หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler - บทที่ 931 จุดชนวนสายเลือด
หนึ่งในใต้หล้า 大主宰
บทที่ 931 จุดชนวนสายเลือด
โฮก!!!
เสียงคำรามของมังกรและช้างสะท้อนอยู่ในตำหนักโบราณขณะที่มู่เฉินยืนอยู่บนท้องฟ้า ที่เบื้องหลังสัตว์อสูรขนาดใหญ่สิบตัวบินฉวัดเฉวียนอยู่ในอากาศ มังกรและช้างอย่างละห้าตัวกำจายคลื่นหลิงที่น่าสะพรึงกลัวออกมา
วิทยายุทธระดับเสินซู่ขั้นเกือบเต็ม วิชาเก้ามังกรคชสาร
วิทยายุทธนี้มู่เฉินได้รับจากทวีปซัง แม้ว่าจะเป็นเพียงวิทยายุทธระดับเสินซู่ขั้นเกือบเต็ม แต่ความสามารถที่จะปลดปล่อยออกมาเมื่อประสบความสำเร็จ ไม่ด้อยไปกว่าวิทยายุทธระดับเสินซู่ขั้นเต็มที่แท้จริงเลย
มู่เฉินยืนอยู่บนท้องฟ้า ม่านตาสีดำจ้องมองวังวนลึกล้ำไม่อาจหยั่งรู้ หลังจากการกลั่นมังกรและช้างได้อย่างละห้าตัว เขาก็ไม่ลังเล ฝ่ามือประสานเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็ว สร้างตราประทับวูบไหว
“ทักษะเก้ามังกรคชสาร วงล้อมหากาฬ!”
เสียงลึกต่ำดังก้องในหัวใจของมู่เฉิน ขณะที่มังกรและช้างทั้งหมดปลดปล่อยเสียงคำรามที่อยู่ข้างหลัง จากนั้นริ้วแสงทั้งสิบก็ส่งเสียงหวีดหวิวปะทะกันอย่างหนักหน่วงในอึดใจถัดมา
ฮึ่ม!
ประกายไฟแล่นแปลบปลาบ วงล้อแสงขนาดใหญ่ก่อตัวขึ้นในกลุ่มแสง ขอบของวงล้อถูกปกคลุมไปด้วยลวดลลายของมังกรและช้าง ปลดปล่อยคลื่นหลิงออกมา ทำให้มิติเกิดระลอกคลื่นเป็นวง
“ไป!”
มู่เฉินสะบัดนิ้ว วงล้อมหากาฬก็กลายเป็นลำแสงพุ่งออกไป พริบตาก็ฉีกขาดมิติไปปรากฏอยู่เบื้องหน้าพยัคฆามังกรฟ้าในทันที
ความเร็วและพลังงานของคลื่นหลิง ทำให้แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นหกอย่างเสี่ยยิงยังถึงกับเปลือกตากระตุก เผชิญกับการโจมตีที่รุนแรงเช่นนี้ กระทั่งพวกเขาก็คงไม่กล้าดูถูกเลยทีเดียว
โฮก!
พยัคฆามังกรฟ้ารู้สึกได้ถึงการโจมตีที่ทรงพลังของมู่เฉิน ดวงตาของมันหดลง ฝ่าเท้ากระทืบลงบนพื้น แสงสีแดงระเบิดออกมาจากดวงตาพร้อมกับปากเปิดอ้าขึ้น
คลื่นหลิงป่าเถื่อนรวมตัวกันในปากใหญ่ ก่อร่างเป็นปากเสือดุร้ายขนาดใหญ่อย่างเลือนราง ขณะที่รัศมีร้ายกาจกวาดออกมา
“พยัคฆามังกรฟ้าคำราม!”
เสียงคำรามลึกต่ำดังกึกก้องออกมาจากปากดุร้าย อึดใจต่อมาเสียงคำรามที่น่าอัศจรรย์ก็ระเบิดออกมา ทุกคนก็ต้องตะลึงไป เมื่อเห็นพายุคลื่นเสียงขนาดร้อยจั้งเคลื่อนออกมาจากปากของพยัคฆามังกรฟ้า
ครืน!
คลื่นเสียงยิ่งใหญ่กวาดออกขณะส่งเสียงหวีดหวิว ดูราวกับว่ามีภาพของมังกรและเสือกระโดดสลับไปมา ทำให้เกิดรอยแตกในมิติที่คลื่นเสียงพาดผ่าน
ช่างเป็นการโจมตีที่รุนแรงอย่างยิ่ง!
บึ้ม!
