The Great Worm Lich - ตอนที่ 165
ภายใต้แสงจันทร์ที่หนาวเหน็บ เรือขนส่งสินค้าขนาดเล็กที่มีคำว่า “เป็นมิตร” เขียนอยู่บนเรือกำลังล่องลอยไปตามทะเลด้านในนิวยอร์กราวกับเรือผีพเนจร
ตอนนี้เป็นช่วงเวลากลางดึกประมาณตีสองถึงตีสามได้ ภายในสายลมอันหนาวเหน็บมีชายร่างผอมสูงสองคนกำลังเดินเล่นอยู่รอบ ๆ ดาดฟ้าเรือ
ชายทั้งสองต่างคาบบุหรี่อยู่ที่ปากขณะเดินไปมาบนดาดฟ้าโดยไร้ซึ่งบทสนทนาใด ๆ ทันใดนั้นหนึ่งในพวกเขาก็หยุดเดินขณะที่จมูกของชายคนนั้นกระตุกและพยายามสูดดมกลิ่นอะไรบางอย่างในอากาศที่เขารู้สึกได้ เขาโยนบุหรี่ลงบนพื้นของดาดฟ้าแล้วเหยียบมันเพื่อดับไฟจากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงแหบห้าวว่า “หลุยส์ ที่นี่แหละ! ฉันได้กลิ่นแปลก ๆ”
“แน่ใจนะแคสซานโดร” เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนั้น คู่หูของเขาที่ซ่อนใบหน้าไว้ภายใต้หมวกก็หยุดเดินและถามเสียงกระซิบ
ในตอนนั้นเอง หนึ่งในตู้คอนเทนเนอร์ที่ตั้งอยู่ส่วนล่างสุดของบนดาดฟ้าเรือบรรทุกสินค้าก็เปิดออก ชายวัยกลางคนที่แต่งตัวเหมือนกะลาสีเรือธรรมดา ๆ แต่ให้อารมณ์คล้ายกับนักวิทยาศาสตร์ในห้องทดลองเดินออกมาอย่างเร่งรีบก่อนจะพูดเสียงกระซิบ “มิสเตอร์หลุยส์ มันคือที่นี่ครับ ในตอนนี้สถานที่แห่งนี้กำลังมีความผันผวนของมหาสมุทรที่ผิดปกติ”
“ดร.แซนเชส คุณไม่ต้องกระซิบเสียงเบาขนาดนั้นก็ได้ พวกเรากำลังล่องลอยอยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติกนะ นอกเหนือจากนกนางนวลและเหล่าปลาก็ไม่มีใครอื่นนอกจากพวกเราแล้ว” หลุยส์ยิ้มก่อนจะหันไปมองเพื่อนของตัวเอง “แคสซานโดร จมูกนายนี่เยี่ยมจริง ๆ”
“จมูกของฉันไม่ได้ดีเพียงแต่เพื่อนคนนั้นฆ่าสัตว์ทะเลลึกมากเกินไปต่างหาก แม้แต่สุนัขที่ไม่ได้รับการฝึกก็ยังสามารถดมกลิ่นเลือดแปลก ๆ จากตรงแถวนี้ได้”
“แน่ใจเหรอว่าเป็นสิ่งที่มนุษย์ทำขึ้นมา?”
“มีความเป็นไปได้เพียงสองอย่างเท่านั้น ก็อาจเป็นไปได้ที่จะเป็นนักวิทยาศาสตร์บ้าบอจากสถาบันลับของกองทัพที่กำลังทำการทดลองด้วยเสียงระเบิดคุณภาพสูงทางอากาศในทะเล หรืออาจเป็นสัตว์น่ากลัวที่เราไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับมัน มันอาจบ้าคลั่งและปล่อยความตึงเครียดลงในทะเลลึก เป็นนาย นายจะเลือกแบบไหน?”
