the first order สู่รุ่งอรุณเเห่งมวลมนุษย์ - ตอนที่ 454 ฉันพูดไม่ได้
ผู้บังคับบัญชาที่กลับมาจากแนวหน้ากลุ่มคนหนึ่งกำลังคุยกัน
เรื่องการศึกในทะเลทรายโกบี มันเป็นสิ่งที่พวกเขาเพิ่งทราบเรื่อง
ตอนนั้นพวกเขาก็เห็นแล้วว่าสูเสี่ยนฉู่หายตัวไป แต่ว่าทหาร
เกือบเป็นแสนอยู่ทั่วสนามรบ จางจิ่งหลินสั่งการแยะทหารสิบกว่า
สายไปตามตำแหน่งต่างๆ เพื่อหลอกศัตรู ทุกคนจึงไม่ได้คิดอะไร
มากนยัก
วันนี้เองพวกเขาถึงได้รู้ว่าสูเสี่ยนฉู่ถูกส่งไปทะเลทรายโกบี ณ
ตะวันตกเฉียงเหนือ!
ตอนนี้เองหวังเฟิงหยวนก็เข้าโรงอาหารมาพร้อมกับถาด
ของกิน ตอนตักอาหารให้ หลิวอวี้เจ๋อผู้ดูแลโรงอาหารถามอย่าง
ภาคภูมิใจไปด้วยว่า “ฝีมือการแสดงของฉันเป็นไง”
“โคตรเทพ” หวังเฟิงหยวนหัวเราะเสียงดัง “ผู้บัญชา
ชาการฝากบอกมาถ้าต้องขอบคุณนายเลยพวกเราถึงจับหลี่เสียงได้”“ฮี่ๆ ฉันรู้สึกแหม่งๆ ตั้งแต่เจ้าเวรนั่นเข้ามาเลียบๆ เคียงๆ
ถามเรื่องอาหารการกินของผู้บัญชาการแล้ว” หลิวอวี้เจ๋อพูดขณะ
ตักเนื้อชุดใหญ่ใหญ่หวังเฟิงหยวน “แต่ก็นะ ต้องขอบคุณที่นาย
ลงมือต่อด้วย ไม่อย่างงั้นไอ้ข้อสงสัยก็ยังเป็นข้อสงสัยอยู่วันยังค่ำ”
“ไม่ต้องถ่อมตัวหรอก” หวังเฟิงหยวนส่ายหัว “ยังไงพวกเราก็
เริ่มลงมือสืบสวนได้แค่หลังคนแสดงพฤติกรรมผิดปกติ”
ตอนนี้เองก็มีนายทหารระดับบัญชาการกลุ่มใหญ่เข้ามา
มุงล้อมหวังเฟิงหยวน “เจ้าตัวดี นายต้องรู้แผนของผู้บัญชาการตั้ง
แต่ต้นใช่ไหม ทำไมถึงปิดปากสนิทได้ขนาดนี้นะ ไม่ปริปากบอกอะไร
พวกเราเลย”
หวังเฟิงหยวนตัดบท “ถ้าหนึ่งในพวกนายกลายมาเป็นสายลับ
ล่ะ จนถึงตอนนี้ฉันก็สันนิษฐานว่าในหมู่พวกนายมีสายลับอยู่อีก”
ผู้บังคับบัญชารอบๆ หงุดหงิดอยู่ครู่หนึ่ง แต่ว่าพวกเขาชินกับ
ท่าทางการพูดแบบนี้ของหวังเฟิงหยวนแล้ว ไม่ได้ใส่ใจมาตั้งนาน
แล้วยามหวังเฟิงหยวนเค้นตัวสายลับออกมา วิถีลงมือเขาป่าเถื่อน
ไม่สนสี่สนแปดผู้ใดทั้งสิ้น ตอบรับเพียงแค่จางจิ่งหลินผู้เดียว
ย้อนกลับตอนอยู่ป้อมปราการ 178 หวังเฟิงหยวนอยู่แต่ตัว
คนเดียว ไม่ดื่มเหล้าสักหยด หวังเฟิงหยวนเคยมีภรรยาอยู่คนหนึ่ง
แต่ว่าคืนหนึ่งเธอได้ยินเสียงเขาละเมอพูด กลายเป็นว่าหวัง
เฟิงหยวนเป็นคนอำมหิตมาก จากนั้นเขาจึงแยกตัวไปอยู่คนเดียว
ทันที จะไปเยี่ยมลูกตัวเองเฉพาะช่วงวันเท่านั้น
