The Legendary Mechanic - ตอนที่ 1012 การยิงครั้งแรกในโลกริบหร
กองยานโลจิสประกอบไปด้วยยานขนส่ง ยานบรรทุก และยานอุตสาหกรรมซึ่งล้วนมีขนาดใหญ่ แม้จะติดตั้งอาวุธกับม่านพลัง ความคล่องตัวและอำนาจยิงก็ไม่สามารถเทียบได้กับยานรบ ดังนั้น พวกเขาจึงซ่อนอยู่ตรงกลางการป้องกัน แต่ตอนนี้ ยานได้ถูกเจาะ กระแทกกับยานคุ้มกัน ฉีกแนวรบของกองยานสำรวจทันที และอาวุธของยานเหล่านี้ก็ถูกนำมาใช้ ยิงใส่ด้านหลังกองยานคุ้มกัน
เนื่องจากเกราะชั้นนอกบางส่วนของกองยานติดอาวุธไม่ได้ใส่พลังงานเข้าไปมากนักในม่านพลังด้านหลัง พวกมันจึงเสียหยทันที หลายลำระเบิด
“ควบคุมยานอวกาศเหล่านี้ ตั้งรับไว้!ยานลำอื่น เสริมไฟร์วอลล์ปัญญาประดิษฐ์เดี๋ยวนี้ เพิ่มความถี่ในการตรวจสอบระบบ!”ร็อดดิกไม่มีเวลาคิดถึงสิ่งอื่น เขารีบสั่งให้กองยานรับมือกับสถานการณ์กะทันหันนี้
ช่างกลผู้อยู่เหนือมักเป็นอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงในสงครามกาแล็กซี่ที่กองยานไม่อยากเผชิญหน้า
วิธีแก้ปัญหาที่ตรงสุดคือการปิดปัญญาประดิษฐ์บนยานทั้งหมด แต่ในกรณีนั้น สายบังคับบัญชาจะพัง ซึ่งไม่ต่างอะไรกับการฆ่าตัวตาย
ปัจจุบัน การควบคุมยานอวกาศและการสื่อสารด้วยเครือข่ายควอนตัมเป็นวิธีที่ดีสุด แม้วิธีอื่นเช่นเวทย์หรือระบบชีวภาพจะมี พวกมันก็มีข้อบกพร่องเต็มไปหมด
ตัวอย่างเช่น เวทมนตร์สามารถใช้ดัดแปลงยานอวกาศให้เป็นสิ่งมีชีวิตได้ แต่ต้นทุนก็แพงกว่าหลายเท่า และประสิทธิภาพในการควบคุมยานดังกล่าวก็ต่ำกว่าเทคโนโลยีเครือข่ายควอนตัม ไม่ต้องพูดถึงการสื่อสารที่ด้อยกว่าอย่างมากในด้านระยะทางและประสิทธิภาพ แถม พวกมันยังไม่ปลอดภัยเท่าไฟร์วอลล์ของเครือข่ายควอนตัม และเปราะบางเมื่อเผชิญหน้ากับจอมเวทย์หรือผู้ใช้พลังจิต
อารยธรรมทั้งหมดในจักรวาลมีวิธีป้องกันการบุกรุกเสมือน แต่ไม่ว่ามันจะได้ผลหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับว่าคู่ต่อสู้นั้นแข็งแกร่งแค่ไหน
เมื่อเผชิญหน้ากับหานเซี่ยว ผู้ตอนนี้เป็นจุดสูงสุดของผู้อยู่เหนือ มาตรการป้องกันปัญญาประดิษฐ์ของอารยธรรมโมโดจึงไม่คงอยู่อย่างชัดเจน มันทำได้แค่ชะลอเวลาจนกว่ายานลำอื่นจะถูกเจาะ แต่ไม่ได้ป้องกัน ไม่ว่าจะดิ้นรนแค่ไหน แนวป้องกันก็ยังถูกเจาะทีละนิด
สำหรับยานอวกาศที่หานเซี่ยวควบคุมแล้ว การนำกลับมาแทบเป็นไปไม่ได้
