the first order สู่รุ่งอรุณเเห่งมวลมนุษย์ - ตอนที่ 460 สั่งฆ่า
พลังและระยะทำลายของไพ่ระเบิดนี้สูงกว่าระเบิดมือนับสิบ
เท่า!
ถ้าโยนระเบิดมือเข้าแนวป้องกันไปโต้งๆ ระเบิดทิ้งได้สอง
สามคนก็เยี่ยมมากแล้ว เพราะอย่างนั้นถ้าเริ่นเสี่ยวซู่ยังมัวแต่
ใช้ระเบิดมืออยู่ ก็คงถูกยิงตายไปก่อนแล้ว
เริ่นเสี่ยวซู่เก็บไพ่หกแต้มสี่ใบนี้เป็นไม้ตายมานานแล้ว เขา
โอดครวญอยู่ตลอดว่าไพ่แต้มสูงมันหายากเกินไปมาก เขาล่ะ
เฝ้าอยากเห็นอำนาจทรงพลังแห่งไพ่นี้นัก แต่ว่าสุ่มมานาน แต้มหก
ก็ดูจะเป็นแต้มสูงสุดที่หาได้แล้ว
พริบตานั้นคลื่นกระแทกก็กวาดออกราวคลื่นทะเล ชาว
ป้อมปราการรอบๆ แอบมองจากบ้านตัวเอง พอคลื่นกระแทกกวาด
มาถึงตัว เหล่าผู้หลบอยู่หลังหน้าต่างก็ถูกผลักถอยหลังไปด้วยกระจกหน้าต่างรถออฟโรดของจงเฉิงแตกออกเป็นเศษทันที
ทั้ง
ร่างกายเขาก็สั่นพ้องไม่หยุด
ในหูดังอื้ออึงอล เขาหูดับไปแล้ว!
ขบวนรถไฟขับผ่านวูบไปเริ่นเสี่ยวซู่ที่ยืนอยู่ตู้โดยสารแค่นเสียง
เย็นขณะมองแนวป้องกันของสมาคมตระกูลจงที่กลายเป็น
ทะเลเพลิงไป
ไพ่ระเบิดหกแต้มสี่ใบทรงพลังจะทำลายแนวป้องกันที่ก่อ
มาจากคนหลายร้อยได้อย่างไม่ยากเย็น
เริ่นเสี่ยวซู่เดาว่ามีทหารโชคดีเหลือรอดในไม่ถึงครึ่ง แต่
พวกเขารอดแล้วอย่างไรเล่า หลังถูกระเบิด ทหารสมาคมตระกูลจง
เสียขวัญกำลังใจจะสู้รบไปหมดเรียบร้อย
แค่รักษาสติให้เป็นปกติยังไม่ได้เลย
ตอนที่จงเฉิงเหยียบคันเร่งพยายามจะหนี ในหูของเขายังมี
เสียงอื้ออึงอยู่เลย โชคดีที่เกิดระเบิดนั้นเขาอยู่ห่างจากแนวป้องกัน
มาแล้ว ไม่อย่างนั้นก็คงสิ้นชีพไปพร้อมกับระเบิดเริ่นเสี่ยวซู่พยายามโยนระเบิดมือใส่จงเฉิงผ่านประตูเงา แต่ว่า
พวกเขาทั้งคู่เคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูง ประตูเงาเองก็
มีความคลาดเคลื่อนอยู่ หลังจากลองหลายครั้งก็ยังไม่สำ เร็จ
แต่ว่าพอเริ่นเสี่ยวซู่เห็นสถานการณ์บนถนนจื่อจิงแล้ว ก็สงสัย
ว่าจะหนีจนพาเขาไปจบลงตรงไหนกันแน่
ไม่ใช่ว่าเขาตั้งใจจะหยอกล้อกับจงเฉิงอะไรหรอกนะ แต่ว่า
ถ้าแต่ฆ่าไปหนึ่ง ก็คงไม่อาจส่งผลต่อภาพรวมได้
ที่เริ่นเสี่ยวซู่มาป้อมปราการ 146 ก็เพื่อไขปัญหาที่
ป้อมปราการ 178 กำลังเผชิญอยู่ เขาไม่รู้เลยว่ากองกำลังสมาคม
ตระกูลจงในทะเลทรายโกบีนั้นถูกสูเสี่ยนฉู่เข้าขัดขวางแล้ว ทั้งไม่รู้รู้
ด้วยว่าแผนการรับมือของจางจิ่งหลินนั้นเกรียงไกรเพียงไร
ตอนนี้เริ่นเสี่ยวซู่อยู่ในเขตแดนของศัตรู หลังจาก
สงบสติอารมณ์ได้แล้ว จึงมองถึงภาพรวมเป็นสำ คัญ
จงเฉิงที่หนีอย่างหวาดวิตกจะไปไหนได้ สถานที่ใดกันที่ทุก
