หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler - บทที่ 1393 ภัยพิบัติเทียนจุน
ฮึ่ม!
เมื่อแสงมหานวดารายิงเข้าศีรษะของมู่เฉิน ร่างกายของเขาก็สั่นเทิ้ม รูขุมขนทั่วสรรพางค์กายเปล่งรัศมีที่บรรจุด้วยคลื่นหลิงที่แข็งแกร่งมาก ทันทีที่เคลื่อนออกจากร่างเขา ก็กลายเป็นเม็ดฝนโปรยลงมาในบริเวณนี้
เป็นเพราะพลังงานหลิงในร่างกายของมู่เฉินถึงขีดจำกัดจนไม่สามารถกักเก็บได้อีกต่อไป ดังนั้นร่างกายจึงเลือกการป้องกันตนเอง ปลดปล่อยพลังงานออกมา
แต่การปลอดปล่อยนี้ก็เท่ากับเมล็ดพืชเม็ดเดียวในมหาสมุทรเมื่อเทียบกับพลังมหาศาลที่ดวงจิตแห่งพิภพส่งมาถึงเขา
แกร็ก
ดังนั้นรอยแตกจึงเริ่มปรากฏขึ้นบนร่างของมู่เฉิน ในช่วงไม่กี่สิบลมหายใจสั้นๆ พื้นผิวร่างกายเขาก็เต็มไปด้วยรอยแตกที่ดูน่ากลัว
ทว่ามู่เฉินยังคงสงบสติอารมณ์เอาไว้ เนื่องจากเขารู้ว่าร่างกายมาถึงขีดจำกัดแล้ว…
“ในเมื่อถึงขีดจำกัดแล้ว… ก็แตกซะ…”
“หากปราศจากการทำลายล้างก็จะไม่มีการสร้าง แปรเปลี่ยนร่างเทียนจื้อจุน”
เขาพึมพำพร้อมกับความแน่วแน่ฉายในดวงตา โดยไม่ลังเลว่าภัยจะมาถึงตัว อึดใจฝ่ามือเขาก็สร้างตราประทับ ไม่ระงับพลังงานหลิงในร่างกายอีกต่อไป ปล่อยให้มันสร้างความหายนะอย่างเมามัน
ฮึ่ม ฮึ่ม!
แสงปะทุออกจากรอยแตกบนร่างของมู่เฉินแล้วเริ่มขยายตัวออก ครู่เดียวก็เกิดการระเบิดครั้งใหญ่
ปัง!
ร่างกายของมู่เฉินระเบิดกระจาย แต่ไม่มีเลือดสักหยด เศษส่วนร่างกายกลายเป็นฝุ่นละออง ทุกอณูวูบไหวด้วยผลึกแสง ลอยอยู่อย่างเงียบๆ
ฝุ่นละอองลอยอยู่ไม่รู้นานเท่าไรก่อนที่พายุจะก่อตัวขึ้น พัดจุดแสงให้รวมเข้าด้วยกัน
เมื่อเวลาผ่านไปภาพเงาก็ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นราวกับว่าเขากำลังพยายามปฏิรูปร่างกายอยู่
ครืน!
แต่ทันใดนั้นเสียงดังก้องผิดปกติก็ดังออกมา ซึ่งทำให้ร่างเงาที่อยู่ระหว่างกระบวนการสั่นไหว
แม้ว่าร่างกายจะแตกเป็นเสี่ยงๆ แต่จิตวิญญาณยังคงอยู่ มู่เฉินสัมผัสได้ถึงความผันผวนนี้ ทำให้หัวใจของเขาสั่นสะท้านพลางเงยหน้าขึ้นมอง
มหานวดาราเริ่มผันผวน เมฆดำโหมกระหน่ำพวยพุ่งพร้อมกับแสงสีดำแล่นแปลบปลาบอยู่ภายใน ไม่รู้ว่ามีอะไรก่อหวอดอยู่ภายใน แต่มันก็ยังดูดซับพลังสภาวะความวุ่นวายอย่างต่อเนื่อง ทำให้ลึกลับมากขึ้น
เมื่อมู่เฉินมองไปที่เมฆดำความกลัวก็เพิ่มขึ้นภายในหัวใจ ก่อนที่เสียงหนักแน่นจะดังก้องออกมาจากหัวใจของเขาในเวลาเดียวกัน “นี่คือ…ภัยพิบัติเทียนจุน?”
ว่ากันว่าผู้ฝึกจะต้องเผชิญกับภัยพิบัติเทียนจุนเมื่อต้องการบรรลุระดับเทียนจื้อจุน ภัยพิบัตินี้ทรงพลังมาก แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนเองก็ยังหวาดกลัว
“ตอนนี้ชักจะลำบากแล้ว”
มู่เฉินถอนหายใจ ภัยพิบัติเทียนจุนดูเหมือนจะดูดซับพลังงานมหานวดารา ทำให้มีพลังน่ากลัวยิ่งขึ้น ตอนนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญที่เขาจะต้องปรับแต่งร่างกาย หากถูกรบกวนละก็ เขาอาจสูญเสียโอกาสนี้ ดังนั้นห้ามมีข้อผิดพลาดแม้แต่น้อย
ซ่า ซ่า!
