หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler - ตอนที่ 792

แสงสีทองพราวระยับกระจายบนท้องฟ้า

แม้แต่หมู่เมฆยังถูกย้อมจนดูราวกับทำมาจากทอง ช่างเป็นภาพที่ยิ่งใหญ่ตระการตานัก

บนท้องฟ้า ร่างร่างหนึ่งยืนกลางอากาศขณะแสงสีทองปะทุไปทุกทิศทาง ด้านหลังภาพมังกรและหงส์ฟ้าปรากฏขึ้น สุดท้ายเมื่อคำรามเสียงสะเทือนเลื่อนลั่นก็เข้าสู่ร่างกายและหายไป

มู่เฉินก้มหน้า มือทั้งคู่กำเข้าช้าๆ ขณะที่พลังงานในร่างครางกระหึ่มราวกับคลื่นยักษ์ ความรู้สึกของพลังที่รุนแรง ทำให้รู้สึกราวกับผืนฟ้าสามารถถล่มและผืนดินสามารถแตกออกทันทีที่มันระเบิด

พลังกายอันทรงพลังเช่นนี้เป็นสิ่งที่มู่เฉินไม่เคยรับรู้มาก่อน แม้แต่กายาเทพสายฟ้าเก้าโคจรก็ยังไม่แข็งแกร่งถึงขนาดนี้ เขาสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ในร่างเมื่อเทียบกับก่อนหน้า พลังชีวิตแก่กล้าเป็นประวัติการณ์

อย่างน้อยความเจ็บปวดที่เขาทนรับก็สมกับสิ่งที่ได้รับอย่างสิ้นเชิง

มู่เฉินยิ้มกริ่มเคลื่อนตัวปรากฏตรงหน้าสระมังกรหงส์ชั้นยอด เขามองไฉ่เซียวก่อนจะเอ่ยอย่างจริงใจ “ขอบใจนะ”

แม้เขาจะอยู่ใต้น้ำในสภาวะฝึกยุทธ์ลึกล้ำ แต่เขาก็สัมผัสได้ถึงแก่นเลือดมังกรและหงส์ฟ้าที่มีพลังแก่กล้าขึ้นมาฉับพลัน ซึ่งชัดว่าไม่ได้มาจากสระมังกรหงส์ แต่มาจากผลเทพมังกรหงส์ที่ล้ำค่าอย่างยิ่ง

หากไม่ใช่เพราะผลไม้เทพนี้ การฝึกของเขาก็จะจบลงกลางคันอย่างแน่นอน ถ้าเป็นเช่นนั้นไม่เพียงแต่เขาจะไม่สามารถสร้างกายามังกรหงส์ขึ้นมาได้ เขายังเสียทรัพยากรมหาศาลไปด้วย ซึ่งนับว่าเป็นความสูญเสียใหญ่หลวงเลยทีเดียว

ดังนั้นเขาจึงรู้สึกซาบซึ้งกับการกระทำของไฉ่เซียว เพราะพวกเขามีความสัมพันธ์แค่ร่วมมือกัน แต่ตลอดทางเขาได้ประโยชน์ไม่น้อยเลย

ไฉ่เซียวยิ้มบาง ก่อนจะมองมู่เฉินอย่างสนใจจิ้มแขนของเขาเบาๆ พลางกลั้วหัวเราะ “สมกับเป็นกายามังกรหงส์จริงๆ มีบางจุดที่ใช้ได้เลย”

นางมีประสบการณ์มากมายจึงมีสายตาเฉียบแหลม ทำให้นางสัมผัสได้ถึงพลังชีวิตน่าทึ่งที่อยู่ในร่างของมู่เฉิน ตราบใดที่มู่เฉินไม่ได้รับบาดเจ็บเจียนตาย เขาก็สามารถฟื้นฟูสภาพได้อย่างรวดเร็ว

มู่เฉินพยักหน้ารู้สึกพอใจมากกับพลังของกายามังกรหงส์ ถ้าเขาต้องปะทะกับหลิ่วเหยียนอีกครั้ง ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นก็จะชัดเจนแล้ว

ด้วยขุมพลังจื้อจุนขั้นสามบวกกับร่างเทพสุริยะและกายามังกรหงส์ที่เพิ่งสร้างขึ้น ก็คงไม่มีหน้าไหนที่มีพลังยุทธ์ต่ำกว่าขุมพลังจื้อจุนขั้นห้าจะสามารถต่อกรกับเขาได้

