หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler - ตอนที่ 848 คัมภีร์เทพโจวเทียน
หนึ่งในใต้หล้า 大主宰
บทที่ 848 คัมภีร์เทพโจวเทียน
เหนือเส้นขอบฟ้าหมู่เมฆดำทะมึนพวยพุ่ง
ร่างสองร่างยืนอยู่บนท้องฟ้า สายตาคมกริบของพวกเขาฟาดฟันกันไม่ยั้งพร้อมกับประกายไฟบินว่อน มีไอสังหารเย็นยะเยือกแผ่ซ่านออกมาเลือนราง
นี่คือศึกมังกรปะทะพยัคฆ์ที่แท้จริง!
สายตาอัศจรรย์ใจจำนวนมากพุ่งไปที่มู่เฉินที่ยืนอยู่บนเสาปีศาจ พลังกำปั้นก่อนหน้าของเขายังติดอยู่ในหัวสมองผู้คน หลายคนมีสีหน้าเคร่งเครียดลงหลายส่วน เนื่องจากพวกเขาเข้าใจว่าพลังน่าสะพรึงที่อยู่เบื้องหลังหมัดเป็นพลังที่แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นห้าก็ไม่สามารถเผชิญหน้าได้
มู่เฉินมีความสามารถบางอย่างจริงที่กล้ารับคำท้าประลองจากฟังยี่ ยอดม้ามืดคนนี้สมกับชื่อเสียงที่ได้รับ ตอนนี้ผลของดวลคงยังยากที่จะคาดเดา
ภายใต้สายตามากมาย ใบหน้าของฟังยี่ยังคงสงบนิ่ง เขากวาดตามองไปที่มู่เฉิน หมัดเมื่อครู่ของมู่เฉินทำให้เขารู้สึกถึงระลอกคลื่นคุ้นเคยบางเบา ซึ่งน่าจะเป็นพลังของกายามังกรหงส์ที่มู่เฉินได้รับมาจากเขตหลงเฟิ่ง
กายามังกรหงส์ในตำนานมีความลึกซึ้งอย่างแท้จริง สามารถทำให้จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นสี่มีความแข็งแกร่งที่น่าทึ่งเช่นนี้
แต่ถ้ามู่เฉินคิดว่าสามารถเผชิญหน้ากับตนตัวต่อตัวได้ด้วยสิ่งนี้ คงต้องบอกว่ามู่เฉินไร้เดียงสาเกินไปแล้ว
ประกายแสงวาบในดวงตาของฟังยี่ จากนั้นเขาก็กระทืบเท้าลงไป เสียงแสบแก้วหูระเบิดออกมาจากใต้ฝ่าเท้า คลื่นเสียงที่มองเห็นได้กระเพื่อมออกมา
ตู้ม!
เมื่อฟังยี่กระทืบเท้า ทุกคนก็เห็นคลื่นหลิงน่าสะพรึงกวาดออกมาจากมิติด้านหลัง ดูราวกับคลื่นหมื่นชั้นและความปั่นป่วนที่เกิดขึ้นทำให้มิติบริเวณนี้สั่นสะเทือนเลื่อนลั่น
ฟังยี่ยืนอยู่ใต้ระลอกคลื่นมหาศาล แม้จะดูบอบบาง แต่เขาก็ราวกับจอมมารที่อยู่เหนือผู้คนในดินแดนนี้ แรงกดดันจากคลื่นหลิงไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อจอมยุทธ์ธรรมดาเท่านั้น แม้แต่จิ่วโยว เสี่ยยิงและสูป้าดวงตายังต้องหดเกร็ง
มู่เฉินรู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่กระจายไปทั่วเช่นกัน หัวใจก็สั่นไหว ฟังยี่ตอนนี้แข็งแกร่งกว่าที่อยู่ในเขตหลงเฟิ่งอย่างชัดเจน ตามการคาดการณ์ของมู่เฉิน ก่อนหน้าฟังยี่น่าจะเพิ่งมีขุมพลังจื้อจุนขั้นห้า ทว่าตอนนี้คงมาถึงระยะปลายสุดแล้ว
ช่วงเวลาที่ผ่านมาพลังของฟังยี่พัฒนาอย่างมีนัย
“แกเป็นคนน่าเกรงขามจริงๆ ที่สามารถสู้กับจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นห้าได้ด้วยพลังของขั้นสี่ แต่…ยังไม่มีไอ้หน้าไหนในขั้นห้าสามารถต่อกรกับข้าคนนี้ได้!” ประกายแสงวาวโรจน์จากนัยน์ตาของฟังยี่ขณะที่จ้องเขม็งไปที่มู่เฉิน ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความมั่นใจในตัวเองสุดๆ มู่เฉินประสบความสำเร็จที่ทำให้ตัวเขาภาคภูมิใจ ฟังยี่ก็ไม่ต่างกัน เพราะหลังจากที่เขาบรรลุขุมพลังจื้อจุนขั้นห้าก็ไม่มีจอมยุทธ์หน้าไหนในระดับเดียวกันสู้เขาได้
ครืน!
