The Great Worm Lich - ตอนที่ 136
“แมดดี้ 2 คนนี้เป็นเพื่อนร่วมชั้นของลูกงั้นเหรอ? สวัสดีจ๊ะ น้าชื่อคลอร์ริส แม่ของแมดดี้เขานะจ้ะ ขอบคุณสำหรับความห่วงใยของพวกหนูด้วยนะ พ่อแมดดี้เขาพยายามอย่างที่สุดแล้วพวกเราเองก็เช่นกัน พวกหนูไม่…ไม่ต้อง….” ขณะที่ลูกสาวของเธอกำลังงุนงง แม่ของแมดดี้ก็ยิ้มให้กับจางลี่เฉินและจอร์จก่อนจะทักทายพวกเขาด้วยเสียงอ่อนโยน แต่ยังไม่ทันพูดได้จนจบประโยคดีเธอก็ร้องไห้ขึ้นมา
“แม่! อย่าเป็นอย่างนี้สิ! ที่นี่โรงพยาบาลนะ! ถ้าพ่อออกมาจากห้องพบหมอเมื่อไหร่เขาจะต้องเสียใจในภายหลังแน่ที่เห็นแม่เป็นแบบนี้!” ภายใต้การโน้มนาวของแมดดี้ แม่ของเธอจึงรีบเช็ดน้ำตาออกอย่างเร่งรีบและเผยรอยยิ้มขึ้นมาอีกครั้ง จากนั้นหญิงสาวก็หันมาให้ความสนใจกับจางลี่เฉิน “ลี่เฉิน ขอบคุณที่คุณมา แต่ที่นี่คือด้านในของโรงพยาบาล เราออกไปพูดคุยกันข้างนอกจะดีกว่า”
ชายหนุ่มพยักหน้าและยิ้มอย่างสุภาพให้กับแม่ของแมดดี้ก่อนจะเดินออกจากโรงพยาบาลส่วนตัวขนาดเล็กไปพร้อมกับหญิงสาว
“บรรยากาศภายในโรงพยาบาลของที่นี่ดูแปลก ๆ นะว่าไหม เห็นได้ชัดว่ามันน่าหดหู่แต่ทุกคนกลับยิ้มแย้มกันทั้งนั้น ทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะ?” จางลี่เฉินเอ่ยถามทันทีหลังพวกเขาเดินพ้นจากประตูมา
“คุณหมอคาสแซนดราสนับสนุนเรื่องการใช้ทัศนคติเชิงบวกในการรักษาน่ะ เขามักจะพูดอยู่ตลอดว่าเสียงหัวเราะอันไพเราะตลอดทั้งวันจะมีผลเช่นเดียวกันกับการทำเคมีบำบัด 1 ครั้ง…”
“หมอส่วนใหญ่ก็คิดแบบนั้นนะ ตราบใดที่คน ๆ นั้นมองโลกในแง่ดี ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายมนุษย์จะสามารถรับมือกับโรคใด ๆ ได้ทั้งหมด ฉันเคยได้ยินมาหลายครั้งผู้ป่วยหนัก ๆ จะหายขาดไปเองตามธรรมชาติ…”
“จอร์จ ถ้าเสียงหัวเราะสามารถรักษาโรคได้จริงแชปลินคงไม่เสียชีวิตไปตั้งแต่แรกหรอก แมดดี้ ผมบอกให้คุณไปถามหมอว่ามีวิธีการทางวิทยาศาสตร์อื่น ๆ ที่ดีกว่าที่โรงพยาบาลต้องใช้ในการรักษาอาการป่วยของพ่อคุณหรือเปล่าไม่ใช่หรือไง?”
“ฉันลองไปถามพยาบาลดูแล้ว เธอบอกว่ามีศูนย์การแพทย์ในเบลเยียมที่พัฒนาวิธีการรักษาใหม่ล่าสุดสำหรับโรคมะเร็งกระเพาะอาหารระยะกลาง ตามข้อมูลการรักษา มันค่อนข้างมีประสิทธิภาพมาก…”
“แล้วทำไมคุณไม่โทรกลับมาหาผม?”
