The king of War - บทที่ 946 ตำแหน่งกษัตริย์กวน
ขนาดเขา คนที่เป็นกษัตริย์กวน ก็มองหยางเฉินไม่ออก ถึงขนาดสัมผัสได้ถึงแรงกดดันจากตัวหยางเฉินรางๆ
“ในบัตรใบนี้มีสองแสนล้าน!”
ตรงสองนิ้วของกษัตริย์กวน มีแบล็คการ์ดปรากฏขึ้น เขาใช้นิ้วดีด แบล็คการ์ดกลายเป็นสายฟ้าสีดำ พุ่งไปยังหยางเฉิน
หยางเฉินยื่นสองนิ้วออกมาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ คว้าแบล็คการ์ดเอาไว้ได้อย่างแม่นยำ
กษัตริย์กวนยิ่งตกใจ ตอนเขาดีดแบล็คการ์ดออกไป ใช้พละกำลังของผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นปลาย แต่โดนหยางเฉินรับมือได้อย่างง่ายดาย
ไม่ต้องคิดก็รู้ พละกำลังของหยางเฉิน อย่างน้อยต้องอยู่ในแดนราชาขั้นปลาย
“พนันไว้แสนล้าน แต่กษัตริย์กวนให้ผมสองแสนล้าน คงมีจุดประสงค์อื่นใช่ไหม”
หยางเฉินถามอย่างราบเรียบ
กษัตริย์กวนพูดด้วยสีหน้าเย่อหยิ่ง “กวนหงอี้ เป็นเจ้าชายใหญ่ของตระกูลคิงกวน ถ้าโดนทำลายแขนทั้งสองข้างจริง ไม่ต่างจากคนพิการ ฉันให้นายเพิ่มอีกแสนล้าน ซื้อแขนทั้งสองข้างของเขา”
แสนล้านซื้อแขนสองข้าง ช่างจริงใจเหลือเกิน
แต่ทว่าหยางเฉินมาตระกูลคิงกวนครั้งนี้ แค่มาพากวนเย่วไปแค่นั้นเหรอ
แน่นอนว่าไม่ใช่!
เขามาทวงคืนความยุติธรรมให้น้องชาย
สองแสนล้านเยอะมาก แต่สำหรับคนอย่างเขา สองแสนล้าน ก็แค่ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นในบัญชีธนาคารเท่านั้น
“พูดแบบนี้ แขนข้างหนึ่งของเจ้าชายใหญ่กวน มูลค่าห้าหมื่นล้านเหรอ”
จู่ๆ หยางเฉินถามขึ้น
กษัตริย์กวนขมวดคิ้ว แต่ก็พูดว่า “นายคิดอย่างนี้ก็ได้!”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เงินพนันแสนล้าน ผมไม่ต้องการแล้ว ซื้อขาทั้งสองข้างของเจ้าชายใหญ่กวน”
หยางเฉินยกยิ้มมุมปาก ดีดนิ้วออกไป แบล็คการ์ดใบนั้น พุ่งไปหากษัตริย์กวน
“พรึ่บ!”
แบล็คการ์ดเหมือนอาวุธลับสีดำ พุ่งออกไปทันที
กษัตริย์กวนรับแบล็คการ์ดเอาไว้ แต่สองนิ้วที่เขาใช้รับแบล็คการ์ด มีเลือดไหลออกมา
“กษัตริย์กวน!”