ในสนามรบ กองยานสำรวจกำลังถูกโจมตีจากทั้งสองฝั่ง พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากส่งกองยานส่วนหนึ่งหันกลับไปและควบคุมความตื่นตระหนก สถานการณ์เริ่มวุ่นวายมากขึ้น และกองยานอารยธรรมโมโดก็สูญเสียที่ยึดเกาะช้าๆ ยานอวกาศบางส่วนที่หลุดการควบคุมได้เจาะขบวนรบ ส่วนที่เหลือทำการระเบิดตัวเองใส่ยานคุ้มกันรอบๆ แต่ยังรวมถึงยานโลจิสอื่นที่ยังไม่ถูกควบคุม
เพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม ร็อดดิกจำต้องสั่งให้ทำลายยานโลจิสบางส่วน เฝ้าดูยานเหล่านั้นที่เป็นแหล่งทรัพยากรสำคัญถูกทำลายด้วยใบหน้าบิดเบี้ยว
มีคนอยู่ทุกแห่งในโลกริบหรี่ แม้เส้นทางจะไม่เป็นที่นิยม ก็ยังมีคนผ่าน ผลกระทบที่เกิดจากสนามรบนี้กระจายออกไปและดึงดูดความสนใจกองยานที่ผ่านมามาก
ส่วนใหญ่ไม่อยากถูกลากเข้ามาร่วม
แต่ยังมีองค์กรอื่นที่ขยับใกล้อย่างระมัดระวัง เมื่อเห็นสัญลักษณ์ของอารยธรรมโมโดบนกองยาน พวกเขาก็คุยกันในช่องสาธารณะ
“กองยานอารยธรรมโมโดถูกโจมตี?”
“ใคร?ใครที่กล้าตอแยอารยธรรมกลุ่มดาวชั้นยอดและยังเหนือกว่า?”
“เราเพิ่งเข้าโลกริบหรี่ แต่ผู้โจมตีนี้กลับโจมตีกองยานขนาดใหญ่แบบนี้แล้ว มันยืนยันได้ว่าผู้โจมตีต้องมาจากจักรวรรดิ”
“ผู้โจมตีซ่อนสัญลักษณ์ตน เราจึงไม่รู้ว่าเป็นใคร”
“จิ๊ เหตุผลที่พวกเขาซ่อนตัวตนก็เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่ทิ้งหลักฐาน ดูเฉยๆก็พอ อย่าไปมีปัญหา”
แม้องค์กรเหล่านี้ที่ผ่านมาจะซุบซิบนินทา แต่ก็ไม่มีใครแทรกแซง ไม่มีใครอยากมีปัญหา
เมื่อการต่อสู้ดำเนินต่อไป ร็อดดิกก็ให้กองยานเขาเคลื่อนที่ขณะสู้ สนามรบค่อยๆเข้าใกล้ตำแหน่งสถานีประตูดาวถัดไป
มีกองยานจักรวรรดิประจำการที่สถานีประตูดาว แม้ร็อดดิกจะรู้ว่าผู้โจมตีต้องเกี่ยวกับจักรวรรดิ จักรวรรดิก็ไม่สามารถโจมตีอารยธรรมโมโดได้อย่างเปิดเผย ไม่งั้นผลกระทบด้านลบจะขยายใหญ่ ไม่เพียงส่งผลต่อคำสัญญาว่าจะเปิดโลกริบหรี่อย่างอิสระ มันยังสร้างรอยด่างให้กับการเมืองพวกเขาด้วย
การโตมาในอารยธรรมกลุ่มดาวชั้นยอดทำให้เขารู้ดีว่าสามอารยธรรมจักรวาลเป็นยังไง ในสายตาเขา ไม่เพียงสามอารยธรรมจักรวาลจะเป็นพวกอันธพาลคอยรังแก พวกเขายังอยากรักษาภาพลักษณ์ที่ดีเพื่อรักษาตำแหน่งของผู้ปกครอง
ด้วยฝูงชนมากมายที่เฝ้าดู ร็อดดิกจึงรู้ว่ากองยานจักรวรรดิของสถานีประตูดาวต้องไม่เสริมกำลังเขา ดังนั้น ตราบเท่าที่เขาเข้าใกล้สถานีประตูดาวมากพอ เขาก็สามารถบังคับให้ผู้โจมตีถอยหนีได้
หลังต่อสู้มานาน ผู้โจมตีก็หยุดและถอยห่างสนามรบ จากนั้นกองยานก็เข้าไฮเปอร์ไดรฟ์ทีละลำ เปลี่ยนเป็นลำแสง หายลับไป
“พวกมันหนีไปแล้ว”เมื่อเห็นแบบนี้ ลากอสจึงถอนหายใจ เขาพูดอย่างลังเล”พวกเราจะไล่ล่ามันไหม?”
