the first order สู่รุ่งอรุณเเห่งมวลมนุษย์ - ตอนที่ 428 แผนสำรองของสมาคมตระกูลจง
ณ ป้อมปราการ 111 แห่งสมาคมตระกูลชิ่ง คฤหาสน์ที่ตั้งบน
เขาแปะก๊วยว่างเปล่ามาพักใหญ่แล้ว
หลังจากการรัฐประหารในสมาคมตระกูลชิ่ง ชิ่งเจิ่นก็ไม่คิด
จะอยู่ในคฤหาสน์หรูนั่นต่อ เขากลับย้ายไปอยู่ในค่ายทหาร
ป้อมปราการ 111 ไปอยู่ร่วมกันกับพวกเหล่าทหาร เขากินข้าวที่
โรงอาหารทุกวัน ไม่ได้รับการปฏิบัติพิเศษจากเจ้าหน้าที่โรงอาหาร
อะไรเลยด้วย
ตอนแรกทหารสมาคมตระกูลชิ่งที่สนับสนุนเขาพูดกันว่าต่อไป
คงเจอหน้าเขายากมากแล้วแน่ แต่พวกเขาก็ต้องแปลกใจที่ตอนนี้
พวกเขาเห็นหน้าชิ่งเจิ่นเกือบทุกวัน
ในการคุยส่วนตัว เหล่านายพลถึงกับบอกว่าชิ่งเจิ่นนั้นใจกรุณา
ต่อลูกน้องเกินไป คนมากมายรู้ว่าการอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมเดียวกับลูกน้องและไม่ได้รับสิทธิพิเศษอะไรอาจจะสามารถชนะใจ
คนเบื้องล่างได้ แต่รู้ไปก็ใช่ว่าคนจะทำเช่นนั้นได้จริง
แต่พอชิ่งเจิ่นได้ยินเรื่องคนเขานินทาตน เขาก็ยอมรับออกมา
ตรงๆ ว่าที่ย้ายเข้าค่ายทหารเพราะกลัวว่าตัวเองจะถูกลอบสังหาร
อาศัยอยู่ใต้หลังคาเดียวกับทหาร กินอาหารร่วมกันกับพวกเขา ก็
เพราะตัวเองกลัวว่าจะถูกวางยาพิษ
พอพวกนายพลได้ยินแบบนี้ก็ไม่รู้จะตอบรับอย่างไรดี แต่
พวกเขาชินกับการที่ชิ่งเจิ่นพูดความสัตย์ด้วยท่วงท่าเรื่อยเปื่อยแล้ว
ตอนทำรัฐประหารกัน ชิ่งเจิ่นก็บอกว่าถ้าบุกเขาเขาแปะก๊วยอาจจะ
ตายก็ได้ แต่สุดท้ายพวกเขาก็ลงมืออยู่ดีไม่ใช่เหรอ
หลังจากพวกนายพลรู้ความกังวลของชิ่งเจิ่นแล้ว ก็บอกเขา
เป็นมั่นเหมาะว่าฐานทัพข้างป้อมปราการ 111 เป็นสถานที่ที่
ปลอดภัยที่สุด ไม่ว่าผู้มีพลังพิเศษทรงพลังแค่ไหนบุกเข้ามา ก็
ไม่อาจมีชีวิตรอดกลับออกไปได้
ชิ่งเจิ่นได้แต่ส่ายหัวยิ้ม เพราะเขารู้ดีว่าเดี๋ยวนี้ผู้มีพลังพิเศษมัน
รับมือยากเพียงไร อีกอย่างผู้มีพลังพิเศษกำลังแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆด้วย
ตอนนี้ชิ่งเจิ่นกำลังยืนอยู่หน้าโต๊ะใหญ่ แต่ว่าภูมิประเทศบน
โต๊ะทรายไม่ใช่ของตะวันตกเฉียงใต้แต่เป็นสนามรบ
ตะวันตกเฉียงเหนือระหว่างป้อมปราการ 178 และสมาคมตระกูลจง
บนโต๊ะทรายแยกธงแดงน้ำเงินออกอย่างชัดเจน ธงสีน้ำเงิน
แทนสมาคมตระกูลจงทางเหนือ ส่วนธงสีแดงแทนป้อมปราการ 178
ทางใต้
ทันใดนั้นชิ่งเจิ่นก็หยิบธงสีแดงจิ๋วอันหนึ่งขึ้นมาราวกับอยาก
จะเอาไปวางสักที่ทางเหนือ แต่เขาไม่รู้จะวางตรงไหนดี
หลัวหลานที่อยู่ข้างเขากำลังจ้องไปที่เลขาโพล่งถาม “ธงนี่
หมายถึงกองกำลังไหนนะ”
“กองพันทหารทัพหน้า กองร้อยเจียนเตา” ชิ่งเจิ่นตอบเสียงนิ่ง
“ถ้านายรังแกเลขาฉันอีก ฉันจะให้ชิ่งอวี่โยนนายออกไป”
“เจ้าเด็กชิ่งอวี่นั่นจะกล้าโยนฉันออกไปเหรอ” หลัวหลานตบ
ก้นเลขาขณะเธอเดินออกไปและพูดกับชิ่งเจิ่น “ไหนๆ นายก็ไม่อยากได้ผู้หญิง งั้นเอาเธอมาให้ฉันแทนที่จะปล่อยคนอื่นไปรังแก
เธอดีไหม”
“ฉันพนันเลยว่ายาดำที่เริ่นเสี่ยวซู่ให้นายหมดแล้วล่ะสิ” ชิ่งเจิ่น
ชำ เลืองมองหลัวหลาน “ดูสิว่าถ้าหมดแล้วนายจะทำไงต่อ”
หลัวหลานปวดใจ “ตอนส่งถังโจวขึ้นเหนือ ลืมบอกให้เขาขอ
ยาดำจากเริ่นเสี่ยวซู่มาสักหน่อยเฉยเลย แม่*เอ้ย!”