“ถ้าเป็นฉันเมื่อสองปีที่แล้วคงเลือกอย่างแรกไปอย่างไม่ลังเล” หลุยส์ยิ้มและตะโกนใส่อุปกรณ์สื่อสารที่บริเวณคอของเขา “ส่งกลุ่มไปเก็บตัวอย่างผิวน้ำทะเลภายในรัศมีหนึ่งกิโลเมตร อีกกลุ่มหนึ่งให้กระโดดลงทะเลไปเพื่อจับภาพและเก็บตัวอย่างมา 20 ชุด และอีกกลุ่มให้ทำการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ทันทีเพื่อจำลองสาเหตุที่เป็นไปได้ของความผันผวนมหาสมุทรในปัจจุบัน … ”
ขณะที่เขากำลังตะโกนออกคำสั่ง ร่างคนหลายร้อยคนก็รีบเร่งพุ่งออกมาจากตู้คอนเทนเนอร์บนเรือบรรทุกสินค้าขนาดเล็กในทันที
กลุ่มคนเหล่านี้ได้ทำการแบ่งกลุ่มกันอย่างเงียบ ๆ โดยอัตโนมัติ บางคนลงเรือชูชีพและเริ่มรวบรวมน้ำทะเลใส่ขวดแก้วสีฟ้า บางคนใส่ชุดดำน้ำหนา ๆ ที่ดูเหมือนชุดอวกาศด้วยความช่วยเหลือจากเพื่อนของพวกเขาและเตรียมดำลงไปในทะเลลึก อีกด้านกำลังเปิดกล่องโลหะสีดำที่เผยให้เห็นเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ที่ส่องแสงสีแดง สีเขียว หรือสีเหลืองอยู่บนดาดฟ้าและเริ่มทำงานกันอย่างรวดเร็ว ทุกคนเริ่มทำงานของตัวเองกันอย่างเป็นระเบียบ
“หลุยส์ สิ่งที่เราต้องจัดการไม่ใช่สัตว์ธรรมดา นายคิดว่าการตรวจสอบตามปกติแบบนี้จะมีประโยชน์อย่างนั้นเหรอ?” เมื่อมองดูเรือบรรทุกสินค้าที่ถูกเปลี่ยนเป็นเรือวิจัยทางวิทยาศาสตร์ภายในเวลาไม่ถึงนาที แคสซานโดรอดไม่ได้ที่จะถามผู้บัญชาการบนเรือไปด้วยน้ำเสียงล้อเลียน
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันแคสซานโดรว่ามันจะมีประโยชน์มากน้อยแค่ไหน พายุฝนฟ้าคะนองแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นเมื่อสองเดือนที่แล้วและตอนนี้ยังมีพายุเฮอริเคนบนผิวน้ำทะเลและการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันในกระแสน้ำมหาสมุทรลึกที่เกิดขึ้นนี่อีก นักวิทยาศาสตร์คนใดก็ไม่สามารถหาคำอธิบายสิ่งนี้ได้ ที่แอฟริกาใต้ก็ถูกโจมตีโดยพวกอาณาจักรเหนือธรรมชาติดังนั้นก็คงมีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น ตอนนี้คือยุคใหม่แล้ว ดังนั้นสิ่งเดียวที่เราทำได้คือต้องระวัง…”
หลุยส์เดินไปหาแคสซานโดรและจับราวรั้วของเรือขณะจ้องมองลงไปในทะเล ทันใดนั้นจุดที่สว่างไสวภายในเมืองนิวยอร์กที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงกับแนวชายฝั่งทะเลสีเข้มของชานเมืองก็ได้ดึงดูดความสนใจจากเขา
“ที่นั่นที่ไหน? ดูเหมือนว่าจะเป็น… โรงงานแห่งใหม่ที่ชื่อว่าโรงฆ่าสัตว์ LS ใช่ไหม? ในตอนที่กำลังดำเนินการสำรวจครั้งที่สาม ดูเหมือนว่าโรงงานนี้จะเป็นอาคารที่อยู่ใกล้ที่สุดกับเรา … ดร.แซนเชส ช่วยบอกตำแหน่งของการสำรวจและตำแหน่งรายละเอียดของโรงงานให้ผมทีจะได้ไหม?”
