หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler - บทที่ 1059 สังเวยโลหิตหงส์ฟ้า
หนึ่งในใต้หล้า 大主宰
บทที่ 1059 สังเวยโลหิตหงส์ฟ้า
เมื่อแสงสีดำและหงส์ฟ้าน้ำแข็งปะทะกัน
ฟ้าดินก็มืดมนลง ราวกับว่าสวรรค์และโลกกำลังหวาดกลัวกับผลกระทบที่น่ากลัว
ผลกระทบนี้ไม่ได้สร้างเสียงขนาดใหญ่เมื่อระเบิดออก แต่เป็นความเงียบที่ทำให้หัวใจสั่นสะท้าน แต่ความเงียบก็คงอยู่ไม่นาน ก่อนที่ทุกคนจะเห็นคลื่นกระแทกเย็นยะเยือกระเบิดออกมา
แคร็ก!
ท้องฟ้าถูกแช่แข็งทันทีที่กระแสเย็นเยือกเคลื่อนผ่านจนกลายเป็นโลกน้ำแข็ง แต่น้ำแข็งนั่นไม่ได้เป็นสีฟ้าเหมือนแต่ก่อน กลับเป็นสีดำมืด บรรจุด้วยพลังงานที่น่ากลัวสองสาย
กระแสน้ำแข็งป่าเถื่อนพัดผ่าน แท่นบูชาขนาดใหญ่ก็ถูกปกคลุมด้วยชั้นน้ำแข็ง บนแท่นบูชาทั้งหมดมีเพียงลานประลองสองแห่งที่ปลดปล่อยคลื่นหลิงที่สร้างหายนะต่อต้านการครอบงำของกระแสไอเย็นได้
เมื่อรับรู้ถึงความผันผวนแปลกประหลาด คู่ประลองที่เหลือที่กำลังโรมรันพันตูก็ชะลอตัวลง ทั้งหมดเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจ มองไปยังต้นกำเนิดของคลื่นกระแทกที่น่ากลัว
“มู่เฉินสามารถยืนหยัดกับการเผชิญหน้ากับไป๋หมิงได้เรอะ?” เมื่อพวกเขาทั้งสี่เห็นฉากนี้ จิตใจก็สั่นไหว จากนั้นใบหน้าก็ค่อยๆ เปลี่ยนไปเป็นเคร่งเครียดลง เมื่อก่อนบางทีพวกเขาไม่ได้มองว่ามู่เฉินเป็นคู่ต่อสู้ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้มองในแง่ดีเกี่ยวกับผลลัพธ์ของเขาเมื่อเผชิญหน้ากับไป๋หมิง แต่ตอนนี้พวกเขารู้แล้วว่ามองพลาดไป
ดวงตาของข่งหลิงกะพริบเบาๆ ก่อนที่จะส่ายหัว มู่เฉินอยู่เหนือความคาดหมายก็จริง แต่โชคดีที่พวกนางไม่เคยขัดแข้งขัดขากันมาก่อน ไม่เช่นนั้นคงจะลำบากที่มีศัตรูเช่นนี้
“เฮ้ ดูเหมือนความช่วยเหลือจากข้าเป็นหมันซะแล้ว เจ้านั่นรักษาชีวิตเอาไว้เองได้” ลู่โหวเผ่าวานรทะลุฟ้ายิ้มเยาะตนเอง เมื่อครู่เขายังบอกด้วยว่าถ้ามู่เฉินแพ้ เขาจะช่วยปกป้องชีวิตให้ แต่เมื่อดูจากสถานการณ์ปัจจุบันชัดว่ามู่เฉินไม่ต้องการความช่วยเหลืออะไรเลย
จงชิงเฟิงเผ่าคุนเผิงจ้องมองที่มู่เฉินอย่างลึกล้ำเช่นกัน อันที่จริงเขาเคยได้ยินชื่ออีกฝ่ายมานานแล้ว จงเถิงและมู่เฉินเหมือนมีความขัดแย้งกัน ก่อนหน้านี้ยังส่งสารมาขอให้เขาช่วยจัดการ ตอนแรกเขาคิดว่าถ้ามีโอกาสก็จะช่วยซะหน่อย แต่ตัดสินจากสถานการณ์ปัจจุบันจะเป็นการดีกว่าที่เขาจะสลายความคิดบ้าบอและเตือนจงเถิงว่าอย่ายั่วยุคนที่เหี้ยมหาญเช่นนี้
“ด้วยพลังการต่อสู้ที่มู่เฉินแสดงออกมา เขาน่าจะสามารถสู้รับมือไป๋หมิงได้อีกสักพัก อืม…ก็ดี ต่อให้จะไม่สามารถหยุดยั้งได้ แต่อย่างน้อยก็ไม่ราบรื่นนักที่จะได้รับแก่นมรดกโลหิตวิหคอมตะ”
“บ้าเอ๊ย!”