คนตระกูลคิงกวนอุทานอย่างตกใจ สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ
กษัตริย์กวนที่ไร้เทียมทานในสายตาพวกเขา กลับได้รับบาดเจ็บ
ดวงตาทั้งสองข้างของอู่หนิง ฉายแววเป็นประกาย จ้องหยางเฉินเขม็ง
วันนี้หยางเฉินทำให้เขาตกใจเยอะเกินไปแล้ว
กษัตริย์กวนเป็นผู้แข็งแกร่งแดนราชาสูงสุด แบล็คการ์ดที่เขาดีดไปหาหยางเฉิน โดนหยางเฉินรับได้อย่างง่ายดาย
แต่แบล็คการ์ดที่หยางเฉินดีดมา กลับทำให้นิ้วมือของกษัตริย์กวนเลือดไหล
นี่หมายความว่า แดนวิถีบู๊ของหยางเฉิน เหนือกว่ากษัตริย์กวนแล้วไม่ใช่หรือ
กษัตริย์กวนหน้าซีด ตอนมองหยางเฉินอีกครั้ง แววตาเย่อหยิ่งก่อนหน้านี้ หายไปจนหมด
ถึงเขาประมาทคู่แข่ง จนโดนแบล็คการ์ดที่หยางเฉินโยนมาบาดนิ้ว แต่อย่างน้อยก็อธิบายได้ว่า พละกำลังของหยางเฉิน ไม่ได้ด้อยกว่าเขา
คนหนุ่มที่อยู่ในแดนราชาสูงสุด ถึงเป็นกษัตริย์กวน ก็รู้สึกถึงความกดดันอย่างรุนแรง
“ความแค้นเคืองพึงละมิพึงผูก นายแน่ใจเหรอว่าจะเอาแขนทั้งสองข้างของกวนหงอี้”
กษัตริย์กวนถามเสียงทุ้ม
เขาเป็นกษัตริย์กวน ถึงจะกลัวตัวตนของหยางเฉิน แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าทุกคน ก็ห้ามเผยว่ากลัวหยางเฉินออกมาแม้แต่นิดเดียว
หยางเฉินพูดน้ำเสียงราบเรียบ “เขายิงน้องชายผม ควรตายเท่านั้น แต่เห็นแก่ที่เขาเป็นลูกชายของกษัตริย์กวน ผมจึงไว้ชีวิตเขา ถ้ากษัตริย์กวนคิดว่าผมบีบบังคับผู้อื่น คุณพูดเพียงคำเดียว ผมจะไปเดี๋ยวนี้!”
หยางเฉินที่ดูแข็งกร้าวเมื่อครู่ กลับทำเหมือนกำลังอ่อนข้อ
มีเพียงกษัตริย์กวนเท่านั้นที่รู้ หยางเฉินกำลังถอยเพื่อการก้าวไปข้างหน้า
เมื่อครู่เขาสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของหยางเฉินเพียงรางๆ ถ้าให้หยางเฉินกลับไปแบบนี้ กลัวว่าต่อไปตระกูลคิงกวน ต้องไม่สงบแน่นอน
“กวนเจิ้นไห่!”
จู่ๆ กษัตริย์กวนแผดเสียงออกมา
“ครับ!”
กวนเจิ้นไห่รีบเข้ามา
“ทำลายแขนทั้งสองข้างของเจ้าชายใหญ่!”
กษัตริย์กวนพูดอย่างเย็นชา
เมื่อกษัตริย์กวนพูดออกมา ทุกคนถึงกับช็อก
กวนหงอี้มีสีหน้าไม่อยากเชื่อ “พ่อ!”
แต่กษัตริย์กวนไม่แม้แต่จะมองเขา ในแววตากลับเต็มไปด้วยความผิดหวังต่อเขา
หลังกวนเจิ้นไห่ตกใจอยู่ครู่หนึ่ง จึงรีบพูดว่า “ครับ!”
เขาเดินขึ้นมาข้างหน้า มองกวนหงอี้แล้วพูดว่า “เจ้าชายใหญ่ กล้าทำกล้ารับ! ในเมื่อกษัตริย์กวนมีคำสั่ง นายก็เชื่อฟังคำสั่งเถอะ!”
“หยางเฉิน นายรังแกคนอื่นเกินไปแล้ว!”
กวนหงอี้ตวาดออกมาด้วยดวงตาแดงก่ำ ในแววตาเต็มไปด้วยความอาฆาตรุนแรง ถ้าเขามีโอกาสฆ่าหยางเฉิน เขาจะไม่ออมมือแน่นอน
“ลงมือ!”
กษัตริย์กวนแผดเสียงอย่างโมโห
กวนเจิ้นไห่ขยับเท้า พุ่งเข้าไปหากวนหงอี้ เหวี่ยงหมัดออกไป
“กรอบ!”
เสียงกระดูกหักดังขึ้นอย่างชัดเจน แขนข้างหนึ่งของกวนหงอี้หักทันที
ตามมาด้วยเสียงกระดูกหักดังสนั่นอีกครั้ง แขนอีกข้างของเขา หักลงในทันที
กวนหงอี้สะกดกลั้นไม่ให้มีเสียงออกมา ในแววตาเต็มไปด้วยความอาฆาตอันน่ากลัว ตาทั้งสองข้างจ้องมองไปที่หยางเฉิน ด้วยความเคียดแค้นรุนแรง
“ในบัตรใบนี้มีเงินแสนล้าน!”