“ก็มันตั้ง 500,000 ดอลลาร์เลยนี่! พยาบาลคนนั้นบอกว่าค่าใช้จ่ายโดยประมาณของการรักษาทั้งหมดอย่างน้อย ๆ ก็ประมาณ 500,000 ดอลลาร์…” แมดดี้รู้สึกอ่อนแรงและเอนตัวพิงกำแพงขณะที่เธอพึมพำ
สำหรับบางคน 500,000 ดอลลาร์อาจเป็นเพียงไม่กี่ชิปในคาสิโน แต่สำหรับคนส่วนใหญ่มันเป็นเงินจำนวนมหาศาลจริง ๆ
สำหรับคนอเมริกันชนชั้นกลางโดยเฉลี่ยที่ไม่ได้มีมรดกสือบทอดอะไรจากบรรพบุรุษ การออมเงินได้ถึง 500,000 ดอลลาร์อาจกล่าวได้ว่าเป็นความฝันที่ยากจะได้มันมาสำหรับพวกเขา
“500,000 ดอลลาร์? อืม เป็นเงินที่ไม่น้อยเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามเนื่องจากคุณเป็น ‘ผู้รับใช้ของผม’ ตามธรรมเนียมแล้ว…” จางลี่เฉินพูดพึมพำอย่างจริงจังก่อนจะเขียนเช็คและใส่ลงไปในมือของแมดดี้ “ส่งตัวพ่อของคุณไปเบลเยี่ยมซะ การรักษามะเร็งด้วยการหัวเราะไม่ได้น่าเชื่อถือสักเท่าไหร่”
แมดดี้จ้องมองเช็คในมือที่เขียนด้วยเลข 5 นำหน้าและตามมาด้วยเลข 0 ต่อกันอีก 5 ตัวด้วยความงุนงง หลังจากหายตกใจจนพูดไม่ออกแล้วเธอก็พึมพำถามกลับไปว่า “ทำไม … ทำไมคุณถึงทำดีกับฉันมากขนาดนี้? ถ้าคุณชอบฉัน เงิน 50,000 ดอลลาร์ในตอนนั้นคุณก็สามารถ … และยิ่งไปกว่านั้นนี่คุณกำลังปฏิบัติต่อฉันแบบคนใช้อยู่จริง ๆ หรืออะไรกันแน่”
“ใช่แล้ว! เพราะคุณคือคนใช้ที่ผมควรช่วยเหลือเมื่อรู้ว่าสมาชิกในครอบครัวของคุณป่วยหนัก เอาล่ะ ผมได้ทำในสิ่งที่ผมทำได้แล้ว หวังว่าพ่อของคุณจะหายดี จอร์จกับผมจะ…”
คำพูดของจางลี่เฉินขาดหายไปเพราะจู่ ๆ แมดดี้ก็โน้มหน้ามาจูบเขาอย่างอ่อนโยน
“ขอบคุณค่ะ ขอบคุณมาก!” จูบนี้เต็มไปด้วยความรักและความรู้สึกขอบคุณอย่างสุดซึ้ง แมดดี้เดินจากชายหนุ่มที่กำลังหน้าแดงหลังจากผ่านไปไม่นาน เธอหันกลับมามองจางลี่เฉินด้วยสายตาที่ยากจะอธิบายได้อีกครั้งก่อนจะผลักประตูและวิ่งเข้าไปข้างในโรงพยาบาล
เมื่อหญิงสาวจากไป จางลี่เฉินยังคงยืนนิ่งและยังไม่หายตกใจไปอีกสักพักหนึ่ง จอร์จที่อยู่ข้าง ๆ เขาจึงแกล้งหยอกล้อไปว่า “500,000 ดอลลาร์เพื่อแลกกับการจูบที่น่าหลงใหล จูบมูลค่า 500,000 ดอลลาร์เป็นยังไงบ้างล่ะเพื่อน?”
