The Great Worm Lich - ตอนที่ 176
ท่ามกลางกองไฟที่ท่วมท้นและการหมุนวนของการระเบิดใต้ทะเลลึก เกาะมังกรถูกโจมตีเข้าอีกครั้ง
แม้จางลี่เฉินจะสามารถสั่งการสัตว์อาคมได้อย่างอิสระแต่ก็ยังยากที่จะควบคุมให้มันหลบการจู่โจมที่มีพลังทำลายรุนแรงในตอนนี้ได้แบบทันที สิ่งนี้ทำให้ชายหนุ่มตระหนักได้ถึงพลังอันยิ่งใหญ่และยุทธวิธีที่เปลี่ยนแปลงได้ของอาวุธระดับสูงเพิ่มขึ้นอย่างมาก
สายละอองเลือดยังคงพุ่งออกจากปากของเขาไม่ยอมหยุดแม้จะอยู่ในสถานการณ์วิกฤติ จางลี่เฉินย่อขนาดของตัวเองให้เหลือเพียงสามเมตรและในเวลาเดียวกันก็รีบขยับตัวออกห่างจากเรือดำน้ำไป
ขณะนั้นเอง ผลกระทบของตอร์ปิโด 2 ลูกที่ยิงออกมาติดต่อกันเริ่มจางหายไปจากกระแสของทะเลลึก เกาะมังกรว่ายน้ำหนีออกจากทะเลเพลิงด้วยความยากลำบากเนื่องจากร่างกายได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงและมีแผลอยู่ทั่วตัว
ภายใต้การบำรุงเลือดและเนื้อจากผู้เป็นนาย ชิ้นส่วนของผิวหนังที่กระจัดกระจายจากร่างกายเริ่มขยายตัวและรวมเข้าเป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้ง การเคลื่อนไหวของมันกลับมากระฉับกระเฉงอีกครั้งเมื่อมันสั่นหางทั้งห้าที่อยู่ด้านหลังให้เคลื่อนไหว มันพุ่งเข้าหาฉลามขาวยักษ์ตัวหนึ่งที่เป็นจุดสุดของห่วงโซ่อาหารทางทะเลของโลกที่อยู่ห่างออกไปประมาณหนึ่งกิโลเมตรราวกับแสงแฟลชเพียงวูบหนึ่ง
เมื่อเปิดการโจมตีไปแล้วรอบหนึ่งแต่ฝ่ายตรงข้ามกลับไม่ถูกทำลาย ภายในห้องโดยสารประจำเรือดำน้ำ เจ้าหน้าที่ผิวดำจดจ้องหน้าจอที่แสดงผลคลื่นโซนาร์ก่อนจะรีบทำการรายงาน “ท่านครับ! เป้าหมายยังมีชีวิตอยู่ครับ! รัศมีพื้นที่การเคลื่อนไหวจากเดิมที่มีระยะห่างจาก 300 – 500 เมตรนั้น ในตอนนี้มันได้ขยายไปจนถึงประมาณ 1 กิโลเมตรแล้วครับ!”
แน่นอนว่ากัปตันเรือไม่ทราบถึงเหตุผลที่ระยะการล่าของเกาะมังกรมีขนาดใหญ่ขึ้นว่านั่นเป็นเพราะความสามารถอันทรงพลังเมื่อกระบวนการเปลี่ยนแปลงยังคงดำเนินอยู่ ด้วยเสียงที่เต็มไปอำนาจ เขาตะโกนดังลั่นว่า “สัตว์ประหลาดทางทะเลตัวนั้นหนีไปแล้ว! ไม่จำเป็นต้องโทรไปขอความช่วยเหลือจากหน่วยอีกอื่นต่อไป คอยติดตามมันต่อไปแล้วในไม่ช้าเราจะสามารถนำมันกลับที่เดิมได้เอง”
เมื่อได้ยินคำสั่งของกัปตัน เจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ ที่ไม่ได้มีหน้าที่ให้ทำการสิ่งใดในห้องควบคุมก็ตอบกลับ “ครับท่าน!” จากนั้นพวกเขาก็บังคับเรือดำน้ำให้เปลี่ยนทิศทาง มุ่งหน้าเข้าหาเกาะมังกรแบบเต็มกำลัง
และเพราะแบบนั้น เกาะมังกรจึงถูกตามล่าอีกครั้งโดยไม่รู้ตัว ขณะที่เรือดำน้ำยังคงติดตามมัน มันก็ยังคงดำเนินการเปลี่ยนแปลงไปตามวิถีของตัวเองในฐานะสัตว์อาคมต่อไป
