the first order สู่รุ่งอรุณเเห่งมวลมนุษย์ - ตอนที่ 450 ค้นทั่วเมือง
หลี่เสียงรู้ทันทีว่าสำ นักข่าวกรองคงเจอหลักฐานใช้มัดตัวเขา
และทำการขวางข้อมูลที่เขาส่งไปยังศัตรูเรียบร้อย ไม่อย่างนั้นคงไม่
จับเขาทั้งๆ อยู่ในช่วงสงครามเช่นนี้ เขาจึงไม่คิดจะพูดแก้ตัวอะไรอีก
จางจิ่งหลินเองก็ไม่เอ่ยอะไร “นำตัวไป นับแต่วันนี้ไป โจวอิง
หลงจะเป็นทำหน้าที่เป็นผู้บัญชาการกองพลน้อยทหารราบที่ 103
ด้วย”
โจวอิงหลงเลื่อนขั้นอย่างรวดเร็วเพราะผลจากสงคราม ด้าน
หนึ่งเป็นเพราผลงานของกองร้อยเจียนเตาทำให้กองพันทหาร
ทัพหน้าสร้างผลงานใหญ่ได้หลายอย่าง ด้านหนึ่งก็เพราะสงคราม
ครั้งนี้ช่างน่าเศร้านัก ป้อมปราการ 178 สู้รบจนถึงขั้นที่ว่าแทบมีคน
ไม่พอจะส่งเข้าสนามรบอยู่แล้ว จางจิ่งหลินมองหลี่เสียงถูกพาตัวไป
ด้วยหน้างิ้วคิ้วขมวด เขาเพียงกังวลว่าข่าวกรองที่หลี่เสียงปล่อยไป
จะสร้างปัญหาใหญ่ให้เริ่นเสี่ยวซู่เอาหวังเฟิงหยวนที่อยู่ด้านข้างงุดหน้ากล่าว “ผู้บัญชาการ เป็นผม
ที่หูตาไม่ว่องไวพอจนทำให้เขาปล่อยข่าวออกไปได้ ถ้าสืบสวนเจอ
ก่อนหน้านี่ เริ่นเสี่ยวซู่ก็คงไม่…”
“ไม่ใช่ความผิดนาย” จางจิงหลินส่ายหน้า “งานรวบรวม
ข่าวกรองมีภารกิจมากมาย จับตัวเขาได้ก็ดีมากแล้ว ตอนพวกเรา
กำลังกวาดล้างสายจากสมาคมตระกูลจง หลี่เสียงอยู่ฝ่ายเรา
แน่นอน เรื่องที่นายมองเขาผิดไป แม้แต่ฉันเองก็ไม่อยากเชื่อ”
“แต่เริ่นเสี่ยวซู่แทรกซึมเข้าป้อมปราการ 146 ไปคนเดียว…”
จางจิ่งหลินตอบ “ไม่ต้องห่วง เขาไม่ใช่คนมุทะลุ ต้องมั่นใจถึง
จะกล้าลงมือ เราแค่ต้องรอปาฏิหาริย์”
ขณะเดียวกันนี้ เริ่นเสี่ยวซู่กำลังพยายามแกะผังเมืองของ
ป้อมปราการ 146 ให้เร็วที่สุด เขาจะได้จัดการพวกระดับสูงของ
สมาคมตระกูลจงในรวดเดียว
แต่วันนั้นพอเขาออกมาตามถนนอีกครั้ง ก็เห็นว่าทหาร
รักษาการณ์ป้อมปราการ 146 ติดประกาศจับอยู่ทุกหนแห่ง ทุกเสาไฟมีประกาศอยู่หลายใบ และทุกใบประกาศจับคนเดียวกัน ซึ่งก็คือ
เริ่นเสี่ยวซู่!
