หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler - บทที่ 1021 ปกป้อง
หนึ่งในใต้หล้า 大主宰
บทที่ 1021 ปกป้อง
“ไสหัวไป!”
เมื่อเสียงคำรามแผดออกมาราวกับฟ้าผ่าดังกึกก้อง รอยยิ้มบนใบหน้าของไป๋ปิงก็แข็งค้างทีละนิดแล้วแทนที่ด้วยไอเย็นไม่รู้จบ
ความเย็นจัดที่น่ากลัวแผ่กระจายไปทั่วร่าง ทำให้ชั้นน้ำแข็งปรากฏขึ้นบนพื้นทันที
ไป๋ปิงมองมู่เฉินหัวจรดเท้าพูดช้าๆ ว่า “ตัดลิ้นแกออกมา แล้วข้าจะปล่อยแกจากไป”
มู่เฉินยิ้มเยาะเย้ยไม่ปิดบัง “คิดว่าตัวเองเป็นใคร?”
เขารับรู้ได้ถึงอันตรายที่มาจากไป๋ปิงและยังรู้ด้วยว่าอีกฝ่ายมาจากเผ่าหงส์ฟ้า ทว่าคนอย่างเขาก็ไม่กลัว เขามีคนจดบัญชีแค้นเอาไว้มากมาย ในเมื่อมีหนี้แค้นอยู่เยอะแล้วก็ไม่เห็นต้องกังวลอะไร
“แกคิดว่าสามารถปกป้องพวกมันได้รึ? รนหาที่ตาย!”
หางตาของไป๋ปิงกระตุกพร้อมกับริ้วเลือดไต่ขึ้นมาบนดวงตา ใบหน้าอ่อนโยนเริ่มบิดเบี้ยว ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี่เป็นครั้งแรกที่มีคนเมินใส่เขา
ยิ่งกว่านั้นพลังของอีกฝ่ายก็อยู่ในระดับจื้อจุนขั้นหกเท่านั้น!
ตู้ม!
เมื่อไป๋ปิงพูดจบ ไอเย็นยะเยือกก็ระเบิดขึ้นระหว่างฟ้าดิน อุณหภูมิลดฮวบลง ทันใดนั้นไป๋ปิงก็เปิดปาก ไอเย็นเยือกสีฟ้ากวาดออก ก่อร่างเป็นมังกรน้ำแข็งโหดเหี้ยมที่อัดแน่นด้วยความเย็น พุ่งเข้าหามู่เฉินอย่างรวดเร็ว
ภายใต้การโอบล้อมของความเย็นนี้ แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเจ็ดทั่วไปก็ถูกแช่แข็งเอาได้ ถ้าเป็นขั้นหกละก็อาจจะถูกแข็งจนกลายเป็นรูปปั้นหิมะเลยก็ได้
นอกจากนี้เผชิญหน้ากับการโจมตีของไป๋ปิง มู่เฉินก็ไม่คิดถอย แสงสีทองพวยพุ่งบนชั้นผิวหนังพร้อมกับความรู้สึกที่ไม่อาจทำลายได้ เขาชกหมัดออกไป เส้นเลือดเต้นระริกบนแขนกำจายพลังงานอันน่าอัศจรรย์
ตึง!
พลังงานสองสายปะทะกัน ร่างของมู่เฉินก็ไม่ได้ขยับเขยื้อน แต่เขารู้สึกได้ว่าทันทีที่มีการชนกันพิษไอเย็นก็ไหลเข้ามาในร่างกายของเขา พยายามที่จะหยุดคลื่นหลิงของเขาเอาไว้
ทว่าเผชิญหน้ากับไอเย็นนี้ มู่เฉินก็ไม่สนใจเพราะทันใดนั้นลวดลายมังกรแท้จริงและหงส์ฟ้าแท้จริงที่แขนทั้งสองข้างก็เคลื่อนไหว กลืนกินความเย็นนั้นจนหมด
ความเย็นในร่างกายสลายหายไปในทันที
มู่เฉินไม่ได้แสดงสีหน้าใด แสงสีทองระเบิดออก พลังกายพรั่งพรูออกมาอย่างสมบูรณ์ รอยแตกปรากฏบนมังกรน้ำแข็ง สุดท้ายก็ระเบิดออกกลายเป็นเกล็ดหิมะโปรยปรายบนท้องฟ้า
“เป็นไปได้ยังไง?!”
