the first order สู่รุ่งอรุณเเห่งมวลมนุษย์ - ตอนที่ 436 กองพันลาดตระเวนนี่น่ารำคาญชะมัด
“ไป เดินทัพเต็มฝีเท้ากัน พวกเรากลับไปป้อมปราการ 144
ปล่อยให้พวกเขาวุ่นกับการซุ่มโจมตีไป”
ทหารกองร้อยเจียนเตาไม่ถามว่าเริ่นเสี่ยวซู่รู้ได้อย่างไรว่าศัตรู
ใช้ทางลัดไปจัดจุดซุ่มโจมตีอยู่ข้างหน้า พวกเขาชินชาไปแล้ว
แต่จู่ๆ เริ่นเสี่ยวซู่ก็หน้างิ้วคิ้วขมวด กองพันลาดตระเวนตั้งตัว
เร็วกว่าที่เขาคิด พอศัตรูรู้ว่ากองร้อยเจียนเตาไม่ตกหลุมพราง ก็
กลับออกมาไล่ล่าพวกตนต่ออีกครั้ง!
“น่ารำคาญฉิบ” เริ่นเสี่ยวซู่ขมวดคิ้วมุ่น แต่เขาก็เจอเรื่อง
ไม่คาดคิดอีกเรื่อง
ร่างแยกเงาของเขากำลังท่องไปตามแดนรกร้าง จะไปไหนก็
ใช้ทางที่ปกปิดลึกลับที่สุด และเส้นทางที่เขาใช้ก็เป็นทางขาประจำ
ของมือสไนเปอร์ด้วยร่างแยกเงาเขาเจอเข้ากับมือสไนเปอร์ฝ่ายศัตรูแล้ว แต่ว่าเมื่อ
มือสไนเปอร์มาเจอสิ่งทรงพลังอย่างร่างแยกเงา ผลลัพธ์เป็นเช่นไรก็
คิดได้ง่าย เพียงตวัดดาบทีเดียวก็จบสิ้น
แต่กองพันลาดตระเวนสมาคมตระกูลจงนั้นคืบใกล้พวกเขา
อย่างรวดเร็ว กองกำลังที่ก่อนหน้าไล่ล่าอย่างใจเย็นเปลี่ยนมาไล่ล่า
แบบกัดไม่ปล่อยแล้ว อย่างกับพวกเขาอยากใช้จำ นวนที่มากกว่า
จัดการสะกดข่มกองร้อยเจียนเตาเสีย
ทำเนียบกำลังรบอย่างกองพันลาดตระเวนนั้นถือว่าเป็น
กองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดในแง่ประสิทธิภาพการรบเฉพาะตน
บางคนถึงกับเรียกพวกเขาเป็นหน่วยรบพิเศษด้วยซ้ำ
ถึงกองร้อยเจียนเตาจะเคยชนะในการรบมาหลายครั้ง แต่ว่า
พวกเขากับทหารลาดตระเวนนั้นมันต่างกันเกินไป ไม่ว่าจะเป็น
สภาพร่างกาย ฝีมือการยิงปืน หรือว่าจะเรื่องยุทธวิธี กองร้อยเจียน
เตาเทียบกับทหารลาดตระเวนไม่ติดเลย
เริ่นเสี่ยวซู่เห็นว่าระยะห่างระหว่างพวกเขาใกล้กันขึ้นเรื่อยๆ
เขาไม่ได้ใช้ร่างแยกเงาไปถ่วงศัตรู ถ้าระหว่างมะรุมมะตุ้มกันแล้วมันถูกยิงเข้าหว่างคิ้วอีกครั้ง สถานการณ์แบบที่ฟู่หราวถูกยิงล้มคงเกิด
ซ้ำ ขึ้นอีก ร่างแยกเงาเขาตอนนี้เป็นพลสอดแนมที่สำ คัญที่สุด
เริ่นเสี่ยวซู่ลองใช้ประตูเงาโยนระเบิดมือใส่ศัตรู ทว่าทหาร
ลาดตระเวนของศัตรูฝึกฝนมาอย่างดี ทันทีที่ประตูเงาเปิดขึ้น
ท่ามกลางความมืดมิด มันก็ถูกห่ากระสุนยิงใส่ในพลัน
โชคดีที่เริ่นเสี่ยวซู่ไม่ได้มองผ่านประตูเงาแบบมุมตรง
ไม่อย่างนั้นกระสุนคงยิงหัวกระจุยแล้ว! ถ้าเขาสอดมือเข้าไป ก็คงถูก
ห่ากระสุนยิงจนกลายเป็นเนื้อบดเช่นกัน
รอบนี้ศัตรูแข็งแกร่งนัก!
