หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler - บทที่ 1396 จอมปีศาจเทียนเฮยซือ
ที่นี่คือโลกสีดำสนิท
ทั้งดวงอาทิตย์และดวงจันทร์มืดมน ราวกับว่ามีแสงสีดำเท่าปกคลุมลงบนผืนแผ่นดิน
ฮึ่ม!
ทันใดนั้นความผันผวนก็ปรากฏขึ้นก่อร่างเป็นช่องมิติ ซึ่งดึงดูดความสนใจจากสิ่งมีชีวิตทรงพลังมากมาย
ทุกสายตาพุ่งตรงไปที่อีกปลายด้านหนึ่งของช่องมิติ ดูเหมือนจะมาจากพิภพเขตล่าง…
“มีคนใช้อักขระปีศาจ…”
“ดูจากความผันผวนนั่น น่าจะเป็นเผ่าเสี่ยเสีย ไม่คิดว่าเผ่าเล็กๆ จะมีจอมปีศาจขึ้นได้ ซ่อนไว้ดีจริงๆ”
“แต่ก็เป็นเพียงเผ่าเล็กๆ ไม่ค่อยมีรากฐาน ไม่งั้นจะถูกบีบให้ต้องใช้อักขระปีศาจได้อย่างไร ทีนี้ก็หมายความว่าพวกเขาดึงดูดความสนใจของผู้อื่น พิภพเขตล่างนั้นจะไม่เป็นของพวกเขาอีกต่อไป”
“อักขระปีศาจนี้สามารถเรียกจอมปีศาจลงไปได้เพียงคนเดียว มาดูกันว่าใครจะสนใจ”
“…”
ขณะที่พวกเขาแลกเปลี่ยนความคิดกัน ก็ไม่มีใครคนไหนต้องการที่จะเคลื่อนไหว ท้ายที่สุดแล้วพิภพเขตล่างแห่งนั้นถูกกองทัพปีศาจโลหิตสูบจนแห้งขอด มูลค่าจึงเหลืออยู่ไม่มาก ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่แน่นอน ไม่มีคนฉลาดที่ไหนเข้าไปหรอก
ขณะที่เหล่านักรบราชันปีศาจพูดคุยกัน รัศมีศพก็แผ่ซ่านไปทั่วมิติ ภาพเงาสีดำบนบัลลังก์กระดูกสีขาวก็ลืมตาโพลง
สายตาของเขาทะลุผ่านช่องทาง มองไปที่พิภพเขตล่างก่อนจะเพ่งไปที่ภาพเงาอ่อนเยาว์พร้อมกับสายตาเย็นชา
“มีรัศมีความตายที่ลูกข้าหลงเหลือไว้บนร่างชายคนนั้น มันจะต้องเป็นคนฆ่าลูกชายของข้าแน่!” ภาพเงาขนาดใหญ่แค้นเสียงก่อนที่จะโบกมือ ฝ่ามือหลุดออกจากท่อนแขนก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นลำแสงยิงเข้าไปในช่องมิติ
เมื่อคนอื่นๆ สังเกตเห็นสิ่งนี้ หัวใจของพวกเขาก็สั่นสะท้านอย่างช่วยไม่ได้
“นั่นคือจอมปีศาจเทียนเฮยซือเผ่าซือหมัว!”
“ทำไมจอมยุทธ์ระดับนั้นถึงเคลื่อนไหว”
เผ่าซือหมัวเป็นหนึ่งในสามสิบสองเผ่าหลักของจักรวรรดิปีศาจต่างมิติ ภาพเงาสีดำนั้นก็คือผู้นำของเผ่าซือหมัวตำแหน่งจอมปีศาจระดับเทียนและเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นหนึ่งในผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของจักรวรรดิปีศาจ
แต่โดยทั่วไปแล้วจอมยุทธ์ระดับนั้นจะไม่ออกตัวอย่างง่ายดาย ดังนั้นนี่ทำให้ทุกคนรู้สึกตกใจในขณะนี้
แม้ว่าจอมปีศาจระดับเทียนจะส่งมือไปยังพิภพเขตล่างเท่านั้น แต่มือของจอมปีศาจระดับเทียนก็ไม่ใช่สิ่งที่จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนทั่วไปจะเทียบได้
“ดูเหมือนว่าจอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนในพิภพเขตล่างนั่นเคยสร้างความขุ่นเคืองให้ท่านผู้นั้น คิๆ ช่างน่าเวทนา…”
ความตั้งใจจางหายไป เมื่อมีการเคลื่อนไหวของจอมปีศาจระดับเทียน จอมยุทธ์ขุมพลังเทียนจื้อจุนแห่งมหาพันภพคนนั้นก็ไม่มีทางรอดชีวิตไปได้แล้ว
ในพิภพเขตล่าง
มู่เฉินมองไปที่ช่องมิติที่เชื่อมโยงกับโลกอื่นด้วยดวงตาหดแคบลง ด้วยความคิดสายหนึ่งคลื่นหลิงไร้ขอบเขตก็ก่อตัวขึ้นเป็นมือขนาดใหญ่ทะยานเข้าไปในช่องทางตั้งใจที่จะทำลายให้สิ้นซาก
ตึง!
