the first order สู่รุ่งอรุณเเห่งมวลมนุษย์ - ตอนที่ 437 ปฏิกิริยาลูกโซ่
“หลบเร็ว! หลบ!” รองผู้บัญชาการมองรถจักรไอน้ำคืบเข้ามา
ใกล้ขึ้นเรื่อยๆ เขาหวาดกลัวจนตัวชาไปหมด ใจสงสัยว่าทำไมถึง
มีของแบบนี้โผล่มาจากในแดนรกร้างได้
รางรถไฟก่อรูปข้างหน้ารถไฟ เสียงเหล็กกระทบกันดังสนั่น
ขณะตัวขบวนเคลื่อนไปข้างหน้า พลขับรถพยายามเหยียบคันเร่งสุด
ชีวิต แต่ถนนหนทางเป็นหลุมบ่อย่อมไม่อาจเร่งความเร็วได้มาก
ไม่อย่างนั้นรถบรรทุกคงพลิกคว่ำแล้ว!
“ทหารท้ายรถตั้งปืนกลหนักเตรียมยิง!” รองผู้บัญชา
การตะโกน “เตรียมรับศึก!”
ขณะรถยนต์ขับบนถนนไม่ราบเรียบนี้ ทหารแห่งกรมที่ 1237
ตั้ง
ปืนกลหนักหลังรถบรรทุก แต่เพราะรถกระดอนไปมา กว่า
จะบรรจุกระสุนได้ก็ใช้เวลาพักใหญ่เครื่องรับส่งวิทยุดังขึ้นมา จงหานที่นั่งอยู่บนรถออฟโรดหน้า
ขบวนถาม “เกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ๆ ถึงมีรถไฟตามหลังพวกเรามาได้”
“น่าเป็นการโจมตีจากศัตรู แต่ผู้บัญชาการกรมไม่ต้องเป็นห่วง
ไป พวกเราหยุดรถไฟที่ตามเรามาได้แน่!” รองผู้บัญชาการกรม
หันไปตะโกนใส่เหล่าทหาร “ยิงได้!”
ปืนกลหนักยิงดังถี่รัว แต่พวกทหารเห็นแค่ว่าปืนพิฆาตของตน
สร้างได้แต่สะเก็ดไฟเท่านั้น
รถจักรไอน้ำเคลื่อนตัวไวกว่าขบวนรถ เริ่นเสี่ยวซู่คิ้วขมวดมุ่น
ระหว่างพยายามสะกดข่มความเจ็บปวด “ตอนพวกเราไปถึงแล้ว ให้
ทุกคนยิงได้เลย! อย่าลืมหาพวกเสบียงที่พวกเขาขนมาด้วย!”
ทหารกองร้อยเจียนเตาซ่อนตัวอยู่หลังหน้าต่างของตู้รถไฟที่
มีหน้าที่ดั่งปราการธรรมชาติให้พวกเขา เป็นการรบแบบไล่ล่าแท้ๆ
แต่ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นการซุ่มโจมตีเสียอย่างนั้นไป
ขบวนรถของสมาคมตระกูลจงประกอบไปด้วยรถบรรทุกทหาร
สิบคันและรถออฟโรดคันหนึ่ง พอตัวรถจักรไอน้ำตามมาทันจนขับเป็นเส้นขนานแล้ว ทหารของสมาคมตระกูลจงก็กระหน่ำยิงอย่าง
บ้าคลั่ง
แต่ถึงจุดหนึ่งกระสุนพวกเขาก็ต้องหมดลง ในที่สุดปืนกลหนัก
ของสมาคมตระกูลจงก็ต้องบรรจุกระสุนใหม่ และพวกทหารก็โดน
ปืนไรเฟิลอัตโนมัตินับไม่ถ้วนบวกกับปืนกลหนักจำ นวนหนึ่งโผล่
มายิงจากหน้าต่างรถไฟ
ทหารกองร้อยเจียนไม่กล้าผุดหัวขึ้นมาสักนิด ย่อตัวลั่นไกอยู่
หลังหน้าต่างอยู่อย่างนั้น
ภาพไม่อาจประหลาดไปกว่านี้ได้แล้ว
ทหารสมาคมตระกูลจงเองก็กำลังตะลึงอยู่ นี่มันพลังบ้าพลัง
บออะไรเนี่ย
พวกเขาก็อยากหาที่กำบังนะ แต่ประเด็นคือพวกเขาไม่มีที่จะ
ไปหลบด้วยซ้ำ ท้ายรถบรรทุกมีแค่ผ้าใบคลุมคลุมอยู่ แล้วก็
ไม่ใช่ผ้าใบกันกระสุนอะไรด้วย!