หลังผ่านไป 2 – 3 รอบ จางลี่เฉินเริ่มรู้สึกว่าเขากำลังจะเสียเลือดจนหมดตัวอีกครั้งและในที่สุดเกาะมังกรก็เติบโตขึ้นพร้อมหางแมงป่องอีก 9 หางท่ามกลางการระเบิดโจมตีจากตอร์ปิโด
ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง กระดูกและเนื้อของมันเริ่มเปลี่ยนเป็นร่างกายที่ยาวเรียว เกาะมังกรเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว
ขนาดของมันลดน้อยลงจนเหลือน้อยกว่า 10 เมตร แต่ร่างกายส่วนบนกลับหนาขึ้นมากราวกับเสาหินแข็ง ๆ ดวงตารูปเพชรทั้ง 2 ข้างของมันก็ใหญ่ขึ้นหลายเท่าพร้อมส่งแสงเปล่งประกายระยิบระยับ
เกล็ดที่ปกคลุมอยู่ทั่วร่างกายมีขนาดเท่ากำปั้นเด็กทารก ไม่เพียงแค่นั้น แต่เกล็ดทั้งหมดยังสามารถตั้งขึ้นเพื่อสร้างเป็นเกราะป้องกันที่มีความแหลมคมนับพันบนพิ้นผิวร่างกายได้
แขนขาทั้งสี่และกรงเล็บบนตัวของมันรองรับร่างกายที่ขยายออกไปได้อย่างมาก เลยช่วงส่วนคอดของลำตัวลงไปด้านล่างจะเป็นหางแมงป่อง 9 หางที่ทรงพลัง เมื่อหางพวกนี้กวัดแกว่งไปมาเบา ๆ หางแมงป่องยาว ๆ พวกนี้จะกลายเป็นเหมือนวงล้อราวกับว่าพวกมันทำมาจากใบพัด ที่คอยสร้างระลอกคลื่นในทะเลลึก
อย่างไรก็ตามสำหรับจางลี่เฉินแล้วสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือตัวอักษรจีนไม่กี่ตัวที่ปรากฏขึ้นในใจว่า “ทำลายหรือรวมเข้าด้วยกัน เฉือนอากาศด้วยปลายหางทั้งเก้า” เมื่อร่างของเกาะมังกรเข้ามาอยู่ในสายตาของชายหนุ่ม นี่เป็นข้อพิสูจน์ที่แท้จริงถึงความสำเร็จของการเปลี่ยนแปลง
แม้การเปลี่ยนแปลงครั้งที่ 3 ของสัตว์อาคมพร้องหางแมงป่องทั้ง 9 หางจะไม่ได้สร้างความปั่นป่วนให้กับโลกเหมือนอย่างการเปลี่ยนแปลงของเมานท์โทดและโครโคดราก้อนแต่มันก็ยากกว่ามากเมื่อเทียบกับ 2 ตัวที่ผ่านมา หากไม่ใช่เพราะพวกเขาได้มาเจอกับเรือดำน้ำโดยบังเอิญ ชายหนุ่มอาจไม่รู้ถึงกลอุบายที่ใช้ในการเปลี่ยนแปลงของเกาะมังกรและคงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมแพ้กับสัตว์อาคมทรงพลังตัวนี้ไป
เมื่อมองย้อนกลับไป จางลี่เฉินรู้สึกขอบคุณเรือดำน้ำที่เกือบจะยิงตอร์ปิโดได้สำเร็จ อย่างไรก็ตามมีสัตว์อาคม 2 ตัวที่ผ่านการเปลี่ยนแปลงสำเร็จไปแล้ว ชายหนุ่มที่ถูกโจมตีโดยเรือดำน้ำอย่างต่อเนื่องมีแรงกระตุ้นที่ไม่สามารถควบคุมได้เพื่อทำลายมัน
หัวใจที่เต้นช้าลงของจางลี่เฉิน หลังการเปลี่ยนแปลงเสร็จสิ้นก็เริ่มกลับมารีบเร่งอีกครั้งในขณะที่เขากำลังตามหลังเรือดำน้ำไปพร้อมถอนหายใจด้วยความโล่งอกก่อนที่จะพ่นฟองอากาศออกมาเล็กน้อย