ขณะที่มู่เฉินกำลังจดจ่อ เมฆสีดำก็ผันผวนบนท้องฟ้า กระแสน้ำสีดำพุ่งลงมาจากสวรรค์ มิติแตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยในเส้นทางที่ผ่าน
มู่เฉินหดดวงตา ร่างเขาที่กำลังปรับแต่งก็ระเบิดด้วยรัศมีสีม่วงทอง ก่อนที่จะเรียกร่างเทพสุริยะนิรันดร์ออกมา เมื่อมือเขาประสานเข้าด้วยกันรหัสเทพอมตะสามร้อยลายก็พวยพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า กลายเป็นกำแพงเหนือท้องฟ้า
ตู้ม!
กระแสน้ำสีดำกระแทกบนกำแพงจนสั่นคลอนไปหมด น้ำสีดำทุกหยดหนักราวกับภูเขา เมื่อเทลงมาพร้อมกันก็คล้ายกับน้ำหนักนับหมื่นนับแสนถล่มลงมา สำแดงพลังอันน่าทึ่ง
รอยแตกเริ่มปรากฏบนผนัง แต่โชคดีที่ไม่แตก ยังคงอยู่จนกระแสน้ำสีดำสลายหายไป
“ภัยพิบัติเทียนจุนน่าสะพรึงอะไรขนาดนี้!”
หัวใจของมู่เฉินอดสั่นสะท้านไม่ได้ นี่เป็นเพียงเริ่มต้น แต่การป้องกันที่เขาสร้างขึ้นจากรหัสเทพอมตะสามร้อยลายเกือบจะพังทลาย แล้วถ้ารอบท้ายๆ จะน่ากลัวขนาดไหน?
มู่เฉินรู้สึกหวาดกลัวในใจและไม่กล้าที่จะประมาท เขาเร้าร่างเทพสุริยะนิรันดร์ทันที สร้างรหัสเทพอมตะนับไม่ถ้วนเพื่อเสริมกำแพง…
เมฆดำเริ่มกวนตัวอีกครั้ง ในเวลาต่อมาอุณหภูมิระหว่างสวรรค์และโลกก็เพิ่มสูงขึ้น ทันใดนั้นดาวหางก็พุ่งลงมา
ดาวหางมีสีดำแม้จะดูอ่อนแอ แต่มู่เฉินก็ไม่กล้าประเมินต่ำ กำแพงสีม่วงทองเปล่งแสงสีทองเรืองรองออกมา…
ดาวหางเคลื่อนลงมาชนกับผนัง แต่น่าแปลกที่ไม่มีการระเบิดเกิดขึ้น มู่เฉินเห็นว่าเมื่อดาวหางร่วงลงก็คล้ายกับพิษที่มีฤทธิ์กัดกร่อน ซึ่งกัดกร่อนกำแพงสีม่วงทองอย่างรวดเร็ว…
เมื่อมู่เฉินเห็นฉากนี้ก็เข้าควบคุมเหวี่ยงกำแพงออกไป ครู่ต่อมากำแพงก็สึกกร่อนกลายเป็นลาวาหลอมเหลวโดยดาวหาง
ครืน!
ก่อนที่มู่เฉินจะได้ถอนหายใจกับพลัง เมฆดำก็เริ่มม้วนตัวอีกครั้ง แต่คราวนี้อุกกาบาตสีดำพุ่งลงมาจากท้องฟ้าพร้อมกับการเคลื่อนที่หนักหน่วง
เมื่อมองไปที่อุกกาบาตสีดำ มู่เฉินรู้ว่าไม่สามารถให้มันรวมพลังเพราะยิ่งเข้าใกล้ตัวก็ยิ่งแรง เพียงแค่คิดรัศมีแสงจากร่างเทพสุริยะนิรันดร์และรหัสเทพอมตะก็กลายเป็นหอกสีทอง
ฟิ้ว!
ร่างเทพสุริยะนิรันดร์เหวี่ยงมือ หอกก็พุ่งออกไปกระแทกกับอุกกาบาตสีดำ ทำให้อุกกาบาตสั่นสะท้าน แต่ตัวหอกก็กลายเป็นเถ้าถ่านภายใต้พลังน่าสะพรึงกลัว
ฟิ้ว ฟิ้ว!
แต่หลังจากนั้นหอกอีกจำนวนมากก็ซัดขึ้นสู่ท้องฟ้า แม้ว่าจะถูกทำลายครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ความเร็วของอุกกาบาตาก็ลดลง
เมื่อถึงเวลานี้ มู่เฉินก็เร้าร่างเทพสุริยะนิรันดร์อีกครั้ง รหัสเทพอมตะทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้ากลายเป็นตาข่ายขนาดใหญ่
ตู้ม ตู้ม!
อุกกาบาตสีดำกดลงมาทำลายตาข่าย แต่เมื่อตาข่ายละลายลง อุกกาบาตสีดำก็หดลงเหลือครึ่งหนึ่ง
ร่างเทพสุริยะนิรันดร์ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า รัศมีสีทองเปล่งบนกำปั้นจากนั้นชกไปที่อุกกาบาตสีดำ
ตู้ม!