มังกรน้ำแข็งแตกสลาย ม่านตาของไป๋ปิงก็หดตัว ส่วนที่น่ากลัวของมังกรน้ำแข็งไม่ใช่พลังที่ครอบครองแต่เป็นความเย็นที่รุกรานร่างกาย ก่อนหน้าเขารู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงความเย็นที่พล่านเข้าสู่ร่างกายของมู่เฉิน แล้วเจ้านี่กระจายพลังออกมาอย่างสมบูรณ์ได้อีกอย่างไร?
หรือว่ามู่เฉินมีภูมิคุ้มกันต่อไอเย็น?
แค่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไป๋ปิงก็รู้สึกไร้สาระ เขามาจากเผ่าหงส์ฟ้าน้ำแข็งที่มีไอเย็นฝังอยู่ในร่างกายตั้งแต่กำเนิด จอมยุทธ์ระดับเดียวกันทุกคนจะหวาดกลัวต่อไอเย็นของเขา เป็นไปได้อย่างไรที่อีกฝ่ายจะมีภูมิคุ้มกัน
“ตึง!”
ทว่ามู่เฉินไม่ได้ให้เวลาไป๋ปิงคิดมาก เขากระทืบเท้ารอยแตกก็กระจายใต้พื้นดิน ร่างเขากลายเป็นแสงสีทองทะยานออกมาปรากฏตัวต่อหน้าไป๋ปิงอย่างลึกลับ ความเร็วนี้แม้แต่ไป๋ปิงยังผงะในใจ
เขายากที่จะจินตนาการว่ามู่เฉินที่มีขุมพลังจื้อจุนขั้นหกจะมีความเร็วที่น่ากลัวขนาดนี้ได้อย่างไร
แสงสีทองปรากฏที่เบื้องหน้า เหมือนจะมีแสงสีทองพุ่งออกมาจากดวงตาของมู่เฉิน จากนั้นเขาก็ตบฝ่ามือออกไป ฝ่ามือนี้ไม่เพียงแต่บรรจุพลังงานในร่างกายเอาไว้เท่านั้น แต่แม้แต่คลื่นหลิงก็ระเบิดเช่นกัน
ฝ่ามือเรียบง่ายซัดออก แต่กลับสร้างรอยร้าวสีดำที่ผู้คนรู้สึกหวาดกลัวในมิติ นั่นเป็นปรากฏการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อพลังรุนแรงจนถึงระดับที่น่าตะลึงใจ
จอมยุทธ์ไม่น้อยที่อยู่โดยรอบล้วนรับรู้เรื่องนี้ เมื่อพวกเขาเห็นฝ่ามือของมู่เฉิน ใบหน้าก็เปลี่ยนไปทันทีขณะที่รู้สึกไม่อยากเชื่อ ฝ่ามือนั้นเป็นอะไรที่แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเจ็ดธรรมดาก็ไม่สามารถทนได้
ขณะที่ฝ่ามือเคลื่อนเข้ามา ใบหน้าของไป๋ปิงก็เปลี่ยนไปรุนแรง สายตาเขาเคร่งเครียดลงหลายส่วน ไม่กล้าที่จะดูถูกอีกต่อไป เนื่องจากเขาเข้าใจดีแล้วว่าชายหนุ่มเบื้องหน้าที่มีขุมพลังจื้อจุนขั้นหกน่าสะพรึงเพียงใด
แต่ยามนี้ไม่มีเส้นทางให้ถอยหนีแล้ว ดังนั้นไป๋ปิงจึงไม่ได้เสียใจอะไรในใจเช่นกัน
แสงเย็นวูบวาบในดวงตาของไป๋ปิง ฝ่ามือวาดตราประทับเร็วรี่ ขณะเดียวกันหงส์ฟ้าน้ำแข็งขนาดใหญ่ก็ก่อตัวขึ้นข้างหลัง ปีกสยายออกกลายเป็นโล่น้ำแข็งปกป้องที่เบื้องหน้าไป๋ปิง
ตู้ม!
ฝ่ามือแสงสีทองไม่ได้ลดลง กระทบกับปีกของหงส์ฟ้าน้ำแข็งอย่างจัง ทันใดนั้นคลื่นกระแทกที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าก็กระจายออก พื้นดินที่ทนทานยังแตกร้าว
ปีกน้ำแข็งสั่นไหว แม้แต่ไป๋ปิงที่อยู่เบื้องหลังการป้องกันยังสามารถรับรู้ได้ถึงพลังน่าสะพรึงกลัว ถ้าเขารับการโจมตีนี้ เขาคงบาดเจ็บหนักแน่นอน
ทว่าถูกบีบบังคับให้เป็นแบบนี้โดยจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นหก ทำให้ใบหน้าไป๋ปิงมืดครึ้มผิดปกติ จิตสังหารพวยพุ่งขึ้นมาจากในส่วนลึกของดวงตา
วันนี้เขาจะต้องทำให้มันอับอาย!
