the first order สู่รุ่งอรุณเเห่งมวลมนุษย์ - ตอนที่ 411 ขายเหรียญ
ปืนสไนเปอร์เป็นของแปลกใหม่สำ หรับเริ่นเสี่ยวซู่มาก และเขา
ก็ชอบมากด้วย ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ขอให้หยางเสียวจิ่นสอนวิชาให้
หรอก
ถึงในยุคสมัยนี้จะมีผู้มีพลังพิเศษ แต่ว่าพวกเขาก็ยัง
ไม่ทรงพลังมากพอจะเมินอำนาจของปืนสไนเปอร์ได้
เริ่นเสี่ยวซู่ไม่แน่ใจว่ากระสุนหัวดำใช้ทำอะไร อย่างไรเขาก็ไม่
มีโอกาสได้ลอง ต้องรอจนกว่าได้ออกไปทดสอบในแดนรกร้าง
ตอนนี้พวกจางเสียวหม่านกำลังเมาหัวราน้ำอยู่ในโรงอาหาร
เริ่นเสี่ยวซู่แบกพวกเขากลับค่ายพักทีละสองคนอย่างไม่รู้จะหัวเราะ
หรือจะร้องให้ดี ส่วนทหารในฐานปฏิบัติการหน้ามองเริ่นเสี่ยวซู่แบก
คนไปกลับโรงอาหารและค่ายพักหกสิบกว่ารอบอย่างทึ่งๆ
วันเดียวกันนั้น ข่าวเริ่นเสี่ยวซู่แบกเพื่อนทหารกลับค่ายพักก็
กลายเป็นข่าวประจำ ฐานปฏิบัติการหน้าไปแล้วตอนเย็น จางเสียวหม่านและคนอื่นๆ ตื่นขึ้นมาแบบยังไม่สร่าง
เมา แต่พอได้ยินว่าเริ่นเสี่ยวซู่เป็นคนแบกพวกเขากลับมาก็รีบ
ขอบคุณเขา “ขอบใจนะที่แบกพวกเรากลับมาเริ่นเสี่ยวซู่ ต่อไปไม่ดื่ม
หนักขนาดนี้แล้ว น่าขายหน้าชะมัด”
แต่จางเสียวหม่านพบว่าเริ่นเสี่ยวซู่ดูไม่พอใจ เขาได้ยินเริ่น
เสี่ยวซู่พูด “ดื่มต่อไป! เป็นผู้ชายแต่ไม่ดื่มเหล้ามันได้เหรอ”
ถ้าพวกเขาไม่ดื่มเหล้า ตนเองจะไปหาเหรียญคำขอบคุณ
มาจากไหนล่ะ
ก่อนดื่มกัน เขามีเหรียญคำขอบคุณแค่แปดร้อยนิดๆ เหรียญ
แต่หลังจากนั้น ปลดล็อคอาวุธไปแล้วยังเหลือตั้งห้าร้อยกว่า!
เริ่นเสี่ยวซู่อยากจะบอกให้จางเสียวหม่านเลิกออกไปสู้และ
ดื่มเหล้าเสียทุกวันไปเลยจริงเชียว
หลังจากปลดล็อคปืนสไนเปอร์ได้แล้ว พระราชวังก็ให้ภารกิจ
รองสำ หรับอาวุธชิ้นที่สามมา คราวนี้เขาต้องใช้ทั้งหมดหมื่นเหรียญ
คำขอบคุณสำ หรับการปลดล็อคอาวุธใหม่เริ่นเสี่ยวซู่ไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าจะไปหาเหรียญคำขอบคุณมากมาย
ขนาดนั้นมาจากไหน
ทันใดนั้นโจวอิงหลงก็เดินเข้าค่ายพักของกองร้อยเจียนเตามา
พอได้กลิ่นเหล้าในค่ายพักก็ขมวดคิ้วมุ่น “จางเสียวหม่าน ลุกขึ้น
มาเดี๋ยวนี้”
กองร้อยเจียนเตาทุกคนลุกขึ้นจากเตียงมายืน
เรียงหน้ากระดานสองแถวอยู่สองฝั่งของทางเดิน โจวอิงหลงเดิน
ตรวจตราไปรอบๆ “ดูสิว่าเมาหัวราน้ำขนาดไหน! ทหารควรทำตัว
ยังไงไม่รู้เหรอ”
จางเสียวหม่านพึมพำ “พวกเราเป็นทหารคุณูปการกันนะ อีก
สองวันพวกเราถึงจะได้ภารกิจใหม่ไม่ใช่เหรอไง”
โจวอิงหลงโมโหจนหัวเราะออกมา “เมาจนไม่สนใจสาย
บังคับบัญชาแล้วสินะ เวลาคุยกับฉัน ต้องใส่คำว่า ‘รายงาน’ สองคำ
มาด้วย!”