กองกำลังในป้อมปราการ 146 ไปรวมตัวกัน แน่นอนว่าข้างกายพวก
เบื้องบน!เจิ้งหยวนตงบอกเริ่นเสี่ยวซู่ก่อนหน้าว่าครึ่งกองพลน้อยของ
ป้อมปราการ 146 นั้นกำลังตามล่าตนอยู่ ส่วนอีกครึ่งนั้นทำหน้านี้
รักษาความปลอดภัยให้กับสภาบริหารสมาคมตระกูลจง
ตอนนี้ทหารที่ทำหน้าที่ค้นหาเริ่นเสี่ยวซู่นั้นแยกย้ายกันอยู่ทั่ว
ดังนั้นจงเฉิงไม่มีทางรวบรวมพวกเขาได้อย่างเรียบร้อยในเวลาอันสั้น
ได้หรอก ดังนั้นจงเฉิงจึงมองว่ามีแค่ทหารที่ปกป้องเบื้องบนของ
สมาคมตระกูลจงอยู่เท่านั้นที่จะช่วยตนได้
ที่จริงจงเฉิงก็เพิ่งตระหนักได้ถึงเรื่องนี้ขณะนี้ขณะหนีเริ่นเสี่ยวซู่
พอเขามองผ่านกระจกมองหลัง ก็จะเห็นว่ารถจักรไอน้ำนั้นค่อยๆ
ระยะห่างจากตน เหมือนกับกำลังพาสุนัขเดินเล่นอยู่อย่างไร
อย่างนั้น
เขาคิดจะนำเริ่นเสี่ยวซู่ไปยังสถานที่ที่ทหารรวมตัวกันมาก
ที่สุด และใช้พวกเขาถ่วงเวลาเริ่นเสี่ยวซู่เสีย แต่ตอนนี้ไปๆ มาๆ
เหมือนเขากำลังพาเริ่นเสี่ยวซู่โจมตีสมาคมตระกูลจงในป้อมปราการ
เสียได้หน้าของจงเฉิงมีเลือดไหลนอง ศีรษะเขามีแผลกรีดจาก
เศษระเบิดใหญ่นั่น เพราะเลือดไหลลงอาบหน้า จงเฉิงจึงดูป่าเถื่อน
ยิ่งกว่าเดิม
เขาไม่ใช่คนโง่ ย่อมเข้าใจว่ากองกำลังป้องกันที่กระจายกันไป
นั้น
ไม่อาจทำอะไรเริ่นเสี่ยวซู่ได้ ตอนนี้ศัตรูปล่อยให้ตัวเองนำทางไป
เขาจะได้เจอกองกำลังอื่นๆ ที่อยู่กับพวกเบื้องบนของสมาคม!
จงเฉิงอยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ขณะมองรถจักรไอน้ำ
ผ่านกระจกมองหลังนั้น ก็คิดอยู่ว่าควรจะไปยังจุดที่พวกเบื้องบน
อยู่ดีไป ถ้าเขาล่อเริ่นเสี่ยวซู่ไปนั่นจนลากพวกสภาบริหารมาเอี่ยว
ด้วย หลังสงครามจบเขาต้องโดนคิดบัญชีแน่
แต่จงเฉิงก็คิดได้ว่า ถ้าเขาไม่ไปที่นั่นแล้ว เขาจะไปไหนอีก
ถึงที่อยู่ของพวกสภาบริหารจะอยู่แยกกันสามสถานที่ บ้างก็เป็น
ผู้อาวุโสสายตระกูลเดียวกับตนด้วยซ้ำ แต่เขาจะมีทางเลือกอะไรอีก
เขาได้แต่ต้องไปเยือนในที่ที่เหล่าผู้อาวุโสในสภาบริหารอยู่
อย่างไรทหารที่นั่นก็เก่งฉกาจทั้งเป็นระเบียบกว่าจงเฉิงพลันเกิดความคิดหนึ่งขึ้นมา ผู้อาวุโสมีทหารคุ้มกันกว่า
สองพันนาย แค่นั้นก็น่าจะพอถ่วงรั้งพละกำลังของเริ่นเสี่ยวซู่ได้แล้ว
ไหมนะ
ที่จริงจงเฉิงจะคิดแบบนี้ก็ไม่ผิดหรอก เพราะในมุมมองของ
คนธรรมดาแล้ว ไม่ว่าผู้มีพลังพิเศษจะดุร้ายแค่ไหน แต่คนก็ต้อง
มีขีดจำ กัดอยู่ แถมเริ่นเสี่ยวซู่ถูกฝ่ายค้นหาไล่ล่าในป้อมปราการ
มาทั้งวัน ถ้าเขาเป็นดั่งเทพจริง ไฉนยังต้องคอยหลบคอยหนีผู้
ตามล่าด้วย