คลื่นเสียงที่ยิงออกมาปะทะกันอย่างหนักกับวงล้อแสง ภายใต้ความสนใจของทุกคน
ในช่วงเวลาที่เกิดการปะทะกัน ก็สร้างเสียงดังขึ้น ผลกระทบรุนแรงกวาดออกไปทั่ว ทำให้รอยแตกปะทุขึ้นบนแผ่นพื้นที่แข็งแรงด้านล่าง
ปัง!
ทั้งสองได้รับผลกระทบจากคลื่นกระแทก ทำเอาร่างกายถึงกับสั่นสะเทือนและกระเด็นออกไป
ร่างมู่เฉินพุ่งชนกับขอบม่านแสง ทำให้เกิดคลื่นกระเพื่อมบนนั้น เขาส่งเสียงครวญครางออกมาจากลำคอก่อนที่มือจะเกาะที่กำแพงแสงทรงตัวเอาไว้ได้ สายตาจ้องเขม็งไปที่เบื้องหน้า เขาเห็นพยัคฆามังกรฟ้าคุกเข่าลงบนพื้น มือเจาะลงบนพื้นที่สลักด้วยอักขระ เกิดรอยทางยาวเหยียดที่เบื้องหน้ามัน
โฮก!
พยัคฆามังกรฟ้าจ้องมาที่มู่เฉินด้วยดวงตาสีแดงฉาน ปลดปล่อยเสียงคำรามลึกออกมาก่อนที่จะถอนมือออกจากพื้น แขนของมันถูกปกคลุมไปด้วยบาดแผล
การปะทะกันกระบวนท่าก่อนหน้า จบลงด้วยการเสมอกัน
ที่ด้านนอกคนที่เฝ้าดูการต่อสู้ดุเดือดก็ฉายท่าทางเคร่งเครียด พวกเขาไม่คิดว่าพยัคฆามังกรฟ้าจะจัดการยากปานนี้ กระทั่งมู่เฉินใช้วิทยายุทธทรงพลังเช่นนี้ก็ทำได้เพียงจบลงด้วยการเสมอกัน
“ความแข็งแกร่งของพยัคฆามังกรฟ้าน่าจะอยู่ในอันดับต้นๆ ของมารอสูร” เหล่าผู้บัญชาการต่างพากันถอนหายใจ อย่างน้อยเมื่อเทียบกับปีศาจวานรเหล็กดำ พยัคฆามังกรฟ้าก็แข็งแกร่งอย่างเห็นได้ชัด
โฮก!
ขณะที่ผู้เฝ้ามองเกิดความคิดนี้ในใจ พยัคฆามังกรฟ้าก็ปลดปล่อยเสียงคำรามน่าตกตะลึง ทุกคนเห็นริ้วแสงสีแดงกระจายออกมาจากร่างกายเป็นระลอกคลื่น
ลำแสงสีแดงอัดแน่นด้วยรัศมีร้ายกาจ
พร้อมกับการปรากฏของแสง ทันใดนั้นทุกคนก็สังเกตเห็นว่าร่างพยัคฆามังกรฟ้าขยายขนาดขึ้นทีละน้อย เกล็ดสีดำบนพื้นผิวก็เข้มขึ้นอีกหลายส่วน
ในเวลาไม่กี่ลมหายใจร่างก็ขยายขนาดเท่าตัว ยืนตระหง่านบนลานประลอง ช่างดูราวกับสัตว์อสูรยุคก่อนประวัติศาสตร์ เขาบนหน้าผากก็ยิ่งดำสนิทยิ่งขึ้น
“นรกล่ะ พยัคฆามังกรฟ้าแข็งแกร่งขึ้น เกิดอะไรขึ้น?!” เมื่อทุกคนสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลง สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที
“มันกำลังจุดชนวนสายเลือดมังกรฟ้าในร่าง” มั่นถัวหลัวพูดออกมาขณะคิ้วอดขมวดเข้าหากันไม่ได้ การจุดชนวนสายเลือดทำได้เฉพาะกับสัตว์อสูรทรงพลังไม่กี่เผ่าพันธุ์เท่านั้น มารอสูรตัวก่อนๆ ไม่มีตัวไหนทำได้เช่นนี้ ไม่คิดว่าพยัคฆามังกรฟ้าจะสามารถทำได้
เมื่อเป็นเช่นนี้ความแข็งแกร่งของมันจะเพิ่มขึ้น ซึ่งนี่นับเป็นข่าวร้ายรุนแรงสำหรับมู่เฉิน
ก่อนหน้ามู่เฉินสามารถต่อกรได้หลังจากใช้กลวิธีหลากหลาย ตอนนี้มันแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม สถานการณ์ไม่ดีสำหรับเขาเลย
ใบหน้าเรียบเฉยของมู่เฉินเกิดระลอกเล็กน้อย เขาสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของพยัคฆามังกรฟ้าเช่นกัน
ตู้ม!
