the first order สู่รุ่งอรุณเเห่งมวลมนุษย์ - ตอนที่ 438 รองผู้บัญชาการกรมหาทางหนีทีไล่
ณ ศูนย์บัญชาการสมาคมตระกูลจง นายพลที่นั่งอยู่ท้าย
โต๊ะประชุมมีสีหน้าอึมครึม แต่ว่าไม่ใช่เพราะความตายของจงหาน
แต่เป็นจงอู้ขัดขืนคำสั่งเขาด้วยการนำกองพลน้อยที่ 131 ออกไป
จากเขาอู่ชวนจริงๆ!
ทหารในกองพลน้อยที่ 131 เป็นกองกำลังใกล้ชิดจงอู้ พวกเขา
ฝึกฝนในป้อมปราการ 149 มานานหลายปี จงรักภักดีกับจงอู้ไม่ใช่
สมาคม
ก่อนหน้านี้ทุกคนคร้านจะสนใจเรื่องนั้น แต่หลังจากจบเรื่อง
ผู้นำตระกูลจงจัดการเขาแน่ แต่ว่าเรื่องนั้นต้องรอให้สงครามจบ
ก่อน
ถึงสมาคมตระกูลจงจะไม่ได้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน แต่ก็
มีเป้าหมายเดียวกัน หรืออย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีใครทำลายสภาพ
สมดุลที่เป็นอยู่ตอนนี้ จงอู้ใช้อำนาจทหารส่วนตัวปฏิเสธคำสั่งรบออกมาโต้งๆ แทนที่จะคอยป้องกันแนวหน้า เขาคิดแต่อยากไปจับ
พวกทหารป้อมปราการ 178
ถ้าขืนยังเป็นแบบนี้ต่อ กำลังใจทหารสมาคมตระกูลจงได้ดิ่งลง
เหวแน่!
ทันใดนั้นเหล่านายพลในศูนย์บัญชาการก็เงียบงันกันหมด ไม่
มีใครรู้ว่าฝ่ายอื่นคิดอะไรอยู่
ที่จริงตอนแรกเรื่องจงอู้โอนถ่ายทรัพย์สินไปยังที่ราบตอนกลาง
นั้น
เป็นความลับ แต่ว่าความลับโดยสมบูรณ์นั้นไม่มีจริง ทุกคน
จึงรู้เรื่องนั้นแล้ว
“ต่อไปเราจะคุยเรื่องสถานการณ์ที่ส่งผลต่อความมั่นคงใน
แนวหลัง” จงอิงผู้บัญชาการแนวหน้ากล่าว “มีใครมีข้อเสนอแนะ
อะไรไหม”
ทุกคนสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นกองร้อยเดียวที่มีผู้มีพลังพิเศษ
และมือสไนเปอร์ด้วย แต่ให้หลัง พวกเขาก็คิดว่ามันน่าจะมีมากกว่า
หนึ่งกองร้อย ก่อนหน้านี้พวกเขาก็คิดว่าทหารกองร้อยเดียวไม่อาจ
ส่งผลกระทบต่อภาพรวมทั้งสงครามได้หรอกแต่ว่าวันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว การโผล่มาของรถจักรไอน้ำ
หมายถึงว่าทหารกลุ่มเล็กนี้สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องตัวมาก
หากอยู่ในแดนรกร้าง แม้แต่กองพันลาดตระเวนก็ไม่อาจตาม
พวกเขาทันได้
ดังนั้นทหารหน่วยย่อยแห่งป้อมปราการ 178 นี่พลันกลายเป็น
ภัยใหญ่ไปเพราะคนไม่อาจคาดเดาได้ว่าพวกเขาจะทำอะไรต่อไป
ปัญหาหลักคือเริ่นเสี่ยวซู่และกองร้อยเจียนเตาไม่มีเป้าหมาย
แน่ชัด พวกเขาแค่รู้สึกว่าเอาชนะได้ก็จะสู้ แต่ถ้าชนะไม่ไหวก็จะหนี
ไม่ว่าจะลงมือทำอะไร ผลลัพธ์สำ คัญสุด…
ปฏิบัติงานราวมีคติประจำ ตัวว่า ‘แม้แต่พวกเราเองก็ไม่รู้ว่า
จะทำอะไร!’
การคาดเดาไม่ได้นี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ในสงคราม สมาคม
ตระกูลจงไม่อาจนั่งเอ้อระเหยปล่อยให้กองกำลังศัตรูมายุ่มย่ามใน
เขตพื้นที่ตนเองได้หรอก!
จงอิง ผู้บัญชาการทหารแนวหน้ามีสีหน้าทะมึน ไม่นึกเลยว่า
ตัวเองที่เป็นผู้บังคับบัญชาทหารนับแสนนายยังต้องมากังวลกับกองร้อยเล็กจ้อยนี่อีก!