ในความเป็นจริง คืนนี้สมาคมตระกูลจงเดิมหมากพลาดแล้ว
พวกเขาไม่คิดว่าเริ่นเสี่ยวซู่จะกล้าบุกเข้ามาในฐานทัพ เพราะกลุ่ม
ค้นหากระจายอยู่ทั่วป้อมปราการ ก็ทำให้เริ่นเสี่ยวซู่เป็นฝ่าย
ได้เปรียบ และสมาคมตระกูลจงก็ยังพลาดอีกอย่างด้วย ซึ่งก็คือจง
เฉิงดูถูกพลังจิตใจของเริ่นเสี่ยวซู่เกินไป
เขาคิดจะเอาจำ นวนล่อถ่วงให้เริ่นเสี่ยวซู่เหนื่อย แต่ที่ว่าเริ่น
เสี่ยวซู่ตัวเองยังไม่รู้ขีดจำ กัดด้านพลังจิตของตัวเองด้วยซ้ำจงเฉิงสงบสติอารมณ์ลงมาได้บ้าง เพราะใจคาดไว้แล้วว่า
อีกไม่นานเริ่นเสี่ยวซู่คงหมดแรง ซึ่งอาจทำให้รอดได้ อารมณ์จึงดีขึ้น
มา
ถึงวิกฤตจะหนักหน่วง แต่นักกลยุทธ์มากปัญญาย่อมสามารถ
กลับขาวเป็นดำ
เขาแค่ต้องพาเริ่นเสี่ยวซู่ไปยังอาณาเขตอีกสองฝ่ายอำนาจ
ของสมาคมตระกูลจง ด้านหนึ่งคือใช้ทหารรักษาการณ์ที่นั้นเคยฉุด
เริ่นเสี่ยวซู่ ด้านหนึ่งก็คือการให้เริ่นเสี่ยวซู่ ‘ช่วย’ เขากำจัดผู้ต่อต้าน
ตัวเอง
ที่จริงชีวิตเขากับจงเซียงในสมาคมตระกูลจงก็ไม่ได้ราบรื่นนัก
เป็นเพราะว่าตระกูลสายที่สามและสี่ร่วมมือกับต่อต้านตระกูลหลักที่
มีอำนาจมากที่สุดในสมาคม
ตระกูลทั้งสองสายนี้มีทหารรวมกันมากกว่าหนึ่งพันนาย สอง
ศึกก็น่าจะพอล่อให้เริ่นเสี่ยวซู่หมดแรงได้แล้ว หลังจากนั้นตระกูล
หลักก็จะจัดการกวาดล้างความวุ่นวาย ก่อนจะเปิดโต๊ะเจรจา
สงบศึกกับป้อมปราการ 178 แบบนี้แล้ว นอกจากอิทธิพลในตระกูลหลังของเขาจะไม่ลดน้อยลง แต่จะเพิ่มขึ้นไปอีก หลังจากคอย
สะสมกำลังอีกสองสามปี เขาก็จะหวนคืนมา!
คิดแล้วจงเฉิงก็หักพวงมาลัยพุ่งไปอีกทาง
การไล่ล่านี้ดำเนินมาเกือบชั่วโมงแล้ว จงเฉิงเร่งเครื่องไปยัง
เขตแดนตระกูลสายที่สามโดยมีเริ่นเสี่ยวซู่ไล่หลัง ทหารนอก
คฤหาสน์ตระกูลรองสายที่สามตั้งเครื่องกรีดขวางรถยนต์เรียบร้อย
แล้ว ทั้งยังตั้งอาวุธหนักคอยรับมืออยู่ด้วย
พอจงเฉิงเข้ามาใกล้ เขาก็ตะโกนผ่านวิทยุว่า “เอา
เครื่องกีดขวางออก เปิดทางให้ฉันเข้าไป!”
พวกทหารลังเลอยู่ แต่จงเฉิงตะโกนอีกรอบ “ฉันคือจงเฉิง
ผู้บัญชาการแค่กองพลน้อยชุดรบที่ 107 ฉันสั่งให้พวกนายเคลื่อน
เครื่องกีดขวางออกเดี๋ยวนี้ และเตรียมรับมือกันศัตรูต่อ!”
ถึงทหารนอกคฤหาสน์จะอยู่ภายในกองพลน้อยชุดรบที่ 107
เช่นกัน แต่ว่าหน้าที่หลักพวกเขาคือการปกป้องคฤหาสน์ ทั้ง
ผู้บัญชาการกองพันก็เป็นลูกชายคนโตในตระกูลสายรองที่สาม จึง
ไม่จำ เป็นต้องฟังคำสั่งจงเฉิงนายทหารที่อยู่แนวหน้าจ้องมองรถของจงเฉิงเข้ามาใกล้ แต่ดู
แล้วเขาไม่คิดจะหลบทางให้เลย เขาไม่คิดปล่อยให้จงเฉิงผ่าน