the first order สู่รุ่งอรุณเเห่งมวลมนุษย์ - ตอนที่ 393 ปรากฏตัวบนสนามรบอย่างฉับพลัน
แต่ก็ต้องประหลาดใจกว่าเพราะนึกว่าโจรสองคนนี้จะมีไพ่ลับ
ซ่อนไว้อะไรแบบนั้น ทว่าพวกเขาชี้จุดผิดพลาดบนแผนที่ออกมา
จริงๆ
การวาดแผนที่เป็นทักษะเฉพาะไม่น้อยเพราะต้องใช้อุปกรณ์
วัดต่างๆ ใช้แค่ตาเปล่าไม่อาจวัดความสูงความกว้างของ
ตำแหน่งที่ตั้งได้
ป้อมปราการจะพยายามวาดแผนที่รังโจรบนเขาให้ละเอียด
ที่สุดมากเท่าที่จะทำได้ ทว่างานวาดล้วนดำเนินเป็นการลับ บาง
พื้นที่ได้แต่วัดด้วยตา แผนที่ย่อมมีความคลาดเคลื่อนอยู่แล้ว
โจรทั้งสองหยิบดินสองขึ้นมาและวาดวงกลมลงบนแผนที่
วงกลมเล็กบอกที่ตั้งปืนกลหนัก พวกเขาพูดว่า “แต่ที่ตั้งปืนกลหนัก
มักจะเปลี่ยนไปเรื่อย ยุทโธปกรณ์ส่วนใหญ่มีผ้าใบคลุมอยู่ พวกเรา
ไม่รู้เหมือนกันว่าใต้นั่นมีอะไร ต้องระวังให้มาก”“ตอนนี้ใช้ทางภูเขาขึ้นยอดเขาไม่ได้แล้วเพราะมีไม้บังทางอยู่”
โจรคนหนึ่งชี้ไปที่ทางบนแผนที่และว่า “รู้สึกว่าหัวหน้าใหญ่จะสั่งให้
ปิดเขาติ้งย่วน เขาขนพวกเสบียงเข้ามาล่วงหน้า เห็นว่าตราบใดที่
ป้องกันที่นี่ได้สามเดือน ทุกคนก็จะได้รางวัลกันถ้วนหน้า”
เริ่นเสี่ยวซู่โพล่งถาม “บนเขามีพวกทหารประจำ การหรือเปล่า”
โจรทั้งสองส่ายหน้า “ไม่มี แต่ว่ามีพวกที่แข็งแกร่งมากผสม
รวมกับพวกโจรอยู่ พวกเขาไม่น่าใช่โจรในหุบเขาแน่”
“มีกันกี่คน” เริ่นเสี่ยวซู่ถาม
“ประมาณร้อย บนเขาติ้งย่วนมีโจรเก้าร้อยกว่าคน” โจรคน
หนึ่งกล่าว
เริ่นเสี่ยวซู่พยักหน้าและไม่เอ่ยอะไรอีก ขบวนทหารของ
สมาคมตระกูลจงแฝงตัวอยู่ในหมู่คนที่เข้ามาขัดขวางเขา ทำให้เขา
ต้องสู้จนสุดตัว ดังนั้นถ้าทหารประจำ การของสมาคมตระกูลจงอยู่
ที่นี่ด้วย เขาก็ต้องระวังพวกนั้นให้มากแล้ว
“ไม่มีทางขึ้นอื่นแล้วเหรอ” จางเสียวหม่านขมวดคิ้วถาม
“พวกเขาได้บอกไหมว่าจะคุ้มกันเขาติ้งย่วนไปทำไม”“ไม่ได้บอก พวกเราจะไปรู้เรื่องแบบนั้นได้ยังไง” โจรคนหนึ่งว่า
“พวกเราไปได้หรือยัง”
จางเสียวหม่านลังเลอยู่ครู่ก่อนจะโบกไม้โบกมือ “ไสหัวไปได้
แล้ว ไปทางตะวันตกและอย่าให้ฉันเห็นหน้าพวกนายสองคนอีก”
“อา ได้ครับ” โจรสองคนลุกขึ้นวิ่งหนีไป แต่ก้าวไปไม่ถึงสอง
ก้าวก็หันกลับมาถาม “ท่านครับ มีบุหรี่ไหม”
จางเสียวหม่านกระฟัดกระเฟียด “บุหรี่เราไม่เหมือนบุหรี่ของ
พวกนายหรอก”
“ได้หมด” โจรทั้งสองว่า
จางเสียวหม่านให้เจียวเสี่ยวเฉินส่งบุหรี่สองซองให้พวกเขา
“ไสหัวไป”
เริ่นเสี่ยวซู่ถาม “พวกเราจะปล่อยพวกเขาไปแบบนี้เลยเหรอ”
“ป้อมปราการ 178 ไม่เคยผิดคำสัญญา ไม่ต้องห่วงไป พวก
โจรในหุบเขาต่างรู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควร ถ้าพวกเราบอกให้มุ่งไป