ขณะที่ทุกคนมีความคิดไหลเวียนอยู่ในใจ ใบหน้าของไป๋หมิงก็มืดครึ้มลง เขามองขึ้นไปบนท้องฟ้าที่มืดสนิท ลำแสงสีดำและหงส์ฟ้าน้ำแข็งต่างก็ครอบครองท้องฟ้าอย่างละครึ่ง แต่ละฝ่ายออกฤทธิ์อย่างบ้าคลั่งพยายามสลายฝ่ายตรงข้าม แต่สุดท้ายทั้งสองก็ไม่สามารถบรรลุผล ซึ่งส่งผลทำให้สถานการณ์หยุดชะงักลง
ทว่าสถานการณ์ชะงักงันไม่ได้เป็นสิ่งที่ไป๋หมิงต้องการเห็น
เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าขุมพลังจื้อจุนขั้นแปดบวกกับอาวุธเสมือนมหสวรรค์จะไม่สามารถแม้แต่จะฆ่าสังหารจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเจ็ดได้
“ฝันไปเถอะที่คิดจะเอาชนะข้าวันนี้!” สายตาของไป๋หมิงกะพริบพร้อมกับความเย็นชา จากนั้นตราประทับก็เปลี่ยนแปลง พัดหงส์ฟ้าน้ำแข็งพุ่งออกมาพร้อมกับกระแสเย็นเยือกขยายตัวออกมา คลื่นพลังหลั่งไหลลงไปไม่หยุดยั้งพยายามที่จะทำลายลำแสงสีดำ
มู่เฉินยืนอยู่บนร่างเทพสุริยะ สัมผัสได้ว่าแรงกดดันที่มาจากหงส์ฟ้าน้ำแข็งกำลังเพิ่มสูงขึ้น เห็นได้ชัดว่าไป๋หมิงกำลังเพิ่มพลังงานให้กับหงส์ฟ้าน้ำแข็งเพื่อเอาชนะเขา
“เจ้าประเมินการโจมตีของข้าที่ใช้ของเหลวจื้อจุนล้านหยดน้อยไป”
ทว่าเมื่อเผชิญกับสิ่งนี้ รอยยิ้มเยาะเย้ยก็ยกขึ้นที่มุมปากของมู่เฉิน เนื่องจากจำเป็นต้องใช้ปริมาณของเหลวจื้อจุนจำนวนมากในการใช้งานเนตรดับชีวิตทุกครั้ง ราคานั้นเป็นสิ่งที่ทำให้หัวใจของมู่เฉินเจ็บปวด แต่สิ่งเดียวที่เขารู้สึกสบายใจก็คือหลังจากที่กลืนกินของเหลวจื้อจุนจำนวนมากการโจมตีของเนตรดับชีวิตก็คุ้มค่ายิ่งนัก
เมื่อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ มู่เฉินก็ไม่ลังเลต่อไป ด้วยการเคลื่อนไหวเนตรดับชีวิตบนหน้าผากก็เปิดออกพร้อมกับเปล่งรัศมีทรงกลดสีดำ
ราวกับว่ามีสัญลักษณ์สีดำรวมตัวกันอย่างลึกซึ้ง
ฟิ้ว!