ก่อนที่จะมีคนจะเริ่มไล่หา เริ่นเสี่ยวซู่ก็ฉวยเข้าไปหาเสาไฟที่ไม่
มีใครมุงอยู่ และก็ต้องประหลาดใจที่เห็นหน้าตัวเองบนนั้น
เพราะภาพเป็นภาพสเก็ต เลยมีข้อแตกต่างอยู่บ้าง แต่ก็ยัง
วาดได้ดีมาก ถึงจะมีข้อแตกต่าง แต่ใครที่เห็นประกาศจับแล้วเจอ
หน้าเขาต้องรู้สึกคุ้นๆ แน่
จากข้อมูลในประกาศจับ ตอนนี้เริ่นเสี่ยวซู่น่าจะอยู่แถมๆ
ป้อมปราการ หรือไม่ก็อาจแทรกซึมเข้ามาในป้อมปราการคนเดียว
แล้ว ถ้ามีชาวป้อมปราการคนไหนพบตัวแล้วรายงานเบาะแสให้
กองพลน้อยรักษาการณ์ป้อมปราการ 146 ก็จะได้รับเงินสองแสน
หยวนเป็นรางวัล
เริ่นเสี่ยวซู่เบ้ปาก เขามีค่าแค่สองสอนหยวนเองเหรอ
ถึงเขาจะไม่พอใจ ทว่าใจคิด ในป้อมปราการ 178 ต้องมีสาย
สมาคมตระกูลจงบอกเรื่องที่อยู่ฉันแน่เขาไม่รู้ว่าทางป้อมปราการ 178 ทราบรู้ตัวสายลับแล้ว แต่ถ้า
สายลับยังแพร่งพรายข่าวให้ศัตรูไปเรื่อยๆ ป้อมปราการ 178 ต้องย่ำ
แย่มากแน่
ทันใดนั้นก็มีทหารหน่วยหนึ่งเดินมาทางเริ่นเสี่ยวซู่ เขาก้มหัว
ลงต่ำทันที กันไม่ให้พวกเขาเห็นตน แต่พอหน่วยนั้นเดินผ่าน หัวหน้า
หน่วยก็เดินนำหน้าก็รู้สึกแปลกๆ เขาหันไปหาเริ่นเสี่ยวซู่ “นี่ เงยหน้า
ขึ้นมาซิ!”
เริ่นเสี่ยวซูหนีไปทางตรงข้ามพวกเขาในพลัน กระโดดเพียงครั้ง
เดียว ก็ข้ามกำแพงไปยังลานบ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง
พวกทหารยังไม่ทันยกปืนยิงใส่เขา เริ่นเสี่ยวซู่ก็หายตัวไปแล้ว
ทหารหน่วยนี้เป่านกหวีดพร้อมกับตะโกนใส่วิทยุ “พบบุคคล
ต้องสงสัย! พบบุคคลต้องสงสัย! เรียกขอกำลังเสริม!”
กลุ่มค้นหาป้อมปราการนั้นตาข่ายใหญ่ พอได้รับรายงานจาก
สายลับที่ป้อมปราการ 178 พวกเขาก็ส่งกำลังออกมาทันที
ไม่ใช่ว่าเริ่นเสี่ยวซู่ไม่อาจเอาชนะทหารธรรมดาหน่วยนี้ได้ แต่
ถ้าเขาไม่อาจฆ่าพวกเขาได้ในรวดเดียว ก็จะปล่อยให้พวกเขาเรียกสมาชิกคนอื่นมาเสริมกำลังได้ และถ้าตอนนี้เริ่นเสี่ยวซู่ถูกรั้งตัวไว้ได้
ก็ถือว่าจบสิ้นกันแล้ว
ตอนนี้เอง จุดเด่นของการทำงานคนเดียวก็ฉายชัด ถ้าเขาพา
กองร้อยเจียนเตามาด้วย ก็คงต้องคอยดูแลความปลอดภัยพวกเขา
แต่ว่าตอนนี้เขาอยู่คนเดียว เคลื่อนไหวคล่องแคล่ว สามารถสลัด
ทหารที่ไล่ตามตอนไหนก็ได้ หรือจะต่อสู้สุดตัวเลยอย่างไม่ต้องพะวง
อะไร
พอเริ่นเสี่ยวซู่หยั่งเท้าลงที่ลานบ้าน ก็ต้องต้องสะดุ้งเฮือก
เพราะเห็นหญิงคนหนึ่งกำลังเก็บผ้าที่ตากไว้อยู่ เขาไม่รีรอ กระโดด
ข้ามกำแพงไปอีกลานบ้านหนึ่ง
เสียงกรีดร้องดังออกมาเป็นทอดๆ และเสียงนี้ก็กลายเป็น
ร่องรอยให้กับกลุ่มค้นหา
พอเขากระโดดโผล่มาในตรอกแห่งหนึ่งได้ในที่สุด ก็เจอเข้ากับ
ทหารสมาคมตระกูลจงสองนายกำลังเข้ามาขวาง
พอทหารทั้งสองนายเห็นเริ่นเสี่ยวซู่ ก็เตรียมยกปืนขึ้น
มาจัดการเขา แต่เริ่นเสี่ยวซู่พลุบมาอยู่ตรงหน้า เข้าคว้ากระบอกปืนพร้อมกับมีเงาพุ่งพ้นมาจากข้างหลังเขา เมื่อร่างเงานั้นหายวับไป
โลหิตก็ทะลักออกมาจากรอยกรีดตรงลำคอของทั้งสอง
พวกเขาตะลึง ไม่ทันรู้ด้วยซ้ำ ว่าเงาที่โผล่มาจากหลังเริ่นเสี่ยว
ซู่คืออะไร
ในป้อมปราการ 146 เกิดการไล่ล่าใหญ่โต ตาข่ายใหญ่ค่อยๆ
หดคลุมตัวเริ่นเสี่ยวซู่
ตอนที่คนเดินตามถนนเห็นทหารสมาคมตระกูลเร่งไล่ตาม
เป้าหมาย ก็รีบเข้าไปหลบตามอาคารทันที กลัวว่าตัวเองได้โดน
ลูกหลงไปด้วย
เหล่าทหารของสมาคมตระกูลจงได้ยินเสียงตะโกนโหวกเหวก
ผ่านวิทยุมาอยู่เรื่อยๆ “เป้าหมายข้ามถนนฟู่ซิงแล้ว ย้ำ ถนน
เป้าหมายข้ามถนนฟู่ซิงแล้ว ตอนนี้กำลังมุ่งไปทางถนนจางเหิงทาง
ตะวันออกด้วยความเร็วสูง!”