ทางตะวันตก พวกเขาก็จะไม่หันกลับมา” จางเสียวหม่านพูดอย่าง
เฉยเมยเริ่นเสี่ยวซู่มองโจรทั้งสองข้ามร่องน้ำรูปกากบาทและหายตัวไป
ทางตะวันตก ถ้าเป็นตัวเขา ไม่มีทางปล่อยเจ้าพวกนั้นไปแน่
แต่เขาไม่อาจกล่าวว่าจางเสียวหม่านทำผิดหรอก
ป้อมปราการ 178 มีวิถีเอาตัวรอดของตัวเอง
“โจรบนเขาติ้งย่วนปิดทางภูเขาไปแล้ว แปลกจังแฮะ ทำไม
พวกเขาต้องปิดถนนด้วย แล้วจะคุ้มกันเขาไปสามเดือนทำไม” จาง
เสียวหม่านสงสัย
“แต่ถ้าพวกเราต้องคอยกันแต่แค่ตีนเขาก็ช่วยพวกเราได้มาก
เลย ยังไงพวกเขาก็ไม่ลงมาล่างเขาอยู่แล้ว” เจียวเสี่ยวเฉินว่า
“ไม่หรอก” จางเสียวหม่านว่า “ที่เขาเลือกคุ้มกันที่นี่ต้อง
มีเหตุผลอะไรไม่ชอบมาพากลอยู่แน่ สงครามไม่ใช่แค่ทำตามคำสั่ง
ไปงั้นๆ หรอกนะ เราจะประสบความสำ เร็จได้ก็ต่อเมื่อทำให้ศัตรูอยู่
ไม่สุข งั้นยึดเขาติ้งย่วนกันไหม”
เมื่อวานผู้บัญชาการกองพันโจวแค่สั่งว่าหลังจากยึดเขากวน
ซานได้แล้วให้พวกเขาเข้าล้อมโจรเขาติ้งย่วนไว้ แต่ดูทรงแล้ว
พวกเขาคงจะเข้าตีเขาติ้งย่วนด้วยเหมือนกัน“แต่ดีอย่างที่พวกเรารู้ตำแหน่งที่ตั้งปืนกลหนักพวกเขาหมด
แล้ว ถ้าเอาปืนครกเราทำลายที่ตั้งอาวุธพวกเขาจะลดผู้บาดเจ็บ
ล้มตายฝั่งเราไปได้มาก พวกเราต้องเข้าตีทันที ไม่อย่างนั้น
ถ้าตำแหน่งปืนกลหนักพวกเขาเปลี่ยนขึ้นมา ข้อมูลที่พวกเราเพิ่ง
ได้มาจะกลายเป็นข้อมูลเก่าไปหมด” จางเสียวหม่านว่า
เริ่นเสี่ยวซู่โพล่งถาม “ก่อนหน้านี้บอกว่าในสนามรบพวกเรา
ต้องฟังคำสั่งไม่ใช่เหรอ คำสั่งคือให้พวกเราล้อมศัตรูที่ตอนเขานี่”
จางเสียวหม่ายอธิบายอย่างใจเย็น “ที่ฉันอยากสอนนายตอนนี้
คือช่วงสงครามต้องรู้จักประยุกต์”
จางเสียวหม่านมองเริ่นเสี่ยวซู่เกิดพิจารณาคำที่เพิ่งเอ่ยไป
พลันรู้สึกว่าไม่น่าสอนเริ่นเสี่ยวซู่เลย
เจียวเสี่ยวเฉิน “งั้นพวกเราจะโจมตีคืนนี้เลย?”
“อืม” จางเสียวหม่านพยักหน้าและว่า “ถ้ามันมีทางสายเล็ก
อื่นๆ ขึ้นเขาไปได้พวกเราควรส่งคนเข้าแทรกซึมรังพวกเขาก่อน
แต่ว่านี่มันมีทางขึ้นแค่เส้นเดียว พวกเราได้แต่ตีฝ่าขึ้นไปแล้ว ต่อให้จะลำบากมากก็ตามทีเถอะนะ พลสื่อสาร ติดต่อผู้บัญชาการ
กองพันโจวแล้วรายงานเรื่องนี้
ทันใดนั้นเริ่นเสี่ยวซู่ก็ว่า “ฉันปืนหลังเขาติ้งย่วนลอบโจมตีก่อน
ได้ จากนั้นค่อยให้ทุกคนเริ่มลงมือ”
ทั้ง
กองร้อยเจียนเตาได้ยินแบบนี้ก็นิ่งอึ้งกันไปหมด “นายจะปีน
ผาที่เอียงแปดสิบองศาได้ยังไง”
“ฉันมีวิธี” เริ่นเสี่ยวซู่ “ขอทีเอ็นทีสองชุด”
กองร้อยเจียนเตามีลูกกระสุนเต็มตัว แต่ระเบิดทีเอ็นทีมัก
ใช้ระเบิดบังเกอร์หรือตำแหน่งที่ตั้งปืนใหญ่ ไม่มีใครเข้าใจเลยว่าเริ่น
เสี่ยวซู่จะเอาไปทำไม
จางเสียวหม่านกัดฟัดกรอดและว่า “ระวังตัวด้วย!”
