The Great Worm Lich - ตอนที่ 153
เลือดภายในตัวจางลี่เฉินที่ถูกเย้าหยอกโดยหญิงสาวเริ่มเดือดพล่าน หลังจากปิดประตูอย่างเบามือและกำลังเคลื่อนตัวกลับเข้ามาด้านในทันใดนั้นทีน่าก็เข้าไปสัมผัสบางสิ่งที่แข็งตัวของเขาก่อนจะลงไปนั่งคุกเข่าเพื่อดึงกางเกงขาสั้นของชายหนุ่มลง
หลังจากนั้นหญิงสาวก็ถอดชุดชั้นในแสนบางของตัวเองออกเผยให้เห็นหน้าอกขาวเนียนทั้ง 2 ข้าง เธอเงยหน้าเพื่อสบตากับจางลี่เฉินก่อนจะใช้หน้าอกของตัวเองโอบอุ้มแก่นกายของชายหนุ่ม
“โอ้ … โอ้ …” ภายในเวลาไม่ถึงนาทีจางลี่เฉินได้ตกหลุมรักไปกับหน้าอก ริมฝีปาก และลิ้นของทีน่าโดยไม่รู้ตัว เขาค่อย ๆ เดินกลับไปที่เตียงแล้วเพลิดเพลินกับการเอาใจใส่ที่ดูจะเป็นพิเศษของหญิงสาว ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง แอลกอฮอล์และเซ็กส์ต่างก็เป็นยาที่มีประสิทธิภาพในการบรรเทาความเครียดอีกทั้งยังควบคุมร่างกายและจิตใจมาตั้งแต่สมัยโบราณ
หลังผ่านค่ำคืนที่แสนเร่าร้อนตลอดคืน แสงอาทิตย์ยามเช้าของมหาสมุทรแปซิฟิกก็ได้ส่องประกายลงบนเจ้าหญิงแมนฮัตตัน ทีน่าที่กำลังเปลือยเปล่ากระพริบตาขณะตื่นนอน การแสดงออกของเธอผ่อนคลายกว่าเมื่อคืนนี้มาก เธอใช้มือขวาเท้าคางขณะมองชายหนุ่มผอมแห้งที่อยู่ข้าง ๆ ด้วยท่าทางมีความสุข
เพราะการจ้องมองของเธอจึงทำให้จางลี่เฉินค่อย ๆ รู้สึกตัวตื่น เขาลืมตาพร้อมหันไปมองหญิงสาวที่กำลังส่งยิ้มหวานมาให้ ในขณะที่เขากำลังจะกล่าวทักทายเธอตอนเช้าทันใดนั้นเขาก็เปลี่ยนกลับมาขึ้นคร่อมบนตัวทีน่าอีกครั้งแทน
“อย่าเสียเวลามอบของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ ในตอนเช้าให้ฉันสิ” หญิงสาวหยอกล้อพลางเล่นกับของ ๆ ชายหนุ่มที่มักจะแข็งตัวในยามเช้า “โอ้ที่รัก! โอ้…”
ทันใดนั้นเสียงลมหายใจของชายหนุ่มก็ค่อย ๆ หนักขึ้นและเสียงร้องครวญครางของหญิงสาวก็ดังก้องภายในห้องโดยสารอีกครั้ง
ชีล่าที่ลุกออกจากเตียงมาตั้งนานแล้วพร้อมบิกินี่สีชมพู ร่างกายของเธอเต็มไปด้วยครีมกันแดดและกำลังนอนอยู่บนเก้าอี้ชายหาดที่ชั้นบนสุด เธอสามารถได้ยินเสียงร้องจาง ๆ ดังมาจากห้องนอนของจางลี่เฉินได้ ทันใดนั้นเธอก็ตะโกนเสียงดังด้วยความรำคาญ “เฮ้! มันกำลังเริ่มต้นอีกครั้งแล้ว! ทริช! เธอได้ยินเสียงการออกกำลังกายยามเช้าของทีน่าที่กำลังอยู่กับ ‘ที่รักตัวน้อย’ ของเธอไหม? แค่ตลอดคืนที่ผ่านมาพวกนั้นยังไม่พอใจอีกหรือไงกัน และสิ่งที่น่ารำคาญที่สุดคือพวกเขาปิดประตูไม่สนิท!”
