the first order สู่รุ่งอรุณเเห่งมวลมนุษย์ - ตอนที่ 414 ตั้งจุดโต้การซุ่มโจมตี
ตอนที่เริ่นเสี่ยวซู่เรียนเรื่องปืนสไนเปอร์มาจากหยางเสียวจิ่น
เธอก็พอเข้าใจทักษะระดับปัจจุบันของเขาได้อย่างคร่าวๆ
จากคำของเธอ ทักษะการใช้ปืนระดับสูงของเขานั้นอยู่
เหนือกว่าคนส่วนใหญ่ในโลกไปแล้ว
แต่ว่ามือสไนเปอร์มักมีสถานะพิเศษในฐานะนักแม่นปืน
ชั้นยอดของโลก ถ้าเจอสักคนหนึ่ง คนก็ต้องระวัดระวังอย่างมาก
เริ่นเสี่ยวซู่รู้ดีว่าการล่ามือสไนเปอร์ในแดนรกร้างนั้น
เป็นอันตรายสำ หรับตนเองมาก ทักษะการใช้ปืนของมือสไนเปอร์ผู้
นั้น
อาจจะสูงกว่าของเขาเอง
ว่ามันไม่สำ คัญหรอก เริ่นเสี่ยวซู่เชี่ยวด้านการหาเหยื่อในแดน
รกร้างมากกว่าศัตรู
ตอนนี้เริ่นเสี่ยวซู่กำลังหมอบอยู่ข้างพุ่มไม้หนึ่ง สายตา
สอดส่องหาร่องรอยของศัตรูมือสไนเปอร์ระวังตัวมากไม่ให้ตนเองทิ้งขยะอะไรไว้ระหว่างวัน
มือสไนเปอร์ผู้นั้นต้องพกอาหารสนามเฉพาะตนมาด้วยแน่
แต่กลับไม่เจอบรรจุภัณฑ์ถูกทิ้งไว้เลย ส่วนใหญ่หลังกินอาหารเสร็จ
ศัตรูจะพกขยะกับตัวไปหมดกันไม่ให้บรรจุภัณฑ์เผยร่องรอยตน
ขณะเคลื่อนตัวในแดนรกร้าง ก็ระวังมากไม่ปล่อยหรือทิ้ง
รอยเท้าไว้ตามพื้นโคลน ถ้ามีพื้นหินให้เดินก็จะเดินบนนั้น ทั้งยัง
เตรียมจะเดินผ่านธารสายน้อยตัดร่องรอยคนที่ติดตามมาด้วย
เริ่นเสี่ยวซู่มองพุ่มไม้ตรงหน้าและพบว่าเศษใบไม้นั้นร่วงจาก
ต้นในลักษณะแปลกๆ เห็นแบบนี้ก็ยิ่งมั่นใจขึ้น
การไล่ล่านี้ดำเนินไปตลอดทั้งวัน มือสไนเปอร์ไม่รู้ว่าตัวเองถูก
แกะรอยหรือเปล่า แต่เขาก็ไม่ได้เคลื่อนไหวไปไกลจากจุดซุ่มยิงเดิม
นัก เขาเพียงเคลื่อนตัวเป็นวงกลมด้วยใจยังอยู่กับกองร้อยที่เข้ามา
ในแดนรกร้าง เกียรติยศนี้ต้องเป็นของเขา
ถ้าเขาฆ่าได้ทั้งกองพัน อาจจะถูกเลื่อนยศเป็นพันตรีเลยก็ได้
แต่เขาไม่โง่ เขาเรียกกำลังเสริมจากแนวหลังมาตั้งแต่เมื่อวาน
แล้ว และทหารกองโจรก็จะมาถึงช่วยสนับสนุนเขาวันนี้สถานการณ์เมื่อวานอันตรายมาก แต่โชคดีที่เขาออกจากจุด
ซุ่มโจมตีล่วงหน้า ไม่อย่างนั้นคงตายคากระสุนปืนครกแล้ว
ตอนนั้นมือสไนเปอร์ตกใจอยู่บ้าง ทหารกองร้อยนี้มาจาก
กองกำลังไหนกัน เจ้าปืนครกนั่นบังเอิญยิงถูกใส่จุดซุ่มยิงก่อนหน้า
ของเขาได้อย่างไร
แต่ที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือเจ้าทหารที่ใช้ความเร็วล้วนๆ หลบหลีก
กระสุนของเขา!
