The Great Worm Lich - ตอนที่ 166
มวยปล้ำอเมริกันดูเผิน ๆ แล้วเหมือนจะเต็มไปด้วยความโหดร้ายและป่าเถื่อนด้วยการกระทำที่รุนแรง รวดเร็วและทรงพลัง แต่ที่จริงแล้วมันเป็นเพียงการแสดงเท่านั้น แม้แต่สนามที่ใช้สำหรับการแข่งก็ยังได้รับการแก้ไขเพื่อรองรับแรงกระแทกไม่ให้บาดเจ็บจนเกินควร
นอกเหนือจากกล้ามเนื้อใหญ่ที่ดูแข็งแรง เทคนิคการมวยปล้ำขั้นพื้นฐานและเทคนิคการต่อสู้แล้ว ผู้เล่นแต่ละฝั่งจะได้รับบทการแสดงที่ได้จัดเตรียมไว้ก่อนล่วงหน้า
ในบทที่จัดเตรียม นักมวยปล้ำจะแบ่งออกเป็นสองด้านซึ่งก็คือฝั่งดีและฝั่งเลว พวกเขาจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเช่น “อัพไรท์ คาวบอย เลด” “สตับบอน มาเฟีย” และอื่น ๆ เมื่อพวกเขาต่อสู้กันบนเวที
แม้ว่าผู้ชมส่วนใหญ่จะรู้ดีอยู่แล้วว่ามันคือการแสดงที่จัดฉากขึ้นมาแต่พวกเขาก็ยังสนุกไปกับการแข่งขัน
เหตุผลที่กีฬาการต่อสู้นี้ดึงดูดความสนใจจากผู้ชมได้มากแม้จะรู้ว่ามันเป็นเพียงการแสดงนั่นก็เพราะทุกครั้งที่มีการแข่งขัน ผู้จัดมักจะทำการกล่อมและทำลายสมองของพวกเขาไปในตัว
ก่อนที่เกมจริง ๆ จะเริ่ม ผู้เล่นจะได้ทำการแสดงในรูปแบบที่น่าตื่นตาตื่นใจเมื่อเดินเข้าสู่เวที
ในระหว่างเกม การเคลื่อนไหวการต่อสู้ระหว่างผู้เล่นนั้นจะโหดร้ายและดูเกินจริงอีกทั้งยังเป็นไปอย่างราบรื่นทำให้ดูเหมือนว่าเรื่องที่น่าตื่นตาตื่นใจที่เกิดขึ้นต่อหน้านี้คือเรื่องจริง
ยิ่งไปกว่านั้นเนื่องจากเหตุผลที่ว่าพวกเขามีระบบการแข่งขันที่แตกต่างกัน บางทีผู้เล่นก็มักจะต่อสู้กันจากเวทีด้านบนสู่เวทีด้านล่าง บางครั้งพวกเขาก็ใช้เก้าอี้พับ ไม้เบสบอล และเครื่องมืออื่น ๆ ในการต่อสู้ หากพวกเขาประมาทหรือพลาดไปเล็กน้อยก็จะมีเลือดกระเซ็น ตัวฉากที่เกิดขึ้นก็จะยิ่งเป็นการล่อลวงให้คนหลงลืมไปว่านี่คือการแสดง ไม่มีใครต้านทานความน่าสนใจนี้ไปได้
ยกตัวอย่างจากการแข่งขันในคืนนี้ หลังจากที่พิธีกรตะโกนจนสุดปอดเพื่อแนะนำผู้เล่นจากทั้งสองฝั่ง ภาพยนตร์สั้นที่ยิ่งใหญ่พร้อมพล็อตเรื่องโหดเหี้ยมระหว่าง ‘ลิตเติ้ล คาวบอย’ ดอนดิน แกรซ และพันธมิตรใหม่แห่งปีศาจและความชั่วร้าย ‘โดดู เอลละเฟนท์’ ก็ปรากฏขึ้นมาบนหน้าจอขนาดใหญ่ของสนามกีฬา
จากนั้นท่ามกลางเสียงเพลงที่ไพเราะและควันเทียม ผู้เล่นทั้งสองเริ่มเดินเข้าสู่สนามกีฬาและเสียงปรบมือดังสนั่นก็ดังกึกก้องไปทั่วทั้งสนาม
น่าเสียดายที่ช่วงเวลาดี ๆ ไม่ได้มีนานมากนัก หลังจากเกมการแข่งขันเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ ผู้ชมที่รู้เกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้ก็จะรู้ได้ในทันทีว่าช่วงแรก ๆ จะเป็นมือใหม่ที่มักถูกจัดอันดับอยู่ด้านล่างของการแข่งและจะถูกเตะออกจากการแข่งขันไปทีละคน ในไม่ช้า พวกเขาก็เริ่มลดความสนใจที่น่าตื่นเต้นลงไป
