หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler - บทที่ 1338 ราชันสังหารปีศาจคนใหม่
“ชิ้นส่วนของกระจกผนึกปีศาจ?!”
เมื่อแผ่นทองแดงปรากฏขึ้น ฝูถูก็อุทานด้วยความดีใจปะปนความประหลาดใจ
มู่เฉินคลี่ยิ้ม เขาเดาได้ถูก แผ่นทองแดงเก่าเขรอะนี้ก็คือชิ้นส่วนของกระจกผนึกปีศาจ
นั่นหมายความว่าความรู้สึกที่เขาสัมผัสได้เป็นของผู้อาวุโสฝูถู เนื่องจากมีเพียงรัศมีดังกล่าวเท่านั้นที่ทำให้เจดีย์ในร่างของเขาเกิดความกระวนกระวาย
“ฮ่าๆ ดูเหมือนเจ้าชะตาต้องกันกับข้าคนนี้จริงๆ” ฝูถูถอนหายใจ ถ้ามู่เฉินไม่ได้ชิ้นส่วนของกระจกผนึกปีศาจ เขาอาจจะไม่สามารถจัดการกับวิญญาณของจอมปีศาจเทียนเสี่ยเจียงได้
“ผู้อาวุโสตอนนี้สามารถปราบปรามวิญญาณของเสี่ยเจียงได้หรือยังขอรับ?” มู่เฉินถาม
“ได้!” ฝูถูเอ่ยโดยไม่ลังเลใดๆ แม้ว่ากระจกผนึกปีศาจจะได้รับความเสียหาย แต่เสี่ยเจียงก็มีพลังไม่ถึงหนึ่งส่วน
พร้อมกับเสียงของฝูถู แผ่นทองแดงก็พุ่งออกไปรวมเข้ากับกระจกผนึกปีศาจ ส่วนที่เสียหายค่อยๆ ฟื้นคืนขึ้นมาอย่างช้าๆ
ฮึ่ม ฮึ่ม!
เมื่อกระจกปิดผนึกปีศาจได้รับการบูรณะ รัศมีก็กำจายออกมาก่อนที่จะเทลงบนแผนภาพขนาดใหญ่ที่เบื้องล่าง
ในเวลาเดียวกันโซ่ก็พุ่งออกจากแผนภาพพันธนาการแขนขาของเสี่ยเจียง
โซ่เหล่านั้นกะพริบด้วยอักขระโบราณ ดูเหมือนว่าจะมีผลเป็นพิเศษในการระงับรัศมีปีศาจ ขณะที่ปกคลุมเสี่ยเจียงไว้ รัศมีหนาแน่นรอบตัวเขาก็เบาบางลง
ซ่า ซ่า!
ใบหน้าของเสี่ยเจียงเปลี่ยนไปขณะที่พยายามดิ้นรน แต่คราวนี้โซ่ไม่ขยับเขยื้อนสักกระผีก…
“แผนภาพผนึกปีศาจ—ประทับ!”
พร้อมกับเสียงของฝูถู โซ่ก็หดกลับ เสี่ยเจียงคำรามด้วยความไม่เต็มใจ เขาถูกดึงเข้าไปในแผนภาพอย่างช้าๆ
แผนภาพผนึกปีศาจลอยคว้างอยู่บนท้องฟ้าขยับไหวอย่างต่อเนื่อง เงาสีดำน่ากลัวที่ปกคลุมไปด้วยรัศมีปีศาจปรากฏอยู่
“ไอ้เวร!”
เสียงคำรามของเสี่ยเจียงสะท้อนออกจากแผนภาพ เขาไม่คิดว่าอิสรภาพของตนจะสั้นกุดขนาดนี้ ก่อนที่เขาจะถูกผนึกไว้ในแผนภาพผนึกปีศาจโดยฝูถูอีกครั้ง
“อย่านิ่งนอนใจไปเลย ตอนนี้ชั้นแรกของเจดีย์สี่เทวะถูกทำลายไปแล้ว ตราบใดที่อีกสองชั้นถูกทำลาย ข้าก็จะเป็นอิสระได้อีกครั้ง!”
มองไปที่เสี่ยเจียงที่ถูกผนึกไว้ในแผนภาพ แต่ยังคงดิ้นรน มู่เฉินก็ถามขึ้นว่า “ผู้อาวุโส เราฆ่ามันไม่ได้หรือ?”