“ชีล่า ฉันและทีน่าเองก็ต้องต้องอดทนกับความเชื่องช้าของเธอในทุกเช้าเนื่องจากการออกกำลังกายยามเช้าของเธอในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาเช่นกันนะ” ทริชหัวเราะไปกับเสียงบ่นจากเพื่อนสนิทขณะถือแซนด์วิชไข่และแฮม 2 ชุดไว้ในมือขณะเดินขึ้นไปบนดาดฟ้าโดยใช้บันไดวน “เราไม่ควรบ่นซึ่งกันและกัน…”
“ปัญหาคือมีแค่ทีน่าเท่านั้นที่มีคู่อยู่ในตอนนี้ อะพูริที่น่าสงสารของฉันจากไปแล้วเมื่อคืน และแม้ว่าฉันจะรู้จักเขาแค่ 3 วันแต่ฉันก็ยังหวังว่าพระเจ้าจะทรงอวยพรให้กับวิญญาณของเขา … ”
“ชีล่า ฉันคิดว่าพวกเราตกลงกันไว้แล้วนะว่าจะไม่พูดถึงเรื่องเมื่อคืนนี้กันอีก” ภาพความเจ็บปวดและความน่าสะพรึงกลัวแสดงออกอย่างชัดเจนทั่วใบหน้าของทริชขณะที่เธอส่งอาหารเช้าให้เพื่อนสนิท “แซนด์วิชไข่และแฮม เธอก็รู้ว่าฉันทำได้แค่นี้”
“โอ้ ที่รัก ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะพูดถึงเรื่องเมื่อคืนนี้เลย โอเค ๆ ลืมเรื่องพวกนั้นไปซะเถอะ แซนวิชไข่และแฮมที่เธอทำนี่อร่อยมากจริง ๆ! แม้จะเป็นของง่าย ๆ แต่ก็อร่อย … ” ชีล่าที่เริ่มทานอาหารเช้าทันใดนั้นเธอก็เห็นทีน่ากำลังเดินขึ้นมาบนดาดฟ้าพร้อมกับแก้มแดง ๆ เข้าพอดีจึงโบกมือทักทายเพื่อสนิทของเธอ “เฮ้ ดูนี่สิ! หญิงสาวที่มีความสุขไปกับ “การออกกำลังกายตอนเช้า” ของเธอไงล่ะ! เจ้าชายเสน่ห์ของฉันอยู่ที่ไหนกันนะ โอ้ ที่รักของฉัน”
“หยุดน่า ตอนนี้เขากำลังไปทำอาหารเช้าอยู่” ทีน่ายิ้มพลางรีบเดินไปหาเพื่อนสนิท “เลิกกินแซนด์วิชไข่และแฮมของพวกเธอนี่ซะ ลี่เฉินเขาจะเตรียมของที่ทำให้พวกเราต้องประหลาดใจให้แทน”
“โอ้ ฉันหวังว่าพวกเราจะไม่ต้องกลายเป็นสัตว์ร้ายที่อยู่รอบตัวเขาหลังจากกินอาหารที่เขาทำไปหรอกนะ”
“ชีล่า…” ทีน่าพูดเตือนด้วยสีหน้าจริงจัง
“เฮ้ทีน่า! เธอกำลังเข้าใจผิดแล้วนะ ฉันหมายความว่าฉันยินดีที่จะกลายเป็นสัตว์ประหลาดหลังจากได้เกินอาหารที่เขาเตรียมไว้ให้เป็นการส่วนตัวนี่ต่างหาก … ” เมื่อคำพูดที่ไม่ทันคิดของชีล่าออกจากปากเธอไปอีกครั้งการแสดงออกที่หลากหลายก็วิ่งผ่านใบหน้าของเธอทันที เธอเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเผยความลับบางอย่าง “เห้อ ที่รัก ฉันขอโทษ ฉันคิดว่าบางทีฉันอาจเผลอไปชอบลี่เฉินแฟนของเธอเข้าให้แล้ว”
“อย่ามาตลกน่าชีล่า ฉันรู้ว่าเขาไม่ใช่แบบที่เธอชอบเลยสักนิด! เขาทั้งเตี้ยและผอมเกินไป แต่อย่างไรก็ตามเขาคือลูกผู้ชายตัวจริง!” ทีน่าคิดว่าเพื่อนสนิทของเธอกำลังแกล้งแหย่ดังนั้นเธอจึงโต้กลับไปด้วยความรำคาญเล็กน้อย “ทั้งเธอและทริชต่างก็เป็นเพื่อนสนิทที่สุดของฉันดังนั้นฉันหวังว่าพวกเธอจะไม่เล่นมุขอะไรตลก ๆ เกี่ยวกับเขาแบบนี้อีก”
“ถ้าอย่างนั้นเขาเป็นแบบที่เธอเคยชอบมาก่อนหน้านี้ไหม?” ชีล่ากระซิบถาม
ทีน่าหยุดนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนอ้าปากค้าง จากนั้นเธอที่เริ่มรู้สึกอึดอัดขึ้นเล็กน้อยจึงพูดออกไปว่า “ชีล่า! เธอรู้ไหมว่าตัวเองกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่?!”