“ดูเหมือนพื้นฐานพลังกายของเจ้าจะดีไม่น้อย” ไฉ่เซียวเอ่ยชม หากเป็นจอมยุทธ์ธรรมดาทั่วไป ต่อให้มีผลเทพมังกรหงส์ก็เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะสร้างกายามังกรหงส์ขึ้นมา เนื่องจากนางบอกได้เลยว่ากายามังกรหงส์มีความครอบงำล้นเหลือ ผู้ฝึกที่มีพลังกายอ่อนแอจะไม่สามารถทนต่อแก่นเลือดมังกรและหงส์ฟ้าได้ ถึงตอนนั้นไม่เพียงแต่เลือดของพวกเขาจะสลาย แม้แต่ร่างกายก็อาจต้องสูญเสียไป

มู่เฉินยิ้ม แม้ว่าตอนนี้กายาเทพสายฟ้าที่เขาฝึกจะไม่ใช่วิชาชำระกายที่ทรงพลังมากที่สุด แต่มันมีทักษะบางอย่างที่วิชาอื่นไม่มี กายาเทพสายฟ้าสามารถชำระกายได้ทั่วทั้งในนอก ไม่เพียงมอบร่างกายที่ทรงพลังอย่างเหลือเชื่อให้แก่ผู้ฝึกแล้ว แต่ยังทำให้ผู้ฝึกฝนมีโครงร่างที่ดี ด้วยวิธีนี้เมื่อพวกเขาฝึกฝนทักษะการชำระกายอื่นๆ ในอนาคต ประสิทธิภาพก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก

“แม้ตอนนี้เจ้าจะสร้างกายามังกรหงส์ได้แล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถใช้พลังออกมาเต็มที่ได้ด้วยวิธีธรรมดาทั่วไปหรอก” ไฉ่เซียวครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะบอกออกมา

“โอ้?” มู่เฉินอึ้งไป

“ยังไงเจ้าก็เป็นมนุษย์ไม่รู้ถึงศักยภาพที่อยู่ในกายามังกรหงส์ หากเจ้าต้องการฝึกฝนให้เต็มศักยภาพ เจ้าจะต้องใช้วิธีฝึกฝนของมังกรแท้จริงและหงส์ฟ้าแท้จริง” ไฉ่เซียวเอ่ย

“วิธีฝึกฝนของมังกรแท้จริงและหงส์ฟ้าแท้จริง?” มู่เฉินย่นคิ้ว มังกรแท้จริงและหงส์ฟ้าแท้จริงเป็นสิ่งมีชีวิตสุดยอดในเผ่าของตน วิธีฝึกฝนของพวกเขาอยู่ในระดับสูงสุดแม้แต่ในเผ่าเอง คิดว่าคงไม่ค่อยมีจอมยุทธ์และขั้วอำนาจไหนในมหาพันภพกล้าบุกไปเผ่าทรงพลังทั้งสองเพื่อแย่งชิงทักษะะวิชาของพวกเขาหรอก

“ทำไมต้องไปแย่งล่ะ ในสระมังกรหงส์ก็มีอยู่แล้วไม่ใช่หรือ?” ไฉ่เซียวกลอกตาใส่มู่เฉิน

พอได้ยินคำพูดของนาง มู่เฉินก็เข้าใจทันที “เจ้ากำลังพูดถึงมรดกที่มังกรและหงส์ฟ้าทิ้งไว้ใช่ไหม?”

เมื่อพูดถึงจุดนี้เขาก็ยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ เขตหลงเฟิ่งเปิดมาหลายครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ไม่มีใครที่สามารถครองมรดกของมังกรและหงส์ฟ้าได้เลย ดังนั้นความยากจึงไม่ต้องพูดถึง

แม้เขาจะมีความมั่นใจ แต่ก็ไม่กล้ารับประกันว่าจะสามารถครอบครองมรดกเหล่านั้นได้ นอกจากนี้ยังมีจอมยุทธ์มากพรสวรรค์โดดเด่นมากมายรวมกันอยู่ในเขตหลงเฟิ่ง ทุกคนต่างหมายตามรดกที่มังกรกับหงส์ฟ้าทิ้งไว้ รวมถึงจอมยุทธ์ชั้นยอดอย่างฟังยี่ โยวหมิง ซูปี้เยี่ยและอื่นๆ… สองคนแรกแข็งแกร่งจนน่ากลัวสามารถต่อกรได้กระทั่งกับไฉ่เซียว ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะยืนหยัดอยู่ท่ามกลางพวกเขา