เขาตัดสินใจสั่งให้เกาะมังกรเคลื่อนตัวผ่านช่องว่างและค่อย ๆ แอบเคลื่อนตัวเข้าไปใกล้ ๆ กับเรือดำน้ำ เมื่อเรือลำนี้เปิดใช้งานตอร์ปิโดเมื่อไหร่ก็จะสามารถเริ่มต้นการฆ่าได้อย่างสนุกสนาน ในเวลาเดียวกันเขายังวางแผนสั่งเวิร์มดราก้อนให้โจมตีเปลือกนอกของเรือดำน้ำ พยายามที่จะโจมตีจากทั้งภายในและภายนอกในเวลาเดียวกันเพื่อทำลายเรือดำน้ำในครั้งเดียว นี้คือการกระทำเพื่อหยุดยั้งการระเบิดของจรวดขีปนาวุธและตายไปพร้อมกับศัตรู
แต่แล้วเขาก็ต้องประหลาดใจ ทันทีที่เกาะมังกรเกิดการเปลี่ยนแปลงเสร็จเรือดำน้ำก็หยุดการโจมตีไปในเวลาเดียวกัน ชายหนุ่มรอเวลาอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตระหนักได้ว่าเรือดำน้ำลำนั้นได้หันหัวไปทางซ้ายแล้ว
จางลี่เฉินตะลึงงันไปกับสิ่งที่ได้เห็น เมื่อเขากำลังจะเริ่มการโจมตี ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงหึ่งต่ำ ๆ ดังก้องกังวานมาจากระยะไกล
เรือดำน้ำอีกลำกำลังมุ่งหน้ามาทางเขา จางลี่เฉินจำได้ดีว่าทางเข้าสู่อาณาจักรเหนือธรรมชาติอยู่ที่ไหนสักแห่งในทะเลที่นิวยอร์กและได้รับการป้องกันอย่างแน่นหนาจากกองทัพเรือสหรัฐฯ
การโจมตีเรือดำน้ำโดยไม่รู้จักตัวตนของสถานที่ดังกล่าวไม่ต่างอะไรกับการเจาะรังผึ้งด้วยไม้ในขณะเปลือยกาย
“ต้องระวัง ต้องระวัง…” ชายหนุ่มบอกกับตัวเองถึง 2 ครั้งในใจพร้อมกับยกเลิกการโจมตี เขาสั่งให้สัตว์อาคม 2 ตัวเดินทางไปยังอาณาจักรเหนือธรรมชาติพร้อม ๆ กับเขาโดยการเปลี่ยนขนาดตัวโดยใช้คาถา ‘ขยาย, หดตัว’
เขาลอยตัวขึ้นไปที่ผิวน้ำทะเลอย่างเงียบ ๆ วางแผนที่จะมองดูดวงดาวบนท้องฟ้าเพื่อระบุทิศทางที่จะกลับเข้าฝั่งโดยเร็วที่สุด
แต่เมื่อจางลี่เฉินย่อขนาดตัวจนเหลือแค่เพียง 30 เซนติเมตร เขากลายเป็นคนแคระที่ปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีเหลืองและสีน้ำเงินอย่างสมบูรณ์ จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าตำแหน่งของดวงดาวในท้องฟ้านั้นแตกต่างไปจากความทรงจำของเขาเมื่อเงยหน้าขึ้นมองขณะที่เขาลอยอยู่กลางทะเล
“เวรเอ้ย! ไม่แปลกใจเลยที่ได้เจอเรือดำน้ำของกองทัพเรือสหรัฐฯและถูกมันไล่ตาม! มันกลับกลายเป็นว่าตัวเราในตอนนี้ได้ตามเกาะมังกรมาที่ประตูเพื่อเข้าสู่อาณาจักรเหนือธรรมชาติในทะเลนิวยอร์กก่อนที่จะติดตามเรือดำน้ำไปยังดินแดนเหนือธรรมชาติซะเอง” จางลี่เฉินพึมพำด้วยรอยยิ้มบิดเบี้ยว “และตอนนี้เราก็กำลังหลงทาง…”
ขณะที่เขารู้ตัวแล้วว่าเขากำลังหลงทาง เขาได้มองไปรอบ ๆ ตัวขณะว่ายน้ำและตระหนักว่าได้ว่าที่นี่ไม่มีอะไรเลยยกเว้นทะเลสีฟ้าครามขนาดใหญ่ที่อยู่ในสายตาของเขา