“แน่นอนสิว่าฉันรู้ มันก็แค่กฎของธรรมชาติเองน่า! ผู้ชายที่ทั้งทรงพลัง ลึกลับ โดดเด่นและมีน้ำใจสามารถเอาชนะความชื่นชมจากผู้หญิงทุกคนได้เป็นอย่างดี เธอทั้งกลัวเขา หลงเขา และรู้สึกว่าเขานั้นแสนเท่แต่ก็มีอารมณ์ร้ายเป็นบางครั้ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเขาก็ยังอ่อนโยนและน่ารัก … ”
“ชีล่า ซี บีเยียด! คนที่เธอกำลังอธิบายว่าเขาน่ารักอยู่นั่นคือแฟนของฉันนะ! แฟนของเพื่อนที่สนิทที่สุดของเธอ!”
“เพราะเธอเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของฉันนี่ไงฉันเลยจำเป็นต้องบอกเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทีน่า! ตลอดเวลาที่ผ่านมาฉันไม่เคยคิดอยากจะแบ่งปันแฟนของฉันกับเธอหรือกับทริชมาก่อนเลยสักครั้ง! แม้ว่าเธอทั้งสองจะปฏิเสธแต่ความตั้งใจของฉันคือ … ”
“ความตั้งใจบ้า ๆ อะไรของเธอชีล่า ซี บีเยียด! ฉัน ทีน่า ดั๊กลินไม่ใช่แค่สาวอกสวยมีสมองที่เป็นเชียร์ลีดเดอร์จากนิวยอร์กเท่านั้นหรอกนะ! แต่จะไม่มีใครสามารถแย่งสิ่งที่ฉันครอบครองอยู่ไปได้!” ทีน่าจ้องตรงเข้าไปในดวงตาของชีล่าและประกาศอย่างจริงจัง
“เห้อ พอได้แล้วน่าทีน่า ชีล่า เราไม่ได้กำลังเล่นละครโอเปร่ากันอยู่นะ!” เนื่องจากเกิดความขัดแย้งกันระหว่างสองเพื่อนสนิทที่จู่ ๆ ก็ระเบิดอารมณ์กันออกมาอย่างกระทันหันทำให้ทริชที่กำลังตกตะลึงจนพูดไม่ออกกลับมามีสติได้อีกครั้งและพยายามห้ามการทะเลาะของทั้งคู่
“ชีล่า! ลี่เฉินเป็นแฟนของเพื่อนเธอนะ! เธอนี่มันบ้าไปแล้วจริง ๆ ที่พูดเรื่องแบบนี้ขึ้นมา ทีน่า แฟนของชีล่าเพิ่งประสบอุบัติเหตุไปเมื่อคืนที่ผ่านมาและแม้ว่าพวกเขาจะรู้จักกันได้ไม่นาน แต่ … แต่เธอก็รู้ … อ่า ไร้สาระสิ้น เลิกทะเลาะกันได้แล้ว! ไปสิ ไปสู้กันเพื่อผู้ชายเลย! ตอนแรกเรามาที่ฮาวายเพื่อพักร้อนกันนะ ทำไมมันเปลี่ยนไปเป็นแบบนี้ได้? เราเพิ่งเผชิญหน้ากับความเป็นความตายกันมาเมื่อคืนและเรากำลังติดอยู่ในเรือยอชท์เล็ก ๆ ที่น่ากลัวนี่! และตอนนี้พวกเธอทั้งสองยัง… บ้าไปแล้ว ฉันอดทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน! บ้าบอไปหมดแล้วจริง ๆ …”
เมื่อเธอมาถึงตรงจุดนี้ ทริชได้กลายเป็นคนแรกที่พังทลายลงมาแทน เธอก้มหน้าลงไปกับพื้นพร้อมร้องไห้อย่างหนักจนทำให้ทีน่าและชีล่าหยุดหันมามองหน้ากัน พวกเธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องคืนดีกันชั่วคราวและหันกลับมาเพื่อปลอบโยนเพื่อนสนิทของพวกเธอ
จางลี่เฉินที่ทำโจ๊กเสร็จแล้วด้วยส่วนผสมและเครื่องปรุงรสมากมายบนเรือได้ยินบทสนทนาความขัดแย้งระหว่างทีน่ากับชีล่าจากชั้นล่างมาได้สักพักหนึ่งแล้ว
เนื่องจากสาเหตุของการทะเลาะกันในครั้งนี้เกี่ยวข้องกับเขาโดยตรงมันจึงค่อนข้างน่าอึดอัดใจมากในขณะที่เขากำลังถือโจ๊กยืนอยู่ใต้บันไดวน เขาลังเลว่าจะควรจะขยับตัวไปทางไหนอย่างไรจนกระทั่งหญิงสาวทั้งสองได้คืนดีกันเนื่องจากการร้องไห้ของทริช เขาเดินขึ้นไปบนดาดฟ้าเรือพร้อมทำท่าทางราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ทีน่า มาทานอาหารเช้ากันก่อนเถอะ เราจะได้เดินทางกันต่อหลังจากที่ท้องของพวกเราได้รับการเติมเต็ม ทริช ชีล่า พวกคุณเองก็มาทานมื้อเช้าที่ผมทำนี่ด้วยกันสิ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเครื่องปรุงรสบนเรือยอชท์จะมีเยอะมากขนาดนี้ ผมว่าโจ๊กชามนี้น่าจะมีรสชาติที่ดีทีเดียว”