“ครับ เดี๋ยวผมจะทำให้…” แซนเชสหยิบแท็บเล็ตออกมาจากกระเป๋าของเขาแล้วแตะหน้าจออยู่ 2 – 3 ครั้ง “ถือแกนกลางของโรงงานเป็นจุดประสานนะครับ จุดศูนย์กลางพายุฝนฟ้าคะนองครั้งแรกคือ 15 องศาตะวันตก 9.4 ไมล์ทะเล พายุเฮอริเคนครั้งที่สองอยู่ที่ 14 องศาตะวันตก 9.11 ไมล์ทะเล ขณะนี้เราอยู่ในตำแหน่งที่ 79 องศาตะวันตก 67.51 ไมล์ทะเล จากข้อมูลการวางตำแหน่งที่ตรวจสอบทั้งสามแห่งเข้าด้วยกันเป็นสิ่งยืนยันได้อย่างแน่นอนว่าสิ่งปลูกสร้างนี้อยู่ใกล้กับเรามากที่สุด”
“ทิ้งข้อมูลนี้ไปซะเถอะหลุยส์! มีอาคารมากมายตามแนวชายฝั่งที่ไม่ได้ส่องแสงสว่าง ข้อมูลประเภทนี้ไม่มีความหมายอะไรเลย”
“ฉันรู้แคสซานโดร แต่อย่างน้อยในสถานการณ์ที่เราไม่รู้อะไรเลยแบบนี้มันจะดีกว่าไหมถ้าอย่างน้อย ๆ ก็ยังพอมีเป้าหมายอยู่บ้าง?” หลุยส์ล็อคสายตาของเขาไปที่โรงฆ่าสัตว์ LS ในขณะที่เขาตอบก่อนจะจมอยู่กับความคิดของตัวเอง
เมื่อเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองสหรัฐระบุว่าโรงงานของจางลี่เฉินเป็นเป้าหมายที่น่าสงสัย ในขณะเดียวกันกับตอนนั้น เขายังคงพยายามยัดฮอทดอกชิ้นที่ห้าเข้าปาก ทีน่าที่แม้จะกำลังตกใจได้รีบดึงเขาไปตามช่องทางวีไอพีที่แออัดของเมดิสันสแควร์การ์เดน
“เฮ้ลี่เฉิน หลังจากเข้าโรงพยาบาลไป 2 เดือน การกินอาหารของนายดูท่าจะเพิ่มขึ้นมากเลยนะ” ชีล่าพูดด้วยความประหลาดใจขณะที่เธอเดินตามหลังพวกเขาไปยังที่นั่ง
“นั่นเป็นเพราะผมกำลังสร้างร่างกายอยู่ยังไงล่ะ” จางลี่เฉินว่าอย่างภูมิใจพร้อมรอยยิ้มก่อนจะยกแขนเพื่ออวดกล้ามเนื้อของเขา
ด้วยความประหลาดใจ เขาที่ยังไม่ได้เกร็งกล้ามเนื้อเลยแม้แต่น้อยแต่ด้วยความคิดในใจของเขา กล้ามเนื้อแขนของเขาที่ถูกแจ็คเก็ตสวมทับอยู่ได้มีความนูนโป่งยื่นออกมา ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าชายหนุ่มสังเกตเห็นว่าสถานการณ์เริ่มไม่ใช่แบบที่คิดและผ่อนคลายแขนของเขาลงในทันที บางทีกล้ามเนื้อของเขาที่ยังควบคุมไม่ได้อย่างเต็มที่หลังผ่านการเปลี่ยนแปลงมาอาจทำให้เสื้อผ้าของเขาฉีกขาดได้