จางเสียวหม่านพลันรู้สึกว่ามีคนดุร้ายในกองร้ายที่คอยอาสา
ภารกิจอันตรายอยู่แบบนี้ตลอดนั้นมันเยี่ยมมาก มีคนที่สู้เก่งกาจ
มากแบบนี้อยู่ด้วย ทำเอาการรบง่ายดายแบบไม่เคยเป็นมาก่อน
ที่เขาคิดไว้ เริ่นเสี่ยวซู่จะมีค่าพอเป็นผู้บัญชาการป้อมปราการ
178 หรือเปล่าไม่รู้หรอก แต่อย่างน้อยการมีตัวตนเช่นเริ่นเสี่ยวซู่บนสนามรบนั้นดีมาก
จางเสียวหม่านกล่าวกับเริ่นเสี่ยวซู่ “ไม่ว่าคนอื่นจะสนับสนุน
นายหรือไม่สนับสนุน แต่ว่ากองร้อยเจียนเตาเราจะสนับสนุนเสมอ
ใช่ไหมพวกเรา”
เริ่นเสี่ยวซู่ผงะ “สนับสนุนฉัน? หมายความว่าไง”
เขารู้สึกว่าตนเองพลาดอะไรบางอย่างที่สำ คัญมากๆ ไปแล้ว
พอถึงสามทุ่ม จางเสียวหม่านก็เอาระเบิดทีเอ็นทีให้เริ่นเสี่ยวซู่
และใช้เชือกมัดมันขึ้นหลังของเขา “ตอนที่ปืนเขา หลังเขาก็ระวังให้
มากนะ ถ้ารู้สึกว่าขึ้นไม่ไหวแล้วไม่ต้องรั้น”
เริ่นเสี่ยวซู่พยักหน้า “ไม่ต้องห่วง อีกหกชั่วโมงหลังจากนี้
ทุกคนจะได้ยินเสียงทีเอ็นทีระเบิด แล้วก็เริ่มโจมตีเขาติ้งย่วนได้เลย
ทำลายตำแหน่งที่ตั้งของปืนกลหนักก่อน แล้วฉันจะคอยสนับสนุน
ทุกคนจากบนนั้น”
ในกรณีศึกษาทางทหารสำ หรับสงครามครั้งก่อนๆ ที่พวกจาง
เสียวหม่านเคยอ่าน พลร่มจะกระโดดร่มลงมาเปิดทางให้ทหารนาย
อื่นๆ แบบนี้ก็จะกันการห้ามทัพของศัตรูไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพพวกเขาถูกลิขิตแล้วว่าพลร่มไม่อาจมีได้ในยุคสมัยนี้
แต่กระนั้นก็ยังไม่อาจห้ามผู้ดุร้ายปืนผาสูงเจ็ดร้อยเมตรและลาดชัน
แปดสิบองศาด้วยมือเปล่าได้
อีกอย่างพลร่มธรรมดาที่ไหนจะมีพลังรบแข็งแกร่งเท่าเริ่น
เสี่ยวซู่ได้
เจียวเสียวเฉินที่มองเริ่นเสี่ยวซู่ลับตาไปก็พลันกล่าว “ได้ยิน
เสียงเมื่อไรพวกเราจะโจมตีทันที ฉันมีลางว่าถ้าเราเคลื่อนไหวไม่เร็ว
พอ กว่าเราจะไปถึงเขาคงจัดการศัตรูจนเหี้ยนแล้ว”
ตอนที่พวกเขาเข้าตีเขากวนซานกัน ทุกคนกังวลว่าเริ่นเสี่ยวซู่
จะตายบนเขา แต่ตอนนี้ ทุกคนต่างกลัวว่าเขาจะฆ่าพวกโจรเร็ว
เกินไป
แต่จางเสียวหม่านส่ายหน้า “ยึดเขาติ้งย่วนยากกว่าเขากวน
ซานเพราะที่นี่มีโจรมากกว่าหลายเท่า จากที่เริ่นเสี่ยวซู่ว่า กำลังรบ
หลักของเขากวนซานตายไปในการสู้รบรอบล่าสุด บนนั้นเลยเหลือ
แต่เศษๆ เดิมของพวกโจร แต่ยังไงก็ยังต้องเข้าตีให้ไวที่สุดถึงจะยืนยันความปลอดภัยของเริ่นเสี่ยวซู่ได้ การสู้รบเป็นหน้าที่ของทั้ง
กองร้อยเจียนเตา พวกเราให้เขารับหน้าคนเดียวไม่ได้หรอก”
“ตั้งแต่นี้ไปพวกเราจะงดใช้เสียงและควบคุมการใช้ไฟ ห้าม
สูบบุหรี่ ห้ามพูดคุย ห้ามใช้ไฟฉาย ทุกอย่างต้องทำในความมืด!”
จางเสียวหม่านคิดอะไรบางอย่างขณะมองเงาร่างของเขาติ้งย่วน
ที่อยู่ไกลๆ