เพิ่งเริ่มปะทะกัน ทหารสมาคมตระกูลจงมากมายก็ถูกยิงตาย
ไปเริ่นเสี่ยวซู่ตะโกนมาจากหน้ารถไฟ “ฉันสำ รวจดูแล้ว! รถขบวน
นี้ไม่ได้ขนเสบียงมา ไปกันเถอะ!”
จากนั้นรถจักรไอน้ำก็หันหัวมุงเข้าแดนรกร้างอีกทางไป
ไม่ใช่ว่าเริ่นเสี่ยวซู่ไม่อยากกำจัดทหารสมาคมตระกูลจงให้
หมด แต่พอพวกเขายิงใส่ตัวรถจักรไอน้ำ เริ่นเสี่ยวซู่ก็สัมผัสได้
ถึงความเจ็บปวดแล่นเข้ามา ตอนนี้เขาหลั่งเหงื่อทั้งตัว และไม่อาจ
ทนต่อไหวแล้ว
โชคดีที่รองผู้บัญชาการกรมที่ 1237 รอดมาได้ เขาเองก็ถูกยิง
เหมือนกัน แต่เพราะนั่งอยู่ข้างคนขับ ประตูรถเลยลดความเร็วของ
กระสุนไป ดังนั้นรอยแผลจากกระสุนของเขาจึงไม่ได้ลึกนัก และเขา
ยังโชคดีอยู่บ้าง แรงถีบปืนกลหนักมันแรงมากจนกระสุนส่ายไปมา
แล้วไม่โดนเขา
เพราะอย่างไรเสียทหารกองร้อยเจียนเตาก็ไม่ได้ผุดหัวขึ้น คน
ที่โดนยิงคือโชคร้ายล้วนๆ
รองผู้บัญชาการกรมพอจำ คำที่เริ่นเสี่ยวซู่ตะโกนมาได้ลางๆ
คือพวกเอ็งมาขโมยอาหาร ก็เลยฉวยโอกาสยิงศัตรูไปด้วยว่างั้น?รองผู้บัญชาการกรมเหม่อมองรถจักรไอน้ำลับสายตาไป
พวกเขาหนีไปงี้เลย? พวกแม่*เป็นกองกำลังบ้าอะไรวะ!
ทันใดนั้นรองผู้บัญชาการก็หน้าเปลี่ยนสี เขาควักวิทยุขึ้น
มาและว่า “ผู้บัญชาการกรม? ท่านยังปลอดภัยไหม ผู้บัญชาการกรม
?”
พลขับรถออฟโรดหยิบวิทยุขึ้นมาตอบ “ผู้บัญชาการกร
ม…ท่านเสียชีวิตในหน้าที่แล้ว…”
รองผู้บัญชาการกรมที่ 1237 บ่อน้ำตาแทบแตก ป้อมปราการ
178 มีความแค้นกับกรมที่ 1237 หรืออย่างไร ทำไมถึงเล็งเป้ามาที่
ผู้บัญชาการกรมพวกเขาตลอดเลยล่ะ ไม่ถึงครึ่งเดือน ผู้บัญชาการ
กรมก็ตายไปสามนายแล้ว! ต้องตั้งใจแน่ๆ! ผู้บัญชาการกรมไป
หาเรื่องใครเขาเข้ากัน!
บนรถไฟที่ขับห่างออกไปไกลแล้ว ทหารกองร้อยเจียนเตา
กำลังร้องเฮกันยกใหญ่ “แม่*สู้มันฉิบหาย ศัตรูไม่ได้เห็นหน้าพวกเรา
ด้วยซ้ำ ! ฉันกล้าพูดเลยว่าอย่างน้อยเราจัดการคนไปครึ่งหนึ่งของ
สองกองร้อยนั่น สรุปพวกเราจัดการไปกี่กองร้อยแล้วเนี่ย”“นับแปป…” จางเสียวหม่านนับนิ้ว แต่นับอยู่นานก็หาเลขที่
ถูกต้องไม่ได้สักที
เจียวเสี่ยวเฉินโพล่ง “นายเห็นคนที่อยู่บนรถออฟโรดไหมอะ
ดูเหมือนคนขับรถยังอยู่ดีนะ พวกเรายิงไม่โดนเหรอ”
พวกเขามัวแต่หลบกระสุน เลยไม่กล้าโผล่หัวออกจากหน้าต่าง
กว่าจะกล้าก็คือรถไฟออกห่างมากแล้ว
เริ่นเสี่ยวซู่นึกย้อนกลับไปและว่า “คนนั่งข้างคนขับกับคนนั่ง
ข้างหลังน่าจะตายหมดแล้วนะ”
“คนที่ตายคือใครนะ” เจียวเสี่ยวเฉินพึมพำ “ฉันว่านายทหาร
รอบนี้ไม่น่าใช้ร้อยตรีและมั้ง เดาว่าอย่างน้อยก็เป็นผู้บัญชาการ
กองพัน”