“เราทำไม่ได้ นี่ไม่ใช่อาณาเขตเรา” แม้ร็อดดิกจะโกรธ เขาก็ไม่เสียเหตุผล เขากัดฟันแน่น”เก็บกวาดสนามรบ คำนวณความเสียหาย”
ความเสียหายถูกคำนวณอย่างรวดเร็ว ผู้ช่วยเดินมาข้างเขา ไม่กล้าสบตาร็อดดิก และรายงานอย่างระมัดระวัง
“ท่านครับ เราเสียกองยานติดอาวุธไป 8% ยานรบติดอาวุธ 29%เสียหาย พวกเขากำลังซ่อมแซม กองยานโลจิสสูญเสียยานไปถึง 37% มี 15%ถูกยึด ยานขนส่งส่วนใหญ่….”
ร็อดดิกแทบจะเป็นลม
กองยานโลจิสเสียไปกว่า1ใน3 การซุ่มโจมตีนี้ทำให้เกิดความสูญเสียอย่างหนัก!
“เหลือเชื่อ!’สีหน้าของสามราชาบิดเบี้ยว การสื่อสารยังไม่ถูกวางตลอดและพวกเขาก็เห็นกระบวนการทั้งหมด
ทั้งสามหวังไว้สูงกับกองยานสำรวจและร็อดดิก แต่พวกเขากลับเสียหายขนาดนี้ทันทีที่เข้าโลกริบหรี่ ความผิดหวังของสามราชาและความโกรธแสดงออกมาอย่างชัดเจนผ่านน้ำเสียงและสีหน้า
“ขออภัย นี่เป็นความบกพร่องในหน้าที่ผม”ร็อดดิกกำหมัดและยอมรับความผิด
ในฐานะผู้บัญชาการ ไม่มีทางที่ร็อดดิกจะรอดพ้นจากการถูกตำหนิได้ มันไม่ใช่ว่าเขาสามารถตำหนิศัตรูที่วางกับดักได้ ไม่ว่าจะมีเหตุผลแค่ไหน ความสูญเสียก็คือความสูญเสีย มันคือความจริง ถ้าเขายังคิดหาเหตุผล มันจะทำให้ความประทับใจของสามราชายิ่งแย่ลง ดังนั้น เขาจึงทำได้แค่อดทนและยอมรับมัน
“เราปล่อยให้คุณนำกองยานเพราะเราเชื่อมั่นใจความสามารถคุณ แต่ผลงานที่คุณแสดงทำให้เราสงสัยว่านี่เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องหรือไม่”สามราชาคำราม
ร็อดดิกไม่กล้าพูดกลับ เขาทำได้แค่ยืนตรงนั้น รับคำด่า
หลังก่นด่า สามราชาก็บอกเขาให้รีบจัดการปัญหานี้ต่อก่อนวางสาย ในที่สุด ร็อดดิกก็ยืดตัว เขากำลังจะระเบิดด้วยความโกรธ
เขารู้ว่าเขาทิ้งความประทับใจไม่ดีให้กับนายตนเอง ถ้าเขาไม่สามารถชดเชยได้ อนาคตเขาย่อมมืดมน
ห้องเต็มไปด้วยบรรยากาศหนาวเย็น ทุกคนมองร็อดดิกขณะตัวสั่น ร็อดดิกควรส่งคำสั่งต่อไปให้กองยาน แต่ไม่มีใครกล้ากวนประสาทเขา
ลากอสกระแอมและพูด”จักรวรรดิมีช่างกลผู้อยู่เหนือมากมาย แม้ศัตรูจะใช้การบุกรุกเสมือน แต่ก็ไม่ปรากฏตัว ตามความเร็วการบุกรุกของศัตรู ผมเดาว่านี่น่าจะเป็นแบล็คสตาร์”
“ไม่ต้องเดา มันเป็นเขานั่นแหละ!”น้ำเสียงของร็อดดิกเย็นชามาก
“น่าเสียดาย เราไม่มีหลักฐาน..” ไอลีนโนเวล
