หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler - ตอนที่ 786
ผลเทพมังกรหงส์
ภายใต้ท้องฟ้าไร้พรมแดนที่บรรจุด้วยรัศมีโบราณ
เมฆขาวก็ดูเหมือนได้รับอิทธิพลจากกลิ่นอายโบราณ ทำให้ดูหนาแน่นมากขึ้นและแข็งตัวบนท้องฟ้า ช่างเหมือนกับทิวทัศน์บนภาพวาด ทำให้ผู้พบเห็นรู้สึกลึกซึ้งและคลุมเครือ
ฟิ้ว!
ทันใดนั้นแสงสองสายก็พาดผ่านขอบฟ้า ทำให้เกิดรอยฉีกขาดสองรอยบนหมู่เมฆ แต่พริบตาเดียวลำแสงทั้งสองก็หายไป ความเร็วนั้นดึงดูดความสนใจของจอมยุทธ์ที่กระจายตัวทั่วเขตหลงเฟิ่งที่กำลังมองหาสมบัติอยู่
แต่ทุกคนสัมผัสได้ถึงคลื่นหลิงทรงพลังที่แผ่ออกมาจากร่างแสงสองร่างนั้น ดังนั้นแม้ว่าจะดึงดูดความสนใจมากแค่ไหน ก็ไม่มีใครกล้าขวางทางพวกเขา
ร่างแสงทั้งสองนี้ก็คือมู่เฉินกับไฉ่เซียวซึ่งจากไปอย่างรวดเร็วหลังจากได้รับพลังในสระมังกรหงส์สระหนึ่งแล้ว
แต่เป้าหมายของพวกเขาไม่ใช่สระมังกรหงส์อีกที่เหลือ แต่เป็นสระมังกรหงส์ชั้นยอดที่ไฉ่เซียวค้นพบ จากที่ไฉ่เซียวพูดมา สระมังกรหงส์ชั้นยอดอันตรายอย่างมาก แต่สุดท้ายมู่เฉินยังเลือกที่จะเดินทางไปกับนาง
“ต้องเดินทางอีกนานเท่าไร?”
ลำแสงทะยานไป มู่เฉินก็พุ่งเข้าหาไฉ่เซียว ส่งเสียงโดยใช้คลื่นหลิงห่อหุ้มไว้ ทั้งสองใช้เวลาครึ่งวันในการเดินทางแล้ว เส้นทางนี้นับว่าไกลเอาการ
“อีกสี่ชั่วโมง” ไฉ่เซียวตอบ
มู่เฉินแอบเดาะลิ้น เขาสัมผัสได้ว่าพวกเขาเริ่มเดินทางเข้าในพื้นที่ห่างจากกกลุ่มคนของเขตหลงเฟิ่งแล้ว ป่าไม้โบราณเหล่านั้นชัดว่ายังไม่เคยมีใครก้าวเข้ามา ยิ่งกว่านั้นรัศมีของสัตว์อสูรที่ปรากฏในพื้นที่เหล่านี้ก็มีจำนวนมากขึ้นและรุนแรงมากขึ้นเช่นกัน
ทันใดนั้นไฉ่เซียวก็ยื่นมือคว้าข้อมือมู่เฉินไว้ สัมผัสได้ถึงความเย็นฉ่ำและนุ่มละมุน ก่อนที่แสงสีรุ้งจะกำจายออกมาฉับพลัน ก่อตัวเป็นม่านปกคลุมทั้งสองไว้
“ต่อไปเราอาจต้องเผชิญกับสัตว์อสูรทรงพลังที่มีประสาทสัมผัสว่องไวไม่น้อย แม้ว่าเจ้าจะเก็บคลื่นหลิงไว้ภายในร่างกายได้ แต่กลัวว่าก็จะถูกค้นพบ ดังนั้นข้าจะพาเจ้าไปเอง” ไฉ่เซียวเอ่ยขณะเหลือบมองมู่เฉิน
มู่เฉินพยักหน้า จะเป็นเรื่องดีที่จะหลีกเลี่ยงสถานการณ์เหล่านั้นได้ มิฉะนั้นหากพวกเขาเข้าไปพัวพันกับสัตว์อสูร แม้จะออกมาจากสถานที่แห่งนี้ได้ แต่แผนการของพวกเขาก็จะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน
ฟิ้ว!