ตอนแรกหลังเห็นร่างแยกเงา สันชาตญาณเขาบอกด้วยซ้ำ ว่า
เป็นสูเสี่ยนฉู่ผู้มีชื่อแห่งป้อมปราการ 178 ขนาดโจรตามแดนรกร้าง
ยังรู้เลยว่าร่างแยกเงาเป็นสัญลักษณ์ของสูเสี่ยนฉู่ แล้วเขาจะไม่รู้ได้
อย่างไร
ถ้าเขาฆ่าสูเสี่ยนฉู่ได้ การเลื่อนเป็นพันตรีของเขาก็เป็นเรื่อง
แน่นอนแล้ว
พลสไนเปอร์เป็นทหารประเภทพิเศษ ถึงพวกเขาจะรู้ว่าผู้มีพลัง
พิเศษนั้นทรงพลังมาก แต่ก็ยังเข้าใจด้วยว่าผู้มีพลังพิเศษไม่อาจ
รับมือกระสุนสไนเปอร์ได้เพราะอย่างนั้นมือสไนเปอร์ผู้นี้จึงมองหาสูเสี่ยนฉู่ในกลุ่มตาม
สัญชาตญาณ ทว่าเพราะไม่เคยเห็นหน้าสูเสี่ยนฉู่มาก่อน เขาเลย
ไม่รู้ว่าผู้ใดคือสูเสี่ยนฉู่
เพราะอย่างนั้นมือสไนเปอร์จึงตัดสินใจจะทำลายร่างแยก
เงาก่อน ถ้าเขาปราบร่างแยกเงาไม่ได้ ก็จะถอยทันที
และแล้วเขาก็จัดการร่างแยกเงาได้สำ เร็จ นี่ทำให้เขาเกิด
ความมั่นใจขึ้นมา ผู้มีพลังพิเศษก็แค่นี้เองไม่ใช่หรือ
หลังจากกำจัดร่างแยกเงา ก็คิดว่าชะตาของทั้งกองร้อยตกอยู่
ในกำมือแล้ว แต่ความเป็นจริงก็ปลุกให้เขาได้สติ
ใช่ว่าทุกคนจะมีความคมชัดของการมองขณะศีรษะเคลื่อนไหว
[1]สูงเท่าหยางเสียวจิ่น แถมปฏิกิริยาตอบโต้ก็ใช่ว่าจะเร็วเท่าเธอ
ด้วย
ดังนั้นพอเริ่นเสี่ยวซู่วิ่งกระโจนออกจากหลังก้อนหิน แม้แต่ตัว
มือสไนเปอร์เองก็ยากจะเร้นร่างทาง
เขายิงได้แค่สามนัด และก็พลาดทั้งสามนัด จากนั้นเขาก็รีบ
ลุกขึ้นหนี ล้มเลิกความคิดจะสู้กับศัตรูที่นี่ทันที มือสไนเปอร์รู้ดีว่าผู้มีพลังพิเศษผู้นี้แข็งแกร่งกว่าที่ตนคิด เขาต้องหาโอกาสโจมตีที่
ดีกว่านี้
มือสไนเปอร์เหลือบมองท้องฟ้า หลังจากล่าช้าไปวันหนึ่ง
อีกไม่นานทหารกองโจรก็น่าจะมาถึง
ทันใดนั้นก็มีเสียงกรีดร้องมาจากทางช่องเขาอีกา มือสไนเปอร์
กำลังนอนนิ่งอยู่ในพุ่มไม้ พอได้ยินเสียงก็รู้ว่าทหารกองโจรที่เรียก
มานั้นถูกโจมตีแล้ว!
เกิดอะไรขึ้นกัน ทำไมทหารกองโจรถึงถูกโจมตีอยู่ในช่องเขา
อีกาได้
เขาลังเลอยู่พักหนึ่งก่อนจะตัดสินใจจะมุ่งไปทางจุดเกิดเหตุ
แต่พอเขามาถึงเหนือสันเขาเห็นสถานการณ์ในช่องเขาอีกาแล้วรู้สึก
ว่ามันผิดปกติในพลัน
เขารีบกลับหลังหันไปซ่อนหลังสันเขา เกิดเสียงปังดังสนั่นใส่จุด
ที่เขาเพิ่งยืนอยู่เมื่อชั่วครู่!