มีคนพูดขึ้นมา “ฉันว่าเราควรไปกำจัดกองกำลังของศัตรูนี้ที่
แนวหลังก่อน แต่ว่าจงอู้ก็นำกองพลน้อยที่ 131 ไปจัดการแล้วไม่ใช่
เหรอ กองพลน้อยเดียวก็น่าจะพอแล้วมั้ง เขาเองก็นำกองพลน้อย
ทหารราบยานเกราะที่มียุทโธปกรณ์ครบครันด้วย ก็ปล่อยให้เขา
รับมือกับพวกนั้นไป…ยังไงตอนนี้เราก็เรียกตัวเขากลับมาไม่ได้อยู่ดี”
“แค่นั้นไม่พอเหรอ” จงอิงว่า “ส่งผู้มีพลังพิเศษอีกสองคนไป
กองพลน้อยเขาด้วย”
นายพลที่ดูแลเรื่องผู้มีพลังพิเศษซึ่งนั่งข้างเขาพยักหน้า “ได้
แต่ว่าเรามีผู้มีพลังพิเศษแค่ห้าคน ถ้าเสียใครไปมันจะกระทบ
ถึงแผนการในอนาคตได้”
จงอิงมองเขาด้วยสายตาเย็นเยียบ “ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิด
เรื่องอนาคต ฉันอยากให้กองกำลังป้อมปราการ 178 พวกนั้นตายใน
พื้นที่ของสมาคมตระกูลจงเรา แล้วก็ไม่ต้องส่งผู้บัญชาการคนใหม่
ให้กรมที่ 1237 แล้ว ให้รองบัญชาการกรมขึ้นมารักษาการ
ผู้บัญชาการกรมเอา”ได้รับแต่งตั้งตำแหน่งรักษาการณ์ผู้บัญชาการกรมไม่ใช่เรื่อง
แย่ ถ้าไม่ทำอะไรผิดพลาดในช่วงดำรงตำแหน่งล่ะก็ การแต่งตั้งนี้ก็
อาจจะเป็นเรื่องถาวรแล้ว
แต่ตอนนั้นเอง ทหารเสนาธิการก็ว่า “เพิ่งได้รับข่าวว่ารอง
ผู้บัญชาการกรมที่ 1237 หนีไปแล้วครับ”
จงอิง “?”
…
กองร้อยเจียนเตาผู้มีจิตใจเรียบง่ายไม่รู้เลยว่าพวกตนสร้าง
ปฏิกิริยาลูกโซ่ไว้ใหญ่ขนาดไหน เรื่องราวต่อเนื่องไปจนถึงกองกำลัง
หลังของป้อมปราการ 178
ตอนนี้จางจิงหลินกำลังตั้งใจอ่านรายงานทหาร
ประเด็นสำ คัญในรายงานคือจู่ๆ กองพลน้อยที่ 131 ของสมาคม
ตระกูลจงก็ทิ้งที่มั่นตัวเองถอนกำลังไปจากแนวหน้า
นี่มันแปลกมาก กองพลน้อยที่ 131 ของสมาคมตระกูลจงนั่น
สร้างปัญหาให้กับป้อมปราการ 178 ที่แนวหน้าอย่างมาก หน่วย
ทหารราบยานเกราะไม่ใช่อะไรที่จะรับมือได้ง่ายๆ เลยหูซิ่งจือ ผู้บัญชาการกองพลน้อยยานเกราะแห่งป้อมปราการ
178 ขมวดคิ้วมุ่น “อยู่ๆ ทิ้งที่มั่นตัวเองไปหมดแบบนี้ทำตัวไม่เหมือน
พวกเขาเลย พวกเรายังถล่มยิงอยู่แท้ๆ แต่ก็ถอนตัวไปเฉย สุดท้าย
ปล่อยพวกเรายิงถล่มแต่พื้นโล่งๆ เสียฉิบ แต่ดีแล้วล่ะ เพราะเรายึด
ที่มั่นมาได้ช่วยแก้ปัญหาอะไรๆ ได้เยอะเลย”
“คิดว่าเป็นแผนของสมาคมตระกูลจงหรือเปล่า” โจวอิงหลง
พึมพำ “ยังไงพวกเขาก็เคยระเบิดทั้งตำบลฉือชวนทิ้งมาก่อน
พวกเขาคงไม่ฝังของแรงใต้ที่มั่นที่เราเพิ่งยึดได้หรอกนะ!”