“เริ่นเสี่ยวซู่กับกองร้อยเจียนเตาข้ามแม่น้ำเป่ยวานแล้วและก็
กำลังขึ้นเหนือต่อ” ชิ่งเจิ่นว่า “ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเขา นายคง
ไม่มียาดำให้ใช้ไปตลอดชีวิต”
“อะไรนะ เขากำลังขึ้นเหนือต่องั้นเหรอ แต่ที่นั่นมีสมาคม
ตระกูลจงอยู่เต็มเลยนะ” หลัวหลานแปลกใจ “มันเกิดขึ้นตอนไหน
น่ะ”
“ราวๆ สองวันก่อน รอบนี้ข่าวหลุดออกมาช้าหน่อย” ชิ่งเจิ่นคิด
พักหนึ่งก่อนจะว่า “สงสัยว่าเขาถูกบีบให้ขึ้นเหนือหรือว่าเลือกขึ้นไป
เองเพราะอยากฆ่าศัตรูด้วยมือตัวเอง อย่าได้ดูหมิ่นความตั้งใจเด็ดเดี่ยวจะล้างแค้นของผู้มีพลังพิเศษไปเชียว เพราะงี้ฉันถึงย้าย
เข้ามาอยู่ในค่ายทหาร”
ข่าวการล้างแค้นสมาคมตระกูลหลี่ของหลี่เสินถานแพร่ออกไป
แล้วหลายฉบับแบบ แต่ไม่ว่าจะข่าวลือไม่มีมูล หรือคนวงในของ
สมาคมตระกูลหลี่ลือกันมา ก็ต่างพูดถึงวิธีการที่ชายเพียงคนเดียว
สามารถฝังกลบทั้งสมาคมตระกูลหลี่ลงปรโลก แม้แต่คนในที่ราบ
ตอนกลางก็คงได้ยินข่าวลือเรื่องนี้แล้ว
“นี่เป็นยุค ‘การผงาดขึ้นของเหล่าเทพเจ้า’ ” ชิ่งเจิ่นถอนหายใจ
“สุดท้ายเราก็มีผู้มีพลังพิเศษสองคนอยู่ข้างกายเรา แถมหนึ่งในนั้น
ยังชอบเงินสุดๆ”
โจวฉีที่ตอนนี้แสร้งเป็นหลับอยู่บนเก้าอี้ไม่ไกลเท่าไร ลืมตาขึ้น
มาพูด “อย่านินทาต่อหน้าได้ไหม ชอบเงินผิดตรงไหน”
ชิ่งเจิ่นเหลือบมองโจวฉีและพูดต่อ “จนถึงตอนนี้ ฉันก็ยังไม่รู้ว่า
พลังของเริ่นเสี่ยวซู่มันยังไงกันแน่ เขาขึ้นเหนือไปยังพื้นที่ของสมาคม
ตระกูลจงแบบนี้ พวกนั้นคงได้เจอเรื่องปวดหัวแล้วล่ะ”
หลัวหลานเดินไปที่โต๊ะทราย “นายว่าเขากำลังไปที่ไหน”ชิ่งเจิ่นคิดพักหนึ่งก่อนจะตอบ “ไม่ว่าเขาจะไปไหน แต่สุดท้าย
ก็ต้องโผล่ไปหน้าไฮยีน่าสมาคมตระกูลจงอยู่ดี”
จากนั้นชิ่งเจิ่นก็วางธงสีแดงบนตำแหน่งป้อมปราการ 146
“ส่งคำสั่งฉันลงไป ถ้าสายที่เราวางตัวไว้ป้อมปราการ 146 เจอเขา ก็
ให้ช่วยเหลือเริ่นเสี่ยวซู่สุดตัว เทียบกับสมาคมตระกูลจงแล้วฉันขอ
ฉันขอเป็นเพื่อนบ้านพวกเดนตายป้อมปราการ 178 มากกว่า”
ป้อมปราการ 146 เป็นศูนย์บัญชาการของสมาคมตระกูลจง
หลัวหลานไม่เข้าใจเลยว่าทำชิ่งเจิ่นถึงมั่นใจนักว่าเริ่นเสี่ยวซู่จะไป
ที่นั่น
“นายว่าระหว่างสมาคมตระกูลจงกับป้อมปราการ 178 ใคร
จะชนะ” โจวฉีถาม
“ที่สมาคมตระกูลจงกระชับแนวป้องกันเป็นการลงมือที่ฉลาดดี