“ลี่เฉิน เกิดอะไรขึ้นกับกล้ามเนื้อของนายกันเนี่ย?” เมื่อเห็นกล้ามเนื้อที่จางลี่เฉินแสดงให้เห็น ทริชผู้เห็นแต่ร่างผอมแห้งของเขามาเป็นเวลานานกว่าหลายสิบวันในฮาวายเอ่ยถามด้วยความตกใจ
“ช่วงนี้ผมหันมาออกกำลังกายบ้างแล้วและผลลัพธ์ก็เป็นอย่างที่พวกคุณเห็น” จางลี่เฉินตอบเมื่อเดินไปยังด้านหน้าทางเข้าวีไอพีของสนามกีฬาที่มีการ์ดความปลอดภัยคุ้มกัน
หญิงสาวหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมาแล้วสแกนเข้าที่เครื่องทางเข้า เธอหันไปชี้ทริช ชีล่าและคนอื่น ๆ พร้อมส่งยิ้มให้การ์ด “ทั้งหมด 8 คนค่ะ”
หลังจากเสียงบี๊บดังขึ้น การ์ดก็หันมองไปที่หน้าจอของเครื่องขายตั๋วและพยักหน้า “ยินดีต้อนรับสู่เมดิสันสแควร์การ์เดนครับมิสทีน่า” และปล่อยให้พวกเขาผ่านทางเข้าไป
“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวพูดก่อนจะเดินเข้าไปในโซนวีไอพีพร้อมกับเพื่อน ๆ ของเธอ
ที่จริงแล้วส่วนวีไอพีของเมดิสันสแควร์การ์เดนนั้นไม่ได้มีความหรูหราอะไรมากนัก มันเป็นทางที่สามารถเดินได้พอดี 6 – 7 คนเมื่อเดินข้างกัน เป็นทางลาดที่มีพรมแดงราคาถูกวางอยู่บนพื้น ผนังทั้งสองถูกปกคลุมไปด้วยโปสเตอร์ของการแข่งขันกีฬาสำคัญที่เคยจัดขึ้นในสนามกีฬาแห่งนี้มาก่อน
ผู้ที่สามารถใช้โซนนี้ได้บ่อยครั้งจะต้องเป็นผู้มีอิทธิพลประมาณหนึ่งทั่วทั้งนิวยอร์กหรือแม้แต่ในสหรัฐอเมริกา ทุกครั้งที่มีการแข่งขันที่คาดว่าจะมีการเข้าชมสูง ผู้ที่มีชื่อเสียงในที่สาธารณะมักจะปรากฏอยู่ในโซนนี้เสมอ
“ทอม ครูซ! นั่นทอม ครูซนี่! โอ้ นั่นคงเป็น จู๊ด ลอว์ แกรี่ และแมคเกรเกอร์! โอ้พระเจ้า!” ขณะเดินไปตามทาง คริสตินาและโซเนีย น้องสาวแฟนหนุ่มชนชั้นกลางของชีล่าพากันร้องอุทานด้วยความประหลาดใจเมื่อเห็นคนดังที่คุ้นเคย
ทีน่ามองไปตามนิ้วที่คริสตินาชี้แต่การแสดงออกของเธอกลับต่างไปอย่างสิ้นเชิง “บ้าเอ้ย เรื่องจริงเหรอเนี่ย! คนเหล่านี้ต้องมาด้วยรถลีมูซีนแน่ ๆ เร็วเข้า เราต้องรีบแล้ว! อย่าปล่อยให้พวกเขาได้ที่นั่งที่ดีที่สุดไป!”