เป็นมือสไนเปอร์อีกคน! ศัตรูเองก็มีมือสไนเปอร์ด้วย!ไม่ใช่แล้ว! เขาสังเกตการร์กองร้อยนี้มานานและมั่นใจมากว่า
ไม่มีทหารที่เป็นพลสไนเปอร์อยู่ในกลุ่ม พวกเขาไม่มีทางแบกของ
ใหญ่อย่างปืนสไนเปอร์ได้หรอก
ถ้าศัตรูมีมือสไนเปอร์เช่นนี้ เขาไม่มีทางมาพยายามซุ่มโจมตี
กองร้อยนี้ด้วยตัวเองแน่
และตอนนี้เอง ทหารกองโจรที่เดินทางผ่านช่องเขาอีกามา
สนับสนุนนั้นกำลังถูกเถาวัลย์สีแดงชาดซ่อนตัวใต้พุ่มไม้ล้อมไว้
ข้างๆ มีพืชหน้าตาประหลาดที่คอยพ่นผลไม้สีกากีใส่พวกเขาด้วย
พอเจ้าผลนี่ยิงใส่ตัวคนแล้ว ก็กระแทกอย่างแรกจนกระดูก
แตกหัก ถ้าใครถูกยิงใส่ที่หน้าอก กระดูกซี่โคร่งก็จะหักทันที
ผู้บาดเจ็บถึงกับกระอักเลือดออกมา!
กำลังทหารที่มาไม่ใช่จำ นวณน้อยๆ มือสไนเปอร์รายงาน
สถานการณ์ไปและแจ้งเรียบร้อยว่าศัตรูมีเต็มหนึ่งกองร้อย เพราะ
อย่างนั้นทหารกองโจรจึงส่งกำลังมาสนับสนุนมือสไนเปอร์ถึงสอง
กองร้อย แต่พอคนกลุ่มนี้เข้ามาใกล้อาณาบริเวณ ก็กลับถูกโจมตี
ก่อนเสียได้พวกเขานึกว่าชัยชนะเป็นเรื่องแน่นอนแล้ว พอทหารกองโจร
มาถึงพวกเขาก็จะรีบจัดการกองร้อยไม่ทราบสังกัดแห่งป้อมปราการ
178 เสีย แต่สุดท้าย พวกเขายังไม่ทันได้เห็นเงาของศัตรูเลย ทหาร
กองโจรกองร้อยแรกก็เสียคนไปครึ่งหนึ่งแล้ว ส่วนอีกครึ่งก็สู้กับ
เถาหนามอย่างบ้าคลั่ง พยายามหลุดออกไปจากพืชประหลาดพวกนี้
แต่เริ่นเสี่ยวซู่ไม่มีทางปล่อยโอกาสให้พวกเขา หลังจากโยน
ระเบิดมือผ่านประตูเงาไปจำ นวนหนึ่ง ช่องเขาอีกาก็กลับมา
เงียบสงบอีกครา
มือสไนเปอร์ที่หลบอยู่ในหลังสันเขาหลั่งเหงื่อเย็นเยียบ
เถาหนามพวกนั้นก็เป็นพลังพิเศษเหมือนกันเหรอ ในกองร้อยนั่นมีผู้
มีพลังพิเศษถึงสองคน?
แถมศัตรูดูจะคาดการมาถึงของทหารกองโจรไว้แล้ว จึงทำการ
ซุ่มโจมตีเรียบร้อย และจุดประสงค์ของการโจมตีทหารกองโจรก็เพื่อ
ล่อเขาออกไป!
โชคดีที่ไหวตัวทัน ไม่อย่างนั้นคงถูกยิงตายไปแล้ว!ทักษะการยิงปืนของศัตรูไม่ได้สูงส่งนัก แต่ความร้ายกาจมีอยู่
เกินพอ!
มือสไนเปอร์แห่งสมาคมตระกูลจงไม่อาจทำใจสงบนิ่งได้แล้ว
เขาไม่อาจรู้ได้แล้วว่าบนเขาเหล่านี้มีศัตรูกี่นาย และมีผู้มีพลังเศษกี่
คนในหมู่คนพวกนั้น
เขารีบยกวิทยุขึ้นมาต่อสายกลับไปยังศูนย์บัญชาการที่แม่น้ำ
เป่ยวาน “หมาป่าพิษถึงศูนย์ ร้องขอการช่วยเหลือ! พบสูเสี่ยนฉู่แห่ง
ป้อมปราการ 178 ย้ำ พบสูเสี่ยนฉู่แห่งป้อมปราการ 178 อีกทั้งยังมี
ผู้มีพลังพิเศษไม่ทราบที่มาอีกคนหนึ่งด้วย หนึ่งกองร้อยของทหาร
กองโจรถูกโจมตี! ขอให้ส่งกำลังสนับสนุนมาเพิ่มด้วย!”
เจ้ามือสไนเปอร์ไม่กล้ามั่นใจเกินเหตุอีกแล้ว เขาใช้ชื่อสูเสี่ยน
ฉู่ด้วยหวังว่าศูนย์บัญชาการที่แม่น้ำเป่ยวานจะส่งกำลังมาเพิ่มช่วย
กำจัดศัตรู
[1] Dynamic visual acuity ความคมชัดของการมองขณะศีรษะ
เคลื่อนไหว