พวกเขาอาจจะไปซื้อขนมหรือเครื่องดื่มระหว่างรอการแข่งขันนัดสุดท้ายหรือพูดคุยอย่างกระตือรือร้นเกี่ยวกับการต่อสู้ครั้งต่อไป
ทำให้เสียงปรบมือและเสียงเชียร์ของเกมดูเหมือนจะบางลงไปกว่าตอนแรก
ตรงข้ามกับจางลี่เฉินที่เพิ่งเข้ามาดูการแข่งขันมวยปล้ำของสหรัฐฯนี้เป็นครั้งแรก เขาไม่รู้กฎของการจับคู่ที่ซับซ้อนหรือดาราระดับตำนานในหมู่ผู้เล่น ขณะดูผู้เล่นมือใหม่สองคนที่กำลังต่อสู้กันด้วยพลังทั้งหมดที่พวกเขามีบนเวที จางลี่เฉินพบว่ามันน่าสนใจมากกับวิธีที่พวกเขาปีนขึ้นราวด้านข้างและกระโดดลงตามด้วยท่าที่พวกเขาใช้เพื่อโจมตีอีกฝ่าย
“ทีน่า พวกเขาต่อสู้ได้ดุเดือดมาก! แม้แต่หูของพวกเขาก็ยังมีเลือดออกอีกด้วย! มันดูเหมือนไม่ใช่การแสดงเลย!”
เมื่อได้ยินชายหนุ่มพูดในสิ่งต้องห้ามโดยไม่ตั้งใจขณะชมการแข่ง ทีน่ารีบเข้าไปเตือนเขาอย่างรวดเร็วผ่านเสียงกระซิบ “นี่ที่รัก! อย่าพูดเสียงดังแบบนั้นสิ! จริงอยู่ที่พวกเขากำลังทำการแสดงแต่เลือดที่ออกนั่นเป็นของจริง บางครั้งพวกเขาก็ยังกระดูกหักอีกด้วย! เพราะงั้นนายจะต้องไม่พูดว่ามันคือของปลอมเมื่อดูเกมมวยปล้ำในสนาม ไม่อย่างนั้นผู้คนจะพากันถ่มน้ำลายใส่นายนะรู้ไหม!”
“แต่คำพูดของคุณฟังดูขัดแย้งกันนะ…”
“มีความขัดแย้งมากมายบนสังคมมนุษย์ นี่แหละชีวิต! ดูเกมไปอย่างระมัดระวังล่ะที่รัก การจับคู่แบบนี้มักจะเป็นการแข่งขันของพวกมนุษย์เหล็ก มันจะจบภายใน 20 นาทีและส่วนที่น่าตื่นเต้นยิ่งกว่านี้กำลังรอเราอยู่”
เป็นดั่งที่หญิงสาวพูด การแข่งขันนัดแรกสิ้นสุดลงในไม่ช้าด้วยชัยชนะของ ‘ลิตเติ้ล คาวบอย’ ดอนดิน แกรซ
หลังจากนั้นเวลาการแข่งของผู้เล่นก็เพิ่มขึ้น ท่ามกลางการแข่งขัน มีผู้หญิงหุ่นดีหลายคนที่ร้อนแรงและสวยงามกำลังสวมใส่บิกินี่และกางเกงหนังรัดรูปมายืนอยู่ตรงกลางของเวทีทำให้ผู้ชมชายเกิดความกระตือรือร้นมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตามแม้บรรยากาศของสนามกีฬาจะเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทว่าจางลี่เฉินที่ดูการแข่งขันประเภทนี้ต่อกันหลายครั้งและเริ่มที่จะเข้าใจรายละเอียดมากยิ่งขึ้นก็เริ่มเบื่อกับการแข่งนี้ซะแล้ว
เมื่อถึงเวลาที่การแข่งขันครั้งนี้จบลง การแข่งขันที่สะดุดตาและดุเดือดมากที่สุดก็เริ่มขึ้น
เมื่อช่วงไฮไลท์มาถึง แสงไฟภายในสนามกีฬาก็ดับมืดลงไปอีกครั้ง บรรยากาศเงียบไปภายในพริบตาและทันใดนั้นพิธีกรก็วิ่งพุ่งขึ้นไปอยู่บนเวทีอีกครั้งพร้อมแสงสปอตไลท์และเสียงร้องตะโกน “ท่านสุภาพสตรีและท่านสุภาพบุรุษทั้งหลาย! ช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นที่สุดกำลังจะมาถึงในไม่ช้า! จะเป็นดวงอาทิตย์หรือผู้เชื่อในซาตานที่จะได้ครองชัยชนะในการแข่งขันวันนี้กัน? ตอนนี้ให้เราได้ต้อนรับจิตวิญญาณแห่งความยุติธรรมที่เดินอยู่ในความมืด ฮีโร่ผู้ยิ่งใหญ่ที่ใช้พลังแห่งความชั่วเพื่อปกป้องแสงสว่าง – เบเฮเดอร์, แบล็คกัส!”