จางเสียวหม่านนิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะตอบ “รายงาน! ผมเป็น
ทหารคุณูปการ!”มีเสียงดังสนั่น โจวอิงหลงเตะจางเสียวหม่านจนล้มลงก้น
จ้ำ เบ้า “สร่างเมาได้แล้ว พรุ่งนี้กองร้อยเจียนเตาจะได้ภารกิจใหม่
หลังจากได้สติแล้วก็มารายงานตัวกับฉัน”
พอได้ยินว่าจะมีภารกิจใหม่ จางเสียวหม่านก็ผุดลุกขึ้นมาทันที
“ผู้บัญชาการกองพัน ภารกิจใหม่คืออะไรเหรอ ด่วนมากไหม”
“เป็นปฏิบัติการลับ หลังจากสร่างเมาแล้วค่อยมาคุยกับฉัน”
โจวอิงหลงเอามือพาดหลังเดินออกจากค่ายพักไป
ทหารกองร้อยเจียนเตาในค่ายพักมองหน้ากันเอง
สมัยก่อน กองร้อยเจียนเตาจะไม่มีทางได้รับปฏิบัติการลับ
มาทำ ถึงพวกเขาจะรับศึกหนักได้ ศัตรูแกร่งกล้าก็เคยปราบ แต่การ
แทรกซึมและการซุ่มโจมตีนั้นไม่ใช่จุดเด่นของพวกเขา ปฏิบัติการลับ
พวกนี้มักจะเป็นหน้าที่ของกองพันลาดตระเวน ทหารกองพัน
ลาดตระเวนดิบเถื่อนมาก ทุกครั้งที่มีการแข่งขันต่อสู้กันในกองทัพ
ทหารจากกองพันลาดตระเวนมักจะติดโผอันดับหนึ่งในสิบเกือบ
ตลอด
ทำไมจู่ๆ กองร้อยเจียนเตาถึงได้รับปฏิบัติการลับล่ะวันต่อมา จางเสียวหม่านเดินกลับมาจากไปหาโจวอิงหลงด้วย
คิ้วขมวดมุ่น เขากล่าวกับทหารกองร้อยเจียนเตา “ทัพหลักจะมุ่งไป
แม่น้ำเฮยสือที่ทางเหนือ หลังข้ามแม่น้ำไปจะเจอเขาอู่ชวนทางที่
สมาคมตระกูลจงตั้งแนวป้องกันไว้”
“แล้วพวกเราล่ะ” เจียวเสี่ยวเฉินถาม
“พวกเราจะออกเดินทางบ่ายนี้ จะมุ่งหน้าไปแนวหน้าที่เขา
เฉียงวานและแม่น้ำเป่ยวาน ก่อนจะอ้อมไปปีกข้างของสนามรบหลัก
พวกเราจะทำลายสะพานขัดขวางสายส่งกำลังทางตะวันออกของ
สมาคมตระกูลจง จากนั้นพวกเราก็จะไปร่วมกับทัพหลักที่เขาอู่ชวน
“พวกเราเป็นแค่กองร้อยเดียว แต่พวกเขาหวังอยากให้พวกเรา
แทรกซึมลึกเข้าไปปั่นป่วนสายส่งกำลังที่แนวหลังน่ะนะ แถมยังต้อง
ทำลายสะพานอีก? สมาคมตระกูลจงต้องคุ้มกันสะพานอย่าง
แน่นหนาแน่” เจียวเสี่ยวเฉินตะลึง “ผู้บัญชาการกองพันโจวมอง
พวกเราสูงไปแล้วมั้ง”
“คำสั่งลงมาแบบนี้” จางเสียวหม่านพูดเสียงเคร่ง “เก็บสัม
ภาระ พวกเราจะออกเดินทางตอนสี่โมงเย็นตรง พวกเราต้องไปให้ถึงแม่น้ำเป่ยวานและทำลายสะพานของสมาคมตระกูลจงที่นั่นให้ได้
ภายในเจ็ดวัน พวกเราต้องทำให้มั่นใจว่าทัพหลักเราจะไปถึงแม่น้ำ
เฮยสืออย่างไม่ต้องกังวลว่าจะถูกโจมตีข้างหลัง”
แม่น้ำเฮยสือกับแม่น้ำเป่ยวานนั้นอยู่คนละตำแหน่งกันเลย
ศูนย์บัญชาการการคิดว่าราคาที่อาจต้องจ่ายสำ หรับการตีฝ่าแม่น้ำ
เป่ยวานนั้นมันสูงเกินไป ดังนั้นพวกเขาจึงยอมสร้างสะพานแพข้าม
แม่น้ำเฮยสือไปโจมตีแนวป้องกันที่เขาอู่ชวน เพราะว่ามันปลอดภัย
มากกว่าการข้ามแม่น้ำเป่ยวานโดยตรง