ตอนนั้นลูกของหวังเฟิงหยวนเพิ่งเกิด ทุกครั้งที่หวังเฟิงหยวน
ไปเยี่ยมลูก ลูกก็จะเรียกเพียงลุงหวัง กระนั้นเขาไม่เคยบ่นอะไรแม้
มันจะน่าปวดใจแค่ไหนก็ตาม เขาอยู่ตัวคนเดียวมาสิบกว่าปีแล้ว
บางทีลูกน้องเขาก็เห็นหวังเฟิงหยวนออกมาสูบบุหรี่อยู่
ข้างนอกสำ นักงาน พวกเขารู้สึกว่าหัวหน้าตัวเองมีเรื่องหนักใจ
มากมาย
ไฉจื้อหลงผู้บัญชาการกองพลน้อยทหารราบที่อยู่ข้างเขาถาม
“เฟิงหยวน ไหนๆ ก็ไม่มีความลับแล้ว ทำไมไม่เล่าให้พวกเราฟังหน่อยล่ะ พวกเราอุตส่าห์กังวลกันหมดที่ผู้บัญชาการจางไม่กิน
อะไรตั้งสองวัน”
หวังเฟิงหยวนยิ้มลึกลับใส่พวกเขา “เล่าให้ฟังตอนนี้ไม่น่า
มีปัญหา ยังไงผู้บัญชาการก็อนุญาตฉันแล้ว”
เล่าถึงการประสบความสำ เร็จตอนนี้ย่อมเพิ่มขวัญกำลังใจ
ทหารได้ พอมีคนได้ยินว่าหวังเฟิงหยวนพร้อมจะเล่านั้น พวกเขาก็
พูดอย่างตื่นเต้นว่า “บอกมาโลด ผู้บัญชาการยอมทนหิวสองวันจริง
เหรอ หรือว่านายให้หลินอวี้เจ๋อแอบเอาอาหารให้เขา”
หวังเฟิงหยวนไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ไม่คิดเลยว่าว่า
เจ้าพวกนี้จะอยากรู้เรื่องนี้แทนเสียอย่างนั้นไป “ใครบอกว่าเวลา
ผู้บัญชาการมีปัญหาหนักใจแล้วไม่อยากอาหาร”
เหล่าผู้บังคับบัญชามองหน้ากันเอง “แล้วมันไม่จริงเหรอ”
หวังเฟิงหยวนยิ้ม ผู้บังคับบัญชาคนอื่นๆ รู้ในพลันว่าข่าวลือ
เป็นเพียงกับดักแล้ว อย่างเช่นให้ฝ่ายตรงข้ามเข้าใจผิดว่าตนชอบ
แตะจมูกเวลาได้ไพ่ตองเป็นต้น จะสามารถหลอกล่อให้ศัตรู
ตกหลุมพรางจนชีวาวายได้ทีเดียวแน่นอนว่านั้นเป็นแค่ตัวอย่างพื้นฐานสุด ข่าวว่าจางจิ่งหลิน
ไม่อยากอาหารเวลามีปัญหาหนักใจนั้นวนอยู่ในป้อมปราการมายี่สิบ
ปีแล้ว และวันนี้เองเพิ่งรู้ว่ามันเป็นข่าวลวง
หวังเฟิงหยวนพูด “ถ้าผู้บัญชาการมีเรื่องจริงล่ะก็ เขา
จะสูบบุหรี่วันละสองซอง อันนี้ไม่ใช่ข่าวลวง”
แต่ไฉจื้อหลงที่อยู่ข้างเขายกนิ้วชี้ใส่หวังเฟิงหยวนและพูด
หยอก “เอ็งแม่*วางกับดักล่อเราอีกแล้วล่ะสิ ตอนนี้ฉันเป็นทหาร
บริการให้ผู้บัญชาการ เวลาอารมณ์ดีเขาก็สูบบุหรี่สองซองเหมือนกัน
!”
หวังเฟิงหยวนเลิกคิ้ว “เปิดเผยนิสัยส่วนตัวของผู้บัญชาการ
จางโดยไม่รับอนุญาต ไม่เขียนจดหมายขอโทษสามพันคำมา”
ไฉจื้อหลงสีหน้ากลับกลายในพลัน “ฉันไม่ได้พูดอะไรสักหน่อย
!”