เป็นครั้งแรกเลยที่เริ่นเสี่ยวซู่ได้ปะมือกับหน่วยทหารที่ผ่านการ
ฝึกมาอย่างดีเช่นนี้ ครั้งนี้เหมือนกับตอนที่เขาเผชิญหน้ากับ
กองกำลังของสู่หมานแห่งสมาคมตระกูลชิ่งตอนอยู่ที่เขาจิ้งซาน
“เสี่ยวซู่ รอบนี้พวกเราจะรอดไปได้ไหมน่ะ” เจียวเสี่ยวเฉิน
ถามอย่างเป็นกังวล “ฉันได้ยินว่าคนเวลากลัวแล้วจะร้องเรียกคนที่
สนิทที่สุด”
เริ่นเสี่ยวซู่กลอกตา “งั้นนายรู้ไหมว่าไอ้ ‘เชี่ย’ นี่คือใคร”จางเสียวหม่านไม่รู้จะหัวเราหรือร้องไห้ดี เขาว่า “เอ็งยัง
จะมีอารมณ์มาเล่นมุกอีกเนอะ เริ่นเสี่ยวซู่ นายไม่หนีนำไปก่อนเลย
ล่ะ นายเคลื่อนไหวไว พาคนอื่นไปกับนายก่อน ฉันจะอยู่ทำแนวตั้ง
รับคอยคุ้มกันให้พวกนายหนีพร้อมกับหน่วยที่หนึ่ง”
ตัดสินใจแล้ว ต้องเสียสละเพื่อการอยู่รอดของผู้อื่น
เริ่นเสี่ยวซู่หันไปมองจางเสียวหม่าน “ทำไมถึงชอบเสียสละ
ชีวิตตัวเองตลอดเลยฮึ ไม่ต้องห่วงหรอกน่า มีฉันอยู่ด้วย ต่อให้อยาก
ตายก็ตายยาก”
ทันใดนั้นก็มีรถจักรไอน้ำที่พ่นควันดำโขมงจากปล่องพุ่งออก
มาจากหมอกเทามาสู่โลกวัตถุ
พอพวกจางเสียวหม่านเห็นของใหญ่โตโผล่มาตรงหน้าก็รู้สึก
ตัวเองเล็กจ้อยนัก ทั้งยังตะลึงตาแตกกับภาพนี้ นี่คงเป็นอีกพลังหนึ่ง
ของเริ่นเสี่ยวซู่
พูดไปแล้ว เริ่นเสี่ยวซู่มีพลังกี่อย่างกันแน่ สามัญสำ นึกล้มครืน
ไปหมดแล้วถ้ามีพลังสองสามอย่างก็ว่าไป แต่ทำไมถึงยังมีโผล่มาเรื่อยๆ
เลยล่ะ
“ขึ้นรถ!” เริ่นเสี่ยวซู่เอ่ย “เดี๋ยวพาไปขับรถเล่น”
“เชี่ย แม่*ครั้งแรกเลยที่ได้ขึ้นรถไฟ…”
ระหว่างพวกเขากระซิบกระซาบกัน ทุกคนก็ขึ้นไปบนรถไฟกัน
อย่างรวดเร็ว พอขึ้นไปหมดแล้ว มันก็เคลื่อนตัวไปทางเหนือ เดิน
ทางผ่านขุนเขาไปราวรถไฟเหาะ
พอกองพันลาดตระเวนศัตรูที่ไล่ล่ามาเพิ่งก้าวเท้าออกมาจาก
ช่องเขาเห็นภาพนี้ พวกเขาก็ชะงักฝีเท้า เบิกตามองไปอย่างไม่รู้
จะทำอะไรต่อดี
ผู้บัญชาการกองพันลาดตระเวนที่อยู่ใกล้ๆ สติแทบแตก
ถ้าพวกแกมีพลังแบบนี้ตั้งแต่แรก ก็ควรใช้ไปตั้งนานแล้วไหมวะ!
พวกเราไล่ล่ามาสองวัน แต่พวกแกเพิ่งมาเล่นใหญ่ตอนนี้น่ะนะ!
ทำไม! ไม่เผยพลังแล้วเพื่อที่จะได้ดูเป็นคนถ่อมตัวน่าคบหาเหรอ!
ผู้บัญชาการกองพันลาดตระเวนรู้สึกปั่นป่วนนัก “พลสื่อสาร
แจ้งศูนย์เรื่องนี้เลย ทางเหนือนี่เป็นป้อมปราการอะนะ บอกพวกเขาให้ป้องกันทุกวิถีทางเลย มีรถไฟขบวนหนึ่งกำลังพุ่งไปหาพวกเขา!”