เขาไม่มีเครื่องมือใด ๆ ติดตัวมาด้วยเลยดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะรู้ทิศทางของตัวเอง หลังจากครุ่นคิดเกี่ยวกับมันอยู่ครู่หนึ่งเขาก็ขยายร่างของตัวเองให้สูงกว่า 2 เมตรในขณะที่เกล็ดบนผิวหนังของเขายังสามารถมองเห็นได้จาง ๆ และขึ้นขี่เกาะมังกร จากนั้นก็พุ่งขึ้นไปในอากาศก่อนจะล็อคทิศใดทิศหนึ่งเพื่อตรงไปทางนั้น
ตั้งแต่ดึกจนถึงรุ่งเช้า จางลี่เฉินลองคิดคำนวณกับตัวเองและรู้ตัวว่าเขาต้องบินอย่างน้อยหลายร้อยกิโลเมตร แต่จนถึงตอนนี้เขายังไม่เห็นแม้แต่เกาะเล็ก ๆ เลยสักเกาะ
เมื่อดวงอาทิตย์ที่ดินแดนเหนือธรรมชาติเริ่มปรากฏตัวไปตามแนวชายฝั่ง เขาตัดสินใจที่จะไม่บินเป็นเส้นตรงอีกต่อไปแต่เริ่มบินเป็นวงกลมเป็นชั้น ๆ จากบนลงล่างแทน
เวลายังคงผ่านไปอย่างต่อเนื่อง ชายหนุ่มผู้ซึ่งเปลี่ยนร่างเป็นสิ่งที่คล้ายกับเทพขณะที่เขาบินไปมาอยู่บนตัวเกาะมังกรที่กำลังทะยานอยู่บนผิวน้ำทะเลยังไม่ได้รับผลลัพธ์ใด ๆ และนั่นเริ่มทำเขารู้สึกหงุดหงิด
ดวงอาทิตย์เริ่มขึ้นอย่างช้า ๆ และเมื่อมันขึ้นไปถึงจุดศูนย์กลางของท้องฟ้า เขาเริ่มรู้สึกได้ถึงความหิวกระหาย เขาอ้าปากกว้างสั่งให้เวิร์มดราก้อนพ่นพายุไซโคลนลงบนผิวน้ำเพื่อสร้างร่องน้ำลึกยาวไปบนทะเล
หลังจากนั้นไม่นาน เหล่าปลาและสัตว์ทะเลที่ตายแล้วก็เริ่มลอยอยู่เหนือผิวน้ำ
พอได้ระบายพลังออกไปบ้างเขาก็เริ่มรู้สึกดีขึ้นมาก เขากระโดดลงไปทะเลโดยตรงและเริ่มเลือกทำซาซิมิเพื่อมากิน ในที่สุดเขาก็เลือกปลาที่มีความยาว 1 เมตรซึ่งถูกพายุไซโคลนตัดหัวแต่ร่างกายของมันยังคงอยู่สมบูรณ์ มันแทบไม่มีเกล็ดเลยแม้แต่น้อย เนื้อของมันมีสีขาวนวลทั้งอวบและฉ่ำ เขาฉีกมันออกเป็นชิ้น ๆ และเริ่มลิ้มรสชาติของมันโดยใช้มือของตัวเองบีบเนื้อชิ้นเล็ก ๆ ออกจากร่างปลาและใส่มันเข้าปากเหมือนดูดเส้นก๋วยเตี๋ยว เขากลืนเนื้อปลาที่มีกลิ่นสดลงไปในท้องโดยไม่ต้องเคี้ยว
วิธีการกินแบบนี้ช่วยให้ประหยัดเวลาได้มาก หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ชายหนุ่มก็ได้กินปลาใหญ่หมดไปกว่าครึ่งตัว
ขณะนั้นเอง พวกปลาที่ถูกหั่นเป็นชิ้น ๆ จำนวนนับไม่ถ้วนที่ลอยอยู่บนผิวน้ำรอบตัวเขาเริ่มดึงดูดสัตว์ทะเลอื่น ๆ จำนวนมากให้มารวมตัวกัน จางลี่เฉินเห็นปลาตัวหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส แก้มทั้งสองข้างของมันเหมือนโลมาและร่างเรียบ ๆ นั่นก็โผล่ขึ้นมาจากผิวน้ำเพื่อกินปลาที่ตายแล้วด้วยคำเดียว
ปลาตัวนี้มีแผงคอหนา ๆ อยู่ด้านบนหัว ในตอนนี้แผงคอหนา ๆ ของมันถูกยึดไว้อย่างแน่นโดยชายแก่แปลก ๆ ที่มีใบหน้าเหี่ยวย่นซึ่งเป็นผลมาจากการแช่ตัวอยู่ในน้ำนานเกินไป
สิ่งที่แปลกประหลาดอย่างมากคือชายชราที่สวมเสื้อสีเทาตัวนี้กำลังหลับตาอยู่ราวกับว่าเขาตกอยู่ในอาการโคม่า
ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและไม่สมเหตุสมผลเลยแม้แต่นิด ชายหนุ่มยิ่งตะลึงเข้าไปใหญ่เมื่อชายชราคนนั้นปล่อยมือของตัวเองที่จับปลาเอาไว้
ขณะที่เขากำลังจะเข้ามาใกล้และดูสถานการณ์ของชายชราอย่างใกล้ชิด ปลาแปลก ๆ ที่เหมือนกับโลมาตัวนั้นได้อ้าปากกว้างเพื่อขวางทางเขาเอาไว้
จางลี่เฉินตะลึงจนพูดไม่ออกขณะมองดูปลาที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีก่อนจะหัวเราะเบา ๆ ด้วยความประหลาดใจ แค่ความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้ก็เพียงพอแล้วที่เขาจะสามารถทุบปลาลงไปได้ด้วยหมัดง่าย ๆ เขาไม่จำเป็นต้องขยายร่างหรือไม่จำเป็นต้องสั่งให้สัตว์อาคมทำการโจมตีแทน
อย่างไรก็ตามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรับผิดชอบแปลก ๆ ของปลาตัวนั้น ชายหนุ่มตัดสินใจที่จะไม่ทำอะไรมัน เขาเพียงดึงเนื้อปลาสองสามชิ้นโยนไปให้มันจากนั้นก็ขึ้นขี่เวิร์มดราก้อนเพื่อค้นหาเส้นทางของเขาต่อไป
ในตอนนั้นเอง ชายชราจากอาณาจักรเหนือธรรมชาติลืมตาขึ้นมาและเริ่มทำเสียงฮึดฮัด “โอ้วว อ่าา…” พร้อมกับหน้าบูดบึ้งมาที่จางลี่เฉิน ในเวลาสั้น ๆ เขาเปลี่ยนภาษาของเขาไปมากกว่า 10 ครั้ง
จางลี่เฉินเหมือนโดนกระตุ้นเบา ๆ เขามีความตั้งใจที่จะสื่อสารกับชายชราพื้นเมืองคนนี้เช่นกัน
เขาพึมพำอย่างไร้ความหมายแล้วชี้ไปที่มหาสมุทรก่อนจะวางฝ่ามือลงบนพื้นผิวทะเลกว้าง เปลี่ยนมือเพื่อทำเป็นรูปเหมือนเกาะกลางทะเล เขายังคงส่งสัญญาณโดยใช้มือของเขาแต่ในที่สุดเขาไม่สามารถสื่อสารกับชายชราได้เลย
โดยไม่รู้ว่าเวลาล่วงเลยไปมากเท่าไหร่ ภายใต้แสงแดดจ้าของดวงอาทิตย์ ชายหนุ่มยังคงเต็มไปด้วยพลังงานและไม่ได้รู้สึกทุกข์ร้อนอะไร ตรงกันข้ามกับชายชราขี่ปลาแปลก ๆ ที่ในตอนนี้ใบหน้าของเขาเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเทาเหมือนไม้ผุ ๆ
เมื่อเห็นว่าพวกเขาไม่สามารถสื่อสารกันได้และชีวิตของเขาก็ได้มาถึงช่วงเวลาสุดท้ายแล้วการแสดงออกที่ดิ้นรนก็เริ่มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของชายชรา ในท้ายที่สุดเขาตัดสินใจที่จะหยิบหนังสัตว์เก่าออกมาจากกระเป๋าของเขาและเปิดมันก่อนที่จะเขียนอะไรบางอย่างอย่างรวดเร็วด้วยนิ้วที่ผอมแห้งของเขา
จางลี่เฉินคิดว่าชายชราคนนี้อาจจะกำลังวาดแผนที่ให้ สีหน้าที่ซาบซึ้งปรากฏขึ้นบนใบหน้าของชายหนุ่มขณะที่เขารอคอยอย่างเงียบ ๆ
หลังจากผ่านไปได้ครู่หนึ่ง ในที่สุดชายชราก็เขียนเสร็จและส่งหนังสัตว์มาให้กับชายหนุ่ม
ด้วยความประหลาดใจ จางลี่เฉินหยิบหนังสัตว์ชิ้นนั้นขึ้นมามองดูแต่มันกลับไม่มีภาพวดแผนที่แบบที่เขาคิดไว้ มันเต็มไปด้วยตัวอักษรเล็ก ๆ ที่เหมือนกับลูกอ๊อดแทน เขาอดไม่ได้ที่จะแสดงความรู้สึกสับสนออกมา