สวรรค์และโลกแปรปรวน แต่ช่องทางเพียงสั่นสะท้านไม่ได้แตกออก ทันใดนั้นมู่เฉินก็สัมผัสได้ถึงรัศมีที่ไม่อาจพรรณนาได้ผ่านเข้ามา
รัศมีปกคลุมไปทั่วทั้งโลก ทุกคนตัวสั่นสะท้านภายใต้รัศมีนั่น แม้แต่ฟ้าดินก็ส่งเสียงครางจากแรงกดดัน
“รัศมีนี้…” มู่เฉินหดดวงตา เขาไม่ใช่ไม่คุ้นกับรัศมีประเภทนี้ นี่เป็นสิ่งที่เขาเคยรับรู้ได้จากองค์ชายเผ่าซือหมัว แต่เห็นได้ชัดว่าเจ้าของรัศมีนี้แข็งแกร่งกว่าไม่รู้กี่เท่า
จอมปีศาจโลหิตก็อึ้งไปเช่นกันก่อนที่จะมองไปที่ช่องทางพลางร้องอุทาน “จอมปีศาจเทียนเฮยซือ?!”
แม้ว่าอักขระปีศาจสามารถนำความช่วยเหลือจากเหล่านักรบราชันปีศาจมาให้เขาได้ แต่เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าเขาจะเชิญจอมปีศาจระดับเทียนเข้ามา ต้องรู้ว่าแม้แต่ในจักรวรรดิปีศาจ จอมปีศาจระดับเทียนก็เป็นสุดยอดจอมยุทธ์ โดยทั่วไปบุคคลแบบนี้จะไม่สนการอัญเชิญของเขา
แต่ไม่ว่าเขาจะรู้สึกตกใจแค่ไหน นี่ก็คือความจริง
หลังจากตกตะลึงแล้ว จอมปีศาจโลหิตก็มองไปที่มู่เฉินด้วยความสงสารจากนั้นก็ส่ายหัวทำท่าเยาะเย้ย “แกนี่โชคร้ายจริงๆ…”
ถ้าอีกคนที่เรียกมาเป็นจอมปีศาจธรรมดา มู่เฉินอาจจะรักษาสถานการณ์ให้ไม่แพ้ได้ แต่ใครจะคิดว่าคนที่มาจะเป็นจอมปีศาจระดับเทียนของเผ่าซือหมัว?
มู่เฉินไม่ได้สนใจกับการเยาะเย้ยของอีกฝ่าย ใบหน้าเคร่งเครียดลงหลายส่วน รัศมีความตายพวยพุ่งออกมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เห็นได้ชัดว่าจอมปีศาจระดับเทียนเผ่าซือหมัวกำลังพยายามทำลายปราการของพิภพเขตล่างแห่งนี้เพื่อจะลงมา
เห็นได้ชัดว่าจอมปีศาจระดับเทียนมีพลังที่ไม่อาจจินตนาการได้ แม้ว่าปราการป้องกันของพิภพแห่งนี้จะแข็งแกร่ง แต่ก็แตกสลายลงด้วยความเร็วที่ไม่เคยมีมาก่อน ไม่กี่นาทีต่อมามู่เฉินก็เห็นแสงสีดำปรากฏขึ้นนอกโลก ซึ่งดูคล้ายกับมือ
มือนั้นฉายแสงสีดำก่อนจะค่อยๆ บิดเกลียวกลายเป็นภาพเงา ช่างคล้ายกับเทพปีศาจที่ยืนอยู่นอกโลกใบนี้ สายตาทะลุผ่านสิ่งกีดขวางจับจ้องไปที่มู่เฉินพร้อมกับเสียงดังก้องไปทั่วโลก
“แกคือคนที่ฆ่าลูกชายข้าใช่ไหม?”
มู่เฉินหดดวงตา เข้าใจแล้วว่าทำไมถึงล่อจอมปีศาจระดับเทียนเผ่าซือหมัวลงมา เห็นได้ชัดว่าเพราะเขาฆ่าองค์ชายเผ่านี้ไปคนหนึ่งนั่นเอง!
ก่อนที่ซือเทียนโยวจะตายได้ทิ้งรัศมีไว้บนร่างกายเขา แต่จอมปีศาจระดับเทียนเผ่าซือหมัวไม่สามารถตรวจจับได้เมื่อเขาอยู่ในมหาพันภพ แต่กลับสัมผัสได้เมื่อจอมปีศาจโลหิตทำการเชื่อมโยงไปยังจักรวรรดิปีศาจ
ดวงตาของมู่เฉินหรี่ลงพลางพยักหน้าอย่างนิ่งสงบ
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ ข้าจะปรับแต่งแกให้เป็นหุ่นเชิดเพื่อเป็นเครื่องสังเวยให้กับลูกที่ตายไปของข้า” จอมปีศาจเทียนเฮยซือพูดด้วยน้ำเสียงอาฆาตแค้น
พอได้ยินคำพูดนั่น มู่เฉินก็ยิ้มอ่อน “ข้ากลัวว่าแกจะไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการหรอก”
“โอ้?” จอมปีศาจเทียนเฮยซือยิ้มอย่างเย็นชากวาดมองทั่วพิภพเขตล่างแห่งนี้ “แกคิดว่าการได้เป็นเจ้าพิภพเขตล่างแห่งนี้แล้ว จะสู้กับข้าได้เรอะ?”