“บ้าเอ้ย! ทำไม ทำไมแมดดี้ถึงทำแบบนี้ด้วย? ฉันแค่ทำในสิ่งที่คนจีนคิดว่าเหมาะ และ … และ …”
“โอ้ แค่นั้นก็พอแล้วเพื่อน! ทำไมนายต้องมาอธิบายอะไรกับฉันด้วยล่ะ? ฉันไม่ใช่แฟนสาวสุดฮ็อตหรือผู้ปกครองของแมดดี้สักหน่อย นอกจากนี้ พวกนาย 2 คนได้เริ่มเกม“ ผู้รับใช้และเจ้านาย” กันแล้ว เพราะงั้นมันก็ไม่ใช่การจูบที่มากเกินไปอะไร อย่างไรก็ตาม ถ้าจะให้พูดกันอย่างตรงไปตรงมา ความเร็วในการสร้างเงินของนายนั้นสุดยอดมาก! นายที่เพิ่งจะทำงานพาร์ทไทม์กับฉันเมื่อ 2 – 3 เดือนก่อนแต่ตอนนี้กลับเซ็นเช็คมูลค่า 500,000 ดอลลาร์ให้กับคนอื่นได้อย่างง่ายดาย! นายมีแผนที่จะช่วยฉันบ้างไหม? แค่นายเซ็นให้ฉัน 100,000 ทั้งร่างกายและอิสระภาพของฉันก็จะเป็นของนายไปในทันที!”
จากนั้นจอร์จก็โพสท่าที่ชวนเย้ายวนใจและแสนเซ็กซี่
“พอแล้วจอร์จ! มันน่าขนลุก นั่นคือเงินทั้งหมดที่ฉันมีในบัญชี หากฉันต้องการมีเงินมากกว่านี้ฉันต้องเริ่มธุรกิจโรงฆ่าสัตว์อย่างเป็นทางการเมื่อการขยายตัวเสร็จสิ้น”
“ฉันเคยได้ยินว่านายเปิดโรงฆ่าสัตว์แต่ฉันไม่เคยไปที่นั่นมาก่อน พอมาได้เห็นการใช้เงินของนายก็ชักจะอยากรู้แล้วสิว่าขนาดโรงฆ่าสัตว์ของนายนั้น….”
“นายสามารถไปได้ทุกเมื่อในอนาคตถ้านายต้องการ แต่ยังไม่ใช่วันนี้ ฉันไม่ได้วางแผนที่จะออกเดินทางจากนิวยอร์กในช่วงเวลาที่แพทย์สั่งพักรักษาตัวหรอกนะ” จางลี่เฉินกล่าวอย่างระมัดระวัง
“เพราะนายไม่ควรใช้สมองมากเกินไปสินะ ก็ได้ลี่เฉิน! แน่นอนว่านายควรฟังคำพูดของหมอ แต่มีสิ่งหนึ่งที่น่าตลกอยู่อย่าง ในฐานะกบฏของโลว์บิจมันมีข่าวลือภายในโรงเรียนว่านายเป็นอัมพาตและนอนติดอยู่บนเตียง น้ำลายไหลออกจากปากของนายอยู่ตลอด…”
“เดี๋ยวก่อนนะจอร์จ! ฉันไปเป็นกบฏของโรงเรียนตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?!”
“ตอนนี้ไง เพราะทุกคนรู้ว่านายได้ไปล่องเรือปาร์ตี้ของสาว ๆ ฟอร์ดแฮมจนเรือนายเกิดอับปาง ด้วยเหตุนี้นายจึงกลายเป็นกบฏของโลว์บิจ จูเนียร์ ไฮ! แต่ไม่ต้องไปคิดมากหรอกนะ ป้ายประกาศกบฏของนายมีคำพูดระบุไว้ว่า ‘มีเพียงผู้ชายที่ไม่บริสุทธิ์อีกต่อไปแล้วเท่านั้นที่ได้เป็นผู้ชายที่ดี’ …”
จอร์จพูดเสียงดังอย่างอิจฉา
หลังจากนั้น ตั้งแต่ครึ่งวันจนกระทั่งเขากลับบ้านไปในตอนกลางคืน จางลี่เฉินได้ฟังแต่การวิเคราะห์อย่างไม่มีที่สิ้นสุดของจอร์จว่าจางลี่เฉินไปสร้างท่าทีลึกซึ้งกับหญิงสาวของโลว์บิจ จูเนียร์ ไฮได้อย่างไร