กษัตริย์กวนใช้นิ้วดีดบัตร ไปหาหยางเฉิน เป็นแบล็คการ์ดของธนาคารโลก
หยางเฉินรับบัตรธนาคารอย่างไม่ลังเล ราวกับว่าเงินแสนล้านนี้ ควรให้เขาอยู่แล้ว
อู่หนิงก็ตื่นเต้นมาก ตอนนี้ยิ่งหยางเฉินแสดงว่าแข็งแกร่งมากเท่าไร เขาก็ยิ่งมีความสุข
เพราะเพื่อหยางเฉิน เขาจึงเลือกเป็นศัตรูกับตระกูลคิงกวน นี่เป็นการเดิมพันที่ยิ่งใหญ่
ขนาดกษัตริย์กวนยังประนีประนอม นี่แสดงว่ามูลค่าของหยางเฉิน เหนือกว่าตระกูลคิงกวน
เมื่อเป็นเช่นนี้ ตำแหน่งของเขาในตระกูลอู่หวง ต้องสูงขึ้นมาก และยิ่งเข้าใกล้ตำแหน่งผู้สืบทอดจักรพรรดิ
“ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ปลดกวนหงอี้ ออกจากคุณสมบัติในการเป็นผู้สืบทอดตำแหน่ง!”
จู่กษัตริย์กวนกวาดตามองคนตระกูลคิงกวน แล้วพูดอย่างเย็นชา “และฉันข้อเสนอให้กวนเจิ้นไห่ เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งกษัตริย์ รอให้พละกำลังของเขาถึงแดนราชาขั้นกลาง จะแต่งตั้งเขาเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งกษัตริย์อย่างเป็นทางการ”
“เมื่อพละกำลังของเขาถึงแดนราชาขั้นปลาย ฉันวางมือให้คลื่นลูกใหม่ เขาจะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งกษัตริย์กวน!”
เมื่อพูดประโยคนี้ออกมา คนตระกูลคิงกวน ต่างเบิกตาโต
ในตระกูลคิงกวน คนที่มีคุณสมบัติในการช่วงชิงตำแหน่งกษัตริย์ มีเพียงกวนหงอี้กับกวนเจิ้นไห่เท่านั้น
กวนหงอี้เป็นลูกชายของกษัตริย์กวน กวนเจิ้นไห่เป็นผู้แข่งขันช่วงชิงตำแหน่งกษัตริย์ ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับกษัตริย์กวน
วันนี้กษัตริย์กวนประกาศต่อหน้าทุกคน ว่าจะยกเลิกคุณสมบัติผู้สืบทอดตำแหน่งกษัตริย์ ของลูกชายตัวเอง และเสนอให้กวนเจิ้นไห่ ผู้ซึ่งอยู่ฝ่ายตรงข้าม เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งกษัตริย์
ตระกูลคิงกวนอันยิ่งใหญ่ ไม่มีใครคิดว่าเขาจะทำแบบนี้
กวนหงอี้เบิกตาโต สีหน้าไม่อยากเชื่อ “พ่อ พ่อไม่ให้โอกาสผมแม้แต่ครั้งเดียวเลยเหรอ”
“หุบปาก!”
กษัตริย์กวนโมโห “ให้เทียบกับกวนเจิ้นไห่ แกมีคุณสมบัติอะไรที่จะช่วงชิงตำแหน่งผู้สืบทอดกษัตริย์”
จนกระทั่งตอนนี้ กวนเจิ้นไห่เพิ่งตั้งสติได้
เมื่อกี้เขาพูดไปแล้ว จะลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าศาลายุติธรรม ตอนนี้ไม่สนใจเรื่องตระกูลคิง ปรารถนาเพียงวิถีบู๊
“กษัตริย์กวน ยกโทษที่ผมมิอาจรับปากได้!”
กวนเจิ้นไห่รีบพูดออกมาทันที
กษัตริย์กวนเลิกคิ้วขึ้น ออร่าของผู้สูงส่งแผ่ออกมา “อนาคตนายไม่อยากเป็นกษัตริย์ของตระกูลคิงกวนเหรอ”
ถ้าเป็นปกติ อำนาจอันแข็งแกร่งของกษัตริย์กวน เพียงพอที่จะกดดันกวนเจิ้นไห่ แต่ครั้งนี้ กลับไม่สามารถทำได้
กวนเจิ้นไห่ยืนตัวตรง สีหน้าไม่หวาดกลัว เงยหน้ามองกษัตริย์กวน พูดด้วยสีหน้าจริงจัง “เมื่อกี้คุณหยางพูดได้ดีมาก พวกเราเป็นเพียงกบในกะลาเท่านั้น โลกกว้างใหญ่ ผมไม่อยากอยู่ในตระกูลคิงกวนไปตลอดชีวิต”
“ผมจะออกจากตระกูลคิงกวนวันนี้ ต่อไปจะมุ่งมั่นกับบู๊ คงมีสักวัน ที่ผมสามารถเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเทพคนแรก ของตระกูลคิงกวน และอาจจะแข็งแกร่งยิ่งกว่า!”