“เป้าหมายจัดการทหารฝ่ายเราไปหลายนายอีกแล้ว เขา
กระโดดเข้าไปในบ้านประชาชนบนถนนจางเหิง จากนั้นก็เคลื่อนตัว
ไปทางตะวันออกต่อ!”ทหารสมาคมตระกูลจงกว่าพันกว่านายกระจายอยู่ทั่วถนน
ชาวป้อมปราการที่อยู่อาศัยในบ้านใกล้เรือนเคียงก็หูผึ่งฟังเสียง
ตะโกนพวกทหารจากหน้าต่าง พวกเขาต่างแปลกใจที่พบว่าทหาร
ชั้นยอดของกองกำลังรักษาการณ์ของสมาคมตระกูลจงนั้นที่จริง
กำลังไล่ล่าคนผู้หนึ่งอยู่ พวกเขานึกว่าความวุ่นวายนี้เกิดจากว่า
มีทหารจากป้อมปราการ 178 กลุ่มหนึ่งแทรกซึมเข้ามาใน
ป้อมปราการนี้ได้เสียอีก
ทหารสมาคมตระกูลจงพบว่าเป้าหมายที่ตนตามล่าอยู่นั้นไม่
ใช่มนุษย์แล้ว เคลื่อนไหวเร็วมากนั่นก็เรื่องหนึ่ง แต่ทหารคนใดที่
แตกแถวไปจากกำลังหลักนั้นจะถูกฆ่าในชั่วพริบตา คนที่ถูกเชือดไป
นั้น
ไม่ทันได้รายงานร่องรอยของเป้าหมายด้วยซ้ำ
ตอนนี้เริ่นเสี่ยวซู่ใช่ปืนไรเฟิลตัวเองแล้วเพราะวงล้อมของศัตรู
นั้น
แคบลงเรื่อยๆ และต่อให้เขาไม่ได้ใช้ปืน อย่างไรก็ปิดร่องรอย
ตัวเองไม่ได้อยู่ดี ตอนนี้ได้แต่ใช้ทุกวิธีทางเปิดวงล้อมศัตรูเพื่อสร้าง
ทางหนีให้ตนเองการใช้ปืนของเริ่นเสี่ยวซู่ขึ้นมาอยู่ระดับปรมาจารย์แล้ว ทหาร
ธรรมดาจะเทียบกับเขาได้อย่างไร ต่อให้จู่ๆ เขาเจอเข้ากับทหาร
สมาคมตระกูลจงอยู่ตามถนน เริ่นเสี่ยวซู่ก็สามารถยิงสะกดข่ม
พวกเขาได้ในทันที
ทหารบางส่วนพยายามสร้างแนวตั้งรับด้วยการซ่อนอยู่หลัง
กำแพง แต่พวกเขายังไม่ทันได้ทำอะไร ก็มีลูกระเบิดมือโผล่มาตรง
เท้า และแนวตั้งรับนั่นก็กระจุยไป
เริ่นเสี่ยวซู่ฆ่าล้างจนตาแดงชาดฉาน ไม่มีหนทางให้กลับแล้ว
เจ้าตายข้ารอด เป็นสิ่งที่เริ่นเสี่ยวซู่บรรลุมานานแล้ว!