คลื่นที่อยู่เบื้องหลังฟังยี่คำรามรวมตัวกันอย่างหนาแน่น ทำให้เขาดูราวกับเทพผู้ยิ่งใหญ่ที่เปี่ยมไปด้วยแรงกดดัน
ตึง!
ทันใดนั้นเขาก็ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ฝ่ามือวาดตราประทับวูบไหว จากนั้นมือขวาก็กดลงบนท้องฟ้า อักขระโบราณแผ่ออกอย่างรวดเร็วที่ใต้ฝ่ามือ
ที่เบื้องหลังคลื่นระเบิดออกพร้อมกับลำแสงนับไม่ถ้วนรวมตัวกันอย่างรวดเร็วใต้ฝ่ามือ ราวกับสายฟ้าฟาดก็มิปาน
แรงกดดันที่ไม่สามารถอธิบายได้กระจายไปทั่วพื้นที่
เหล่าจอมยุทธ์มีสายตาเคร่งเครียดรุนแรง กระทั่งจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นห้าก็ยังมีทีท่าตกตะลึง นั่นเพราะภายใต้กระบวนท่าของฟังยี่ แม้แต่พวกเขายังรู้สึกถึงอันตรายถึงชีวิต
เห็นได้ชัดว่านี่เป็นท่าไม้ตายของฟังยี่ เขาเตรียมจะยุติการดวลนี้อย่างรวดเร็ว เขาต้องการจะประกาศให้ทุกคนรู้ว่า ต่อหน้าเขาที่เป็นเจ้าบันทึกมังกรหงส์ พวกม้ามืดก็แค่ตัวตลกคั่นเวลาเท่านั้น
ราคาที่ต้องจ่ายสำหรับผู้ท้าทายก็คือสลายกลายเป็นเถ้าถ่าน!
สีหน้าของมู่เฉินเคร่งขรึมลงขีดสุด เนื่องจากเขารู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่มาจากฟังยี่ คู่ต่อสู้คนนี้ทรงพลังจนน่าตกใจจริงๆ
ฮา
มู่เฉินสูดหายใจลึกสุดปอด จากนั้นม่านตาก็เปลี่ยนเป็นดำสนิทอย่างรวดเร็ว เส้นผมเริ่มงอกยาวขึ้น
ผมยาวดำและม่านตาสีดำบนใบหน้ามู่เฉินที่ดูมีชีวิตชีวาในตอนแรกก็สงบลง ไม่มีแรงกระเพื่อมสักริ้ว ราวกับว่าเขาไม่ได้รับผลกระทบแม้ว่าท้องฟ้าจะถล่มลงมาก็ตาม
คัมภีร์หวูซังซินหมัว สภาวะฤทัยปีศาจขั้นต้น!
แม้แต่สิงโตยังต้องทุ่มพลังทั้งหมดเพื่อล่ากระต่าย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าฟังยี่ไม่ใช่กระต่าย แต่เป็นพยัคฆ์ที่ทรงพลัง ดังนั้นมู่เฉินจะต้องงัดไพ่ตายทั้งหมดที่มี
ครืน!
คลื่นหลิงพวยพุ่ง ขณะที่คลื่นหลิงกับมิติเสียดทานกันก็ทำให้เกิดเสียงดังลั่น สายตาของฟังยี่เย็นชาลงในตอนนี้ สายตาจับจ้องมู่เฉินจากเบื้องบน อึดใจต่อมาฝ่ามือที่ปกคลุมด้วยอักขระโบราณก็กดลงอย่างช้าๆ พร้อมกับเสียงไม่แยแสดังกึกก้อง
“คัมภีร์เทพโจวเทียน ตราประทับเคลื่อนฟ้า!”
ตึง!