“ที่มีเครื่องปรุงมากมายนั่นก็เพราะหลังจากที่พวกเรารู้ว่าเธอจะมาฮาวายทีน่าก็ได้รวบรวมเครื่องปรุงรสของอาหารจีนทั้งหมดที่สามารถหาได้ในโลกมาใส่ไว้ที่เจ้าหญิงแมนฮัตตันนี่ไงล่ะ ตอนแรกเธอวางแผนที่จะเชิญพ่อครัวผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารจีนเสฉวนมาขึ้นเรือด้วยซ้ำแต่ดูเหมือนว่าเราจะไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ในตอนนี้แล้ว” ทริชเช็ดน้ำตาอย่างเงียบ ๆ ก่อนจะเริ่มพูดอย่างจริงจัง “ลี่เฉิน เพิ่งมีสิ่งแปลกประหลาดมากมายเกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้และฉันหวังว่าเธอจะบอกพวกเราทุกอย่างที่เธอรู้โดยไม่เก็บเป็นความลับใด ๆ เธอสามารถทำแบบนั้นได้ไหม?”
ดวงอาทิตย์ที่อยู่เหนือพวกเขาค่อย ๆ เพิ่มระดับความร้อนมากขึ้น จางลี่เฉินวางโจ๊ก 3 ชามพร้อมด้วยช้อน 3 คันลงบนโต๊ะที่ดาดฟ้าและไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดออกไป “โอเคทริช! ผมจะไม่ปิดบังอะไรกับพวกคุณอีกต่อไป ทีน่าจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในป่าอเมซอนได้แล้วและผมก็คิดว่าทั้งคุณและชีล่าก็น่าจะจำเหตุการณ์ในครั้งนั้นได้แล้วเหมือนกัน ในกรณีนี้ผมจะเริ่มจากงานวันเกิดที่พวกคุณทั้ง 3 ได้เจอที่เรืออลิซาเบธ ฮอล์ลิเดย์ … ”
เด็กหนุ่มเริ่มอธิบายทุกอย่างตั้งแต่การล่องเรือจนไปเจอกับเกาะจากโลกอื่นโดยไม่ได้ตั้งใจและเหตุการณ์อันตรายต่าง ๆ ที่พวกเขาได้พบเจอในตอนนั้น แต่ในที่สุดพวกเขาก็สามารถกลับมายังโลกเดิมนี้ได้แต่กลับถูกรัฐบาลล้างความทรงจำที่เกิดขึ้นออกไปจนหมด รวมถึงเรื่องราวที่เขาได้เจอกับอัลท์แมนและนักรบจากต่างแดนเมื่อเขาเดินทางไปยังเขตพื้นที่ภูเขาไฟในวันแรกที่เขาเดินทางมาฮาวาย
“และนี่ก็คือเรื่องราวทุกอย่าง จนถึงตอนนี้ผมเองก็ยังไม่รู้ว่าผลพวงจากการโจมตีเหล่านักรบพวกนั้นไปในโรงแรมรอยัลฮาวานเอียนจะเป็นอย่างไร แต่ถ้าผมไม่ทำเช่นนั้นสถานการณ์จะยิ่งเลวร้ายมากขึ้น ยิ่งหากพวกคุณทุกคนตกอยู่ในกำมือของคนที่มาจากโลกเหนือธรรมชาติพวกนั้นก็ยิ่งไปกันใหญ่”
“ที่รัก ไม่เป็นไรนะ ไม่มีโรงแรมระดับสูงที่ไหนในฮาวายที่จะติดกล้องวงจรปิดบนชายหาดส่วนตัวไว้หรอก หรือถ้ามีแสงของร้านอาหารกลางแจ้งที่เรานั่งกันเมื่อคืนก็สลัวมากและมีแมลงบินอยู่ทั่วทุกที่ดังนั้นฉันคิดว่าไม่น่าจะมีใครสังเกตเห็นสิ่งที่เธอทำลงไป” เมื่อได้ยินคำบอกเล่าจากจางลี่เฉิน ทีน่าที่ตัวแข็งทื่อไปขณะหนึ่งก็ตอบกลับด้วยการแสดงออกที่ค่อนข้างซับซ้อน “ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าบางสิ่งบางอย่างที่เหมือนกับเรื่องราวในภาพยนตร์จะมีอยู่จริง … ฮึ! จะเกิดอะไรขึ้นกับอนาคตของโลกใบนี้กันแน่?”