แต่ว่าหลังรถจักรไอน้ำของเริ่นเสี่ยวซู่ขับขึ้นเหนือได้หลายสิบ
กิโลเมตร มันก็หันหัวกลับไปทางป้อมปราการ 144 ทำตัวล่อ
ความสนใจจากศัตรูมาขนาดนี้ ถ้ายังขึ้นเหนือเข้าลึกไปในเขตพื้นที่
ศัตรูอีกก็เรียกว่าแส่หาความตายแล้วไหม
อีกทั้งป่านนี้ทหารรักษาการณ์ของป้อมปราการทางเหนือคงรอ
รับพวกเขาอยู่แล้ว
ดังนั้นกลับไปแถวป้อมปราการ 144 คงดีกว่า จะสู้หรือหนีนั้น
เลือกง่ายมาก ถ้าสุดท้ายพวกเขาเลือกจะหนี ก็แค่ข้ามแม่น้ำเป่ยวาน
เอา
ถึงรถจักรไอน้ำจะเคลื่อนตัวผ่านขุนเขาเหมือนไร้สิ่งกีดขวาง
แต่เอาจริงก็ยังเป็นการขับขี่ที่ ‘น่าตื่นเต้น’ อยู่ดี บรรดาทหารกองร้อย
เจียนเตานั่งจับพนักแขนแน่น ปากกรีดร้อง “เชี่ยๆๆ!”
เริ่นเสี่ยวซู่หัวเราะ “เห็นไหม บอกแล้วว่าเวลาคนกลัว
จะตะโกนเรียกไอ้ ‘เชี่ย’ ออกมา ไม่ใช่คนที่สนิทชิดเชื้อที่สุดสักหน่อย
”รถจักรไอน้ำเคลื่อนที่ไวมาก เพียงพริบตาก็หายวับไปในแดน
รกร้าง ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา รถจักรไอน้ำก็กลับมาในพื้นที่ของ
ป้อมปราการ 144 อีกครั้ง เริ่นเสี่ยวซู่พลันหันออกไปทางหัวรถไฟ
และว่า “ข้างหน้าเรามีทหารอยู่ ดูเหมือนจะเป็นทหารสองกองร้อย
นะ งั้นพวกเราฝึกเล็งเป้าบนรถไฟหน่อยไหม”
“สองกองร้อย? งั้นคนเป็นกองกำลังคุ้มกันขบวนส่งเสบียงแหง
พวกเราไม่มีเสบียงเหลือแล้ว งั้นจัดสักหน่อยปะล่ะ” จางเสียวหม่าน
พูด “แต่รถจักรไอน้ำนายนี่ไหวเปล่าเหอะ”
“มันแข็งแกร่งมากนะ! จัดไป!” เริ่นเสี่ยวซู่คำรามอย่างอิสระเสรี
ลมโบกสะบัด แตรรถไฟร้องลั่น เคลื่อนตัวผ่านแดนรกร้างกว้างใหญ่
นานมากแล้วที่เริ่นเสี่ยวซู่ไม่ได้รู้สึกอิสระเสรีเช่นนี้
รถจักรไอน้ำเคลื่อนตัวเข้าใกล้ทหารทั้งสองกองร้อยอย่าง
รวดเร็ว แต่ว่าพอเข้าไปใกล้แล้ว พวกเขาก็พบว่าทหารพวกนี้
ไม่ใช่กองกำลังคุ้มกันขบวนส่งเสบียง
รองผู้บัญชาการกรมที่ 1237 เพิ่งนำกำลังสองกองร้อยไปรับ
ผู้บัญชาการกรมคนใหม่จงหานกลับป้อมปราการ 144พวกเขาได้ยินมาว่าจงหานเคยเป็นผู้บัญชากองพลน้อยที่
ประจำ การอยู่ที่แม่น้ำเป่ยวาน เพราะพ่ายศึกที่แนวหน้า จึงถูกลดขั้น
มาเป็นผู้บัญชาการกรมแทน แต่ทุกคนรู้ดีว่าจงหานยังมีผู้สนับสนุน
อยู่ในสายหลักของตระกูลจง สักวันเขาต้องกลับไปรุ่งโรจน์อีกครั้ง
ดังนั้นจึงปฏิบัติต่อเขาอย่างดี
รองผู้บัญชาการนั่งข้างคนขับของรถบรรทุกทหาร ส่วนจงหาน
นั่งบนรถออฟโรด ทันใดนั้นพลขับรถบรรทุกก็ตะโกนลั่น “ไม่นะ
ข้างหลังเรามีรถไฟโผล่มาจ่อเรา!”
ระหว่างที่รถจักรไอน้ำไล่ตามขบวนรถมา มีแต่พลขับรถที่เห็น
มันจากกระจกหลัง ส่วนรองผู้บัญชาการที่ได้ยินเช่นนั้นก็หัวเราะ
“ที่นี่มันจะมีรถไฟได้ยังไง มันมีแค่ไอ้ขบวนที่วิ่งระหว่างป้อมปราการ
145 กับ 146 หรอก!”
“แต่มันมีรถไฟจริงๆ!” พลขับรถสติแตก
รองผู้บัญชาการยื่นหัวออกไปนอกหน้าต่างแบบงงๆ ก่อน
จะเจอภาพรถจักรไอน้ำทะมึนพุ่งพรวดมาหาพวกเขา ควันดำจาก
ปล่องพุ่งออก เสียงหวูดดังยาว!