อักขระโบราณซับซ้อนนับไม่ถ้วนรวมตัวกันเป็นแผนภาพดวงดาว ขณะที่แรงกดดันของคลื่นหลิงไร้ขอบเขตล้อมรอบพื้นที่เบื้องล่างไปทุกทิศทาง ก่อนที่จะก่อตัวเป็นตราประทับที่สลักด้วยภาพดวงดาวแล้วกดลงไป
เส้นทางที่ตราประทับเคลื่อนผ่าน รอยแตกก็ปรากฏขึ้นบนมิติ แรงกดดันนั้นทำให้สีหน้าจอมยุทธ์มากมายเปลี่ยนไปรุนแรง
“นี่เป็นหนึ่งในคัมภีร์เทพชั้นสูงของหมู่ตึกเทวะ กระบวนท่าเสินซู่ขั้นเกือบเต็ม ฟังยี่น่าสะพรึงแท้จริงที่สามารถฝึกฝนได้!”
“กระบวนท่านี้สามารถเอาชนะจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นห้าได้ทุกคน ฟังยี่คู่ควรกับชื่อเสียงจริงๆ!”
“สมกับเป็นหมู่ตึกเทวะ กระบวนท่าเสินซู่ระดับนี้ คนทั่วไปไม่แม้แต่จะเห็นด้วยซ้ำ มีเพียงพวกจอมยุทธ์ชั้นสูงของหมู่ตึกเทวะเท่านั้นที่จะฝึกฝนได้”
“…”
เสียงกระซิบมากมายกระจายออกไปเนื่องจากการโจมตีนั้น ทำเอาเหล่าจอมยุทธ์ถึงกับต้องทอดถอนหายใจเลยทีเดียว เห็นได้ชัดว่าพวกเขาทั้งอิจฉาและตกตะลึงในใจกับกระบวนท่าเสินซู่ขั้นเกือบเต็มของฟังยี่
“กระบวนท่าเสินซู่ขั้นเกือบเต็มเรอะ?”
มู่เฉินเงยหน้าขึ้นมองตราประทับที่เคลื่อนลงมาด้วยสายตาลึกล้ำ เนื่องจากเขาอยู่ในสภาวะฤทัยปีศาจจึงไม่มีริ้วคลื่นใดบนใบหน้า แม้จะเผชิญหน้ากับการโจมตีที่น่าสะพรึงกลัว
“ฮึ่ม!”
ฝ่ามือของมู่เฉินวาดตราประทับเร็วรี่ มิติก็บิดเบี้ยวที่เบื้องหลัง สามารถมองเห็นทะเลพลังจื้อจุนได้อย่างคลุมเครือ ขณะที่คลื่นหลิงพลิกคว่ำพลิกหงาย ลำแสงขนาดมหึมาสี่สายก็พุ่งออกมา
โฮก!
เมื่อเสียงคำรามของมังกรและคชสารดังขึ้น สัตว์อสูรอย่างละสองตัวก็เผยตัวออกมาอย่างรวดเร็วเหนือร่างมู่เฉิน มิติถึงกับผันผวนขณะที่พวกมันยืนตระหง่านบนท้องฟ้า
ทุกคนสามารถรับรู้ถึงแรงกดดันของมังกรและคชสารทั้งสี่ได้ ทว่าหากมู่เฉินต้องการใช้กระบวนท่านี้เพื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีที่น่าสะพรึงของฟังยี่ คงยังไม่พอมากเลยทีเดียว
“ในเมื่อมังกรและคชสารอย่างละสองตัวไม่พอ…งั้นก็เพิ่มอีกละกัน”
มู่เฉินพึมพำกับตัวเอง เขาฝึกฝนวิชาเก้ามังกรคชสารมาเกือบหนึ่งปีแล้ว แม้ยังไม่ได้เรียกว่าสมบูรณ์แบบ แต่ก็เริ่มบรรลุระดับที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับในตอนแรก
นอกจากนี้ด้วยขุมพลังของมู่เฉินในปัจจุบัน ชัดว่ามังกรคชสารอย่างละสองตัวยังไม่ใช่ขีดสุดของเขา
ม่านตาลึกซึ้งของมู่เฉินกระเพื่อมไหวเล็กน้อย ภายใต้สายตานับไม่ถ้วน เขาก็เปลี่ยนแปลงตราประทับอีกครั้ง เสียงร้องแฝงของสัตว์อสูรทั้งสองชนิดก็ดังก้องมาจากจุดจื้อจุนไห่เบื้องหลังอีกครั้ง ทุกคนเห็นลำแสงสองสายโผทะยานออกมา
นี่คือมังกรและคชสารอีกอย่างละตัว!
บนท้องฟ้ามังกรและคชสารอย่างละสามตัวยืนตระหง่านพร้อมกับใบหน้าของเหล่าจอมยุทธ์เปลี่ยนจากความตกตะลึงเป็นความเคร่งเครียด ตอนนี้กระทั่งจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นห้ายังรู้สึกกดดันเล็กน้อย
แต่ขณะที่พวกเขาตกใจกับกระบวนท่าของมู่เฉิน ม่านตาก็ต้องหดแคบลง นั่นเพราะพวกเขาเห็นว่าหลังจากเรียกมังกรและคชสารออกมาอย่างละสามตัวแล้ว มู่เฉินก็ยังเปลี่ยนตราประทับอยู่!