ท่ามกลางเสียงโห่ร้อง เพลงที่หม่นหมองเศร้าโศกก็ดังก้องไปทั่วสนามกีฬา
หลังเสียงร้องไห้ที่ระงมอย่างสับสนจบลง ชายร่างผอมผมยาวที่แขนข้างหนึ่งมีความหนาราวกับต้นขาของผู้ใหญ่ ที่คอของเขาเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ในขณะที่มืออีกข้างกำลังถือลำแสงกางเขนขนาดใหญ่ที่มีความสูงเกือบห้าเมตรก็ได้ปรากฏตัวขึ้นมา
“เบเฮเดอร์ นั่น เบเฮเดอร์! ลี่เฉิน เขาคือฮีโร่ที่แข็งแกร่งที่สุดของมวยปล้ำในตอนนี้เลยนะ! เขาไม่เคยแพ้ใครมา 400 วันแล้ว!” ทีน่ามองหน้าจอแสดงและอดไม่ได้ที่จะตะโกนอย่างตื่นเต้น
“อย่างนั้นเหรอ?” จางลี่เฉินหันมองไปที่หน้าจอและให้ความสนใจกับภาพยนตร์สั้นที่ปรากฎอยู่บนเวที ภาพถ่ายช็อตใหญ่ที่น่าสนใจมากกว่าใคร ๆ ไม่มีใครไม่สนใจ เบเฮเดอร์ฮีโร่แห่งความมืดผู้ซึ่งกำลังเดินเข้าสู่สนามกีฬาท่ามกลางเสียงเชียร์มากมายจากผู้ชม
แน่นอนว่าคนที่จะแข่งขันกับเบเฮเดอร์ก็โด่งดังไม่แพ้กัน หลังจากวีรบุรุษแห่งความยุติธรรมที่สูงกว่าสองเมตรปรากฏตัวพร้อมรอยสักบนหน้าอกแล้ว ฮีโร่ที่ล่วงลับไปในอดีต “กัปตันเพลิง” เฮอร์เบิร์ต พาร์สัน ก็ได้เดินไปที่เวทีด้วยใบหน้าที่ไม่แสดงความรู้สึกอารมณ์ใด ๆ
ท่ามกลางเสียงโห่ร้องของผู้ชมและเสียงถอนหายใจด้วยความสงสาร ดังก้องภายในสนามอย่างต่อเนื่อง
“เขาคือ กัปตันอเมริกา เฮอร์เบิร์ต พาร์สันที่ยังคงเป็นเสาหลักของการต่อสู้เพื่อความยุติธรรมเมื่อปีที่แล้ว อย่าได้ดูถูกเขาแค่เพียงเพราะเขามีรูปร่างที่ไม่โดดเด่นเหมือนนักมวยปล้ำคนอื่น ๆ นะ การเคลื่อนไหวของเขารวดเร็วมากในบรรดาผู้เล่นทั้งหมด! หมัดลาวาและท่ากวาดแมกม่าของเขาแข็งแกร่งมาก! น่าเสียดายที่เขาแพ้ไปกับการแข่งอื่นเมื่อครึ่งปีก่อนเพราะเขาดันไปตกหลุมรักสไปเดอร์เกิร์ลจากฝั่งคนชั่ว แต่ฉันว่าเขาคงเห็นด้านน่าเกลียดของเธอและหลุดพ้นมาได้แล้วแหละ และในตอนนี้เขาก็กำลังกลับคืนสู่ความยุติธรรม!”