ทว่าพยัคฆามังกรฟ้าไม่ให้เวลาเขาได้ตอบโต้ แสงดุร้ายกะพริบวูบวาบในดวงตา ฝ่าเท้าเหยียบลงโน้มร่างเร่งความเร็วที่น่าสะพรึงกลัวขึ้น แม้จะมีร่างกายขนาดใหญ่โตก็มาปรากฏตัวต่อหน้ามู่เฉินในพริบตา เงาที่เกิดจากร่างมหึมาห่อหุ้มมู่เฉินไว้ภายใน
ฝ่ามือมันตบลงพุ่งไปที่หัวของมู่เฉินพร้อมกับคลื่นหลิงน่าสะพรึงกลัว แม้แต่มิติก็ถูกทำลายลงที่ใต้ฝ่ามือ
มู่เฉินขยับไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว แขนของเขาทำหน้าที่เหมือนโล่ป้องกันฝ่ามือนั้นเอาไว้
ตึง!
เสียงลึกต่ำดังออกมาพร้อมกับร่างมู่เฉินกระเด็นถอยหลังด้วยตบเดียว ทิ้งร่องรอยไว้บนพื้นกว่าพันเมตร จากนั้นเขาก็ตบมือลงบนพื้น แผ่นหินแตกละเอียดก่อนที่เขาจะทรงตัวได้
มู่เฉินขมวดคิ้วแน่น ตอนนี้แขนเสื้อของเขาขาดกระจุย แสงสีทองไหลอยู่ใต้ผิวหนัง ฝ่ามือของพยัคฆามังกรฟ้าสามารถทำลายกระดูกของจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นหกธรรมดาได้ ทว่าด้วยกายามังกรหงส์ฟ้า ความแข็งแกร่งของมู่เฉินไม่ได้ด้อยกว่าร่างกายเทพอสูรแต่อย่างใด แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดรุนแรงจากท่อนแขน
ตู้มมม!
ขณะที่มู่เฉินขมวดคิ้ว สายลมก็พัดปกคลุมขณะที่พยัคฆามังกรฟ้าปลดปล่อยการโจมตีราวกับพายุคลั่งอีกครั้ง
มู่เฉินรีบถอยหนีรวดเร็ว
พยัคฆามังกรฟ้าไล่ตามไม่ลดพร้อมเหวี่ยงหมัดอย่างรุนแรง ทำให้เกิดระลอกคลื่นในมิติ
มู่เฉินเสียเปรียบจากเหตุการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน เมื่อเหล่าผู้บัญชาการเห็นฉากนี้ หัวใจก็อดจะจมดิ่งไม่ได้ หากสิ่งนี้ยังคงดำเนินต่อไป แม้ว่ามู่เฉินจะมีพลังกายที่ทรงประสิทธิภาพ แต่คงไม่สามารถต้านทานการโจมตีจากพยัคฆามังกรฟ้าได้
จิ่วโยวกำหมัดแน่น เนื่องจากรอบของมู่เฉินสำคัญมาก หากเขาแพ้ก็คงลำบากที่มั่นถัวหลัวจะทำลายค่ายกล
ตึง!
ด้วยพลังที่สามารถทำลายภูเขา หมัดนั้นก็ชกลงไปบนแขนของมู่เฉิน ทำให้มิติถึงกับเป็นระลอกคลื่น ขณะที่ร่างของมู่เฉินถูกซัดกลับไปด้านหลัง อึดใจมู่เฉินก็กระแทกฝ่ามือไปบนมิติว่างเปล่า เมื่อเกิดความผันผวนของคลื่นหลิงก็ทรงตัวได้ เขาก้มหัวลงมองแขนตัวเองอีกครั้ง ยามนี้แขนของเขาเต็มไปด้วยบาดแผล เลือดสดไหลออกมาไม่ขาด
“จุดชนวนสายเลือดมังกรฟ้าช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้มันอย่างมาก ซึ่งเป็นผลเพิ่มความเร็ว การป้องกันและพลังงาน…” แววตาของมู่เฉินวูบไหว แม้ว่าเขาจะอยู่ในตำแหน่งเสียเปรียบ แต่เขาก็ไม่มีคลื่นอารมณ์ใดในหัวใจ เนื่องจากการใช้สภาวะทัยปีศาจขั้นต้น ในทางตรงกันข้ามเขากลับประเมินการเปลี่ยนแปลงของความแข็งแกร่งพยัคฆามังกรฟ้าได้อย่างตลอดเวลา
“พยัคฆามังกรฟ้าที่อยู่ในสถานะนี้ โอกาสที่ข้าจะชนะนั้นต่ำมาก…”
“แต่ก็จะมีผลสะท้อนกลับจากการจุดชนวนสายเลือด เมื่อสายเลือดถูกเร้าพลังมาใช้จนหมด มันก็จะอยู่ในสภาวะอ่อนแอ”
“ข้าไม่สามารถรอจนกว่ามันจะเร้าพลังสายเลือดอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นข้าต้องเพิ่มอัตราความเร็วในการจุดชนวน”
“แต่จะเพิ่มอัตราความเร็วของการจุดชนวนสายเลือดได้ยังไง?”