คลื่นกระแทกมืดฟ้ามัวดินพัดออกมา อุกกาบาตสีดำถูกทำลาย แต่ในเวลาเดียวกันร่างเทพสุริยะนิรันดร์ก็กระเด็นออกไปพร้อมกับรอยแตกปรากฏบนร่างกาย
เมื่ออุกกาบาตสีดำถูกทำลาย เมฆดำบนท้องฟ้าก็เงียบไป แต่หัวใจของมู่เฉินกลับตึงเครียดขึ้น เขารู้ดีว่าหลังจากการรวมพลังเช่นนี้ การโจมตีจะน่ากลัวยิ่งขึ้น
ครืน!
ทันใดนั้นสายฟ้าสีดำก็ฉีกขอบฟ้าออกซัดลงมา สายฟ้าทุกสายมีพลังทำลายล้างดูน่ากลัวจนไม่น่าเชื่อ
เมื่อมู่เฉินเห็นภาพนี้ ใบหน้าก็เปลี่ยนไป เขาตะเบ็งเสียงโดยไม่ลังเล ร่างเทพสุริยะนิรันดร์กำจายรัศมี ดอกบัวสีทองขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นห่อหุ้มพวกเขาไว้
ปัง ปัง!
สายฟ้าฟาดลงมาอย่างต่อเนื่องกระแทกกับดอกบัวสีทอง ทุกสายทำให้ดอกบัวสั่นเทิ้ม กลีบดอกแตกออก
การโจมตีนี้รุนแรงอย่างยิ่ง นอกจากนี้ยังดำเนินต่อไปราวกับพายุไม่มีที่สิ้นสุดในท้องฟ้า แม้ว่ามู่เฉินจะใช้การป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุด แต่ก็ยังดูเหมือนเรือลำเล็กในพายุราวกับจะล่มลงได้ทุกเมื่อ
เปรี้ยงๆๆๆ
เสียงสายฟ้าฟาดดังสะท้อนอย่างต่อเนื่อง เขาไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน เขาคิดแต่ซ่อมแซมดอกบัวอมตะเท่านั้น แต่ก็ยังไม่สามารถรักษาสภาพไว้ได้
ดังนั้นเมื่อดอกบัวอมตะถึงขีดจำกัดในที่สุดและระเบิดออก…
เมื่อดอกบัวแตกสลาย เกลียวสีดำหลายชิ้นก็ตกลงมาบนร่างเทพสุริยะนิรันดร์ทำให้เกิดรอยร้าวขึ้น
แต่โชคดีที่สายฟ้าอ่อนกำลังลงหมดแล้ว มู่เฉินผ่านภัยพิบัติเทียนจุนได้อีกด่าน
พอสายฟ้าหายไป มู่เฉินก็สูดหายใจเย็นลึกสุดปอด ภัยพิบัติเทียนจุนน่ากลัวเกินไป ไม่น่าแปลกใจที่มีจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนแค่หยิบมือในโลก เพียงแค่ภัยพิบัติด่านนี้ก็สามารถหยุดยั้งผู้คนจำนวนมากไม่ให้ก้าวหน้าได้
“ภัยพิบัติเทียนจุนโดยทั่วไปมีสี่ระยะ น่าจะจบลงแล้วมั้ง?”
มู่เฉินพึมพำในใจ หากมีลงมาอีกสองสามรอบ คราวนี้ไม่ต้องพูดถึงเขา แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนแท้จริงก็ไม่สามารถรับได้
ฮึ่ม ฮึ่ม
แต่เมื่อพูดจบ เขาก็รู้สึกได้ถึงความปั่นป่วนที่มาจากเมฆดำจนต้องเงยหน้าขึ้น จากนั้นเขาก็เห็นเมฆดำกำลังหดตัว ไม่กี่ลมหายใจพวกมันก็สลายและถูกแทนที่ด้วยหลุมดำ…
หลุมดำลอยคว้างอยู่บนท้องฟ้า ก่อนที่จะพุ่งลงมาหามู่เฉิน
“ฉิบหาย! ทำไมถึงมีระยะที่ห้าอีก?!”
เมื่อหลุมดำเคลื่อนตัวลงมาก็ทำเอาหัวใจมู่เฉินโลดขึ้น เขาสามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานมหาศาลพวยพุ่งอัดแน่นอยู่ภายใน
พลังนั้นน่ากลัวยิ่งกว่าพลังเต็มร้อยของจอมปีศาจโลหิตซะอีก
หัวใจของมู่เฉินแทบหลุดจากเบ้า แม้ว่าจะมีภัยพิบัติเทียนจุนที่เกินสี่ระยะ แต่เขาก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าตนเองจะเป็นคนที่โชคร้ายได้รับแบบนี้
นอกจากนี้หลุมดำนั้นดูเหมือนจะก่อตัวขึ้นหลังจากดูดซับพลังงานมหานวดารา พลังที่มันมีไม่อาจอธิบายได้เลย
“ทีนี้…นรกของจริงแล้ว”