ที่พวกเข้าต้องเป็นห่วงคือหลังจากทัพหลักตีฝ่าแนวหน้าของ
เขาอู่ชวนได้แล้ว ศัตรู ณ แม่น้ำเป่ยวานอาจจะฉวยโอกาสนี้ลอบ
โจมตีปีกข้างทัพหลักของป้อมปราการ 178 เอาได้ ดังนั้นพวกเขาจึง
ส่งกองร้อยเจียนเตาไปตัดทางเสียก่อน กันไม่ให้สมาคมตระกูล
จงข้ามแม่น้ำเป่ยวานเป็นการชั่วคราว
ปัญหาเดียวคือปฏิบัติการนี้มันยากเกินไป ไม่ต่างไปจากปล่อย
ให้กองร้อยเจียนเตาแทรกซึมลึกเข้าไปแนวหลังของศัตรูด้วยตัวเอง
เลยแต่โจวอิงหลงบอกว่าปฏิบัติการทำลายสะพานเป่ยวานนั้นต้อง
ดำเนินเป็นการลับ ปฏิบัติการนี้มีเวลาที่กำหนดอย่างแน่นอน ดังนั้น
คนยิ่งรู้น้อยยิ่งดี
ในเวลานี้คนส่วนใหญ่ในฐานปฏิบัติการหน้าไม่ทราบกลยุทธ์ที่
ศูนย์บัญชาการวางไว้ ทว่าจู่ๆ มีประกาศว่ากองร้อยเจียนเตาจะออก
ไปฝึกภาคสนาม พวกเขาแบกเป้สนาม ถืออาวุธ และวิ่งออกจากฐาน
ปฏิบัติการหน้าไป ทุกคนนึกว่าอย่างมากสามวันกองร้อยเจียนเตาก็
คงกลับมา แต่ผ่านไปหลายวัน พวกเขาก็เห็นว่ากองร้อยเจียนเตา
ไม่มีทรงจะกลับมาเลย
…
กองร้อยเจียนเตาเดินป่าฝ่าแดนรกร้างไปโดยมีเหรียญ
เกียรติยศประดับอยู่บนอก เหรียญนี้สลักคำว่า ‘ฉือชวน’ และมอบให้
กับทหารทุกนายที่เข้าร่วมการรบที่ตำบลฉือชวน
ฟู่หราวเดินไปพึมพำไป “นี่ผู้บังคับกองร้อย คิดว่าเหรียญขาย
ได้เงินเท่าไรเหรอ”จางเสียวหม่านคิดตามและพูด “มันเป็นการรบที่แท้จริง
ครั้งแรกหลังกองทัพเราเริ่มเปิดศึก ยังไงการบุกเขาติ้งย่วนก็สู้กับ
พวกโจร ส่วนการรบที่ตำบลฉือชวนนั้นมีความสำ คัญมากกว่า อีก
อย่างเหรียญเกียรติยศนี่มีแค่ไม่กี่ร้อย เดาว่าคงขายได้ราวๆ หมื่น
หยวนมั้ง”
“ก็ไม่เลวนะนั่น” ฟู่หราวยิ้มเฉ่ง “เดี๋ยวกลับไปแล้วจะขายทิ้ง”
เริ่นเสี่ยวซู่ได้ยินแบบนั้นก็ตะลึง “ไม่ใช่ว่าเหรียญเป็น
สัญลักษณ์ของความภาคภูมิเหรอ ทำไมขายไปอย่างงั้นเลยล่ะ”
เขานึกว่ากองร้อยเจียนเตามีความภาคภูมิใจในตัวเองมากเสีย
อีก
“ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่นี่” จางเสียวหม่านหัวเราะ “ต่อให้พวกเรา
ขายเหรียญให้คนอื่นไป มันจะทำให้พวกเรามีเกียรติน้อยลงไปเหรอ
ยังไงเหรียญเกียรติยศชั้นสามของเราก็ยังอยู่ งั้นเอาตัวเหรียญไป
แลกอะไรที่ใช้งานได้จริงๆ ไม่ดีกว่าเหรอ เอาหมื่นหยวนนั่นไปซื้อขา
แกะแจ่มกว่าเยอะ”ตอนที่พวกเขาได้เหรียญมา เหรียญเกียรติยศชั้นสามเดิมที่ถูก
เรียกคืนไปก็เอากลับมาให้พวกเขาแล้ว แต่ว่าทุกอย่างดำเนินไปใน
ทางลับ พวกเขาต้องรอทำปฏิบัติการนี้ให้เสร็จก่อนถึงจะมีพิธีมอบ
เหรียญเกียรติยศให้พวกเขา
เริ่นเสี่ยวซู่คิดว่าอันธพาลกองร้อยเจียนเตาพวกนี้นี่ไร้ยางอาย
ชะมัด ขายเหรียญแลกเงิน? แต่กระนั้นเมื่อพูดถึงการรบ กองร้อยนี้ก็
ทั้ง
ดุร้ายทั้งไร้ความกลัวเกรง