ม่านตาเหล่าจอมยุทธ์หดเกร็งลงอย่างรวดเร็ว มู่เฉินเป็นจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นสี่เท่านั้น เขาบรรลุผลสำเร็จเช่นนี้ได้อย่างไร? นั่นเพราะพวกเขารู้สึกได้ว่าทักษะเทพที่มู่เฉินใช้ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าคัมภีร์เทพโจวเทียนของฟังยี่เลย!
ตู้ม!
ภายใต้สายตาตะลึงงันนับไม่ถ้วน ตราประทับในมือมู่เฉินก็หยุดลง ทะเลพลังจื้อจุนที่เบื้องหลังก็พลิกคว่ำอย่างรุนแรง สุดท้ายลำแสงสองสายก็ยิงออกมาท่ามกลางสายตาอัศจรรย์ใจ
มังกรและคชสารอย่างละสี่ตัว!
เมื่อสัตว์อสรูมหึมาทั้งแปดปรากฏขึ้น กระทั่งฟังยี่และเสี่ยยิงก็มีสีหน้าเปลี่ยนแปลงรุนแรง
สีหน้าของฟังยี่เคร่งเครียด พลางตบฝ่ามือลงไป เงาขนาดใหญ่ที่เกิดจากตราประทับก็ปกคลุมมู่เฉิน เขาไม่เชื่อว่าด้วยขุมพลังจื้อจุนขั้นห้าระยะปลายสุดของตน มู่เฉินจะสามารถต้านทานคัมภีร์เทพโจวเทียนที่เขาเค้นพลังทุกอณูใส่ไว้ได้!
“คัมภีร์เทพโจวเทียน ครอบครองเคลื่อนฟ้า!”
มือมู่เฉินประสานเข้าด้วยกันหนึ่งอยู่บนอีกหนึ่งอยู่ล่าง ราวกับว่ามีสุริยันจันทราอยู่ในฝ่ามือ เสียงลึกต่ำกึกก้องขึ้นในใจ
“วิชาเก้ามังกรคชสาร สี่มังกรคชสารเขย่าสวรรค์!”
สัตว์อสูรทั้งแปดคำรามสนั่นหวั่นไหว คลื่นเสียงที่มองเห็นด้วยตาเปล่ากระจายออกไป มิติสั่นสะเทือนรุนแรงไม่หยุด มังกรและคชสารทั้งหมดกลายเป็นลำแสงแปดสายพุ่งเข้าปะทะกัน ทันใดนั้นแสงหลิงก็พุ่งทะยานขณะที่ง้าวโบราณที่มีขนาดหนึ่งพันจั้งก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว
บนง้าวมีมังกรคชสารแปดตัวหมอบอยู่ ราวกับว่ามีพลังศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถเขย่าสวรรค์ได้เลยทีเดียว
“ง้าวเทพมังกรคชสาร!”
แสงพวยพุ่งในนัยน์ตาของมู่เฉิน จากนั้นเขาก็ยกมือขึ้น เสียงเขาแผดลั่นราวกับฟ้าคำรน!
ฮึ่ม!
ง้าวโบราณเปล่งเสียงอื้ออึงน่าทึ่ง วินาทีต่อมาก็เปลี่ยนเป็นเกลียวแสงฉีกผ่านมิติด้วยความเร็วที่ไม่สามารถอธิบายได้ ปรากฏขึ้นที่ใต้ตราประทับในพริบตา
จากนั้นก็กรีดแทงอย่างไม่ลังเล!
เหล่าจอมยุทธ์จ้องมองไปที่จุดปะทะ ง้าวมังกรคชสารและตราประทับเคลื่อนฟ้าปะทะกันจังใหญ่ ราวกับอุกกาบาตสองลูกที่ร่วงหล่น ชนกันอย่างดุเดือดเลือดพล่าน คลื่นทำลายล้างก็ผันผวนออกมา
ผู้คนจดจ้องอย่างสนใจในตรงจุดปะทะ พวกเขาอยากรู้ว่าใครกันจะได้เปรียบในการเผชิญหน้าระหว่างคัมภีร์เทพทั้งสองนี้?!
สุดยอดคัมภีร์เทพของหมู่ตึกเทวะหรือว่าคัมภีร์ลึกลับของมู่เฉินวิชาไหนที่จะทรงพลังกว่ากัน?