“ฮ่าๆ ใครตายแล้วไง” จางเสียวหม่านว่า “เอาให้ตายเป็นพอ”
ที่จริงขนาดแม้แต่ตัวกองร้อยเจียนเตาเองก็ไม่รู้ว่าพวกตน
ฆ่าผู้บัญชาการกรมไปสามคนแล้ว อย่างไรการที่ผู้บัญชาการกรม
เบื่อจัดจนออกมาข้างนอกก็มีไม่บ่อยนักพวกเขาไม่รู้เลยว่าตอนนี้รองผู้บัญชาการกรมที่ 1237 ใกล้
สติแตกแล้ว
ศูนย์บัญชาการสมาคมตระกูลจงได้รับข่าวการตายของจงหาน
เหล่านายพลเรียกประชุมฉุกเฉินทันที มีคนเอ่ย “ในหมู่พวกเราต้อง
มีสายลับอยู่แน่ ไม่อย่างนั้นป้อมปราการ 178 จะรู้เรื่องการโยกย้าย
จงหานจนไปรอดักซุ่มโจมตีได้ยังไง”
“ใช่ ศัตรูต้องการให้กรมที่ 1237 ตกอยู่ในความปั่นป่วนจะได้
ขัดขวางสายส่งเสบียงที่ป้อมปราการ 144” หนึ่งในนายพลว่า “ต้อง
มีหนอนบ่อนไส้ปากสว่างบอกที่อยู่ของจงหานแน่นอน”
ทันใดนั้นชายวัยกลางคนผู้หนึ่งก็หันไปหาทหารเสนาธิการที่
ฟังอยู่ด้านข้าง “ศัตรูใช้วิธีไหนโจมตีพวกเขานะ”
“เป็นรถจักรไอน้ำครับ!” ทหารเสนาธิการตอบ
นายพลวัยกลางคนแค่นเสียง “เป็นฝีมือจงเฉิง ฉันจำ ได้ว่าเขา
เคยนำกำลังไปดักซุ่มโจมตีผู้มีพลังพิเศษที่ชื่อว่าหวังฉงหยาง และ
พลังพิเศษของคนผู้นั้นคือการเรียกรถจักรไอน้ำออกมา”“แต่ว่ารถจักรไอน้ำที่โผล่มารอบนี้มันหน้าตาต่างออกไปหน่อย
รถไฟก่อนหน้าที่เห็นว่ามีแค่สี่ตู้ แต่ว่ารถไฟที่โผล่มาวันนี้มีสิบหกตู้!”
“พลังของผู้พลังพิเศษไม่ใช่อะไรที่จะประเมินได้จริงๆ ถ้าผู้
มีพลังพิเศษผู้นั้นสามารถปรับจำ นวนตู้รถได้ตามใจล่ะ ฉันยังไม่เคย
เจอผู้มีพลังพิเศษที่มีพลังแบบเดียวกันมาก่อนเลย” ชายวัยกลางคน
แค่นเสียงและว่า “เป็นเพราะจงเฉิงรับมือเรื่องนี้ได้ไม่ดี ยังไงเขาก็ยัง
เด็ก คงรีบร้อนวางตัวเขาให้อยู่ในตำแหน่งสำ คัญไม่ได้ กองพลน้อย
ที่ 131 ของฉันจะไม่รีรออยู่กับพวกนายแล้ว ฉันจะไปล่าพวกทหาร
ป้อมปราการ 178 นั่นด้วยตัวเอง”
“ฉันว่าไม่ควร” มีคนว่าอย่างสับสน “กองพลน้อยที่ 131 ของ
นายเป็นหนึ่งในกองกำลังสำ คัญที่สุดของเขาอู่ชวน ถ้ากองกำลังนาย
เคลื่อนตัวออก ใครจะเป็นคนป้องกันแนวหน้า”
“ไม่ใช่เรื่องของฉัน ถ้าพวกเราไม่รีบกำจัดกองกำลัง
ป้อมปราการ 178 แล้วเรื่องนี้หลุดไปเข้าหูคนอื่น มีแต่จะเสียหน้า”
นายพลวัยกลางคนผู้นั้นว่าแล้วก็เดินกันออกจากศูนย์บัญชาการไปการล่ากองร้อยเจียนเตาที่เขาพูดถึงนั่นไม่ได้ฟังดูชอบธรรม
จริงๆ หรอก ความเป็นจริงคือทรัพย์สินที่เขาพยายามขนย้ายไป
ที่ราบตอนกลางนั้นอยู่ในมือหวังฉงหยางต่างหาก!
นั่นเป็นความมั่งคั่งที่เขาสะสมมาทั้งชีวิต
พอมีรถจักรน้ำโผล่มาแล้ว นายพลวัยกลางคนก็รู้ในพลันว่า
เขาพบตัวคู่ปรปักษ์แล้ว เขาจะชิงทรัพย์สินตัวเองกลับมา