แสงสีดำละเอียดถูกยิงออกมาจากเนตรดับชีวิต พุ่งบิดเกลียวราวกับฟ้าฟาดรวมเข้ากับแสงสีดำที่กำลังเผชิญหน้ากับหงส์ฟ้าน้ำแข็ง ทันใดนั้นลำแสงสีดำก็ขยายตัว คลื่นกระแทกสีดำที่น่าหวาดกลัวกวาดออก ทำให้เกิดรอยแตกบนมิติโดยรอบเลยทีเดียว
“แตก”
เสียงแผ่วเบาเปล่งออกจากปากมู่เฉินในขณะนี้
ตู้ม!
เมื่อถ้อยคำหลุดออกมาจากปาก ลำแสงสีดำที่น่ากลัวก็ตอบสนองราวกับว่าได้รับคำสั่งจากเทพทำลายล้างพุ่งลงมาบนโลกมนุษย์ แสงสีดำสั่นเทิ้มทะลุผ่านหงส์ฟ้าน้ำแข็งขนาดใหญ่ไป
หลุมดำขนาดใหญ่ปรากฏบนร่างหงส์ฟ้าน้ำแข็ง กัดกร่อนร่างนั้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้มันค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีดำ
ทันทีที่หงส์ฟ้าน้ำแข็งถูกเจาะผ่าน สีหน้าของไป๋หมิงก็เปลี่ยนไปรุนแรง ความไม่อยากเชื่ออัดแน่นในดวงตา การโจมตีจากพัดหงส์ฟ้าน้ำแข็งเต็มกำลัง ไม่เพียงจะถูกต่อต้านโดยมู่เฉิน แต่ยังถูกทำลายลงอีกด้วยเรอะ?
“เป็นไปได้ยังไง?!” สีหน้าอำมหิตปกคลุมใบหน้าของไป๋หมิงพลางคำรามด้วยใบหน้าบิดเบี้ยว
ฟิ้ว!
แต่มู่เฉินไม่ใส่ใจกับความรู้สึกของไป๋หมิงในขณะนี้ ลำแสงสีดำที่ควบแน่นด้วยราคาของเหลวจื้อจุนล้านหยดอ่อนล้าลงอย่างมากหลังจากการทะลุผ่านร่างหงส์ฟ้าน้ำแข็ง แต่ก็ยังไม่ได้หายไปอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นเพียงแค่คิด ลำแสงสีดำก็พลิกกลับฉับพลันกวาดไปทางไป๋หมิง
เห็นได้ชัดว่าเขาตั้งใจที่จะกำจัดอีกฝ่าย
“แกคิดฆ่าข้าเรอะ? เพ้อเจ้อแล้ว!”
เมื่อไป๋หมิงเห็นฉากนี้ ม่านตาก็หดลงก่อนที่จะคำรามลั่น ฝ่าเท้ากระแทกลง พายุทอร์นาโดก็พวยพุ่งออกมาก่อร่างเป็นหงส์ฟ้าน้ำแข็งขนาดใหญ่อยู่เบื้องหลัง หงส์ฟ้าน้ำแข็งตัวนี้เปล่งประกายแวววาวประหนึ่งอัญมณี แรงกดดันทรงพลังกำจายออกมา
ไป๋หมิงถูกบีบให้ต้องนำร่างเทพอสูรออกมาแล้ว
ร่างของไป๋หมิงเคลื่อนไหวไปปรากฏบนหงส์ฟ้าน้ำแข็ง จากนั้นมือก็คว้าจับพัดหงส์ฟ้าน้ำแข็งที่ลอยบนท้องฟ้า กระแสเย็นเยือกไหลออกมา แสงน้ำแข็งสีฟ้าวูบไหว
“หงส์ฟ้าน้ำแข็งป้องกัน!
ทันใดนั้นพัดน้ำแข็งในมือของไป๋หมิงสั่นสะท้าน กระแสเย็นเยือกหลั่งไหลออกมา หงส์ฟ้าน้ำแข็งที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าก็พ่นคลื่นพลังรุนแรง เมื่อหมุนคว้างไปก็กลายเป็นม่านพลังขนาดหนึ่งพันจั้งบนท้องฟ้าปกป้องเขาไว้
ตู้ม!