“อะไร กลัวแล้วเหรอ?” ไฉ่เซียวกระตุกยิ้ม

“ก็ไม่ถึงกับกลัวหรอก แค่รู้สึกว่ายากหน่อยนะ” มู่เฉินยิ้ม จากนั้นก็มองไกลออกไป ไฟในการต่อสู้ลุกโชนในม่านตาสีดำของเขา

“แต่…ข้าก็อยากลองว่าจอมยุทธ์รุ่นใหม่ของภูมิภาคทางเหนือจะทรงพลังกันมากขนาดไหน”

ไฉ่เซียวมองชายหนุ่มตรงหน้า จากสายตานางเห็นความทะเยอทะยาน ช่างเป็นความทะเยอทะยานทรงพลังที่จะก้าวไปสู่จุดสูงในวิถีแห่งยุทธ์ นอกจากนี้ความทะเยอทะยานนั่นก็เหมือนจะมีเหตุผลที่ไม่อาจโยกคลอนได้

มากจนนางอดไม่ได้ที่จะเชื่ออยู่นิดๆ บางทีในอนาคตอันยาวไกล ชายหนุ่มตรงหน้าคนนี้อาจจะเป็นหนึ่งในใต้หล้าก็เป็นได้

“ไปกันเถอะ เดี๋ยวจะได้รู้ว่าโม้หรือเปล่าตอนเข้าสู่จัตุรัสมังกรหงส์”

นี่ทำให้ไฉ่เซียวเสียสติไปครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มออกมา นางไม่พูดอะไรเพียงแค่พึมพำในใจ ‘ช่างเป็นคนที่น่าสนใจจริงๆ’

ในเมื่อเพลิดเพลินกับผลเทพมังกรหงส์และสระมังกรหงส์ไปแล้ว ดังนั้นทั้งสองจึงไม่มีเหตุผลที่จะอยู่ที่นี่ต่อ หลังเก็บเล็กๆ น้อยๆ ต่อเรียบร้อย พวกเขาก็จากสถานที่นี้ไป

นับเวลาพวกเขาก็เข้ามาในเขตหลงเฟิ่งกว่าหนึ่งวันแล้ว ทว่าในมิตินี้ไม่ได้แบ่งกลางวันและกลางคืน ดังนั้นเวลาจึงผ่านไปอย่างไม่รู้ตัว

เวลาที่ผ่านไปไม่ได้สั้นๆ จากการคาดเดาของมู่เฉิน สระมังกรหงส์ทั้งห้าคงถูกแบ่งออกแล้วในตอนนี้ เพียงแต่เขาไม่รู้ว่าใครกันที่ได้ครองอีกสี่สระมังกรหงส์

แต่ตอนนี้สระมังกรหงส์เปิดหมดแล้ว อัจฉริยะจำนวนมากจะต้องมุ่งหน้าไปสู่จัตุรัสมังกรหงส์สถานที่สำคัญที่สุด… ล่ำลือกันว่าที่นั่นมีมรดกของมังกรและหงส์ฟ้าอยู่

ซึ่งเป้าหมายของพวกเขาก็อยู่ที่นั่นเช่นกัน

ทั้งคู่จึงเดินทางไม่ได้หยุดพัก หลังจากกำหนดทิศทางได้แล้ว พวกเขาก็เร่งความเร็วจนถึงขีดสุด ออกจากดินแดนรกร้างนี้ไปโดยใช้เวลาสี่ถึงหกชั่วโมงเท่านั้น

ระหว่างทางมู่เฉินพบกับจอมยุทธ์จำนวนมากที่รวมกลุ่มกัน ทว่าคนเหล่านั้นไม่ได้มุ่งหน้าไปยังสระมังกรหงส์ พวกเขารวมตัวกันเพื่อดักปล้นคนที่เดินทางตามลำพัง

มีจอมยุทธ์จำนวนน้อยมากที่ได้ครองสระมังกรหงส์ แต่ในมิตินี้กลับมีสมบัติธรรมชาติอยู่มาก นี่จึงเป็นเป้าหมายของคนพวกนี้

แต่เมื่อพวกเขาวางความละโมบมาที่มู่เฉินกับไฉ่เซียว ดาวโชคร้ายก็มาเยือนทันที มู่เฉินล้วงข้อมูลมากมายที่เกิดในเขตหลงเฟิ่งที่เกิดตลอดวันที่ผ่านมาจากกลุ่มคนโชคร้ายนี้

ซึ่งข่าวเหล่านี้สร้างความตกใจให้กับมู่เฉินอย่างมาก

เพราะในมิติครั้งนี้ บวกรวมสระมังกรหงส์ที่เขาได้ครอบครองไปในตอนแรกแล้ว ทั้งหมดก็มีสระมังกรหงส์รวมเป็นแปดสระ!