“ถ้าเรามีหลักฐานแล้วยังไง?”ร็อดดิกพูดแทรก ถึงแม้พวกเขาจะรู้ตัวคนโจมตี มันก็เปล่าประโยชน์ โลกริบหรี่คืออาณาเขตของอีกฝ่าย การตอแยกับกองทัพแบล็คสตาร์เทียบเท่ากับการฆ่าตัวตาย
ก่อนหน้านี้ ร็อดดิกพยายามขึ้นยานศัตรูและจับลูกยานศัตรูเป็นหลักฐาน แต่ผู้โจมตีเอาแต่ทิ้งระยะห่าง ไม่ยอมให้เขาทำแบบนั้น สำหรับเขา ต่อให้มีหลักฐาน มันก็ไม่ส่งผลกับกองทัพแบล็คสตาร์มากนัก ในโลกริบหรี่ กองทัพแบล็คสตาร์สามารถทำได้ตามใจชอบ!
แม้อารยธรรมโมโดจะเป็นอารยธรรมกลุ่มดาวชั้นยอด ฐานพวกเขาก็อยู่ในแม่น้ำดวงดาวแรกเริ่ม ซึ่งไกลจากวงแหวนดาวกระจายและโลกริบหรี่ ไม่ว่าจะแข็งแกร่งแค่ไหน ก็ไม่มีทางที่พวกเขาจะทำอะไรกับกองทัพแบล็คสตาร์ได้ นอกจากนี้ พวกเขาไม่ใช่อารยธรรมจักรวาล ซึ่งมีพันธมิตรผู้อยู่เหนือเป็นสิบ พวกเขาไม่สามารถทำอะไรกับแบล็คสตาร์ได้เลย
ดังนั้น พวกเขารู้ว่าคนโจมตีเป็นใคร แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากมองดูตัวเองตกเป็นเป้า
ร็อดดิกสูดหายใจลึก หันไปจ้องลากอส”ติดต่อเกรอซ ผมอยากคุยกับเขาเป็นการส่วนตัวว่าทำไมเขาถึงไม่เข้าร่วมการต่อสู้!”
เขาไม่มีทางเลือกนอกจากระบายความโกรธใส่คนอื่น อย่างไรก็ตาม เกรอซนั้นผิดคำพูดจริงๆ ร็อดดิกไม่รู้ว่าเกรอซเป็นบ้าอะไร ความโกรธของเขาสมเหตุสมผล
จากนั้นลากอสก็ติดต่อเกรอซ สายถูกรับอย่างรวดเร็วและเกรอซก็ปรากฏบนจอ
“แกควรให้คำอธิบายกับฉัน!”ร็อดดิกตะโกน
เกรอซขมวดคิ้ว”ระวังน้ำเสียงแกด้วย”
เมื่อเจอกับแบล็คสตาร์ ท่าทีเขาเต็มไปด้วยความเคารพ แต่เมือ่เจอร็อดดิก เขารีบสวมบทบาทผู้อยู่เหนือ
“ทำไมแกถึงดูอยู่ข้างๆ?” “ฉันจะยกเลิกงานกับนายแก”เกรอซไม่อธิบายและวางสายทันที
เมื่อเขารับงานจ้าง เขาคิดว่าภารกิจคงแค่การจัดการกับคู่แข่ง ไม่คิดว่าจะเป็นแบล็คสตาร์ ดังนั้น งานเขาจึงไม่มั่นคง เขาไม่อยากทำมันอีก ต่อให้เขาจะขาดทุนเพราะฉีกสัญญา มันก็ดีกว่าการไปยุ่งเกี่ยวความขัดแย้งระหว่างอารยธรรมโมโดกับกองทัพแบล็คสตาร์
เนื่องจากเขากำลังจะยกเลิกงาน เขาย่อมไม่คิดเปิดโปงแบล็คสตาร์ มันคงเป็นเรื่องโง่เง่าอย่างยิ่ง ในเมื่อเขาเลือกฝ่ายหนึ่งแล้ว เขาก็ต้องยืนอยู่ข้างมัน
นอกจากนี้ เขาไม่อยากยอมรับว่าเขากลัวแบล็คสตาร์ เขาจึงไม่อยากบอกเหตุผลกับคนนอก
แต่ทว่า ทัศนคติที่เย่อหยิ่งและเหนือกว่านี้ทำให้เลือดลมของร็อดดิกพุ่งพล่าน!