ลำแสงทำลายล้างปะทะม่านพลังก่อนที่เสียงกัมปนาทจะดังออกมา รอยแตกกระจายอย่างรวดเร็วครอบคลุมม่านพลังทั้งหมด
ปัง!
เมื่อม่านพลังมาถึงขีดจำกัดก็ระเบิดออก ไป๋หมิงที่ยืนอยู่บนหงส์ฟ้าน้ำแข็งได้รับผลกระทบจากการระเบิด เลือดกระอักเต็มปาก ใบหน้าของเขามืดครึ้มลง
ฮือฮา
เมื่อคนอื่นมองเห็นภาพนี้ก็อดสูดปากดูดอากาศไม่ได้ เพราะไม่มีใครคิดว่าไป๋หมิงจะเป็นคนแรกที่ได้รับบาดเจ็บจากการเผชิญหน้ากับมู่เฉิน
“ปะ… เป็นไปได้ยังไง?!” เมื่อไป๋ปิงเห็นภาพนี้ใบหน้าก็ซีดเผือดลง
ที่ด้านข้างฉื่อหงหวู่ก็แสดงออกอย่างเคร่งขรึม มาถึงจุดนี้ถ้าใครยังคิดปฏิบัติต่อมู่เฉินเหมือนจอมยุทธ์ขุมพลังจือจุนขั้นเจ็ดทั่วไปก็โง่เต็มทีแล้ว
ครั้งนี้ไป๋หมิงเตะแผ่นเหล็กเข้าให้แล้ว
มู่เฉินยืนอยู่บนร่างเทพสุริยะมองไปที่ไป๋หมิงที่กระอักเลือดออกมา ใบหน้าไม่มีริ้วอารมณ์ใด ในทางตรงกันข้ามเขารู้สึกเสียดายเล็กน้อย ปฏิกิริยาของไป๋หมิงรวดเร็วไปหน่อย เขาเพิ่มการป้องกันออกมาทันทีที่รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง เลือดเต็มปากเป็นเพียงสัญญาณบ่งบอกว่าได้รับผลกระทบบางอย่าง ส่วนแสงเนตรดับชีวิตก็ถูกใช้ไปจนหมดแล้ว
ของเหลวจื้อจุนหนึ่งล้านหยดที่ใช้ลงไป สามารถจัดการไป๋หมิงได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ชายคนนี้จัดการยากแท้จริง
ไป๋หมิงยืนอยู่บนหงส์ฟ้าน้ำแข็งค่อยๆ เช็ดรอยเลือดออกจากมุมปาก สายตาจ้องมองมู่เฉินด้วยแววมืดมน เสียงของเขาค่อนข้างแหบห้าวพูดว่า “กระบวนท่าเมื่อครู่แกยังสามารถโจมตีได้อีกกี่ครั้ง?”
การโจมตีกระบวนท่าเมื่อครู่ของมู่เฉินน่าสะพรึงกลัวก็จริง แต่เขารู้ว่ามีขีดจำกัดในการโจมตีประเภทนี้แน่นอน มิฉะนั้นไม่มีใครทนรับได้ถ้ามู่เฉินเปิดตัวการโจมตีอีก
“อยากลองไหม?” เมื่อมู่เฉินได้ยินคำพูดนั่นก็ยิ้ม
“มาเลย!”
ไป๋หมิงยิ้มเย็นจากนั้นก็กระทืบเท้า หงส์ฟ้าน้ำแข็งที่อยู่เบื้องล่างกางปีกบินออกไป ขณะที่ปีกกระพือกระแสเย็นเยือกนับพันจั้งก็พุ่งเข้าหาร่างเทพสุริยะ
ตู้ม!