หลายวันถัดมาชายหนุ่มยังคงทำตัวว่างเปล่านอนอยู่บ้านเฉย ๆ เช่นเคยจนกระทั่งวันหยุดที่แพทย์สั่งของเขาจบลงในที่สุด เขากลับมาใช้ชีวิตตามปกติอีกครั้ง
หลังจากได้กลับมาเริ่มเรียนต่อ มันเป็นความตึงเครียดในระยะสั้น ๆ กับการสอบประจำปีของโรงเรียน สิ่งนี้ดำเนินไปจนถึงต้นเดือนกรกฎาคมและในที่สุดจางลี่เฉินผู้กลับมาศึกษาต่ออีกเกือบ 2 สัปดาห์ก็ได้ต้อนรับวันหยุดฤดูร้อนครั้งแรกของเขาในอเมริกา
ในวันสุดท้ายของการเรียน ทุกคนในโรงเรียนต่างจมอยู่กับบรรยากาศที่สนุกสนาน
“ลี่เฉิน! ในที่สุดพวกเราก็เป็นอิสระกันสักที! ตลอด 3 เดือนหน้า…” จอร์จส่งเสียงดังขณะเดินอุ้มหนังสือของเขาไว้เหนือหัวเพื่อบังแดด
“จอร์จ เกรดของนายในตอนนี้มันยังไม่พอ ถ้าฉันเป็นนายฉันจะไปหาที่เรียนนช่วงวันหยุดฤดูร้อนแทนที่จะกระโดดโลดเต้นไปมาแล้วบอกว่า ‘เป็นอิสระ’ แบบนั้น”
“นายนี่มันตัวขัดความสุขจริง ๆ นะเพื่อนรัก! นายที่กำลังจะได้ไปฮาวายสำหรับวันหยุดพักผ่อนแต่กลับบอกให้เพื่อนสนิทตัวเองไปหาที่เรียนพิเศษ! ใช่แล้ว เที่ยวบินของนายเมื่อไหร่กันล่ะ? ไม่รอให้ฉันเก็บเงินสักเดือนแล้วค่อยไปพร้อมกับนายหน่อยหรอ?”
พวกเขาเดินมาถึงถนนด้านนอกโรงเรียนขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกัน จางลี่เฉินเปิดประตูรถของเขาแล้วหัวเราะเบา ๆ “ไว้ไปฮาวายพร้อมกับฮันนาห์เอาเถอะ ฉันไม่อยากอยู่ขัดความสุขของพวกนาย ตอนนี้อากาศร้อนมาก ขึ้นรถมาสิ เดี๋ยวฉันไปส่งนายที่ร้านเนื้อเอง”
“ช่างเถอะเพื่อน ฉันจะไม่ถูกแสงแดดแผดเผาแน่นอนเพราะฉันจะขี่จักรยานอยู่แต่ใต้ร่มไม้ นายต้องไปไคเซอร์แลนด์ทาวน์พื่อเจรจากับผู้ประกอบการฟาร์มใช่ไหม? ไปเถอะ ไม่ต้องมาเสียเวลากับฉันก็ได้!”
“ก็ได้ งั้นฉันไปก่อนล่ะ” เมื่อได้ยินคำพูดของจอร์จ จางลี่เฉินก็ไม่ลังเลอีกต่อไป เขาโบกมือลาเพื่อนสนิทและขับรถออกจากนิวยอร์กไปในทันที
40 นาทีต่อมาเขาก็มาถึงถนนที่กว้างขวางในเขตชานเมืองของนิวยอร์ก หลังจากนั้นไม่นานปั้นจั่นขนาดใหญ่จำนวนมากที่ตั้งอยู่ในระยะไกลก็เด่นชัดเข้ามาในสายตา มันเป็นสถานที่ก่อสร้างสำหรับท่าเรือนิวยอร์ก ละไม่ไกลจากที่นี่เป็นโรงงานสีขาว นั่นเป็นขั้นตอนแรกที่เสร็จสมบูรณ์ของโรงฆ่าสัตว์ LS
หลังจากขับรถไปอีกซักพักจางลี่เฉินก็ขับรถของเขาไปยังเส้นทางหลวงก่อนจะตรงไปอีก 10 นาที จากนั้นเมืองที่สะอาดและเป็นระเบียบก็ปรากฏขึ้นต่อหน้า