ตอนนี้ฝูถูเหมือนแค่ปิดผนึกร่างราชาปีศาจอีกครั้งเท่านั้น แต่การปิดผนึกเช่นนี้มีอันตรายหากมีอะไรเกิดขึ้นมันก็จะเป็นอิสระ
ฝูถูถึงกับถอนหายใจเมื่อได้ยินคำถาม “พลังชีวิตของเผ่าปีศาจเหนียวแน่นมาก นอกจากนี้จิตวิญญาณปีศาจก็ได้รับการขัดเกลา นี่ไม่ใช่สิ่งที่มหาพันภพของเราจะเทียบได้ หากเราต้องการทำลายจิตวิญญาณของพวกมันก็ต้องพึ่งพาพลังที่แข็งแกร่ง ดังนั้นส่วนใหญ่จึงเลือกผนึกและทำลายจิตวิญญาณของพวกมันผ่านการกัดกร่อนของกาลเวลา”
เพียงแค่นี้มู่เฉินก็ตระหนักได้ว่าทำไมเขาถึงพบกับราชันปีศาจจำนวนมากที่ถูกผนึกไว้ แม้ว่าจะยุ่งยากน้อยกว่า แต่ก็ไม่ปลอดภัยเลย
“แต่ตอนนี้จิตวิญญาณของเสี่ยเจียงอ่อนแอลงหลังจากถูกปิดผนึกเป็นเวลานาน พูดได้ว่านี่เป็นช่วงเวลาที่อ่อนแอที่สุดของมัน แต่น่าเสียดายตาแก่คนนี้พลังก็อ่อนล้านัก ทำให้ฆ่ามันไม่ได้” ฝูถูเอ่ยด้วยความเสียดายเบาบาง
“กระทั่งได้รับความช่วยเหลือจากกระจกผนึกปีศาจเหรอขอรับ?” มู่เฉินมองไปที่กระจกบนท้องฟ้า เขารู้สึกได้ว่านี่เป็นอาวุธมหสวรรค์ขั้นยอดเยี่ยม
ฝูถูส่ายหัว “กระจกผนึกปีศาจก็อ่อนกำลังลงเช่นกัน หลังจากที่มันช่วยข้าผนึกราชันปีศาจตัวนี้เป็นเวลานาน”
หลังจากพูดจบเขาก็หยุดชั่วครู่ก่อนที่จะพูดต่อ“ แต่ถ้ามีความช่วยเหลือจากอาวุธมหสวรรค์ขั้นยอดเยี่ยมชั้นเซียน ก็มากเกินพอที่ข้าจะฆ่าจอมปีศาจระดับเทียนตัวนี้”
“อาวุธมหสวรรค์ขั้นยอดเยี่ยมชั้นเซียน?” มู่เฉินอึ้งไปนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินถึงความแตกต่างของอาวุธมหสวรรค์ขั้นยอดเยี่ยม
“อาวุธมหสวรรค์ขั้นยอดเยี่ยมชั้นเซียนเป็นอาวุธที่เป็นของจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุน ไม่แปลกเลยที่เจ้าจะไม่รู้ ก็คล้ายกับระดับเทียนจื้อจุนที่แบ่งออกเป็นขั้นหลิง-เซียน-เซิ่ง นั่นแหละ” ฝูถูยิ้ม
มู่เฉินพยักหน้าก่อนที่จะเข้าสู่ภวังค์ความคิด ถ้าเป็นอาวุธมหสวรรค์เขาก็มีอยู่ชิ้นหนึ่ง ทว่าพลังมันหมดลงไปอย่างมากแล้ว
แต่ตอนนี้เขาทำได้แค่ลองดู
ดังนั้นเขาจึงกำมือขึ้น แสงควบแน่นอยู่ภายในก่อนที่จะปรากฏภาพกระบี่แก้วยาวโบราณที่วูบไหวด้วยเกลียวแสงมันวาวซึ่งเปล่งพลังพิเศษออกมา
“หืม?”
เมื่อกระบี่ปรากฏขึ้น ฝูถูก็อุทานก่อนที่จะส่งเสียงร้องตกใจ “นี่คือ…กระบี่เกล็ดจักรพรรดิของจักรพรรดิฟ้า?!”