จากข้อมูลเบื้องต้นบอกว่าพบเจอเพียงห้าสระ นั่นก็หมายความว่ามีคนโชคดีพบสระมังกรหงส์ที่ซ่อนตัวอยู่อีกสามสระ!

นอกจากนี้ผู้ครอบครองสระมังกรหงส์ทั้งแปดก็ทำให้มู่เฉินตกใจเล็กน้อย ในทั้งแปดสระมีเขาได้ครองหนึ่งในนั้น ซูปี้เยี่ยแห่งยอดเขาหมื่นเทพ หงหยูแห่งแดนปีศาจและติงเซวียนแห่งตระกูลจู้หลิงต่างได้ครองสระมังกรหงส์ไปหนึ่งสระ

สิ่งที่ทำให้มู่เฉินตกใจมากที่สุดก็คือผู้ครองสระมังกรหงส์อีกสี่สระก็คือโยวหมิงได้ครองถึงสองสระ ฟังยี่ที่แย่งผลเทพมังกรหงส์ไปจากมือของพวกเขาได้ไปสระหนึ่ง ส่วนสระสุดท้ายคือหลิ่วเหยียนที่ได้ไป…

“เจ้าพวกนี้น่าสะพรึงจริงๆ ดูเหมือนพวกเขาทั้งหกคนสร้างกายามังกรพรางหรือกายาหงส์ฟ้าพรางกันได้แล้ว แค่ไม่รู้ว่าพวกเขาสร้างได้กี่ลวดลาย”

เมื่อได้รับข่าวมู่เฉินก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ จอมยุทธ์ที่สามารถเข้าร่วมศึกมังกรหงส์ได้ก็เป็นสุดยอดของสุดยอดกันทั้งนั้น

“ในหมู่พวกเขา ฟังยี่กับโยวหมิงคงเป็นคนที่ต่อกรด้วยยากที่สุด” ไฉ่เซียวเอ่ย

มู่เฉินพยักหน้า แม้ว่าฟังยี่จะได้ครอบครองสระมังกรหงส์ไปเพียงหนึ่ง แต่เขามีผลเทพมังกรหงส์อยู่ ถึงมันจะยังไม่สุกจัด แต่ถ้าชำระสำเร็จละก็ พลังแก่นเลือดมังกรหงส์ภายในก็เหนือกว่าสระมังกรหงส์ทั่วไปมาก ส่วนโยวหมิงได้สระมังกรหงส์ไปสองสระ ดังนั้นกายามังกรพรางหรือกายาหงส์ฟ้าพรางก็ไม่อ่อนแอแน่นอน

“ท่าทางจัตุรัสมังกรหงส์จะคึกคักน่าดูแล้ว”

ไฉ่เซียวยิ้มด้วยความสนใจ “ในเขตหลงเฟิ่งมีสมบัติมากมายที่บรรจุด้วยเลือดมังกรแท้จริงและหงส์ฟ้าแท้จริง ดังนั้นจะต้องมีบางคนโชคดีได้รับไป แล้วสร้างกายามังกรพรางหรือกายาหงส์ฟ้าพรางได้ คนพวกนี้ก็ต่างมีคุณสมบัติเข้าสู่จัตุรัสมังกรหงส์เช่นกัน”

มู่เฉินพยักหน้า จากนั้นก็สูดหายใจลึก มองออกไปไกล ในความเวิ้งว้างที่สายตาเขามองไปไม่ถึง เขาเหมือนจะเห็นลานประลองโบราณกว้างใหญ่ไพศาล

ในศึกมังกรหงส์ครั้งนี้ จอมยุทธ์ทั้งหมดจะไปรวมตัวกันที่นั่นเพื่อแข่งขันชิงความเป็นที่สุด

สนามรบระดับนั้นทำให้เลือดในกายเดือดพล่านด้วยไฟแห่งการต่อสู้

แต่ไม่ว่าอย่างไร สุดท้ายกายามังกรพรางหรือกายาหงส์ฟ้าพรางก็จะต้องดับแสงภายใต้กายามังกรหงส์