เอกซ์พลอเลอร์ที่มีป้ายทะเบียนคุ้นเคยซึ่งขับรถเข้าไปในไคเซอร์แลนด์ทาวน์มักจะดึงดูดความสนใจของชาวเมืองอยู่ตลอด อย่างไรก็ตามเมื่อจางลี่เฉินลงจากรถมาไม่มีใครต้อนรับเขาเลยสักคน
ทัศนคติที่ตรงไปตรงมาของชาวเมืองไม่ได้กระตุ้นความไม่พอใจของจางลี่เฉินแต่อย่างใด เขาจอดรถของเขาไว้ข้างนอกโรงเหล้าบลูเบอร์รี่และพยักหน้าให้ทุกคนที่เขาเจอด้วยรอยยิ้ม ด้วยก้าวยาว ๆ เขามาถึงที่กระท่อมของนายกเทศมนตรีโฮเวิร์ด
ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง
หลังจากเคาะประตูอยู่ 2 – 3 ครั้งและผลักประตูเปิดเพื่อเข้าไปในบ้าน และเป็นไปอย่างที่จางลี่เฉินคิดจริง ๆ ภายในบ้านไม้เต็มไปด้วยชายวัยกลางคนและชายชราที่สวมชุดยีนส์ เมื่อพวกเขาเห็นชายหนุ่มเข้ามาพวกเขาก็จ้องมองมาที่เขาในทันที
มีเพียงโฮเวิร์ดเท่านั้นที่ลุกขึ้นยืนตามปกติและยื่นมือออกมาต้อนรับลี่เฉิน “ลี่เฉิน เธอมาแล้วงั้นเหรอ! หวังว่าเธอคงยังไม่ได้ทานอาหารกลางวันมาหรอกนะ ฉันได้เตรียมเนื้อซี่โครงของมัตสึซากะญี่ปุ่นที่ได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีในฟาร์มไว้ให้เรียบร้อยแล้ว มันอร่อยมาก!”
“อย่างนั้นเองหรอกเหรอครับ? ท่านนายกโฮเวิร์ด! น่าประหลาดใจจริง ๆ ผมคิดว่าคุณต้องการต่อว่าผมเรื่องการทำให้คุณเสียเงินและปิดโรงฆ่าสัตว์ LS ซะอีก ไม่คิดว่าคุณจะเป็นคนใจกว้างมากขนาดนี้มาก่อน คุณไม่เพียงเชิญผมมาเป็นแขกของคุณเท่านั้นแต่คุณยังเตรียมสเต็กเนื้อมัตสึซากะให้ผมไว้อีก”
“พอแล้วชายหนุ่ม ฉันรู้ว่าบางสิ่งที่ฉันทำในอดีตอาจทำให้เธอไม่พอใจ แต่ฉันก็เติบโตขึ้นมาในเมืองแห่งการทำนาและนอกเมืองนิวยอร์กนี้ สิ่งแรกที่ฉันเรียนรู้ตั้งแต่การเรียนประถมคือเมืองเล็ก ๆ อย่างเราจะต้องรวมตัวกันเพื่อความอยู่รอด…”
“ท่านนายกโฮเวิร์ด ความจริงที่ว่าคุณและเกษตรกรทุกคนที่อยู่นอกเมืองนิวยอร์กมารวมตัวกันเพื่อเรียกร้องราคาที่ต่ำกว่าจากราคาที่ยุติธรรมในตอนแรกนั้นไม่ใช่เพื่อความอยู่รอดของเมือง ยิ่งไปกว่านั้นคนที่คุณติดต่อด้วยยังเป็นหนึ่งในกรรมการของสหภาพเกษตรกรแห่งชาติของไคเซอร์แลนด์ทาวน์ ผมคิดว่าพวกคุณทุกคนอาจจะยังรวมตัวกันต่อหากไม่มีคำสั่งสังจากทางสหภาพเกษตรกรแคลิฟอร์เนีย แม้ว่าทั้ง 2 ฝ่ายของเราจะต้องทนทุกข์อยู่กับความสูญเสียครั้งใหญ่ แต่คุณยังต้องการละทิ้งสิ่งที่ถูกต้องอีกครั้งและบังคับราคาที่ผมเสนอให้ต่ำกว่าเดิมอย่าน่าขัน คุณไม่คิดแบบนั้นเหรอครับ?”