“ผู้อาวุโสรู้จักสิ่งนี้ด้วยเหรอ?” มู่เฉินรู้สึกประหลาดใจ
“ทำไมจะไม่ล่ะ? ข้ารู้จักกับจักรพรรดิฟ้า ไม่คิดเลยว่ากระบี่ของเขาจะอยู่ในมือของเจ้า” ฝูถูเอ่ยด้วยความตกใจ
“ข้าโชคดีได้รับมรดกของอาจารย์” มู่เฉินอธิบาย
“ฮ่าๆ สายตาของสหายคนนั้นไม่เลวจริงๆ ทายาทเผ่าฝูถูของข้าย่อมคู่ควรกับมรดกนั่น” ฝูถูยิ้มด้วยความภาคภูมิใจในน้ำเสียง
“ผู้อาวุโส แต่มีพลังเหลืออยู่ไม่มากนักในกระบี่เกล็ดจักรพรรดิ นี่จะมีประโยชน์หรือไม่?”
“มีมากเชียวแหละ!” ฝูถูยิ้ม “กระบี่เกล็ดจักรพรรดิเผด็จการแท้จริง มิหนำซ้ำยังมีไว้สำหรับสังหารปีศาจ แม้ว่าพลังงานภายในจะใกล้หมด แต่ข้าก็สามารถปลดปล่อยพลังของมันออกมาได้ เกินพอที่จะจัดการกับจอมปีศาจเทียนเสี่ยเจียงแล้ว”
มู่เฉินรู้สึกโล่งใจมากเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้น
ฝูถูควบคุมร่างกายมู่เฉินจับกระบี่เกล็ดจักรพรรดิไว้พลางยิ้มอ่อนให้เสี่ยเจียง “ข้าจะดูสิว่าแกจะทนได้นานแค่ไหน”
“ฮ่าๆ ไอ้แพะผีแก่ แกทำอะไรกับข้าไม่ได้ด้วยสภาพปัจจุบันนี้หรอก!” เสี่ยเจียงยิ้มน่าขนพองสยองเกล้า ก่อนที่สีหน้าจะแข็งค้างไป เมื่อความมันวาวของกระบี่พุ่งออกมาจากมือของฝูถู
เนื่องจากความได้กลิ่นอายอันตรายถึงชีวิตจากบนกระบี่นั้น
ความรู้สึกอันตรายนั้นรุนแรงมาก วัตถุนี้ไม่ได้อ่อนแอไปกว่ากระจกผนึกปีศาจเลย!
“หลังจากติดแหง็กกับแกมานับหมื่นปี ข้าขอพูดหน่อยว่าดีใจแค่ไหนที่จะได้ฆ่าแก” ฝูถูยิ้มอ่อนก่อนที่จะสะบัดมือ กระบี่เกล็ดจักรพรรดิทะยานออกไป
แสงกระบี่ไร้ขอบเขตสร้างความหายนะระหว่างสวรรค์และโลก
กระบี่เกล็ดจักรพรรดิเปลี่ยนเป็นแสงกระบี่เข้มข้น พุ่งผ่านมิติด้วยความเร็วเหนือจินตนาการ
โฮก!
รู้สึกถึงความตายพล่านเข้ามาในแผนภาพ เสี่ยเจียงก็คำรามบ้าคลั่ง ขณะที่พยายามดิ้นรนพร้อมกับรัศมีปีศาจพวยพุ่งให้หลุดพ้นออกมาให้ได้
ฮึ่ม ฮึ่ม
ทว่ากระจกผนึกปีศาจก็ปลดปล่อยแสงนับไม่ถ้วนออกมา ห่อหุ้มแผนภาพไว้ทำให้แข็งแกร่งขึ้น ไม่ว่าเสี่ยเจียงจะพยายามดิ้นรนอย่างไร ก็ไม่สามารถหลุดออกมาได้
ฟิ้ว
จังหวะนั้นมิติก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆ แสงกระบี่บินว่อน
นี่เป็นลำแสงที่ไม่ธรรมดา ทำให้เสียงคำรามของเสี่ยเจียงปะปนไปด้วยความหวาดกลัว
“หายไปซะ!”
