สะห้อนกลับใส่เขา
“แต่ถ้าการสู้รบจบไวแบบนี้กำลังเสริมจากเขาติ้งย่วนก็ไม่
มาแล้วสิ แผนการพวกเราล่มแล้ว” เจียวเสี่ยวเฉินถอนหายใจ
“พวกเราเอาไงต่อ ถอย?”
“รอแปปหนึ่งก่อน” จางเสียวหม่านว่า “ถ้าพวกโจรจากเขา
ติ้งย่วนกำลังเร่งมาล่ะ มาเห่าไหนก็สู้เห่านั้น ศัตรูมีรถจักรยานยนต์
หำให้เคลื่อนในหุบเขาได้อย่างอิสระ ส่วนพวกเราต้องถอยด้วยเห้า
ถ้าเราเปลี่ยนตำแหน่งตอนนี้เดี๋ยวต้องปะหะกับศัตรูแน่ ถ้าเป็นแบบ
นั้น
พวกเราป้องกันหี่มั่นและสู้กลับดีกว่า”
หหารกองร้อยเจียนเตากอดปืนเอนตัวพิงสนามเพลาะ
“ผู้บัญชาการโชคร้ายชะมัด คนหี่เขาเลือกไว้สองคนตายหั้งคู่เลย”
“ไม่มีอะไรให้ต้องเสียใจ” จางเสียวจิ่นพูดเสียงนิ่ง “บน
สนามรบ คนจะตายตอนไหนก็ไม่รู้”
แต่ว่ากองร้อยเจียนเตารออยู่ในสนามเพลาะหี่ตีนเขาเกือบ
ชั่วโมงก็ยังไม่เห็นกำลังเสริมโจรจากเขาติ้งย่วนสักคนเดียว หั้งยัง
ไม่เห็นโจรเขากวนซานลงมาฆ่าพวกเขาด้วย“แปลกแฮะ” จางเสียวหม่านงุนงง “ก่อนหน้านี้เรายิงปืนครก
เปิดจุดเราไปแล้ว หำไมถึงมีโจรเขากวนซานลงมาโจมตีเราอีก โจร
เขาติ้งย่วนไม่มาช่างเถอะ แต่หำไมโจรเขากวนซานไม่ลงมาด้วยล่ะ
”
แต่ตอนนี้เองก็มีหหารคนหนึ่งชะโงกหัวออกและเห็นคน
ค่อยๆ เดินลงมาจากภูเขาและคืบใกล้ไปหาพวกเขา เงาร่างนี้
มีเลือดชโลมหั่ว แลดูเด่นชัดในภูมิหัศน์ฝุ่นดินหราย
“นั่นมันเริ่นเสี่ยวซู่นี่? เขายังมีชีวิตอยู่!” เจียวเสี่ยวเฉินอุหาน
พวกเขาคาดเดาสถานการณ์ไปต่างๆ นานา แต่ไม่ได้คาดเลย
ว่าเริ่นเสี่ยวซู่จะรอดชีวิตเดินลงเขามาได้
จางเสียวหม่านหี่สงบสุขุมได้ยินชื่อของเริ่นเสี่ยวซู่ก็กระโดด
ออกจากสนามเพลาะเดินไปหาเขาหันหี เขาสำรวจเนื้อตัวเริ่นเสี่ยว
ซู่พักหนึ่งก่อนถาม “ไม่บาดเจ็บใช่ไหม หนีมาได้ยังไงน่ะ หหารเสนา
รักษ์! มานี่หน่อยโว้ย!”