แกคิดว่าตำแหน่งฉันไม่สูงพอจะทำให้แกต้องอธิบาย!? “ระยำ!”
ร็อดดิกตัวสั่นสะท้าน เขากำหมัดแน่น
“เราเสียอุปกรณ์กับทรัพยากรไปมาก เราทำได้แค่รับทรัพยากรในฐานของวงแหวนดาวกระจายเพิ่ม ซึ่งทำให้เราช้าลง นี่จะส่งผลกับแผนเรา”ลากอสขมวดคิ้ว
องค์กรทั้งหมดกำลังแข่งขันกัน ด้วยการอยู่หลังคนอื่นตั้งแต่ต้น พวกเขาเสียกำไรไปมากแค่ไหน?ลากอสไม่กล้าคิด
มันอาจกล่าวได้ว่าแผนของอารยธรรมโมโดในโลกริบหรี่ถูกทำลายโดยการโจมตีครั้งนี้!
ครั้งนี้ กองยานลาดตระเวนของจักรวรรดิที่รับผิดชอบการรักษากฏมาถึง พวกเขาส่งคำขอสื่อสารและเจ้าหน้าที่จักรวรรดิก็ปรากฏบนจอ
“เราตรวจพบปฏิกิริยาพลังงานของการต่อสู้ เกิดอะไรขึ้น?”
ร็อดดิกสูดหายใจลึกและอธิบาย เจ้าหน้าที่พยักหน้า”เราเข้าใจสถานการณ์แล้วและจะส่งคนของเราไปแกะรอยผู้โจมตีทันที เราจะแจ้งคุณทันทีที่เราพบเห็น”
จากนั้นกองยานลาดตระเวนของจักรวรรดิก็กระจัดกระจายไปตามทิศทางผู้โจมตี
มันดูเหมือนพวกเขาจริงใจ แต่ร็อดดิกกับลากอสรู้ดีว่านี่แค่ละคร
…
ในเวลาเดียวกัน ผู้โจมตีบางส่วนหยุดในพื้นที่หนึ่งและเข้าสู่โหมดซ่อนตัว พวกเขารวมยานโลจิสที่ยึดมาด้วยกันและเริ่มย้ายทรัพยากร
สมาชิกยานอารยธรรมโมโดที่ถูกจับถูกไล่เข้ายานด้วยสัญญาณสื่อสารที่ถูกตัด อุปกรณ์ทั้งหมดถูกยึด เชลยเหล่านี้มองนักรบหุ้มเกราะด้วยความตื่นตระหนก
ครั้งนี้ นักรบหุ้มเกราะก้าวมา ถอดหมวกเผยใบหน้าเด็ก มันคือเนโร่
เมื่อเห็นเขา ฝูงชนก็ส่งเสียงเอะอะ บางคนเห็นข้อมูลของเนโร่มาก่อน พวกเขาจึงรู้ทันทีว่าผู้โจมตีเป็นใคร
เนโร่มองรอบๆและพยายามสวมสีหน้าจริงจัง ซึ่งทำให้ใบหน้าเด็กๆของเขาดูน่ารักกว่าเดิม
“ตอนนี้มีแค่สองเส้นทางด้านหน้าพวกคุณ หนึ่ง ตาย สอง เสียอิสรภาพ แลกชีวิตพวกคุณและทำงานให้เราไปตลอด”
ฝูงชนเงียบ ครั้งนี้ เสียงหนึ่งดังขึ้น
“ไม่กลัวว่าเราจะหักหลังงั้นหรอ?”