เสียงของฝูถูเต็มไปด้วยความเย็นชา ขณะที่กระบี่พุ่งออกแทงทะลุร่างที่กำลังดิ้นรนในแผนภาพ
อ๊าก!
เสียงคำรามเสียดแก้วหูดังก้อง ควันปีศาจรุนแรงก็พวยพุ่งออกมา เมื่อถูกผนึกโดยแผ่นภาพผนึกปีศาจ ร่างของเสี่ยเจียงก็ราวกับลูกโปร่งที่ถูกเจาะ เริ่มฟีบลงเรื่อยๆ
รัศมีของเขาก็อ่อนลงอย่างรวดเร็ว
เสียงคำรามสะท้อนไปทั่วทั้งสวรรค์และโลก ทำให้จอมยุทธ์เผ่าปีศาจใบหน้าซีดเซียว ทุกคนหมุนตัวหนีไปโดยไม่สนใจอะไรอีก
จอมปีศาจเทียนเสี่ยเจียงกำลังจะถูกฆ่า พวกเขาหมดโอกาสแล้ว
ตอนนี้เองจอมยุทธ์มหาพันภพก็ออกไล่ล่าศัตรู ขัดขวางทางหนีทีไล่ของจอมยุทธ์เผ่าปีศาจอย่างไร้ปรานี
เมื่อเห็นรัศมีปีศาจของเสี่ยเจียงหายไปอย่างรวดเร็วบนแท่นบูชา หัวใจของมู่เฉินก็สั่นสะท้าน “ผู้อาวุโส จัดการเสี่ยเจียงเรียบร้อยแล้วเหรอ?”
“ใช่ ในที่สุดก็กำจัดมันได้” ฝูถูรู้สึกโล่งใจอย่างมาก
หลังจากไตร่ตรองชั่วครู่ มู่เฉินก็หยิบป้ายสังหารปีศาจออกมา “ผู้อาวุโส ข้าขอเศษเสี้ยววิญญาณของเขาได้ไหม?”
ตามกฎของมหาพันภพ เขาจะสามารถได้รับคะแนนสังหารปีศาจและเพิ่มอันดับโดยการฆ่าสมาชิกเผ่าปีศาจ
นอกจากนี้การสังหารจอมปีศาจระดับเทียนจะทำให้เขาได้รับหนึ่งหมื่นคะแนน เลื่อนอันดับเป็นราชันสังหารปีศาจแห่งวังมหาพันภพ!
แม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นคนฆ่าเอง แต่ก็มีส่วนร่วมนิดหน่อย ดังนั้นเขาอยากรู้จะได้รับคะแนนสักนิดหรือไม่
“หืม? ป้ายสังหารปีศาจr?”
เมื่อเห็นป้ายที่มู่เฉินนำออกมาฝูถูก็อึ้งไปชั่วครู่ก่อนที่จะระเบิดเสียงหัวเราะแบบกลั้นไม่อยู่ “เจ้าเด็กน้อย ความคิดของเจ้าใหญ่โตทีเดียว ฮ่าๆ แต่ก็ไม่เป็นไร มีจอมยุทธ์ขุมพลังตี้จื้อจุนขั้นปลายในฐานะราชันสังหารปีศาจ วะฮะฮ่า! น่าสนใจ ไม่รู้ว่าใบหน้าของผู้คนในวังมหาพันภพจะเป็นอย่างไรหลังจากรู้เรื่องนี้!”
ขณะที่พูดเขาก็โบกมือ หมอกสีดำลอยออกจากแผนภาพพล่านเข้าไปในป้ายสังหารปีศาจ
ป้ายวูบไหวขณะที่หมอกสีดำถูกดูดเข้าไป
มู่เฉินและฝูถูจ้องไปที่ป้าย
ภายใต้สายตาป้ายก็นิ่งเงียบอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่จะสั่นเทิ้ม แสงสีทองพุ่งพรวดออกมาไหลเวียนอยู่เหนือป้าย
ที่ขอบล่างของป้ายตำแหน่งมือสังหารปีศาจขั้นต่ำหายไป แทนที่ด้วยอักษรสีทองแพรวพราวในอากาศ
“ราชันสังหารปีศาจ!”
มู่เฉินจ้องมองไปที่อักษรทองคำ ปากก็อ้าค้าง
การทดลองของเขาสำเร็จจริงหรือ?!