ร่างเทพสุริยะก็ทะยานเข้ามาในเวลาเดียวกัน แสงสีทองพุ่งออกไปในทุกทิศทุกทางต่อต้านกระแสเย็นเยือกอันน่ากลัว ก่อนที่จะรัวการโจมตีเป็นชุด
บนท้องฟ้าแสงสีทองและกระแสเย็นเยือกครางกระหึ่ม ร่างใหญ่ทั้งสองปะทะกันไม่หยุด แรงกระแทกนั้นทำให้ฟ้าดินสั่นสะเทือน เบื้องบนร่างมหึมามีคนสองคนแลกกระบวนท่า พวกเขาหมุนเวียนคลื่นหลิงในร่างจนถึงขีดสุด แต่ละคนวูบไหวราวกับสายฟ้า สร้างภาพมายากระจายเต็มท้องฟ้า
ในเวลาไม่กี่นาทีทั้งสองก็แลกเปลี่ยนกระบวนท่ากันหลายร้อยกระบวนท่า ทุกการปะทะราวกับจะฉีกขาดท้องฟ้า
บนแท่นบูชาทุกคนได้แต่ตะลึงกับการบู๊ล้างผลาญครั้งนี้ จิตสังหารและคลื่นหลิงที่ไร้ขอบเขตซึ่งปล่อยออกมาจากทั้งสอง ทำให้พวกเขารู้สึกหวาดกลัว
ขณะนี้ทั้งสองโรมรันพันตูกันจนกระทั่งดวงตาเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ
ตู้ม!
บนท้องฟ้ากำปั้นใหญ่โตของร่างเทพสุริยะและปีกของหงส์ฟ้าน้ำแข็งปะทะกัน มู่เฉินเหวี่ยงฝ่ามือออกปะทะกับหมัดไป๋หมิง
คลื่นกระแทกที่ครอบงำสร้างหายนะ ขณะที่ทั้งสองฝ่ายถูกผลักกลับไปพร้อมกับคลื่นหลิงที่ผันผวนรอบตัวยุ่งเหยิงไปหมด พวกเขาได้รับความเดือดร้อนจากคลื่นกระแทกอย่างชัดเจน
การต่อสู้ดุเดือดจบลงที่เสมอกัน
“บ้า! บ้าเอ๊ย!”
แต่การตึงมือกันนี้กลับทำให้ดวงตาของไป๋หมิงแดงฉาน คนที่มีความภาคภูมิใจในตัวเองเช่นเขาไม่สามารถยอมรับได้ว่าจะถูกมนุษย์ขุมพลังจื้อจุนขั้นเจ็ดสร้างความปั่นป่วนให้ขนาดนี้
“ไม่ว่าจะต้องจ่ายราคาเท่าไร ข้าก็จะฝังแกไว้ที่นี่!” ไป๋หมิงคำรามลั่นด้วยจิตสังหารรุนแรง
เมื่อเห็นไป๋ปิงเห็นสีหน้าโหดเหี้ยมเพียงนี้ สีหน้าของมู่เฉินก็เปลี่ยนไปเช่นกัน แววตื่นระวังลุกโชนในดวงตา
เขารู้ว่าด้วยพลังและสถานะของไป๋หมิงจะต้องมีไพ่ตายอยู่แน่ เหตุผลที่อีกฝ่ายไม่ใช้ก่อนหน้าก็เพราะเสียดายในการใช้ แต่หลังจากถูกบังคับให้มาถึงจุดนี้ก็ไม่อาจควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป
ดวงตาของไป๋หมิงเป็นสีแดงฉาน จิตสังหารรุนแรงพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า เขาจ้องเขม็งที่มู่เฉิน จากนั้นก็กระทืบเท้า หงส์ฟ้าน้ำแข็งที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าส่งเสียงร้องครางก่อนที่จะพ่นแก่นเลือดออกมา
แก่นโลหิตนั้นบรรจุด้วยคลื่นหลิงไร้ขอบเขต
ไป๋หมิงแตะนิ้วลงไป พัดหงส์ฟ้าน้ำแข็งในมือก็บินออกไป ราวกับว่าเปิดปากกลืนกินเลือดเข้าไป
ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีซีดทันที
พัดน้ำแข็งสีฟ้าค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแดง โดยมีเส้นเลือดสีแดงเต้นยุบยับขึ้นบนตัวพัด กลิ่นคาวเลือดรุนแรง มองดูอำมหิตมาก
ไป๋หมิงมองดูการเปลี่ยนแปลงของอาวุธคู่กาย ก็ปล่อยเสียงคำรามลึกดังก้องไปทั่วขอบฟ้า
“สังเวยโลหิตหงส์ฟ้า!”