เมื่อคิดได้ไป๋ปิงก็กัดฟัน จุดชนวนเลือดในกาย ทุกคนสัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่กวาดออกจากร่างของไป๋ปิงราวกับพายุ
นี่เป็นแรงกดดันที่มาจากสายเลือด
ไป๋ปิงมาจากเผ่าหงส์ฟ้าน้ำแข็ง ซึ่งมีสายเลือดสูงส่ง สามารถปราบปรามเทพอสูรสามัญได้ มิหนำซ้ำตอนนี้เขายังจุดชนวนสายเลือด ทำให้แรงกดดันนี้เร้าขึ้นมาถึงขีดสุด
ภายใต้แรงกดดันในระยะใกล้ เทพอสูรสามัญคงต้องกราบกรานที่เบื้องหน้าไป๋ปิงเลยทีเดียว
ทุกคนโดยรอบถอยกันออกไปจ้าละหวั่น พวกเขารู้แล้วว่าไป๋ปิงตั้งใจที่จะบีบให้มู่เฉินคุกเข่าลงด้วยแรงกดดันเพื่อสร้างความอับอายให้ ดังนั้นพวกเขาจึงรีบหลบออกจากรัศมีด้วยกลัวว่าจะโดนลูกหลงจนอับอายขายขี้ไปด้วย
ไม่ไกลนักฉื้อหงหวู่ไม่ได้ขยับเขยื้อน แต่เมื่อนางเห็นกระบวนท่าของไป๋ปิง คิ้วก็มุ่นกันแน่น ถึงตัวนางจะหยิ่งทะนงและชื่นชอบในการต่อสู้ แต่นางชอบการชนะแบบตรงไปตรงมา นางดูถูกคนอย่างไป๋ปิงที่พึ่งพาสายเลือดของตนเพื่อสร้างความได้เปรียบ
“ดูเหมือนว่าชายคนนั้นจะซวยเอาแล้ว”
ฉื้อหงหวู่พูดขึ้นในใจ แม้ว่าพลังกายของมู่เฉินจะทรงศักยภาพ แต่ไป๋ปิงก็ฉลาดไม่ธรรมดา เขาเลือกที่จะปราบปรามคู่ต่อสู้ผ่านสายเลือด ด้วยวิธีนี้แม้แต่จอมยุทธ์ที่มีพลังกายที่แข็งแกร่งก็ไม่สามารถต้านทานความอ่อนแอในสายเลือดได้
ภายใต้สายตาจ้องเขม็งของผู้คน มู่เฉินก็รู้สึกถึงแรงกดดันที่ปกคลุมเข้ามา แต่สิ่งที่แปลกก็คือทุกคนไม่เห็นความกลัวบนใบหน้าของมู่เฉินสักริ้ว ตรงกันข้ามพวกเขากลับเห็นแววครึ่งบึ้งครึ่งยิ้มเย้ยหยัน
“ปราบปรามสายเลือดเรอะ…”
มู่เฉินพึมพำ จากนั้นเขาก็กำหมัดลวดลายหงส์ฟ้าแท้จริงบนแขน ไม่สิ…หลังจากมู่เฉินบรรลุขั้นสองของคัมภีร์หลงเฟิ่ง เทพอสูรทั้งสองในร่างกายเขาก็มีจิตวิญญาณ ดังนั้นพวกมันจึงควรถูกเรียกว่าจิตวิญญาณมังกรแท้จริงและหงส์ฟ้าแท้จริง
ในเมื่อเจ้าคิดจะใช้การปราบปรามสายเลือด งั้นข้าก็จะแสดงให้เห็นว่าการปราบปรามแท้จริงคืออะไร!