หวังเฟิงหยวนไม่สนใจการประท้วงนั่น กฎก็คือกฎ
ไฉจื้อหลงหน้าหน้ามุ่ยเห็นไฉจื้อหลงซวยแบบนี้ ก็มีคนเข้ามาตบบ่าเขา ก่อนจะหันไป
ถามหวังเฟิงหยวน “ว่าแต่ผู้บัญชาการจางไปรู้ได้ไงว่าสมาคม
ตระกูลจงวางแผนจะข้ามทะเลทรายโกบีไปป้อมปราการ 178
ไม่ใช่ว่าผู้บัญชาการจางไม่อยู่ป้อมปราการมาสิบกว่าปีหรอกเหรอ
เขาเพิ่งกลับมาเองนี่ ในป้อมปราการ 178 เองก็ไม่เห็นจะมีใครเคย
พูดเรื่องนี้เลย”
หวังเฟิงหยวนพูดเสียงเย็น “เมื่อหลายปีที่แล้ว ผู้บัญชาการ
จางเป็นคนส่งมอบแผนการนั้นให้สมาคมตระกูลจงเอง พอสมาคม
ตระกูลจงเริ่มหาเรื่องเราบ่อยขึ้น ผู้บัญชาการจางก็เดาได้แล้วว่าฐาน
ปฏิบัติการหน้าในทะเลทรายโกบีคงสร้างเสร็จเรียบร้อย เพราะงั้น
เขาเลยตัดสินใจว่าจะกลับมา”
เหล่าผู้บังคับบัญชาจึงได้รู้ว่าผู้บัญชาการไม่ได้อยู่เฉยๆ
ข้างนอกนั่น ทุกคนหันไปมองหวังเฟิงหยวนอีกครา ดูแล้วหวัง
เฟิงหยวนคงติดต่อกับผู้บัญชาการจางตลอดตั้งแต่เขาลอบออกจาก
ป้อมปราการ 178 ไป แต่เจ้าเวรนี่ปิดปากสนิทจนคนอื่นไม่ทราบ
เรื่องเลย“ไอ้เวร ไม่นึกเลยว่าจะตีหน้าซื่อเก่งขนาดนี้ทั้งๆ รวบรวม
ข่าวกรองห่วยบรมแท้ๆ” ไฉจื้อหลงพึมพำ
ไฉจื้อหลงชะงัก เดี๋ยวก่อนนะ หวังเฟิงหยวนเป็นผู้อำนวยการ
สำ นักข่าวกรองมาสิบกว่าปีแล้ว และก็จะบ่นตลอดว่าข่าวกรอง
มารวบรวมยากมาก ถึงช่วงไม่กี่ที่ผ่านมาจะคืบหน้าไปได้บ้าง แต่ไม่
มีใครรู้ว่าคืบหน้าที่ว่าคือขนาดไหน
ทุกคนต่างลอบล้อหวังเฟิงหยวนกันตลอด บอกว่าหน่วย
ข่าวกรองที่สถานที่ที่คนรอเกษียณอย่างเดียว
แต่วันนี้พวกเขาได้รู้แล้วว่าหวังเฟิงหยวนและผู้บัญชาการ
จางที่มีปรีชาญาณมาก ถ้าหวังเฟิงหยวนไม่เก่งจริง ผู้บัญชาการ
จางคงเอาเขาออกจากตำแหน่งไปนานแล้วไหม
มีหรือผู้บัญชาการจางจะทำงานแบบซั่วๆ น่ะ
พอคิดแล้วทุกคนก็มองหวังเฟิงหยวนด้วยมุมมองต่างจากเดิม
ดูจากที่แผนการข้ามทะเลทรายโกบีเป็นจางจิ่งหลินปล่อยออก
ไปให้สมาคมตระกูลจงเองแบบนี้ หรือว่าผู้บัญชาการจางคิด
จะทำลายสมาคมตระกูลจงมานานมากๆ แล้วแต่ว่าตอนนี้ผู้บัญชาการจางยังไม่กลับมาป้อมปราการ 178
เลยนี่ หรือว่าเป็นฝีมือของหวังเฟิงหยวนนะ?
“มันเริ่มตั้งแต่ตอนไหนนะ” มีคนถาม
หวังเฟิงหยวนนึกย้อนไปแล้วตอบ “ฉันจำ ไม่ได้แล้ว”
เหล่าผู้บังคับบัญชาร้องเหอะ น้ำหน้าอย่างเอ็งอะนะจะลืม
หลอกใครฟะ!
แต่ว่ามีผู้บังคับบัญชาคนหนึ่งถามเรื่องอื่น “เฟิงหยวน นาย
ต้องรู้จักเริ่นเสี่ยวซู่สินะ เล่าให้ฟังหน่อย!”
หวังเฟิงหยวนคิดพักหนึ่ง “ฉันพูดไม่ได้”
“เป็นเพราะเขายังไม่รอดพ้นจากอันตรายสินะ ได้ยินว่าเขาไป
ป้อมปราการ 146 ด้วยตัวเอง เป็นเรื่องจริงเหรอ” ไฉจื้อหลงถาม
“จริง” หวังเฟิงหยวนไม่ปิดบัง อย่างไรสมาคมตระกูลจงก็
ทราบเรื่องนี้ไปเรียบร้อยแล้ว
ไฉจื้อหลงพึมพำ “เจ้าเด็กนั่นดุร้ายเกินไปแล้ว กล้าไป
ป้อมปราการ 146 ด้วยตัวคนเดียวเนี่ยนะ แล้วตอนนี้เขาจะทำไงต่อ
นายให้สายลับเราทางเหนือช่วยเหลือเขาหรือยัง”หวังเฟิงหยวนส่ายหน้า “ไม่รู้สิ”
อะไรที่พูดได้เขาก็พูดไปหมดแล้ว ข้อมูลที่เหลือต้องเก็บ
ความลับ เหล่าผู้บังคับบัญชารอบหวังเฟิงหยวนแยกย้ายกันไป
พวกเขาเองก็ต้องจัดทัพใหม่ให้ไวที่สุดเพราะยังต้องขึ้นเหนือไปสู้อีก
ถึงวันนี้พวกเขาจะใกล้ได้รับชัยชนะแล้ว แต่ว่าอย่างไรก็ยังไม่ยึด
ป้อมปราการของสมาคมตระกูลจงไม่ได้สักแห่งเลย