แสงสีรุ้งปกคลุมร่างทั้งสอง จากนั้นความเร็วของพวกเขาก็พุ่งทะยานอย่างรวดเร็วราวกับแสงที่พุ่งผ่านขอบฟ้า
อีกสี่ชั่วโมงต่อมามู่เฉินก็ตระหนักถึงอันตรายในเขตหลงเฟิ่ง ป่าโบราณไกลสุดลูกหูลูกตาเต็มไปด้วยสัตว์อสูร บางตัวมีขนาดใหญ่ราวกับภูเขา รังสีชั่วร้ายเชี่ยวกรากมหาศาลพล่านไปทั่วขอบฟ้า
นอกจากนี้มู่เฉินยังสัมผัสได้ถึงคลื่นสำรวจไม่น้อยกวาดผ่านขอบฟ้า มิหนำซ้ำยังสำรวจไปทั่วพวกเขา นี่คือการสำรวจของสัตว์อสูรดุร้ายที่มีประสาทสัมผัสว่องไว การสำรวจนี้สังเกตได้ยากมาก หากไม่ใช่เพราะไฉ่เซียว ด้วยการระงับคลื่นหลิงของมู่เฉินอย่างเดียว คงเป็นเรื่องยากที่เขาจะหลบเลี่ยงการสำรวจพวกนี้ได้
ดินแดนโบราณนี้ชัดว่าไม่ใช่สถานที่สงบสุข
ทว่าแม้เส้นทางจะกีดขวางด้วยฝูงสัตว์อสูรมากมาย แต่สุดท้ายก็ผ่านไปด้วยดี หลังจากสี่ชั่วโมงไฉ่เซียวก็ค่อยๆ ลดความเร็วลง ตอนนี้พวกเขาได้ก้าวเข้ามาอยู่ในใจกลางของพื้นที่ไร้ผู้คนนี้แล้ว
เมื่อเข้ามาถึงพื้นที่ใจกลาง สายตาของมู่เฉินก็เคร่งเครียดลงหลายส่วน เพราะเขาสัมผัสได้ถึงแรงกดดันโบราณที่แผ่ออกมาจากบริเวณนี้
แรงกดดันนั้นทำให้อากาศไหลเอื่อยลง แม้แต่คลื่นหลิงยังหนักอึ้ง บริเวณนี้ไม่เหมือนกับบริเวณอื่นๆ ป่าไม้และเนินเขามีขนาดเล็กมาก นั่นเป็นผลจากแรงกดดันโบราณที่แผ่ปกคลุมบริเวณนี้
“ดูเหมือนเราจะไม่ได้มาผิดที่ล่ะ”
ไฉ่เซียวหัวเราะเบาๆ ขณะมองพื้นที่แห่งนี้ เพื่อให้สามารถมีแรงกดดันโบราณบริสุทธิ์เช่นนี้หลงเหลืออยู่ได้ ดูท่าจะต้องมีสระมังกรหงส์ชั้นยอดแน่นอน
“แต่ดูเหมือนจะไม่มีสัตว์อสูรตัวใดอยู่ที่นี่เลย…” มู่เฉินขมวดคิ้ว เขาตระหนักว่าบริเวณนี้เงียบสงัดผิดปกติ นอกจากนี้เขายังไม่รู้สึกถึงความผันผวนคลื่นหลิงของสัตว์อสูรเลย บริเวณนี้ดูราวกับดินแดนที่ตายแล้ว
“เพราะไม่มีสัตว์อสูรตัวใดกล้ามาที่นี่น่ะสิ” ไฉ่เซียวพยักหน้าขณะชี้นิ้วเรียวไปที่จุดลึก “ไปกันเถอะ สระมังกรหงส์น่าจะอยู่ลึกลงไปข้างใน ระวังตัวด้วยนะ ที่นี่น่าจะไม่ธรรมดา”
มู่เฉินพยักหน้าจากนั้นทั้งสองก็ทะยานออกไป ทว่าร่างกายต่างเกร็งขึ้น คลื่นหลิงพล่านอยู่รอบตัว เห็นชัดว่าเพื่อเตรียมเผชิญกับสถานการณ์ไม่คาดคิด
ทว่าสิ่งที่ทำให้ทั้งคู่รู้สึกผิดคาดก็คือเมื่อพวกเขาไปถึงจุดลึก พวกเขาก็ยังไม่พบกับอุปสรรคใดๆ เลย จากนั้นพวกเขาก็กระโจนข้ามยอดเขาโดดเดี่ยวตรงหน้า ก่อนที่เบื้องหน้าครรลองสายตาจะเปิดกว้างขึ้น ม่านตาทั้งสองคู่หดเกร็งลงในเวลานี้
ตรงหน้าพวกเขาเป็นพื้นดินแตกระแหงมีหลุมลึกขนาดหลายหมื่นจั้งอยู่ในตำแหน่งนั้น ความมืดดำทำให้ดูราวกับว่าไร้ก้น ประหนึ่งหลุมดำที่เป็นที่พักอาศัยของปีศาจร้าย ทำให้ผู้ที่ได้เห็นรู้สึกขนลุกชันเมื่อมองลงไป
แน่นอนว่าสิ่งที่ทำให้ทั้งคู่รู้สึกตกตะลึง ไม่ใช่หลุมดำ แต่เป็นวัตถุขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่เหนือหลุม
วัตถุทั้งสองมีสีขาวเจือริ้วสีทองเข้มผสมอยู่ภายใน รัศมีที่น่ากลัวเปล่งออกมาจากพวกมัน
นี่คือศีรษะของมังกรและหงส์ฟ้า!