หลังได้เห็นผู้ผดุงจากทั้งฝั่งคนดีและคนร้ายที่มาปรากฏตัวอยู่บนเวทีแล้ว ทีน่าจ้องมองเวทีแข่งอย่างตื่นเต้นในขณะให้คำอธิบายแก่จางลี่เฉินเกี่ยวกับที่มาของผู้เล่นทั้งสอง
“โอ้ … โอ้ …” ชายหนุ่มตอบรับพอเป็นพิธีขณะดูการแข่งขันที่เริ่มต่อสู้กัน เท้าของเขาวางพาดอยู่บนรั้วสแตนเลสด้านหน้า และจิตใจของเขาก็เริ่มลอยไปที่อย่างอื่น
หลังการเปลี่ยนแปลง ร่างกายที่อ่อนแอของเขาได้รับการยกระดับเนื้อแท้ภายในของเขาไปด้วยเช่นกัน ความคิดของเขาต่างมุ่งเน้นไปที่การสร้างความก้าวหน้าในคาถาเพราะบุริมภาพของเขาหายไปอย่างไร้ร่องรอย
มันเพิ่งเกิดขึ้นในช่วงวันหยุดหน้าหนาวตอนนี้ดังนั้นเขาจึงยังพอมีเวลาเหลือเฟือ ทันใดนั้นชายหนุ่มก็ยอมแพ้ความต้องการที่จะกลับไปเยี่ยมเยือนบ้านเกิดของเขา
ที่จริงแล้ว จางลี่เฉินจำได้อยู่เสมอในวันที่เขาออกจากหมู่บ้านกวาโว้มา เขาบอกกับลุงอาลี่ว่าเขาจะกลับมาที่หมู่บ้านเพื่อเยี่ยมพวกเขาอยู่เสมอแม้ว่าเขาจะอยู่ที่สหรัฐฯก็ตาม อย่างไรก็ตามหลังจากที่เขาได้มาสหรัฐฯแล้วกลับมีสิ่งมากมายเกิดขึ้นหลายครั้งและเวลาที่ใช้ในการปลูกฝังเพื่อปกป้องตัวเองทำให้เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำลายสัญญาของเขาทิ้งไป
ขณะที่จิตใจของชายหนุ่มกำลังหลงทางอยู่ในจินตนาการและการคาดเดาต่าง ๆ การแข่งขันของเบเฮเดอร์และกัปตันเพลิงบนเวทีก็ได้มาถึงส่วนที่สำคัญที่สุด
ด้วยขนาดและความสูงร่างกายของเบเฮเดอร์ทำให้เขามีความได้เปรียบอย่างมากต่อกัปตันเพลิงคู่ต่อสู้ที่กำลังแข่งขันอยู่ด้วยในตอนนี้ ด้วยการกระทำที่ยั่วยุและแรงกระตุ้นทำให้เขาเหวี่ยงหมัดใส่อีกฝ่ายไปอย่างดุเดือด ในเวลาเดียวกัน กัปตันเพลิงก็ส่งหมัดที่ทรงพลังกลับไปเพื่อโจมตีอีกฝ่ายเข้าที่คาง
ทันทีที่หมัดนั้นกระแทกลงบนคางของเบเฮเดอร์ หน้าจอขนาดใหญ่บนสนามกีฬาก็แสดงให้เห็นถึงภาพการปะทุของภูเขาไฟขึ้นอย่างกระทันหัน ผู้ชมหลายพันลุกขึ้นยืนและตะโกนร้องออกมาว่า “หมัดลาวา! มันคือหมัดลาวา!!…”
เบเฮเดอร์ที่โดนโจมตีด้วยหมัดที่รุนแรงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดก่อนจะส่ายตัวไปข้างหลังและเอนกายพิงราวของเวทีขณะที่เขาเงยหัวขึ้นมองด้านบน ดูเหมือนว่าเขากำลังว่ายน้ำท่ามกลางดวงดาวมากมายในตอนนี้
ในตอนนี้ฝ่ายที่ได้เปรียบก็คือกัปตันเพลิง เขาออกตัววิ่งเบา ๆ เพื่อกระโดดลอยไปบนอากาศพร้อมกับท่าเตะ ส่งผลให้การโจมตีนี้ไปโดนซี่โครงข้างของเบเฮเดอร์อย่างแรงและเป็นการส่งเขาให้ร่วงออกจากเวทีไป
“โอ้พระเจ้า นั่นมันท่ากวาดแมกม่า! ท่ากวาดแมกม่าจริง ๆ! กัปตันเพลิงกำลังจะชนะ…” เมื่อฝูงชนพากันตะโกนเสียงดัง เฟรมไฟที่โหมกระหน่ำก็ขึ้นกระพริบอยู่บนหน้าจอขนาดใหญ่