จิตวิญญาณหงส์ฟ้าระเบิดแสงสีม่วงทองเข้มข้น ดวงตาที่ปิดสนิทก็เปิดโพลง ทันใดนั้นดูเหมือนจะเกิดแรงกดดันเกินบรรยายปะทุออก
ความกดดันหงส์ฟ้าแท้จริงปรากฏขึ้นเพียงชั่วครู่ แต่ไม่ได้กระจายออก กลับเล็งเป้าไปที่ไป๋ปิงคนเดียว ดังนั้นคนอื่นจึงไม่สามารถรู้สึกได้
ทันใดนั้นหงส์ฟ้าน้ำแข็งที่อยู่ด้านหลังไป๋ปิงก็งุ้มตัวลงราวกับได้เห็นจักรพรรดิ หงส์ฟ้าน้ำแข็งเปล่งเสียงร้องออกมาอย่างหวาดกลัว รัศมีเย็นยะเยือกหดกลับโดยที่ร่างกายสั่นสะท้าน
ในเวลาเดียวกันใบหน้าของไป๋ปิงก็ซีดเผือด สายตาอัดแน่นด้วยความไม่อยากเชื่อ นั่นเป็นเพราะแรงกดดันที่ระเบิดกะทันหันจากร่างมู่เฉิน ทำให้แม้แต่สายเลือดของเขายังเขย่าอย่างบ้าคลั่ง
ปัง!
ความกลัวเพิ่มขึ้นในหัวใจของไป๋ปิง ขาของเขาเริ่มงอลงอย่างควบคุมไม่ได้ แต่ขณะที่กำลังจะคุกเข่าลง ไป๋ปิงก็ตื่นจากภวังค์ เขารีบดึงตัวเองขึ้นมา ทว่าเข่าข้างหนึ่งก็ยังแตะลงกับพื้น
ผู้คนโดยรอบที่รอฉากมู่เฉินอยู่ในสภาพน่าสมเพชโดยแรงกดดันของสายเลือดหงส์ฟ้าน้ำแข็งก็อ้าปากตาค้างไปหมดกับภาพไป๋ปิงคุกเข่าเข่าข้างหนึ่งลงกับพื้น
ฉื้อหงหวู่ก็เบิกตากว้างในเวลานี้ ความไม่เชื่อฉาบบนใบหน้างดงาม
“ปัง!”
มู่เฉินไม่มีริ้วอารมณ์ใดบนใบหน้า ฝ่ามือที่แตะบนปีกของหงส์ฟ้าน้ำแข็งก็กระตุกด้วยกลิ่นอายของหงส์ฟ้าแท้จริง ทำลายปีกที่ดูแข็งแกร่งของหงส์ฟ้าน้ำแข็งทันที
ไป๋ปิงกระเด็นออกไปอย่างน่าสมเพช สร้างรอยลึกบนพื้นหลายร้อยจั้งก่อนที่จะทรงตัวได้
อ็อก!
เมื่อรักษาร่างกายมั่นคงแล้ว ไป๋ปิงก็กระอักเลือดออกจากปาก คลื่นหลิงทรงพลังรอบตัวหม่นหมองลง เห็นได้ชัดว่าเขาได้รับบาดเจ็บพอตัว
ทว่าเขาก็ยังไม่ฟื้นตัวจากความพ่ายแพ้ เขาบื้อใบ้จ้องมองร่างเงาที่เบื้องหน้าด้วยสีหน้าซีดเซียว
บรรยากาศโดยรอบเงียบกริบ ผู้คนจ้องมองมู่เฉินอย่างตะลึงงัน ตอนนี้ชายหนุ่มได้ดึงแสงสีทองรอบตัวกลับแล้ว ซึ่งทำให้ดูธรรมดามาก
แต่หลังจากได้เห็นการแลกกระบวนท่าแล้ว พวกเขาก็เข้าใจแจ่มแจ้งว่าในร่างชายหนุ่มมีพลังอันน่าสะพรึงกลัวเพียงใด
ชายคนนี้มาจากไหนกัน…
ไป๋ปิงเป็นจอมยุทธ์ของเผ่าหงส์ฟ้าน้ำแข็งนะ!
แต่ตอนนี้ไป๋ปิงกลับอยู่ในสถานะที่น่าสมเพช เขาเป็นยอดอัจฉริยะจากเผ่าไหนกัน?!
ภายใต้สายตาที่จ้องมองนับไม่ถ้วน สายตาที่สงบลงของมู่เฉินก็มองไปที่ไป๋ปิงอีกครั้ง เสียงสงบที่ดังก้องอัดแน่นด้วยความเผด็จการ แต่ก็ไม่มีใครกล้าหักลง
“สองคนนี้ ข้ามู่เฉินปกป้องแน่!”