“ข้าไม่ได้ผยองขนาดนั้น” มู่เฉินยิ้ม ไม่ว่าเขาจะมั่นใจแค่ไหน เขาก็ไม่คิดว่าตอนนี้จะเผชิญหน้ากับจอมปีศาจระดับเทียนได้ แม้ว่านี่จะเป็นเพียงร่างเสมือนที่สร้างขึ้นจากมือก็ตาม
“แล้วแกจะทำอะไร” จอมปีศาจโลหิตหัวเราะเยาะ
ทว่าจอมปีศาจเทียนเฮยซือกลับขมวดคิ้ว แสงสีดำวูบไหวในดวงตา เขารู้สึกสงสัยกับปฏิกิริยาของมู่เฉิน
“ไม่ว่ายังไง ฆ่ามันให้ได้ก่อน” แสงสีดำในดวงตาของจอมปีศาจเทียนเฮยซือเพิ่มมากขึ้น เขายื่นมือออกมา รัศมีศพที่ไม่มีที่สิ้นสุดกระแทกกับปราการพิภพ พลังที่น่ากลัวทำให้โลกทั้งใบสะท้านขณะที่ผืนฟ้าแตกเป็นเสี่ยงๆ ผืนดินถล่มทลาย…
เผชิญหน้ากับพลังทำลายล้างของจอมปีศาจเทียนเฮยซือ ก็ไม่มีระลอกคลื่นใดๆ บนใบหน้ามู่เฉิน มากจนเขาหลับตาลงปล่อยให้อีกฝ่ายโยกคลอนโลกทั้งใบ
“รอความตายเรอะ?” จอมปีศาจโลหิตเยาะเย้ยพยายามที่จะก่อกวนอารมณ์ของมู่เฉิน เพราะความสงบของอีกฝ่ายทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ
ทว่ามู่เฉินไม่ได้ให้ความสนใจจอมปีศาจโลหิตสักนิด
ตู้ม ตู้ม!
โลกสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง ไป๋ซู่ซู่และจอมยุทธ์มังกรขาวมองไปนอกโลกด้วยความหวาดผวา พวกเขาสามารถมองเห็นรัศมีศพที่น่ากลัวที่พยายามเจาะเข้ามาในขอบเขตของโลก
ภายใต้การโจมตีของจอมปีศาจเทียนเฮยซือ โลกก็ดูเหมือนจะพังทลายในไม่ช้า
ทว่าทันใดนั้นมู่เฉินก็ลืมตาขึ้นพร้อมกับรอยยิ้ม ขณะที่จ้องมองไกลออกไป
จอมปีศาจเทียนเฮยซือขมวดคิ้วเมื่อเห็นรอยยิ้มของมู่เฉิน เขาชี้นิ้วออกไป รัศมีศพไม่มีที่สิ้นสุดรวมตัวกันก่อนที่จะก่อร่างเป็นกะโหลกขนาดหลายแสนจั้ง เปล่งเสียงกรีดร้องโหยหวนก่อนที่จะตกลงมาที่ระนาบมิติ
จากมุมมอง การบดขยี้นี้สามารถฉีกรอยแตกในระนาบมิติได้เลยทีเดียว
แต่เมื่อกะโหลกกำลังจะสัมผัสกับระนาบมิติ เสียงสายฟ้าก็คำรามลั่นฟาดทำลายหัวกะโหลกที่สร้างจากรัศมีศพ
“ใครกล้าท้าทายข้า?!” เมื่อจอมปีศาจเทียนเฮยซือเห็นสิ่งนี้ เขาก็หดดวงตาพลางตะโกนลั่น
มู่เฉินพรูลมหายใจออกมาพร้อมกับคลี่ยิ้ม “ในที่สุดก็มาแล้ว”
มู่เฉินคลายมือออก ผงหินก็ปลิวออกไปจากมือ
ยามนี้มิติฉีกขาดออกจากกัน ทะเลสายฟ้ากวนตัวพร้อมกับร่างเงาสง่าผ่าเผยถือคทาสายฟ้าปรากฏอยู่นอกโลก
จังหวะนั้นเสียงของเขาก็สะท้อนออกมา
“เป็นถึงจอมปีศาจระดับเทียน ถ้าอยากหาคู่ต่อสู้นักก็มาที่แคว้นหวูของข้าสิ ทำไมต้องรังแกพิภพเขตล่างเล็กๆ นี้ด้วย?
“คิดว่าในมหาพันภพไม่มีคนแล้วหรือไง?!”