ศีรษะใหญ่โตของมังกรและหงส์ฟ้าดูเหมือนจะใหญ่กว่าภูเขาซะอีก ตอนนี้พวกมันกำลังกัดกร่อนซึ่งกันและกัน ความเกรี้ยวกราดยังคงแผ่ออกมา แม้ว่าทั้งคู่จะกลายเป็นกระดูกหลังผ่านมาเนิ่นนานแล้วก็ตาม
ซื้ดดดด
มู่เฉินสูดหายใจลึกมองภาพนี้ด้วยอาการตกใจพึมพำว่า “เป็นหัวของมังกรและหงส์ฟ้าจริงด้วย…”
กระดูกที่ก่อตัวเป็นสระมังกรหงส์ในภูเขากระดูกขาวห่างไกลราวกับหิ่งห้อยและดวงจันทร์เมื่อเทียบกับสระตรงหน้า
แม้ตอนนี้พวกเขายังห่างจากศีรษะของมังกรกับหงส์ฟ้า แต่แรงกดดันที่ครอบงำไม่อาจเทียบได้ก็ราวกับพายุกวาดออกมา ทำให้ลมหายใจของมู่เฉินติดขัด
ไฉ่เซียวจ้องมองศีรษะมังกร จากนั้นร่างนางก็เคลื่อนตรงไป มู่เฉินที่เห็นก็ติดตามไปอย่างรวดเร็ว
ทั้งสองเข้าใกล้ศีรษะสัตว์อสูรทั้งสองที่ลอยอยู่เหนือหลุมดำมืดมิดอย่างรวดเร็ว เมื่อเข้าใกล้พวกเขาถึงได้ตระหนักถึงความตื่นตะลึงจากการมองเห็น
รัศมีโหดร้ายของมังกรและหงส์ฟ้าที่ฟาดฟันกันปกคลุมเข้ามา สามารถจินตนาการได้ว่าในยุคโบราณการต่อสู้ระหว่างมังกรและหงส์ฟ้าจะน่าตกตะลึงเพียงใด
นี่คือสิ่งมีชีวิตน่ากลัวสองชนิดที่เทียบได้กับจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนเลยนะ
“สระมังกรหงส์อยู่ที่ไหนล่ะ?” มู่เฉินกวาดสายตามองหาเป้าหมายของพวกเขาในครั้งนี้
ไฉ่เซียวยื่นมือเรียวชี้ไปยังจุดที่ปากของมังกรกับหงส์ฟ้ากัดเข้าด้วยกัน ตรงจุดสัมผัสระหว่างกระดูกทั้งสอง ปรากฏสระกระดูกเลือนราง ทว่าสระนั้นไม่ได้ว่างเปล่า กลับเต็มไปด้วยน้ำสีทอง เมื่อน้ำในบ่อม้วนตัว ลวดลายมังกรและหงส์ฟ้าก็โถมตัวขึ้นมา ส่งเสียงคำรามกังวานออกมา
กลิ่นหอมประหลาดที่เข้มข้นจนไม่สามารถละลายได้กระจายออกไปอย่างช้าๆ เมื่อได้กลิ่นนั้นมู่เฉินก็รู้สึกว่าเลือดในกายปั่นป่วน มากจนแม้แต่ผิวกายยังปรากฏแสงสีทอง กายามังกรพรางที่เขาชำระได้สั่นไหวอย่างควบคุมไม่อยู่ในตอนนี้
เทียบกับสระมังกรหงส์นี้แล้ว สระก่อนหน้าที่เจอนับว่าธรรมดาสามัญไม่ควรที่จะพูดถึงเลย
“สระมังกรหงส์นี้ยังไม่ใช่ที่ดี่ที่สุดของที่นี่หรอก” ไฉ่เซียวเอ่ยออกมา จากนั้นก็มองไปที่สระมังกรหงส์ ดูจากตำแหน่งแล้ว นี่เป็นจุดไขว้กันของฟันมังกรและหงส์ฟ้า พวกมันต่างกัดอีกฝ่ายไว้อย่างแรง
มู่เฉินมองตรงไปสายตาก็แข็งค้าง ที่ตรงนั้นแสงสีทองพวยพุ่งขื้น ต้นอ่อนสีทองงอกออกมาจากกระดูกของมังกรและหงส์ฟ้า แม้จะเป็นเพียงต้นอ่อน แต่ก็ดูราวกับมังกรน้อยที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง
บนต้นอ่อนสีทองนี้มีกลุ่มแสงสีทองสามกลุ่ม เมื่อมองผ่านก็เห็นผลไม้สีทองสามผล ผลไม้สีทองนี้ดูมหัศจรรย์ยิ่งนัก รูปลักษณ์ที่ปรากฏเป็นมังกรและหงส์ไขว้พันกัน เมื่อถักทอกันเหนียวแน่นก็ก่อเกิดเป็นผลมังกรหงส์น่ามหัศจรรย์
ทว่ามีผลมังกรหงส์สองในสามผลเท่านั้นที่สุกแล้ว ผลที่สามเหมือนจะเพิ่งเริ่มโต ดังนั้นมันจึงยังดิบอยู่ คลื่นพลังมหัศจรรย์ที่แผ่ออกมาก็ห่างชั้นจากอีกสองผลที่เหลือ
แต่ถึงเป็นเช่นนั้น ผลมังกรหงส์สามผลก็นับว่าเป็นสมบัติล้ำค่าอยู่!
สายตาของมู่เฉินลุกโชนขณะมองผลไม้ทั้งสาม เขาสัมผัสได้ว่าผลไม้ทั้งสามนั้นคงเป็นสมบัติยอดเยี่ยมที่สุดของที่นี่ ในนั้นได้บรรจุพลังสุดยอดจากศีรษะของมังกรแท้จริงและหงส์ฟ้าแท้จริง
เทียบกับพวกมัน แม้แต่สระมังกรหงส์ชั้นยอดนี้ก็ด้อยค่าทันที
“สิ่งเหล่านั้นคือผลเทพมังกรหงส์ ซึ่งเกิดจากการรวมตัวอย่างสมบูรณ์ระหว่างเลือดมังกรแท้จริงและหงส์ฟ้าแท้จริง” ไฉ่เซียวยิ้มบาง เมื่อเห็นสมบัติระดับนี้ แม้แต่นางเองยังมีแววประหลาดใจแกมยินดีกระจายออกมาจากดวงตา
มู่เฉินเลียริมฝีปาก กำลังจะก้าวเท้าเข้าไป ทันใดนั้นดวงตาก็หดลง สายตามองไปที่สระมังกรหงส์ ก็พบว่าสระน้ำสีทองกระเพื่อมไหวเสาน้ำเสาหนึ่งโถมซัดขึ้น เมื่อเสาน้ำฉีกออกจากกันร่างสีทองก็พุ่งออกมา ฝ่ามิติหมายจะสยบมู่เฉินด้วยฝ่ามือเดียว
ภายใต้ฝ่ามือ ราวกับมีภาพมังกรคำรามสยบฟ้าดินปรากฏขึ้น
แรงกดดันน่ากลัวราวกับภูเขาไท่ซานปกคลุมมา สีหน้าของมู่เฉินก็เปลี่ยนไปอย่างควบคุมไม่ได้ ทว่าก่อนที่เขาจะออกกระบวนท่า ไฉ่เซียวก็ก้าวไปข้างหน้าคลื่นหลิงสีรุ้งระเบิดออกมา มือเรียวของนางซัดออกไปอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าแลบปะทะกับฝ่ามือสีทองนั่น
ปัง!
ฝ่ามือสองขนาดปะทะกัน ทำให้มิติบิดเบี้ยวพร้อมกับคลื่นพลังที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าอาละวาดออกมาอย่างรุนแรง
ขณะที่แรงปะทะบ้าคลั่งกวาดออก ร่างของไฉ่เซียวก็สั่นไหวเล็กน้อย ก้าวถอยไปสิบกว่าก้าว
มองเห็นภาพนี้แล้ว สายตาของมู่เฉินก็ตึงเกร็ง นี่คือครั้งแรกที่เขาเห็นไฉ่เซียวตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ดูท่าว่าพวกเขาจะเจอจอมโหดตัวจริงครั้งนี้แล้ว