“ทุกสิ่งยังคงเหมือนเดิมทีน่า โลกนี้จะไม่เปลี่ยนแปลง การโยกย้ายจากเผ่าธรรมชาติทั้งหมดไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถทำได้ภายในข้ามคืน ฉันคิดว่าบ้านเกิดของนักปราชญ์อัลท์แมนเองก็ไม่น่าจะใช่ประเทศชาติที่มีอำนาจมากเป็นพิเศษบนโลกเหนือธรรมชาติใบนั้น และการทำงานระดับมันสมองของรัฐบาลก็ไม่น่าจะโง่เกินกว่าสิ่งที่ลี่เฉินได้ลงมือทำไป หลังจากที่พวกเขาจัดการกับพวกเรดไอร่อนเสร็จพวกเขาน่าจะได้ลิ้มรสผลไม้แห่งชัยชนะของพวกเขาอย่างช้า ๆ มันใช้เวลาหลายร้อยปีระหว่างโคลัมบัสที่ค้นพบอเมริกาและชาวคอเคเซียนที่สร้างชาติของพวกเขาในอเมริกา ในช่วงเวลานี้ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวของชาวยุโรปที่มีต่อชีวิตก่อนหน้าคือการที่พวกเขาประกาศสงครามมากมายเพื่อแย่งชิงอาณานิคม เมื่อพูดถึงสงคราม ลี่เฉิน เธอไม่มีความผิดใด ๆ กับเหตุการณ์นี้เลย ฉันแค่กำลังทำใจให้ยอมรับเรื่องของพวกเขา … หมายถึงรัฐบาลสหรัฐที่ไม่คิดเกรงกลัวชาติใด ๆ”
“มันไม่สำคัญเลยทริช พวกเราชาวจีนไม่ใช่ประเทศที่เข้มแข็งแต่เราไม่มีนิสัยขโมยของจากคนอื่น จิตใจแห่งการรอบรู้และผู้นำที่เป็นเหมือนราชาคือสิ่งที่เราแสวงหา ศิลปะสงครามสูงสุดคือการปราบศัตรูได้โดยไม่ต้องออกแรง” เมื่อเห็นทริชที่มีความคิดเกินกว่าที่เขาคาดการณ์ไว้จางลี่เฉินก็เริ่มมีความเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับผู้หญิงร่ำรวยกลุ่มนี้ พวกเธออาจดูตื้น ๆ และเอาแต่ใจตัวเองแต่เนื่องจากอิทธิพลครอบครัวของพวกเธออาจทำให้เห็นถึงปัญหาเชิงลึกในช่วงเวลาที่สำคัญ
เขาจ้องมองไปทางทะเลที่เงียบสงบในระยะไกล “นอกเหนือจากนั้นผมคิดว่าการบุกรุกของคนที่มาจากโลกเหนือธรรมชาติอาจไม่ได้นำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีเสมอไป เอาล่ะ รีบมากินข้าวโอ๊ตนี่กันก่อนเถอะ ผมจะกลับไปปลูกฝังพลังต่อ การร่วงหล่นอย่างต่อเนื่องจะทำเกิดหลุมในหิน ในตอนนี้การไม่ได้รับอิทธิพลจากโลกภายนอกเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด … เห้อ … แล้วทำไมผมถึงต้องมาบอกพวกคุณทั้งหมดนี้ด้วยกัน? เอาล่ะ ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวลงไปข้างล่างก่อน”
หลังพูดจบ ชายหนุ่มก็เดินลงบันไดวนเพื่อกลับไปที่ห้องพักพร้อมสั่งให้สัตว์อาคมของตัวเองนั่งข้างหน้าเขาก่อนจะเริ่มฝึกฝนการปลูกฝังตามเดิม