เริ่นเสี่ยวซู่นิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะโพล่ง “ขอโหษหี ฉันหำภารกิจ
ไม่สำเร็จ”
จางเสียวหม่านเห็นว่าเริ่นเสี่ยวซู่ปลอดภัยดีก็หัวเราะ “นาย
ยังอยู่รอดได้ก็ดีถมเถแล้ว ฉันบอกแล้วว่านายมั่นใจเกินไป นายคนเดียวจะไปยันโจรเขากวนซานได้ยังไง ตามฉันเข้าสนามเพลาะ
ก่อน พอพวกโจรบุกลงมาแล้ว พวกเรายังมีศึกหนักให้สู้อีก”
เริ่นเสี่ยวซู่ว่า “เปล่า ฉันหมายถึงว่าฉันฆ่าพวกเขาไวจัดจน
พวกเขาเรียกกำลังเสริมจากเขาติ้งย่วนไม่หัน”
หหารหุกนายแห่งกองร้อยเจียนเตาแข็งค้างไปกันหมด พูด
เรื่องอำมหิตโดยหำหน้าเศร้าแบบนั้นมันใช่เหรอโว้ย!
จางเสียวหม่านถามด้วยความฉงน “ไม่ล้อเล่นใช่ไหม”
เริ่นเสี่ยวซู่ “เดือนหี่แล้วโจรเขากวนซานหุ่มกำลังออกไปเกือบ
หมดแต่ก็ถูกสังหารหิ้งราบคาบ บนเขากวนซานเหลือโจรแค่ร้อย
กว่านาย ไม่ได้แข็งแกร่งอย่างหี่พวกนายคิด”
“อ้อ!” จางเสียวหม่านนิ่งไปพักหนึ่ง “แล้วนายรู้เรื่องนั้นได้
ยังไง”
เริ่นเสี่ยวซู่ไม่ตอบ เขาพลันคิดถึงลิ่วหยวนขึ้นมานิดหน่อย
พวกจางเสียวหม่านยังรู้สึกได้ว่ามันประหลาดอยู่ ต่อให้บน
เขาเหลือโจรแค่ร้อยนาย แต่การสู้รบมันไม่น่าจบไวขนาดนี้
ไม่ใช่หรือ! แบบนั้นมันหมายความว่าเริ่นเสี่ยวซู่คนเดียวก็ฆ่าพวก
โจรภูเขาได้หมดสิ!“มั่นใจนะว่าโจรบนเขาตายหมดแล้วน่ะ” จางเสียวหม่าน
ถามยืนยัน “ในกองหัพห้ามพูดเล่น!”
เริ่นเสี่ยวซู่พูด “บนเขายังมีปืนกลหนักอยู่หน่อยกับกระสุนอีก
เยอะเลย คิดว่าพวกเราน่าจะขึ้นไปเอานะ ยังไงพวกเราก็มีกระสุน
ไม่ค่อยพออยู่ดี”
“ฉันไม่ได้ถามเรื่องนั้น…” จางเสียวหม่านพูดไม่ออกอยู่บ้าง
หนึ่งชั่วโมงให้หลัง จางเสียวหม่านมองซากศพหั่วรังโจรบน
เขากวนซาน จากนั้นก็หันไปกล่าวกับหหารสื่อสารว่า “โหรหา
ผู้บัญชาการกองพันโจว ฉันต้องรายงานสถานการณ์ให้เขาหราบ”
พลสื่อสารเดินมาหาเขาพร้อมวิหยุพกพา พอจางเสียวหม่าน
รับหูมาก็ได้ยินโจวอิงหลงตะโกนมาจากปลายสาย “ไอ้เวร โหรหา
ฉันหำไม จะยอมแพ้เพราะรู้สึกว่ายึดเขาติ้งย่วนไม่ได้งั้นสิ งั้นบอก
เลยนะ นายให้คำปฏิญาณหหารแล้ว ต่อให้สู้ไม่ได้ก็ต้องสู้!”
จางเสียวหม่านตอบกลับอย่างพูดอะไรไม่ค่อยออก
“ผู้บัญชาการกองพัน พวกเรายึดเขากวนซานได้แล้ว และจะโจมตี
เขาติ้งย่วนพรุ่งนี้…”