หลังจากที่เบเฮเดอร์ล้มลงจากเวทีที่สูงเกินกว่าหนึ่งเมตร ดูเหมือนว่าเขาจะกลับสู่ความเป็นจริงได้ในที่สุด เขากระโดดขึ้นจากพื้นและพุ่งพรวดด้วยความโกรธแค้นที่มีต่อกัปตันเพลิงที่กำลังไล่ตามไม่หยุดหย่อนเพื่อทำให้ศัตรูตกใจกลัว ทันใดนั้นเขาก็หันกลับหลังและวิ่งเข้าหาผู้ชมด้านหน้าอย่างกระทันหันเพื่อคว้ารั้วเหล็กและดึงมันออกมาใช้เป็นอาวุธ
ผู้ชมต่างรู้กันดีอยู่แล้วว่าเกมสุดท้ายจะไม่มีกฎและไม่มีข้อจำกัดใด ๆ พวกเขาสามารถต่อสู้จากเวทีด้านบนสู่ด้านล่างหรือแม้แต่ต่อสู้ไปตลอดทางจนถึงหลังเวที อีกทั้งยังสามารถจับหาอะไรก็ได้เพื่อใช้เป็นอาวุธโจมตีคู่ต่อสู้ ผู้ชมส่วนใหญ่อดไม่ได้ที่จะกรีดร้องเมื่อเบเฮเดอร์ร่างยักษ์วิ่งไปที่ด้านหน้าของพวกเขาด้วยลักษณะที่กำลังเดือดพล่าน
ขณะนั้นเอง สถานการณ์ที่ไร้สาระอย่างฉับพลันก็เกิดขึ้นโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า ขณะที่เบเฮเดอร์กำลังดึงรั้วด้วยพลังทั้งหมดของเขารั้วเหล็กสีเงินสว่างไม่มีท่าทีจะขยับเขยื่อนเลยแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าจะมีวัยรุ่นผอมแห้งคนหนึ่งที่นั่งอยู่ในแถวแรกของผู้ชมกำลังโบกมือของตัวเองและส่งผลให้เบเฮเดอร์ลอยถลาออกไปไกล
เบเฮเดอร์ที่มีน้ำหนักอย่างน้อย 300 ปอนด์เหมือนถูกกระสุนจากปืนใหญ่โจมตีจนทำให้เขาถอยไปไกล 6 – 7 เมตร หลังชนเข้ากับเวทีเสียงดัง ‘ปัง!’ เขาก็กระเด้งตัวล้มไปกับพื้นและไร้ซึ่งเสียงใด ๆ ตามมาอีกเลย
สนามกีฬาเมดิสันสแควร์การ์เด้นกลายเป็นความยุ่งเหยิงภายในพริบตา ความคิดแรกที่เกิดขึ้นในใจของผู้ชมคือ NWA ได้ตัดสินใจที่จะเปิดตัวสำหรับฮีโร่ม้ามืดคนใหม่ที่ทรงพลังที่สุดสำหรับ ‘ฝั่งตัวร้าย’
อย่างไรก็ตาม พลังที่จะสามารถเอาชนะเบเฮเดอร์ได้ในการโจมตีเพียงครั้งเดียวแบบนี้ยากที่จะรักษาความสมดุลไว้ได้ พวกเขาจะต้องออกแบบตัวละครที่คล้ายกันสำหรับฝั่งยุติธรรมในฐานะคู่ต่อสู้ต่อไปอีก
ในตอนนั้นเอง จางลี่เฉินที่ตกใจกับการปรากฏตัวของนักมวยปล้ำแบบฉับพลันจนทำให้เขาต้องเผลอป้องกันตัวเองออกไปได้เป็นความผิดพลาดที่ทำให้เบเฮเดอร์บินลอยไปไกลขนาดนี้ เขาขยับร่างกายของตัวเองไปด้านข้างเพื่อปิดบังใบหน้าของเขา
จากนั้นความคิดเห็นที่คล้ายกันก็ดังก้องอยู่รอบตัว
“นี่มันไร้สาระเกินไปแล้ว…”
“เด็กคนนี้เป็นมนุษย์ธรรมดาแน่เหรอ?”
“มันคือเทคนิค! แบล็คกัสจะต้องกระโดดหลบไปข้างหลังด้วยตัวเองแน่ ๆ …”
หลังจากนั้น 2 – 3 วินาทีต่อมา ทีน่าที่รู้สึกตัวได้เป็นคนแรกก็รีบลุกขึ้นยืนจากที่นั่งและหันไปกระซิบพูดกับเพื่อน ๆ ของเธอว่า “ไปกันเถอะ!” ก่อนจะใช้ร่างกายของเธอบังจางลี่เฉินและบีบเขาให้เดินไปตามเส้นทางวีไอพีเมื่อกล้องในสนามกีฬายังคงจับภาพอยู่ที่เบเฮเดอร์ที่ยังคงนอนอยู่บนพื้นดิน