“…”
ม่านตาสีดำของมู่เฉินราวกับกำลังหมุนครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว ขณะที่ประกายแสงแล่นพล่านอยู่ในหัวใจ… ในที่สุดเขาก็หดดวงตาลง
ตู้ม!
การปะทะกันเกิดอีกครั้ง ร่างมู่เฉินถลาไปอย่างหนักชนกับกำแพงแสง แต่เขาไม่ได้สนใจอาการที่เป็น ทันใดนั้นเขาก็วาดตราประทับลึกลับโบราณขึ้นมาทันที
ตู้มมม!
คลื่นหลิงไร้ขีดจำกัดกวาดออกมาราวกับพายุจากร่างของมู่เฉินพร้อมกับเปลวไฟสีทองกะพริบผ่านม่านตาสีดำ อึดใจต่อมาแสงสีดำก็พุ่งออกจากหัวของมู่เฉิน
แสงขยายตัว ในช่วงเวลาสั้นๆ ก็มีขนาดหลายพันจั้ง ทุกคนที่อยู่ด้านนอกอดหดดวงตาไม่ได้เมื่อเห็นสิ่งนี้
นี่เป็นเจดีย์สีดำที่มีมังกรโบราณสลักอยู่รอบด้าน มิหนำซ้ำการปรากฏของเจดีย์สีดำยังทำให้เกิดระลอกคลื่นโดดเดี่ยวและโบราณแผ่ขยายออกไป
นี่ก็คือเจดีย์ฝูถู
ตราประทับของมู่เฉินเปลี่ยนไป เจดีย์ฝูถูก็พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ก่อนที่จะบีบอัดลงมาราวกับสายฟ้าฟาด ทันใดนั้นก็ตรงเข้าล้อมร่างพยัคฆามังกรฟ้า อึดใจต่อมามังกรหลายสิบตัวก็บินออกจากพื้นผิวของเจดีย์ กลายเป็นเพลิงสีทองพุ่งเข้าไปในเจดีย์ ปกคลุมร่างพยัคฆามังกรฟ้าเอาไว้
ทว่าคราวนี้เพลิงสีทองไม่ได้ทำการโจมตีใดๆ กลับกลายเป็นเปลวไฟลุกโชติช่วงไหลเข้าไปในร่างของพยัคฆามังกรฟ้าผ่านทางรูจมูก
โฮก!
ดวงตาของพยัคฆามังกรฟ้าเปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน สายเลือดมังกรฟ้าในร่างกายได้รับการจุดชนวนอย่างสมบูรณ์พร้อมกับคลื่นหลิงที่น่าสะพรึงกลัวระเบิดออกมา
สัมผัสได้ถึงคลื่นหลิงผันผวน สีหน้าของเหล่าผู้บัญชาการก็เปลี่ยนไป กระทั่งซิวหลัวยังต้องหดตาลง เพราะเขายังยากในการจัดการความผันผวนรุนแรงนี้
มู่เฉินกำลังทำอะไร? ทำไมความแข็งแกร่งของพยัคฆามังกรฟ้าถึงเพิ่มขึ้นฉับพลัน?
เหล่าผู้บัญชาการแลกเปลี่ยนสายตา เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่เข้าใจเหตุผลของมู่เฉิน มีเพียงมั่นถัวหลัวที่อึ้งไปชั่วแวบหนึ่ง ก่อนที่ม่านตาสีทองคำจะเปล่งประกายแวววาว
“เขาคิดแบบนี้ได้… แต่ทั้งหมดก็ต้องขอบคุณเจดีย์ เพลิงที่สร้างจากสัญลักษณ์มังกรฟ้ามีความคล้ายคลึงกับพยัคฆามังกรฟ้า ดังนั้นจึงสามารถจุดชนวนสายเลือดของอีกฝ่ายได้…”
มั่นถัวหลัวเลื่อนสายตาไปยังเจดีย์ฝูถู คิ้วก็ขมวดมุ่น จากนั้นสีหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม
เจดีย์นั้นดูคุ้นตา… รู้สึกจะคล้ายกับเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าฝูถู…
แต่ทำไมมู่เฉินถึงครอบครองเจดีย์นั่น? นี่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเผ่าฝูถูนะ หรือว่าเขาจะเป็นสมาชิกเผ่านี้?!