หูซิ่งจือส่ายหน้า “ตอนแรกฉันก็นึกแบบนาย พอยึดที่มั่นได้
แล้วก็สั่งให้พวกทหารสำ รวจทันที แต่ว่าไม่เจออะไรเลย”
“แปลกแฮะ…”
“ไม่ใช่แค่นั้นนะ” หวังเฟิงหยวน ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรอง
พูดจากด้านข้าง “ทุกคนก็น่าจะรู้ว่าหน่วยข่าวกรองป้อมปราการ
178 เราหาข่าวกรองได้ช้ามาก แต่พวกเราสร้างเครื่องข่ายไม่เลวใน
หมู่สมาคมตระกูลจงได้ ฉันได้รับข่าวจากวิทยุว่าสมาคมตระกูลจงเคลื่อนย้ายกองพันลาดตระเวนกลับไปแนวหลัง แต่ว่าจารชนเรา
ยังมีตำแหน่งต่ำอยู่เลยไม่รู้ว่าที่นั่นเกิดอะไรขึ้นกันแน่”
“แล้วก็จู่ๆ สายส่งเสบียงของสมาคมตระกูลจงก็ไม่เหมือนเดิม
ฉันว่าต้องเกี่ยวกับเรื่องนี้แน่ เดิมทีพวกเขาจะขนเสบียงมาจาก
ป้อมปราการ 144 แต่ว่าตอนนี้เขาปรับมาใช้เสบียงสำ รองจาก
ป้อมปราการ 145 เป็นการชั่วคราว”
“ฝีมือกองร้อยเจียนเตา” จางจิ่งหลินว่า
ทันทีที่จางจิ่งหลินโพล่งมา ตลอดทั้งศูนย์บัญชาการก็เงียบไป
จางจิ่งหลินพูดเสียงนิ่ง “ฉันว่ากองร้อยเจียนเตากำลังสร้างปัญหาให้
กับแนวหลังสมาคมตระกูลจงไม่น้อย เพราะแบบงั้นพวกเขาถึง
ส่งกองพันลาดตระเวนและกองพลน้อย 131 ไปรับมือกองร้อยเจียน
เตา”
โจวอิงหลงเลียบๆ เคียงๆ ถาม “ผู้บัญชาการจริงจังเหรอ ใน
กองร้อยเขามีแค่ร้อยกว่าคนเองนะ พวกเขาจะสร้างเรื่องใหญ่
ได้ขนาดนี้เลยเหรอ”“ตอนนี้เริ่นเสี่ยวซู่อยู่ในกองร้อยเจียนเตา” จางจิ่งหลินว่า
“มีเขาอยู่ด้วย ก็ย่อมเป็นไปได้ ไม่อย่างนั้นสมาคมตระกูลจงคง
ไม่ทำตัวแปลกๆ แบบนี้หรอก พวกเขาคงกำลังทำการรบแบบ
มีเป้าหมายเฉพาะอยู่ นอกจากกองร้อยเจียนเตาแล้ว สมาคมตระกูล
จงจะไปมีศัตรูที่ไหนอีกในแนวหลัง”
“คิดว่าไม่มี” โจวอิงหลงตอบ
ทุกคนรู้ว่ากองร้อยเจียนเตาเป็นกองกำลังเดียวของ
ป้อมปราการ 178 ที่อยู่หลังสมาคมตระกูลจงในตอนนี้ แต่แค่ทุกคน
นึกว่าพวกเขาคงสร้างปัญหาอะไรให้กับศัตรูไม่ได้มาก เลยคิดว่า
ความคิดนี้มันเหลือเชื่ออยู่บ้าง
แต่หลังจากตัดทุกความเป็นไปได้แล้ว ก็มีแต่กองร้อยเจียนเตา
ที่ยังอยู่แนวหลังศัตรูนั่นแหละที่ตัดไปไม่ได้
“ไม่ต้องสนว่าพวกเขาทำได้ยังไง และก็ไม่ต้องสนด้วยว่า
พวกเขากำลังทำอะไร” จางจิ่งหลินมองทหารระดับบังคับบัญชา
รอบกายและว่า “ตอนนี้พวกเราต้องกดดันแนวหน้าให้หนักกว่าเดิม
พวกเราปล่อยให้สมาคมตระกูลจงเคลื่อนกำลังกลับไปจัดการกับกองร้อยเจียนเตาที่แนวหลังมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว พวกเราต้อง
พยายามหนักกว่าเดิมในการช่วยเหลือกองร้อยเจียนเตาที่แนวหลัง
หลังจากนี้พวกเราจะคิดแผนการรบที่มีรายละเอียดมากกว่าเดิม”
“รับทราบ” ทุกคนพยักหน้า
แต่เหล่าผู้บัญชาการป้อมปราการ 178 กำลังสงสัยอยู่ว่า
กองร้อยเจียนเตาไปทำอะไรไว้กับแนวหลังของสมามตระกูลจงกัน
ตอนนี้ทหารของทั้งสองฝั่งกำลังทดสอบขีดจำ กัดการรบใน
แนวหน้าเขาอู่ชวนของฝ่ายต่างข้ามกันอยู่ แต่ว่าโดมิโน่ที่กองร้อย
เจียนเตาผลักล้มนั้นทำให้จังหวะสงครามเคลื่อนไปยังสภาวะอัน
ดุเดือดยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกันนี้ กองร้อยเจียนเตาที่เป็นจุดบ่อเกิดของทุกอย่าง
กำลังหลบนั่งกินมันฝรั่งเผาอยู่บนเขา…