รู้ว่าถ้ากองทัพภาคสนามตัวเองยังกระจายไปอยู่ทั่วแดนรกร้างคง
สู้ป้อมปราการ 178 ยาก งั้นพวกเขาก็น่าจะสู้รบที่แนวหน้าเขาอู่ชวน
” ชิ่งเจิ่นยิ้มกล่าว “เดี๋ยวพอสงครามของจริงเริ่มเมื่อไรก็จะทำข้อมูล
บนสนามรบสำ คัญๆ หลุดไปได้ง่าย ขนาดมีช่องทางสื่อสารสมัยใหม่ยังกระจายคำสั่งกันยากเลย แต่ก็นะ สมาคมตระกูลจงต้องมีแผน
สำ รองอยู่แล้ว ซ่อนตัวอย่างขี้ขลาดมาหลายสิบปี จู่ๆ กล้าแยกเขี้ยว
ใส่คงมีไพ่ไม้ตายอยู่แน่”
“ไพ่ไม้ตาย?” โจวฉีถาม “สรุปนายคิดว่าสมาคมตระกูลจง
จะชนะเหรอ”
“เปล่า” ชิ่งเจิ่นส่ายหน้าและว่า “พูดแบบนั้นก็จะเป็นการดูถูก
จางจิ่งหลินเกินไป ฉันเดาว่าเขากำลังรอให้สมาคมตระกูลเผยไพ่
ไม้ตายก่อน เพราะสมาคมตระกูลจงเริ่มแผนการเมื่อไร จางจิ่งหลิน
ก็จะเผยให้เห็นว่าทุกอย่างเต้นบนฝ่ามือเขา”
ถึงหลัวหลานกับโจวฉีจะไม่เข้าใจสิ่งที่ชิ่งเจิ่นพยายามจะสื่อ แต่
ก็รู้ว่าเขาคงคิดอะไรออกแล้ว
โจวฉีพึมพำ “ทำไมนายต้องแสร้งเป็นลึกลับนักนะ ตอนนี้ควร
รีบคิดวิธีจัดการสมาคมตระกูลหยางแทนที่จะพูดเรื่องสมาคม
ตระกูลจงไหมน่ะ ไม่มีอะไรจะทำแล้วเหรอไง”
“สมาคมตระกูลหยางไม่นับว่าเป็นภัยสำ หรับเราแล้ว” ชิ่งเจิ่น
พูดเสียงนิ่งตอนนี้เองก็มีนายทหารคนหนึ่งเดินเข้ามา “ทูตของสมาคม
ตระกูลหยางมาเยือน จะให้เขาเข้ามาเลยไหมครับ”
“อืม ให้เข้ามาเลย” ชิ่งเจิ่นว่า
ทูตสมาคมตระกูลหยางถูกพาตัวมาที่ศูนย์บัญชาการ แต่เขาดู
ตลกมากเพราะถูกมัดไว้ทั้งตัว อาจเป็นเพราะพวกทหารกลัวว่าเขา
จะมาลอบสังหารชิ่งเจิ่น
แต่ทูตสมาคมตระกูลหยางไม่ได้โมโหอะไร เขาฉีกยิ้มพูด
“สวัสดีท่านชิ่งเจิ่นผู้นำแห่งสมาคมตระกูลชิ่ง ผมว่าที่นี่เพื่อกล่าวคำ
ต่อท่านแทนหยางลี่เฉิน”
“อย่าทำฉันเสียเวลา มีอะไรจะพูดก็พูดมา” ชิ่งเจิ่นพูดสบายๆ
ทูตมองคนรอบกาย เขาวางแผนไว้จะคุยกับชิ่งเจิ่นเป็นการ
ส่วนตัว จินตนาการภาพในหัวเป็นนักเจรจามือฉมังในสมัยโบราณ
แต่ว่าเขามาถึงก็ถูกปืนหลายกระบอกชี้ใส่บวกกับถูกมัดทันที แบบนี้
จะมามือฉมงมือฉมังอะไรอีก…
เขาพูดออกมาตรงๆ “หยางลี่เฉินอยากอยากจับมือเป็น
พันธมิตรกับท่าน ตอนนี้เขาหวังว่าจะได้เป็นประธานคนต่อไปของสามารถตระกูลหยาง ถ้าท่านยอมช่วยเขา เขาบอกว่าหลังจาก
เรื่องราวสำ เร็จแล้วก็จะส่งป้อมปราการ 97 และ 99 ให้กับท่าน”