เนโร่เหล่ตา”ใครพูด?”
ชายเตี้ยเดินออกมา”ผมคือรองผู้จัดการฝ่ายโลจิสของกองยานนี้ แถมยังเป็นหัวหน้าของทีมเทคนิควิศวกรรมด้วย ผมคือวิศวกรระดับสูง”
ดวงตาของเนโร่เป็นประกาย
มันเหมือนเราจะจับคนระดับสูงได้ “ไม่ต้องห่วง คุณไม่มีโอกาสได้ติดต่อกับโลกภายนอกอีก คุณจะอยู่ในเงามืดของกองทัพไปตลอด”เนโร่พูดช้าๆ”คนที่ไม่เต็มใจ เราไม่บังคับ ประตูอยู่ทางนั้น แค่กระโดดออกไป”
“ดูเหมือนเราจะไม่มีทางเลือก”รองผู้จัดการกล่าว
ผู้คนสบตากัน โดยไม่ลังเล พวกเขาเลือกทางสอง
ไม่ช้า เนโร่ก็เลือกบุคลากรด้านเทคนิคออกมา พวกเขาล้วนเป็นคนมีประโยชน์ซึ่งจะลอบทำงานให้กองทัพ
สำหรับลูกยานคนอื่น ตามคำสั่งหานเซี่ยว พวกเขาจะถูกส่งไปดาวเผ่าคุนเด้ ไม่ว่าจะกลายเป็นทาสหรือถูกฉีกเป็นชิ้นๆด้วยเผ่าคุนเด้ มันก็ไม่แตกต่าง พวกเขาคือเครื่องมือเพื่อระบายความโกรธของเผ่าคุนเด้นั่นเอง
เนื่องจากคนเหล่านี้มีส่วนร่วมในการสำรวจของอารยธรรมโมโด พวกเขาจึงเป็นทหาร บางทีพวกเขาคงไม่รู้ถึงเหตุการณ์เผ่าคุนเด้ แต่พวกเขาต้องไม่บริสุทธิ์แน่ ไม่ว่าอารยธรรมพวกเขาจะเป็นหนี้อะไร พวกเขาต้องจ่าย
…
หานเซี่ยวผู้มุ่งหน้าไปวังแบล็คสตาร์ได้รับรายงานสรุป เขาพยักหน้าพอใจ
“ตอนนี้มันจะยิ่งยากสำหรับอารยธรรมโมโด”
หานเซี่ยวสั่งกองยานให้ปิดบังตัวตนและโจมตีอารยธรรมโมโด ตราบเท่าที่ไม่ทิ้งหลักฐาน ต่อให้อารยธรรมโมโดจะรู้ตัวผู้บงการ เขาก็ไม่สะทกสะท้าน
เขาไม่วางแผนกวาดล้างกองยานของร็อดดิก เขาไม่สามารถทำลายความหวังทั้งหมดของอารยธรรมโมโดได้
เขาสามารถทำการแก้แค้นระยะยาวได้ถ้าอารยธรรมโมโดยังคงส่งทรัพยากรมาโลกริบหรี่ ถ้าพวกเขาตัดสินใจยอมแพ้ในโลกริบหรี่ เขาก็จะต้องไปดินแดนพวกเขาในแม่น้ำดวงดาวเพื่อจัดการกับอารยธรรมโมโด ซึ่งลำบากมากกว่า
การตัดเนื้อด้วยมีดทื่อนั้นทรมานสุด..
ตามความทรงจำเขาในชีวตก่อนหน้า การแข่งขันระหว่างองค์กรภายนอกจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ มีอีกหลายเหตุการณ์ที่คนซ่อนตัวตนโจมตีองค์กรอื่น
วันนี้ นี่คือการยิงครั้งแรกของฉันในโลกริบหรี่…
ดวงตาหานเซี่ยวเป็นประกาย
รอก่อนเถอะ นี่เพิ่งเริ่ม ยังมีของขวัญอีกมาก