เมื่อได้ยินคำพูดแบบนั้นจากเพื่อนสนิท ทริชและชีล่าซึ่งเป็นคนจากสังคมชนชั้นสูงในนิวยอร์กก็เพิ่มความเร็วในการเดินทันที
ตอนที่ผู้หญิงสามคนพากันเร่งความเร็ว คนอื่น ๆ แม้จะสับสนเล็กน้อยแต่ก็สามารถเร่งความเร็วและเดินผ่านทางเดินตามไปเช่นกัน
ทันทีที่พวกเขารีบเข้าไปในสนามกีฬา พนักงานสวมแว่นกันแดดก็นำทางพวกเขาเข้าไปทันทีตามคำร้องขอของทีน่า พนักงานคนนั้นพาพวกเขาทั้งแปดคนไปยังที่นั่งแถวหน้าสุดของเก้าอี้ที่หันเข้าหาวงแหวนโดยตรง
“โชคดีจริง ๆ!” หลังจากนั่งบนที่นั่งแล้วทีน่าก็ลุกขึ้นยืนในทันทีก่อนจะเข้าร่วมกับเสียงเชียร์ของผู้ชมพร้อมกับทริชและชีล่า
“เป็นไปได้ไหมที่แถวหน้าสุดของสนามกีฬาจะมาจากผู้ที่มาก่อนได้สิทธิ์ก่อน?” โซเนียที่ไม่เคยมีโชคในการนั่งแถวหน้าสุดแม้จะชอบดูรายการสดก็ตามเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ
“ไม่ใช่ทั้งหมดหรอกนะ! ปกติผู้ที่ได้รับเชิญหรือผู้ที่ได้รับรางวัลจากการจับสลากหรือผู้ที่จองไว้ก่อนหน้าจะมีที่นั่งที่สำรองไว้อยู่แล้ว ส่วนที่นั่งวีไอพีที่เหลือจะอยู่บนฐานมาก่อนได้ก่อน เราไม่ได้จองตั๋วใด ๆ สำหรับการแข่งขันครั้งนี้ดังนั้นเราจึงโชคดีมากที่ได้ที่นั่งแถวหน้าสุด” ชีล่าหัวเราะอย่างดีใจขณะตอบคำถาม
ผู้คนจำนวนมากเริ่มมารวมตัวกันในสนามกีฬามากขึ้น ในไม่ช้า สนามกีฬาก็เต็มไปด้วยผู้คน ในเวลานี้ทั้งเหล่าดาราและผู้โชคดีทั้งหลายกำลังนั่งถัดจากจางลี่เฉินและคนอื่น ๆ ในขณะที่คริสตินาที่กำลังตื่นเต้นมองหาคนที่เธอจะเข้าไปขอลายเซ็นด้วยได้ ตอนนั้นเองที่ทีน่ากระซิบข้างหูจางลี่เฉินว่า “ที่รัก เกิดอะไรขึ้นกับกล้ามเนื้อที่นายกำลังแสดงอยู่ตอนนี้กันแน่?”
“โอ้ นั่นเป็นพลังที่ผมเพิ่งได้รับมาน่ะ คุณไม่ได้สังเกตหรอว่ามีอะไรบางอย่างของผมที่หายไป?”
เมื่อหญิงสาวได้ยินแบบนั้นเธอก็กลับมานั่งที่นั่งตามเดิมก่อนจะจ้องมองที่ตัวของชายหนุ่มแล้วตอบกลับด้วยความประหลาดใจ “กระเป๋าเป้! เป้สะพายหลังที่นายพกติดตัวอยู่ตลอดหายไปแล้ว!”
“ใช่แล้ว ผมได้ใช้ความสามารถของเหรียญโชคดีไปและตอนนี้ผมก็ไม่ต้องการมันอีกต่อไป” จางลี่เฉินเลื่อนหน้าเข้าใกล้กับทีน่าขณะที่พวกเขากำลังพูดคุยกัน
ในตอนที่เขากำลังพูดอยู่ แสงไฟของสนามกีฬาก็ดับลง
ภายในความมืด แสงสปอตไลต์ก็ส่องลงมา ชายชราที่มีเส้นผมเพียงไม่กี่เส้นออกมายืนอยู่ข้างกันในขณะสวมชุดสูทดูดี พวกเขารีบวิ่งไปที่วงแหวนขณะถือไมโครโฟนก่อนจะตะโกนเสียงดัง
“ท่านสุภาพสตรีและท่านสุภาพบุรุษทั้งหลาย กระผมขอต้อนรับทุกท่านสู่เมดิสันสแควร์การ์เดนในนิวยอร์กเพื่อรับชมสงครามแห่งศตวรรษที่น่าตื่นเต้น! ตอนนี้ทางเราได้ NWA ฮีโร่คนใหม่ของเราแล้วซึ่งก็คือ ‘ลิตเติ้ล คาวบอย’ ดอนดิน แกรซ และพันธมิตรใหม่แห่งปีศาจและความชั่วร้าย ‘โดดู เอลละเฟนท์’ …”